สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย [农门福妻全家是反派] - บทที่ 295 ข้าฟังเจ้าทุกอย่าง
บทที่ 295 ข้าฟังเจ้าทุกอย่าง
บทที่ 295 ข้าฟังเจ้าทุกอย่าง
ณ เรือนตระกูลลู่
มู่ต้าซานใช้ไม้ค้ำเดินกะเผลกไปยังจุดที่ถงซื่ออยู่
ถงซื่อกำลังอาบน้ำให้เสี่ยวเฮย มันไม่ยอมอยู่นิ่ง วิ่งหลบไปทั่ว สะบัดน้ำออกจากขนจนกระเซ็นถูกตัวนาง
รอยยิ้มของถงซื่อแต้มทั่วทั้งใบหน้า นางอ่อนโยนกับเสี่ยวเฮยตัวน้อยเป็นพิเศษ ดูทั้งผ่อนคลายทั้งสุขใจ
มู่ต้าซานหยุดยืนอยู่ที่ประตูชั่วขณะ นึกลังเลว่าจะเข้าไปดีหรือไม่ ถงซื่อจึงหันมาเห็นเข้า
เมื่อนางเห็นมู่ต้าซาน รอยยิ้มบนใบหน้าของนางพลันหุบลง
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
มู่ต้าซานตอบด้วยความตื่นตระหนก “ข้าอยากมาดูเจ้า”
“ข้ามีอะไรน่าดูกัน” ถงซื่อเอ่ยด้วยสีหน้าเยือกเย็น “เจ้าหายดีแล้วหรือไร หากเจ้าหายดีแล้ว เช่นนั้นก็กลับไปเถอะ พวกข้าไม่ให้เจ้าอยู่ที่นี่ตลอดไปหรอก”
“บาดแผลของข้า… ยังไม่หายดี” มู่ต้าซานเอ่ยอย่างกระดากอาย
“เช่นนั้นเจ้าก็กลับไปพักดี ๆ เถอะ อย่าได้เดินเพ่นพ่านไปทั่ว” ถงซื่อกล่าว “เจ้าอย่าได้เข้าใจผิด ต่อให้เจ้าจะเป็นคนแปลกหน้า พวกเราก็จะช่วยไว้อยู่ดี พวกเราช่วยเจ้าไว้เพราะไม่อยากให้มือเปื้อนเลือด ไม่ใช่เพราะอภัยให้เจ้า”
“แม่เด็ก ๆ เจ้าให้อภัยข้าสักครั้งไม่ได้หรือ?” มู่ต้าซานคุกเข่าด้วยความยากลำบาก ไม่สนใจศักดิ์ศรีอีกต่อไป “ข้าขอร้องเจ้าล่ะ อภัยให้ข้าเถอะ ต่อไปนี้ข้าล้วนฟังเจ้า”
“ลุกขึ้นซะ”
“หากเจ้าไม่อภัยให้ข้า ข้าก็จะไม่ลุกขึ้น” มู่ต้าซานอ้อนวอนขอร้อง “ข้าขาดเจ้าไม่ได้ อภัยให้ข้าเถิด”
ท่านหมอจูจัดยาบางอย่างมาให้ถงซื่อบำรุงร่างกาย ครั้นเข้ามาก็เห็นฉากนี้พอดี คิ้วเขาพลันขมวดเป็นปม
ถงซื่อได้ยินเสียงฝีเท้า นางเงยหน้าขึ้นมาเห็นเป็นท่านหมอจูก็รู้สึกผิดเล็กน้อย
ไม่ถูกสิ เหตุใดนางจึงต้องรู้สึกผิดด้วย?
“ท่านหมอจู ท่านมาพอดี รบกวนท่านพาเขาไปหน่อย” ถงซื่อเอ่ยขึ้น “มาหาข้าเช้าตรู่เช่นนี้มีเรื่องอะไรหรือ?”
ท่านหมอจูเดินเข้าไปหาถงซื่อ
ถงซื่อคิดว่าเขาจะนำตัวมู่ต้าซานไป แต่กลับพบว่าเขากำลังเดินเข้ามาหานาง
ในใจของนางพลันเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา
ท่านหมอจูนำขวดยาในแขนเสื้อออกมา “นี่เป็นยาที่ข้าเตรียมมาให้เจ้า หลายปีมานี้เจ้าบอบช้ำไปไม่น้อย จำต้องค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับมาจะได้ไม่อันตรายต่อร่างกาย นี่เป็นยาใหม่ เจ้าเก็บไว้ทานไปเรื่อย ๆ”
“อ้อ ขอบคุณ” ถงซื่อเบาใจลง
ที่แท้เพียงแค่มาส่งยานี่เอง!
ท่านหมอจูคว้ากล่องอีกใบออกมา เขาเปิดกล่องใบนั้นแล้วหยิบปิ่นปักผมขึ้นมา “ข้าเห็นมันตอนเดินผ่านหน้าร้าน คิดว่ามันน่าจะเหมาะกับเจ้า มา ข้าจะปักให้เจ้า”
“ไม่.. ไม่ต้องกระมัง” ถงซื่อเอียงอาย
มู่ต้าซานยังอยู่ตรงนั้น ดวงตาเขาแทบถลนออกมา
คิดว่าเขาไม่เห็นหรือไร?
