สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย [农门福妻全家是反派] - บทที่ 729 ขอแค่เพียงเคยทำ ย่อมต้องทิ้งร่องรอยเอาไว้
- Home
- สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย [农门福妻全家是反派]
- บทที่ 729 ขอแค่เพียงเคยทำ ย่อมต้องทิ้งร่องรอยเอาไว้
บทที่ 729 ขอแค่เพียงเคยทำ ย่อมต้องทิ้งร่องรอยเอาไว้
บทที่ 729 ขอแค่เพียงเคยทำ ย่อมต้องทิ้งร่องรอยเอาไว้
ศพถูกนำเข้ามา
ศพทั้งหมดสามศพประกอบไปด้วย สิงไท่ฟู ฮูหยินสิง และบ่าวรับใช้อีกหนึ่งคน
ฮูหยินผู้เฒ่าสิงลุกขึ้นเดินมา นางมองร่างที่แทบไม่เหลือเค้าเดิมตรงหน้า ดวงตาของนางแดงก่ำ อีกทั้งยังเริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น “ลูกข้า…”
นายท่านและฮูหยินสกุลสิงคนอื่น ๆ ล้วนทนมองไม่ได้ เมื่อควรเศร้าโศกก็เศร้าโศก เมื่อควรร้องไห้ก็ร้องไห้ เสียงแต่ละคนล้วนแข่งกันดัง
ลู่ฉาวอวี่สังเกตท่าทีตอบสนองของทุกคนผ่านสายตา
“ที่แท้เป็นผู้ใดทำร้ายพี่ใหญ่ข้ากันแน่?!” นายท่านรองสิงเอ่ย “หากให้ข้ารู้…”
ลู่ฉาวอวี่พยุงอิงหรูเฉิงที่กำลังจะเป็นลม “ฮูหยินระวัง”
อิงหรูเฉินรีบลุกขึ้นทันที นางเอ่ยกับผู้เยาว์ที่สูงกว่าตน “ขอบคุณใต้เท้า”
ขณะที่เอ่ย นางก็กำผ้าเช็ดหน้าไปพลางร้องไห้ไปพลาง
“ฮูหยิน กำไลข้อมือท่านหล่นแล้ว” ลู่ฉาวอวี่ยื่นกำไลปะการังแดงวงหนึ่งให้นาง
“ขอบคุณ…” อิงหรูเฉินเอื้อมมือออกไปรับพร้อมกับกล่าวขอบคุณ ก่อนที่นางจะกล่าวจบ สีหน้าพลันแข็งค้างไปชั่วขณะ ก่อนจะถอนมือตนกลับแล้วเอ่ยว่า “ใต้เท้าจำผิดแล้ว นี่ไม่ใช่ของข้า”
“ไม่ใช่ของฮูหยินจริงหรือ?”
“ไม่ใช่”
“แต่กำไลวงนี้เหมาะกับฮูหยินมากทีเดียว”
ฮูหยินรองเอ่ย “ญาติผู้พี่ นี่ไม่ใช่กำไลของท่านหรือ? ก่อนหน้านี้ข้ายังเคยเห็นท่านสวมอยู่เลย”
“กำไลวงนั้นของข้าหายไปนานแล้ว กำไลวงนี้ไม่ใช่ของข้า!” อิงหรูเฉินตอบ “ใต้เท้า ท่านแปลกยิ่งนัก เหตุใดต้องกังวลเรื่องกำไลวงหนึ่งด้วยเล่า?”
“นั่นสิ เหตุใดข้าต้องมัวยุ่งกับกำไลเพียงวงหนึ่ง?” ลู่ฉาวอวี่กลับไปอยู่ในอากัปกิริยาดังเดิม “หากไม่ใช่เพราะ… กำไลวงนี้เกี่ยวข้องกับฆาตกร”
“ฆาตกร?!” ทุกคนหันไปมองอิงหรูเฉิน
อิงหรูเฉินรู้สึกราวกับไม่ได้รับความเป็นธรรม “เหตุใดพวกท่านต้องมองข้าเช่นนี้? ข้าจะเป็นฆาตกรไปได้อย่างไร?!”
“พวกเจ้าอย่าได้คาดเดาไปเรื่อยเปื่อย” ฮูหยินผู้เฒ่าสิงเอ่ยอย่างไม่พอใจ “หลานสาวของข้าขี้ขลาด แม้กระทั่งมดนางยังไม่กล้าบี้ให้ตาย นางจะกล้าทำร้ายคนได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น นางและญาติผู้พี่ก็มีสัมพันธ์อันดีต่อกันมาโดยตลอด”
“ใช่! ดีเสียจนแทบจะได้แต่งงานกันแล้ว ใช่หรือไม่?” ลู่ฉาวอวี่เอ่ย
ทุกคนในสกุลสิงต่างก็มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เห็นได้ชัดว่าเรื่องที่ลู่ฉาวอวี่กล่าวนั้นเป็นความจริง
อิงหรูเฉินและสิงไท่ฟูเกือบได้เกี่ยวดองแต่งงานกันแล้ว
สิงเจียซือมองท่านอาหญิงของตนอย่างตกตะลึง “ท่านอาหญิง ท่านและท่านพ่อ…”
ลู่ฉาวอวี่เอ่ยด้วยท่าทีสุขุม “ทุกท่านคงรู้ว่า เหตุใดข้าจึงนำศพมาให้พวกท่านดู แน่นอนว่าเพื่อบอกเล่าเรื่องหนึ่งให้พวกท่านฟัง ดูที่ศพเหล่านี้สิ พวกท่านเห็นอะไรหรือไม่?”
