สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย [农门福妻全家是反派] - บทที่ 70 เจ้าอยากไปกับเขาหรือไม่
บทที่ 70 เจ้าอยากไปกับเขาหรือไม่?
บทที่ 70 เจ้าอยากไปกับเขาหรือไม่?
มู่ซืออวี่ปาดเหงื่อ จ้องมองอาหารทุกชามที่นางทำด้วยสีหน้าพึงพอใจ
ทว่าจู่ ๆ ก็เกิดการโต้เถียงขึ้นจากลานกว้าง เห็นได้ชัดว่ามีบางสิ่งผิดปกติ
“ต้องมีเรื่องเกิดขึ้นตรงนั้นแน่” หลี่ซื่อกล่าว “พวกเจ้าลองเดาดูเถิดว่าผู้ใดมา?”
“ผู้ใดกัน?”
“ลูกพี่ลูกน้องของเจ้าสาวมาที่นี่เพื่อแย่งชิงตัวเจ้าสาวไป เขาอ้างว่าเจ้าสาวเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว จะแต่งงานกับชายอื่นไม่ได้”
“ตาเถร! เกิดเรื่องพรรค์นั้นขึ้นได้อย่างไร?”
“จางโม่หลานเป็นดั่งดอกไม้แห่งหมู่บ้านตระกูลจาง ข้าคิดอยู่แล้วว่าสตรีที่งดงามและเพียบพร้อมเช่นนั้นไม่มีทางชอบพอต้าจู้ แต่กลับกลายเป็นว่านางเข้าไปพัวพันกับ…”
“แค่ก!”
มู่ซืออวี่กระแอมไอ ขัดจังหวะการซุบซิบนินทาของกลุ่มสตรีพอดี
สตรีเหล่านั้นจ้องมองมู่ซืออวี่อย่างเย็นชา เรื่องอื้อฉาวระหว่างนางและลู่อี้ที่เกิดขึ้นตลอดระยะที่ผ่านมากลายเป็นเรื่องขบขันในเวลาว่างของพวกนาง เมื่อได้ยินเสียงกระแอม สตรีเหล่านั้นก็ยุติการพูดคุยพลางขยิบตาให้กันด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
ถงซื่อจ้องมองเบื้องหน้าด้วยความกังวล “เกิดสิ่งใดขึ้น? ไม่ดีแน่ เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?”
“อย่าเพิ่งทำอะไรเลย” มู่ซืออวี่ปลดผ้ากันเปื้อนออก “ฉาวอวี่กับอวิ๋นเอ๋อร์อยู่ที่ใด? วันนี้มีคนมากเกินไป ข้าไม่ต้องการให้พวกเขาไปเบียดเสียดผู้ใดจนบาดเจ็บ ข้าจะไปตามหาพวกเขา”
ทุกคนในหมู่บ้านต่างจ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นในลานด้วยความตื่นเต้น
ชายที่นามว่าเหมิงต้าจวินดูดีไม่น้อย เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ก็มีราคาแพง เขาตะโกนโวยวายเสียงดังราวกับต้องการให้ผู้อื่นรู้ว่าเขาและจางโม่หลานเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้รักใคร่จางโม่หลานจริง ๆ แต่หมายจะทำลายชื่อเสียงของนางเสียมากกว่า
มู่ซืออวี่เหลือบมองสถานการณ์เพียงเล็กน้อยก่อนจะมองหาลู่จื่ออวิ๋นและลู่ฉาวอวี่ จากนั้นไม่นานนางก็ได้พบลู่จื่ออวิ๋นยืนอยู่ท่ามกลางหมู่เด็กหญิง เมื่อเห็นว่าพวกนางดูเข้ากันได้ดี มู่ซืออวี่ก็รู้สึกโล่งใจ
ฉาวอวี่เล่า?
“เจ้าเห็นลู่ฉาวอวี่หรือไม่?”
“เขาออกไปพร้อมกับสหายของเขาแล้ว” เด็กชายผู้หนึ่งตอบกลับ
“เขาออกไปทำอะไรเวลานี้นะ?” มู่ซืออวี่พึมพำกับตนเอง
เรื่องตลกขบขันที่ผู้คนเคยสนทนากันพลันหายไป จางเซินผู้เป็นพี่ชายของจางโม่หลานชกหน้าเหมิงต้าจวินทันที
“วันนี้ข้าจะอัดเจ้าให้ตาย”
เหมิงต้าจวินพ่ายแพ้ให้กับจางเซิน ถูกกระแทกลงกับพื้นด้วยหมัดเดียว
“กรี๊ด! เลือดไหลแล้ว!” เสียงตะโกนดังขึ้น
เหมิงต้าจวินแตะจมูกของตนพลางด่าทอด้วยความโกรธ “จางเซิน! อย่าโอหังนัก หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่ท่านป้าและลูกพี่ลูกน้องของข้า ข้าไม่มีวันปล่อยเจ้าไปแน่!”
