สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย [农门福妻全家是反派] - บทที่ 916 คดีหยางเจียจวง
บทที่ 916 คดีหยางเจียจวง
บทที่ 916 คดีหยางเจียจวง
“ท่านเจ้าสำนัก ท่านเจ้าสำนัก…” บ่าวรับใช้วิ่งพรวดพราดเข้ามาจากด้านนอก “ท่าไม่ดีแล้ว…”
“มีอะไร?” สายตาเปี่ยมอำนาจคู่นั้นของเจ้าสำนักหยางเต็มไปด้วยความเข้มงวด “มีอะไรจะกล่าวก็กล่าวมาให้ชัดเจน อะไรท่าไม่ดีแล้ว?”
“จอมยุทธหลี่ จอมยุทธเฝิง และจอมยุทธ์หญิงจงล้วนถูกพิษแล้วขอรับ” บ่าวรับใช้กล่าว “ตอนนี้พวกเขาอยู่นอกประตู”
ขณะที่บ่าวรับใช้รายงาน บ่าวรับใช้คนอื่น ๆ ก็ช่วยเหลือผู้ที่กล่าวถึงเข้ามา
“สหายหลี่ สหายเฝิง จอมยุทธ์หญิงจง พวกท่าน…” เจ้าสำนักหยางเข้ามาทักทาย เมื่อเห็นใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำเพราะถูกพิษจึงเอ่ยด้วยความกังวล “พวกท่านพบผู้ใด? เหตุใดจึงถูกพิษได้?”
“น่าละอายนัก สหายหยาง พวกเราก็ไม่รู้ว่าถูกพิษได้อย่างไร หลังจากได้รับจดหมายของท่าน พวกเราก็รุดมาที่หยางเจียจวงในทันทีโดยไม่แม้แต่หยุดพัก ครั้นพวกเราใกล้ถึงหยางเจียจวงก็ตกจากหลังม้าคนแล้วคนเล่า จากนั้นก็พบว่าไม่อาจใช้กำลังภายในได้ ถึงได้รู้ว่าตนถูกพิษ”
“หากมีที่ใดผิดปกติ คงเป็นที่เราเจอขอทานถูกอันธพาลไล่ตีระหว่างทาง พวกเราช่วยเขาไว้ คุยกับเขาเพียงสองสามคำก็มอบเงินก้อนหนึ่งให้ หรือว่าขอทานผู้นั้นมีปัญหา? หากเป็นเช่นนั้น วิธีการของอีกฝ่ายก็น่ารังเกียจเกินไปแล้ว เขาทำให้คนไม่ทันตั้งตัว!”
“พวกท่านไม่ต้องพูดแล้ว รีบเข้าไปเถอะ ข้าจะไปเชิญท่านหมอมาเดี๋ยวนี้” สิ้นคำ เจ้าสำนักหยางก็สั่งคนของตน “พวกเจ้ารีบไปเชิญท่านหมอมาประเดี๋ยวนี้!”
“เกรงว่าหากรอให้ท่านหมอมาถึง พวกเขาคงถูกพิษกลืนกินจนสิ้นหวังแล้ว” ลู่จื่อชิงที่นั่งอยู่บนหลังคาเอ่ยกับผู้คนที่อยู่ด้านล่าง
“ผู้ใด?” เจ้าสำนักหยางสังเกตเห็นลู่จื่อชิงที่อยู่บนหลังคา “แม่นางน้อย เจ้าไม่ใช่แขกผู้แซ่หยางกระมัง?”