ทุกคนงุนงง
ลู่ฉาวอวี่ไม่ได้คาดหวังให้พวกเขาตอบจึงกล่าวต่อไป “จากที่อู่จั้วทำการชันสูตรศพ บ่าวรับใช้ที่น่าเวทนาทุกคนล้วนถูกฆ่าภายในดาบเดียว เช่นเดียวกับศพของบ่าวรับใช้ผู้นี้ ไม่ได้มีร่องรองของการทรมานอะไร แต่สาเหตุการตายของฮูหยินสิงกลับเป็นการถูกแทงที่ช่องท้อง เช่นเดียวกับสิงไท่ฟู่ พวกเขาทั้งสองคนถูกแทงตายในคราวเดียวกัน เหมือนกับ…”
จางอี้และหยางจงเซิง คนหนึ่งแสดงเป็นสิงไท่ฟู่ อีกคนหนึ่งแสดงเป็นฮูหยินสิง ทั้งสองยืนซ้อนกันอยู่ ขณะที่ลูกน้องอีกคนแสร้งเป็นฆาตกร ถือกระบี่ที่ยังไม่ได้ชักออกจากฝักทำเป็นแทงให้เห็นฉากการตายที่เกิดขึ้น”
“จากร่องรอยบนร่างกายของทั้งสองคน สามารถวิเคราะห์ออกมาได้ดังนี้ ประการที่หนึ่ง ฆาตกรไล่ตามฮูหยินสิงเพื่อสังหารนาง แต่สิงไท่ฟู่ยืนบังอยู่ข้างหน้าฮูหยินสิงเพื่อปกป้อง ร่องรอยที่ถูกแทงของสิงไท่ฟู่จึงหนักหนากว่า ส่วนรอยแทงบนร่างฮูหยินสิงนั้นค่อนข้างตื้น ประการที่สอง สิงไท่ฟู่ข่วนที่หน้าของฆาตกรระหว่างกำลังดิ้นรน บนร่างกายของฆาตกรจึงต้องมีร่องรอยบาดแผล อีกทั้งยังยื้อกำไลปะการังแดงเอาไว้ได้ ประการที่สาม ฆาตกรโกรธแค้นสิงไท่ฟู่เป็นอย่างมาก หลังจากถอนกระบี่ออกมาแล้ว ยังแทงสิงไท่ฟู่ซ้ำอีกหลายครั้งติด ๆ กัน ร่องรอยที่ถูกแทงหลายครั้งนั้นเป็นการกระทำที่เกิดจากการระบายโทสะ ฆ่าคนแล้วยังแทงไปอีกหลายหนก็เพื่อระบายความโกรธของตนเอง นี่แสดงให้ว่าฆาตกรไม่ได้ฆ่าครอบครัวนี้เพราะเรื่องทรัพย์สมบัติ”
“หากฆาตรโหดเหี้ยมเพียงนั้น เหตุใดเจ้าห้าและเจ้าสิบถึงมีชีวิตกลับมาได้?” ฮูหยินผู้เฒ่าสิงเอ่ยอย่างอ่อนแรง
“เช่นนั้นต้องถามคุณหนูห้าแล้ว คุณหนูห้า เจ้าเล่าสถานการณ์ในตอนนั้นให้ฟังหน่อยได้หรือไม่?” ลู่ฉาวอวี่เอ่ยถาม
“ข้าและน้องสิบอยู่ในรถม้า พวกเรามองออกไปนอกหน้าต่าง บังเอิญเห็นกระต่ายวิ่งผ่านไปพอดี น้องสิบโวยวายจะไปหากระต่ายให้ได้ ข้าไม่รู้จะห้ามเขาอย่างไรจึงสั่งให้รถม้าหยุดและพาน้องสิบไปจับกระต่าย พอพวกเรากลับมาก็เห็นศพอยู่เกลื่อนถนนแล้ว” สิงเจียซือพยายามควบคุมอารมณ์ตนเองอย่างถึงที่สุด ทว่าเมื่อมีร่างไร้ลมหายใจของบิดามารดามาอยู่ตรงหน้า การที่นางไม่ทรุดลงก็ถือว่าควบคุมตนเองได้ดีที่สุดแล้ว
“พวกเจ้าถึงรอดพ้นมาได้”
“เจ้าค่ะ”
“กำไลข้อมือนี้ตกอยู่ที่สถานที่เกิดเหตุ ต่อมาพวกเราพบร่องรอยจากกำไลบนข้อมือของฆาตกร อย่างไรก็ตาม กำไลเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นของสตรี เมื่อฆาตกรเห็นกำไลข้อมือวงนี้ เขาดีใจเป็นอย่างยิ่งราวกับเป็นของที่คนรักมอบให้ ฮูหยินอิง ท่านจะไม่อธิบายเรื่องนี้หน่อยหรือ?”