“สวยดังที่คาดไว้” ท่านหมอจูมองบนศีรษะของถงซื่ออย่างชื่นชม “เหมาะกับมวยผมวันนี้ของเจ้ายิ่งนัก”
ถงซื่อลูบปิ่นบนศีรษะของตน แก้มพลันแดงก่ำ ไม่กล้าสบสายตากับท่านหมอจูแต่อย่างใด
“เจ้ากำลังอาบน้ำให้เสี่ยวเฮยหรือ?” ท่านหมอจูมองน้ำที่กระจายเต็มพื้นแล้วมองเสี่ยวเฮยผู้ที่ก่อความวุ่นวายไปทุกที่ เขาเอ่ยยิ้ม ๆ ว่า “เสี่ยวเฮยแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมเรื่อย ๆ แล้ว เจ้าคนเดียวคุมมันไม่ไหวหรอก ให้ข้าช่วยเจ้าเถอะ!”
“หา?” ถงซื่อประหลาดใจ
“เจ้านี่นะ เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ลำบากอะไรก็ไม่เคยขอความช่วยเหลือ” ท่านหมอจูเขี่ยจมูกถงซื่อเบา ๆ ด้วยสีหน้าจนใจ
“พวกท่าน…” ไม่ว่ามู่ต้าซานจะโง่เขลาเพียงใด ถึงตอนนี้เขาย่อมสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ให้ปิ่นปักผม ทำตัวใกล้ชิดสนิทสนม ไหนจะแววตาคลุมเครือ…
พวกเขาสองคน…
“เจ้าไม่ยอมรับข้า ที่แท้เพราะมีชายอื่นแล้วนี่เอง” มู่ต้าซานรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
“บาดแผลของเจ้าเกือบจะหายดีแล้ว ออกไปจากบ้านลู่ได้แล้ว” ท่านหมอจูมองมู่ต้าซานด้วยสีหน้าเฉยชา “หรือว่าเจ้าอยากถูกไล่ออกไป?”
“เจ้าคนแซ่จู! เสียแรงที่ข้านับถือเจ้าเป็นพี่น้อง เจ้ากลับคิดกับสตรีของข้าเช่นนี้!” มู่ต้าซานตะโกนลั่นด้วยความโกรธ
“ประการแรก พวกเจ้าไม่ใช่สามีภรรยากันอีกต่อไปแล้ว ประการที่สอง หลายปีมานี้เจ้าปฏิบัติต่อนางดีนักหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าตามตอแยนาง เพราะเจ้ามีความรู้สึกดี ๆ ต่อนางจริง ๆ หรือเพราะเห็นนางมีชีวิตที่ดี ลูกสาวลูกชายกตัญญูรู้คุณ ลูกเขยมีอนาคตไกล จึงอยากจะมาแบ่งน้ำแกงสักถ้วย? มู่ต้าซาน แม่เฒ่าเจียงและมู่ต้าไห่อาจจะน่ารังเกียจตั้งแต่ภายนอก แต่ภายในใจของเจ้าก็น่ารังเกียจไม่แพ้กัน น่ารังเกียจมากกว่าพวกเขาเสียอีก”
“ไม่ใช่ ข้า… ข้า…” มู่ต้าซานอยากเอ่ยปฏิเสธ ทว่าเขากลับไม่อาจปฏิเสธได้แม้แต่น้อย
แทนที่จะกล่าวว่าความรู้สึกนั้นลึกซึ้ง แท้จริงแล้วกลับเป็นความไม่ยินยอม
ท่านหมอจูไม่อยากสนใจมู่ต้าซานอีก จึงหันไปเอ่ยกับถงซื่อ “วันนี้มีคนมาแสดงละครลิงอยู่ในเมือง ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว อยากไปเดินเล่นหรือไม่?”
“ข้า…” ถงซื่อเกิดอาการลังเลใจ
“เอาล่ะ” ท่านหมอจูคว้ามือของถงซื่อ “ข้าติดสินใจให้เจ้าแล้วกัน”
“เจ้าไม่กลัวว่าลูกอวี่และหานเอ๋อร์จะโกรธงั้นหรือ?” มู่ต้าซานมองตามหลังของทั้งสองแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็เป็นพ่อแท้ ๆ ของพวกเขา พวกเขาจะยอมรับหรือ หากเจ้าไปหาบุรุษอื่นเช่นนี้?”
ถงซื่อปล่อยมือท่านหมอจู
ทว่าท่านหมอจูจับมือนางไว้อย่างแน่นหนา
“ตอนนั้นข้าปล่อยมือไปหนึ่งครั้งแล้ว ครานี้ข้าจะไม่ปล่อยมืออีกแล้ว” ท่านหมอจูมองถงซื่ออย่างหนักแน่น “เจ้านี่นะ อ่อนแอมาทั้งชีวิตแล้ว จะมีความกล้าขึ้นมาสักครั้งไม่ได้หรือ หรือว่าข้าไม่คู่ควร?”