“เหอะ! เช่นนั้นก็เข้ามาเถิด! ข้าสัญญาว่าจะไม่ทุบตีเจ้าจนตาย ข้าจะไม่ทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูล วันนี้เป็นวันสำคัญของน้องสาวข้า ต่อให้เจ้าไม่ยินดีก็ไม่ควรมาเพื่อทำลายชื่อเสียงน้องสาวข้า ครอบครัวของเราปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดีมาโดยตลอด! เจ้าอยากให้น้องสาวของข้าตรอมใจตายหรือ?” จางเซินกัดฟันด้วยความโกรธ “มาทำให้กระจ่างเสียวันนี้ น้องสาวของข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้า แม่เจ้าเคยจะมาสู่ขอนาง แต่ครอบครัวเราก็ไม่เห็นด้วย ฉะนั้นเจ้าจะมาเรียกร้องเพื่อสิ่งใด?”
“เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร?” เหมิงซื่อกล่าวด้วยแววตาแดงก่ำ
นางเป็นคนสัตย์ซื่อเสมอ ไม่เอ่ยวาจาหยาบคาย สิ่งเดียวที่นางทำได้คือเพียงร้องไห้เท่านั้น
จางโม่หลานยืนนิ่งด้วยสีหน้าเย็นชาและไม่เอ่ยสิ่งใด
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาที่จ้องมองมา จางโม่หลานก็รู้ทันทีว่าพวกเขากำลังคิดสิ่งใดโดยที่ไม่ต้องคาดเดา
เหยาซื่อและสามีไม่พอใจเช่นกัน รอยยิ้มที่เคยปรากฏบนใบหน้าพวกเขาพลันหายไป
พวกเขาหมดความชื่นชอบในตัวลูกสะใภ้คนนี้ทันที
“ท่านพี่” ลู่เหม่ยฉินผลักลู่ต้าจู้ออกมา “วันนี้เป็นวันแต่งงานของท่าน ท่านพูดอะไรหน่อยสิ จะปล่อยให้พวกเขาเอะอะโวยวายเช่นนี้ต่อไปหรือ?”
ลู่ต้าจู้จ้องมองจางโม่หลานด้วยแววตาซับซ้อน “เจ้า… เจ้าอยากไปกับเขาหรือไม่?”
จางโม่หลานเบิกตากว้าง จ้องมองลู่ต้าจู้ด้วยความตกใจ “เจ้า… เจ้าเชื่อในสิ่งที่เขาพูดหรือ? เรื่องที่ข้าเลือกแต่งงานกับเจ้า คนอื่นไม่รู้ก็ช่าง แต่เจ้าไม่รู้ได้อย่างไร?”
ลู่ต้าจู้แทบกระอัก แน่นอนว่าเขารู้เหตุผล
ปีที่แล้วเขาขึ้นไปบนภูเขาเพื่อตัดฟืน เขาบังเอิญได้พบกับจางโม่หลานที่กำลังถูกข่มเหง
เมื่อลงจากภูเขา เขาก็ลอบเดินทางไปส่งนาง แต่เพื่อเห็นแก่ชื่อเสียงของหญิงสาว เขาจึงไม่ได้เข้าไปในหมู่บ้าน แต่ซ่อนอยู่หลังกองหญ้าและเรียกให้จางเซินมารับนางไป
จากนั้นจางโม่หลานก็มอบรองเท้าให้กับเขาแทนคำขอบคุณ ไม่นานนางก็เอ่ยถามว่าเขาหมายจะแต่งงานกับนางหรือไม่ เพราะนางชอบพอเขาอย่างมาก นางไม่สนใจความยากจนของครอบครัวเขา และปรารถนาที่จะแต่งงานกับเขา
“เงียบปากของเจ้าเสีย!” ในที่สุดลู่ต้าจู้ก็ก้าวเดินออกมา “เหมิงต้าจวิน หากเจ้าเข้ามากินและดื่มในงานแต่งงานนี้ในฐานะลูกพี่ลูกน้อง ข้าก็ยินดีต้อนรับเจ้า แต่หากเจ้ายังสร้างปัญหา ก็อย่าหาว่าเราใจร้ายหรือหยาบคายเลย ทุกคนในหมู่บ้านของเราต้อนรับแขกผู้มาเยือนและมิตรสหายเสมอ แต่พวกเขาไม่ต้อนรับบุคคลที่มีเจตนาร้าย ลุงของข้าเคยเล่าเรื่องราวของเจ้า เขาบอกข้าว่าเจ้าเอาแต่รบกวนใจโม่หลานอยู่เสมอ แต่พอโม่หลานไม่สนใจ เจ้าก็ใช้วิธีการน่ารังเกียจ”
“จงฟังให้ดี นางเป็นหญิงของข้า หากเจ้ายังกล้ารบกวนนางอีก ข้าจะหักขาของเจ้าเอง”
ลู่ต้าจู้กล่าวพลางกำหมัดแน่น เขาจ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาดุดัน
“ใช่แล้ว เจ้ามาสร้างปัญหาในวันที่นางควรมีความสุขมากที่สุด ไม่ละอายใจบ้างหรือ?” ชายร่างใหญ่ผู้หนึ่งกล่าวขึ้น “หากภรรยาของต้าจู้ชอบพอเจ้าจริง ๆ นางคงจะไม่แต่งงานกับเขาแน่ เช่นนั้นเจ้าจงออกไปเสีย อย่าเข้ามายุ่งวุ่นวายเลย น่ารังเกียจ!”