“ได้ยินมาว่าเจ้าสำนักหยางชอบคบหาสหายเป็นที่สุด ขอเพียงมีปัญหายุ่งยากก็สามารถไปหาเจ้าสำนักหยางได้ ถึงแม้จะไม่รู้จัก เจ้าสำนักหยางก็พร้อมหยิบยื่นความช่วยเหลือเสมอ ข้าได้ยินชื่อเสียงวีรบุรุษของเจ้าสำนักหยางจึงอยากมาขอดื่มเหล้าสักจอก! นึกไม่ถึงว่าชื่อเสียงของเจ้าสำนักหยางเป็นเพียงชื่อเสียงจอมปลอม กับแขกที่มาขอเครื่องดื่มผู้นี้ก็ใจคอคับแคบ ช่างเถิด ข้าเป็นห่วงพวกท่านเสียเปล่า จริง ๆ คิดจะให้คำแนะนำพวกท่านสักเล็กน้อยเสียหน่อย ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็แล้วไปเถิด”
“ช่วงนี้หยางเจียจวงเพิ่งเกิดปัญหา ท่านที่เป็นเพียงแม่นางน้อยไม่ทราบที่มาปรากฏตัวขึ้น แน่นอนว่าข้าไม่อาจเปิดใจกว้างได้อย่างเมื่อก่อน หากแม่นางเพียงแค่มาขอสุราดื่มจริง ๆ เช่นนั้นผู้แซ่หยางย่อมยินดีต้อนรับอย่างอบอุ่น แต่หากแม่นางมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้และถูกพวกเราตรวจสอบออกมาได้ เกรงว่าสิ่งที่ต้องให้ท่านไม่ใช่เครื่องดื่ม หากแต่เป็นคมมีดแล้ว”
“เจ้าสำนักหยาง ข้าเป็นเพียงคนหลงทางผู้หนึ่ง ทั้งกระหาย ทั้งหิวโหย แม่นางน้อยที่ไม่เคยเห็นโลกผู้นี้จะเป็นอย่างที่ท่านกล่าวได้อย่างไร? เพียงแต่หากสหายของท่านยังไม่ได้รับการรักษา เกรงว่าจะรักษาไม่ได้แล้ว”
“เมื่อครู่ แม่นางกล่าวว่ารอท่านหมอมาถึงพวกเขาก็คงถูกพิษกัดกินก่อน หรือว่าท่านมีความคิดดี ๆ อะไร?”
“ข้ามียาแก้พิษ…”
“ท่านเจ้าสำนัก ระวังจะเป็นแผนลวง” คนที่อยู่ข้าง ๆ มองลู่จื่อชิงด้วยความหวาดระแวง “คนผู้นี้ไม่ทราบที่มา จู่ ๆ ก็บังเอิญปรากฏกายขึ้นยามที่หยางเจียจวงของเราเกิดเรื่อง บางทีนางอาจเป็นคนที่วางยาก็ได้”
“แล้วไปเถิด พวกท่านไม่เชื่อข้า ข้าย่อมไม่อาจตัดใจมอบยาเหล่านี้ให้” ลู่จื่อชิงลุกขึ้นยืน “เช่นนั้นข้าขอตัว”
“ช้าก่อน…” เจ้าสำนักหยางสังเกตเห็นสีหน้าของเหล่าสหายย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ จึงเอ่ยรั้งลู่จื่อชิงไว้ “แม่นาง ได้โปรดมอบยาให้ข้าด้วยเถิด”
ลู่จื่อชิงกระโดดลงมาจากหลังคา
ฉินโม่ถงตามนางมาติด ๆ
ทักษะของทั้งสองเป็นเลิศยิ่ง
เจ้าสำนักหยางสังเกตทักษะฝีมือของทั้งสองคน ดูไม่ออกว่ามาจากที่ใด ไม่เคยได้ยินว่ามีผู้เยาว์สกุลใดออกเดินทางฝึกฝน แม้นจะมี ย่อมต้องบอกกล่าวกันไว้เพื่อไม่ให้เกิดการปล่อยปละละเลย
ลู่จื่อชิงหยิบขวดหนึ่งขึ้นมา จากนั้นก็เทยาออกมาสามเม็ด
“แม่นาง ช่วยนำยามาให้ผู้เฒ่าผู้นี้ทั้งขวดได้หรือไม่?”
“ท่านเจ้าสำนัก ข้ามีเพียงขวดนี้ขวดเดียว หากวันใดข้าถูกพิษ ข้าจำต้องใช้มันถอน วางใจเถิด ยาของข้าสามารถถอนพิษได้นับร้อยชนิด นี่เพียงพอสำหรับพวกเขาแล้ว”
บ่าวรับใช้ช่วยนำยาใส่ปากจอมยุทธ์เหล่านั้น
ไม่นานนัก สีหน้าเขียวคล้ำของพวกเขาก็ดีขึ้นไม่น้อย
“ข้าให้ยาท่านแล้วจึงอยากขอของบางอย่างจากเจ้าสำนักหยาง”
“แม่นางไม่ได้อยากขอสุราหรอกหรือ?” เห็นได้ชัดว่าเจ้าสำนักหยางนึกไม่ถึงว่าลู่จื่อชิงยังมีเรื่องอยากร้องขอ
ลู่จื่อชิงมองเขาด้วยความประหลาดใจ “เจ้าสำนักหยาง หากข้าจำไม่ผิด ที่ข้าเอ่ยเมื่อครู่คือข้ามาครั้งนี้เพราะมาขอน้ำดื่ม ไม่ได้บอกว่ายาของข้ามีค่าแค่สุราของพวกท่าน เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็ขาดทุนเกินไปหน่อยกระมัง”
“แม่นางต้องการสิ่งใด?”