“ไม่ใช่” ถงซื่อรีบส่ายหัวทันที “ข้าเพียงแต่ไม่รู้ว่าจะบอกลูกอวี่อย่างไร”
“ก็บอกตอนนี้เลยสิ” มู่ซืออวี่เดินเข้ามา “ทุกคนอยู่ที่นี่พอดี ข้าก็อยากรู้เช่นกันว่าพวกท่านจะกล่าวอะไร”
“ลูกอวี่” ถงซื่อเห็นมู่ซืออวี่ก็พลันรีบถอนมือด้วยความอาย
สายตาของมู่ซืออวี่จับจ้องอยู่ที่ท่านหมอจูและถงซื่อ
ใบหน้าของถงซื่อแดงเรื่อขึ้นมา นางไม่กล้าสบสายตาสำรวจตรวจตราจากลูกสาวแม้แต่น้อย
“ท่านแม่ข้าไม่กล้าพูด ท่านอาจู ท่านพูดมาเถอะ!” มู่ซืออวี่เอ่ยกับท่านหมอจูอีกครั้ง
“ได้ ซืออวี่ เจ้าฟังให้ดี…”
ท่านหมอกำลังจะกล่าวบางอย่างออกมา ทว่าถงซื่อกลับยกมือขึ้นปิดปากเขาไว้
มู่ซืออวี่มองถงซื่อด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ท่านแม่ ท่านทำเช่นนี้ ท่านอาจูจะเล่าได้อย่างไร? หรือท่านจะเล่าเอง เช่นนั้นท่านเล่าให้ดีล่ะ”
มู่ต้าซานมองคนสองสามคนตรงหน้าเขาอย่างเย็นชา
เขาพยายามเค้นความคิดอย่างหนักว่าจะนำอดีตภรรยากลับคืนมาอย่างไร ดังนั้นเพื่อที่จะนำนางกลับคืนมา เขาทำงานหนักเพื่อหาเงิน รับงานทุกประเภททั้งงานสกปรกและงานที่อันตราย มิเช่นนั้นเหตุการณ์ในครั้งนี้คงไม่เกิดขึ้น
แต่นางกลับทรยศ หักหลังเขา
“พวกเจ้าไม่บอก ข้าจะบอกเอง” มู่ต้าซานใช้ไม้ค้ำยันเดินมา “แม่ของเจ้ากับเจ้าคนแซ่จูกำลังคบหาดูใจกัน ทั้งสองคนตกหลุมรักกัน ไม่รู้ว่านานเพียงใดแล้ว”
“เป็นเช่นนั้นหรือ?” มู่ซืออวี่ถามถงซื่ออีกครั้ง “ท่านแม่ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเราต้องมีความกล้านะ หากเป็นความจริง ท่านเอาแต่ปัดผ่านเช่นนี้ จะไม่เป็นธรรมกับท่านอาจูเกินไปหน่อยแล้ว”
ถงซื่อหันกลับไปมองท่านหมอจู
ท่านหมอจูตบหลังมือของถงซื่อเบา ๆ เอ่ยกับนางอย่างอ่อนโยนว่า “เจ้าต้องเชื่อใจนังหนูอวี่บ้าง”
ถงซื่อรวบรวมความกล้าของนางออกมา เอ่ยกับมู่ซืออวี่อย่างตรงไปตรงมา “ข้ากับท่านอาจูของเจ้าอยู่ด้วยกันนานแล้ว”
“นี่จะรวบรัดตัดตอนเกินไปหรือไม่” มู่ซืออวี่ไม่พอใจ “นี่ท่านไม่คิดจะจัดงานเลี้ยงหรือ?”
“ไม่ใช่” ท่านหมอจูแย้งขึ้นมา “เรื่องนี้ต้องถามแม่ของเจ้า นางยังปฏิเสธที่จะยอมรับความสัมพันธ์ของเรา บางทีอาจเป็นเพราะข้าไม่ดีพอ ทำให้นางรู้สึกขายหน้ากระมัง”
“ไม่ใช่นะ ข้าเพียงแต่…” ถงซื่อได้ยินเขาเอ่ยออกมาเช่นนั้นก็พลันว้าวุ่นใจขึ้นมาทันที
ขณะที่นางกำลังจะอธิบาย ท่านหมอจูกับมู่ซืออวี่ก็ยิ้มออกมา นางจึงรู้ว่าตนถูกหลอกเข้าให้แล้ว
“พวกเจ้ารุมรังแกข้า” ถงซื่อโมโหขึ้นมา
“เพียงแค่ล้อท่านเล่นเท่านั้น อย่าได้ตื่นตระหนกไปเลย” มู่ซืออวี่เอ่ยยิ้ม ๆ “สายตาไม่เลว ท่านพ่อคนนี้ข้ายอมรับแล้ว”