เหมิงต้าจวินชี้ไปยังจางโม่หลานพลางกล่าวว่า “สตรีผู้นี้ยั่วยวนข้า นางมีปานแดงที่หน้าอก หากไม่เชื่อ พวกเจ้าก็จงตรวจสอบดูเถิด”
“เจ้า… เจ้าช่างไร้ยางอาย!” จางโม่หลานตะโกน นางกำเสื้อผ้าไว้แน่นด้วยใบหน้าซีดเซียว
“เกิดสิ่งใดขึ้น?” เหยาซื่อเอ่ยถามด้วยความโมโห “แม่หนูโม่หลาน ข้าคิดว่าการแต่งงานครั้งนี้…”
“ท่านแม่” ลู่ต้าจู้ขัดจังหวะมารดา “ข้าจะแต่งงานกับโม่หลานเพียงผู้เดียว หากไม่มีโม่หลาน ข้าก็จะไม่แต่งงานกับหญิงใดอีก”
เหยาซื่อถึงกับพูดไม่ออก
ปกติแล้วลู่ต้าจู้จะไม่กล้าโต้เถียงหรือแข็งข้อกับนาง เมื่อเขาแสดงอาการเช่นนี้ นางก็ได้แต่ตกตะลึง
“อันที่จริงไม่ใช่เรื่องยากที่จะพิสูจน์” มู่ซืออวี่กล่าวขึ้น “เหรียญมีสองด้านอย่างไร ทุกเรื่องราวก็ย่อมมีสองด้านเช่นเดียวกัน ต่างฝ่ายก็ต่างพูดเอาดีเข้าตัว ตระกูลจางเป็นตระกูลใหญ่ไม่ใช่หรือ? ญาติพี่น้องก็มีมากมายพอที่จะเป็นพยานใช่หรือไม่? เช่นนั้นแล้วก็ไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งใด หากมีผู้ใดที่เคยข่มเหงลูกสาวแห่งตระกูลใหญ่เช่นนี้ก็จงรายงานต่อทางการ การติดคุกเป็นหนทางเดียวสำหรับผู้กระทำชั่วช้าเช่นนั้น”
“เจ้าเป็นใคร?” เหมิงต้าจวินจ้องมองมู่ซืออวี่ “เจ้าเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้?”
“ที่นี่คือหมู่บ้านแห่งตระกูลลู่ เจ้ากำลังรังแกผู้คนในหมู่บ้าน ในฐานะสมาชิกของหมู่บ้านที่สามีข้าก็ใช้นามสกุลนี้ ทุกคนเปรียบได้กับครอบครัวของข้า เจ้ากำลังทำร้ายสมาชิกในครอบครัวข้า ได้ยินเช่นนี้แล้วข้าเกี่ยวข้องด้วยได้หรือยัง?”
มู่ซืออวี่ไม่รีบร้อน นางกล่าวด้วยท่าทีเฉยเมยจนทำให้ผู้คนมากมายชื่นชม
“ใช่แล้ว เจ้าเป็นเพียงคนนอก กล้าดีอย่างไรมารังแกผู้คนในหมู่บ้านตระกูลลู่ของเรา คิดจริงหรือว่าพวกเราจะหวาดกลัว?”
“ถูกต้อง หากเป็นอย่างที่เขากล่าวจริง ๆ ทั้งสองจะต้องหมั้นหมายกันอย่างถูกต้อง เห็นอยู่ว่าลูกสาวตระกูลจางไม่ชื่นชอบเขา เขาก็เลยโกรธเคือง คิดแก้แค้นลูกสาวจากตระกูลจางอย่างไรล่ะ”
“การเข้ามาเอะอะโวยวายในวันมงคลเช่นนี้ ต้องการทำลายชื่อเสียงของหญิงสาวชัด ๆ ชายผู้นี้จิตใจน่ารังเกียจเสียจริง”
“รายงานทางการ! ส่งตัวเขาให้กับทางการเสีย! เขาจะต้องถูกลงโทษที่ทำร้ายจิตใจและข่มเหงลูกสาวจากตระกูลสูงส่ง”
“ใช่แล้ว”
เหมิงต้าจวินถอยหลังไปหลายก้าว เมื่อเห็นชายร่างกำยำมากมายล้อมรอบเขา เขาก็รีบวิ่งหนีไปในทันที
“คิดจะหนีอย่างนั้นหรือ? ขี้ขลาดตาขาวเสียจริง!”
“ข้าเคยบอกแล้วว่าปัญหาทั้งสิ้นอยู่ที่ตัวชายผู้นั้น ดูเอาเถิดว่าเขาขี้ขลาดเพียงใด แม้แต่จะเผชิญหน้าก็ยังไม่กล้า”