“ข้าต้องอธิบายอะไรอีก?” อิงหรูเฉินเอ่ย “ในเมื่อเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้าสักนิด!”
“ถึงแม้กำไลปะการังแดงจะไม่ใช่ของหายากอะไร ทว่าข้างบนมีตัวอักษรของท่านสลักไว้ ท่านคงไม่กล่าวว่านี่เป็นเพียงเรื่องบังเอิญกระมัง?”
“เป็นไปไม่ได้!” อิงหรูเฉินปฏิเสธทันควัน
“เหตุใดจึงจะเป็นไปไม่ได้เล่า?”
“กำไลข้อมือของข้าไม่ได้สลักอะไรไว้ หากมีอักษรบนนั้นก็หมายความว่าไม่ใช่ของข้าอย่างแน่นอน”
“มีคำว่า ‘จิ่ง’ สลักเอาไว้”
“ใต้เท้าลู่ หากมีบุรุษสลักชื่อข้าไว้บนนั้น ท่านคงไม่อาจโทษข้าได้กระมัง ควรเป็นปัญหาของชายผู้นั้นมากกว่า”
“ดังนั้น ท่านยอมรับว่าตนเองรู้จักเจิ้งซู่หรือ?”
“ข้าไม่รู้จักเจิ้งซู่อะไรนั่น!” อิงหรูเฉินยังคงยืนกราน
“อิงฮูหยินและสิงไท่ฟู่มีความสัมพันธ์กันตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเพื่อตอบแทนอาจารย์ผู้มีพระคุณของตน สิงไท่ฟู่จึงแต่งกับลูกสาวของอาจารย์ ท่านรู้สึกว่าเขาทรยศ จึงโกรธแค้นเขามาโดยตลอด”
“ไม่ ข้าไม่ได้ทำ!” อิงหรูเฉินหันไปมองฮูหยินผู้เฒ่าสิง “ท่านป้า ข้าไม่ได้ทำจริง ๆ นะเจ้าคะ ท่านอย่าไปฟังเขา จริงอยู่ที่ตอนนั้นข้าโศกเศร้าเสียใจ แต่ข้าเพียงแค่เสียใจที่ไม่ได้เป็นลูกสะใภ้ของท่านป้าเท่านั้น ไม่มีสิ่งอื่นใดเลยนะเจ้าคะ”
“นักฆ่ามาจากหมู่บ้านเดียวกันกับท่าน พวกท่านพูดสำเนียงท้องถิ่นเหมือนกัน เจิ้งซู่สวมใส่กำไลของท่าน แสดงให้เห็นว่าเขารักใคร่ในตัวท่านอย่างลึกซึ้ง ท่านจึงใช้ประโยชน์จากความรู้สึกของเจิ้งซู่ที่มีต่อตนเอง ฆ่าครอบครัวของสิงไท่ฟู่”
“ข้าไม่ได้ทำ ไม่ใช่ข้า!” อิงหรูเฉินเอ่ย “ถึงแม้เขาจะมาจากหมู่บ้านเดียวกันกับข้า นั่นก็ไม่ได้มีความหมายอะไร”
“แค่เพียงมาจากหมู่บ้านเดียวกัน แน่นอนว่าไม่ได้มีความหมายอะไร อย่างไรก็ตาม เบาะแสมากมายล้วนชี้ไปที่ท่าน เช่นนั้นจะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องคงไม่ได้แล้ว ท่านไม่ยอมรับไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ตามไปที่สำนักตรวจการสักเที่ยวเถอะ!”
“ท่านป้า ช่วยข้าด้วย! ข้าไม่ได้ทำนะเจ้าคะ ไม่ใช่ข้า!”
“ใต้เท้า เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงการคาดเดาของท่าน เกรงว่าจะลงโทษนางไม่ได้ ได้โปรดตรวจสอบอีกครั้งเถิด หากกล่าวโทษผิด ๆ นางที่เป็นสตรีผู้หนึ่งถูกจับตัวไปขังคุกสำนักตรวจการเช่นนี้ ชื่อเสียงคงพังพินาศแล้ว”
“ฮูหยิน ลูกชายของท่านถูกฆ่า สตรีตรงหน้าท่านผู้นี้อาจเป็นฆาตกรที่อยู่เบื้องหลังการตาย ท่านไม่ร้องขอความยุติธรรมให้ลูกชายแต่กลับพูดแทนนาง ร่างของลูกชายท่านก็อยู่ที่นี่ ท่านทำเช่นนี้ ยังกล้าตามไปพบหน้าเขาอีกหรือ?” สิ้นคำ ลู่ฉาวอวี่ก็หันไปตอบอิงหรูเฉิน “เมื่อครู่ข้าสังเกตท่าทีของท่าน สายตาท่านยังมีความเกลียดชังฉายชัด เห็นได้ชัดว่าท่านกำลังกังวล!”