“ในหยางเจียจวงของท่านมีกระบี่ลือชื่อเล่มหนึ่ง ว่ากันว่าตัดเหล็กราวกับโคลน เป็นกระบี่ที่นักกระบี่อันดับหนึ่งในสมัยนั้นพกพา ข้าไม่ได้มีงานอดิเรกอื่นใด เพียงแค่ชอบรวบรวมอาวุธชั้นยอดทุกชนิดจึงต้องการกระบี่เล่มนั้น”
“เกรงว่าจะทำให้แม่นางผิดหวังแล้ว กระบี่เล่มนั้นสำคัญต่อหยางเจียจวงเรา ดังนั้นไม่อาจมอบให้เจ้าได้”
“นี่ท่านคิดจะข้ามแม่น้ำแล้วรื้อสะพานหรือ?” ลู่จื่อชิงขมวดคิ้ว
ฉินโม่ถงมองเจ้าสำนักหยางด้วยแววตาไร้ความปรานี “เจ้าสำนักหยางควรคิดให้รอบคอบจะดีกว่า หยางเจียจวงของท่านเกิดปัญหามากมาย จุดประสงค์ของอีกฝ่ายเป็นกระบี่เล่มนั้น ถึงแม้ท่านไม่ส่งมันให้กับเรา ท่านก็ไม่สามารถปกป้องมันได้อยู่ดี”
“ท่านเจ้าสำนัก ความทะเยอทะยานของสองคนนี้เปิดเผยออกมาแล้ว ข้าคิดว่าพายุนองเลือดในใต้หล้าจะต้องเกิดเพราะเด็กไม่รู้จักกฎเกณฑ์เหล่านี้เป็นแน่” บ่าวรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยด้วยความโกรธ
“ช่างเถิด สุนัขกัดหลี่ว์ต้งปิน*[1] มีตาหามีแววไม่ พวกท่านไม่ต้องการชีวิต ทว่าอยากปกป้องกระบี่เล่มนั้น เช่นนั้นก็เฝ้ามันไปเถอะ!” ลู่จื่อชิงเอ่ยกับฉินโม่ถงที่อยู่ข้าง ๆ “ไป พวกเราไปสกุลหาน”
“แม่นางช้าก่อน” เจ้าสำนักหยางกล่าว “ข้าไม่อาจมอบกระบี่ให้แม่นางได้ เพียงแต่วันนี้เป็นวันเกิดข้า แม่นางโปรดรั้งอยู่ดื่มสุราสักจอกดีหรือไม่?”
“ข้ามาที่นี่เพราะกระบี่ หากไม่มีกระบี่ ข้าก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลา นอกจากนี้หยางเจียจวงของท่านไม่ช้าก็เร็วจะประสบปัญหาใหญ่แล้ว ข้ารั้งอยู่ที่นี่มีแต่จะขาดทุนไม่ใช่หรือ?”
“หยางเจียจวงเรานอกจากกระบี่เลื่องชื่อเล่มนั้นแล้ว ยังมีอาวุธอื่น ๆ อีกมากมาย หากแม่นางชอบ เพียงไปที่คลังอาวุธสกุลหยางของเราแล้วเลือกเอาได้ตามต้องการ” เจ้าสำนักหยางกล่าว “ครานี้ข้าจะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน”
ลู่จื่อชิงไร้ซึ่งความสนใจ
เจ้าสำนักหยางต้องการรั้งนางไว้
จี๊ด!
มีเสียงแปลก ๆ ดังมาจากพื้น
ทุกคนก้มหน้าลงไป เห็นหนูมากมายไต่อยู่ตามพื้น
“หนูหรือ?” จอมยุทธ์หญิงชักกระบี่ของนางออก “ข้าจำได้แล้ว ระหว่างทางเรากระหายน้ำจึงหยุดพัก ข้าถูกหนูกัดเอา หรือเพราะเหตุนี้ข้าจึงถูกพิษ?”
อีกสองคนก็เอ่ยสนับสนุน “ข้าก็ถูกกัดเช่นกัน”
“ดูเหมือนจะพบที่มาของพิษแล้ว” เจ้าสำนักหยางกล่าว “ควบคุมสัตว์เล็ก ๆ มากมายเพียงนี้มาหยางเจียจวง มีจุดประสงค์อะไรกันแน่?”
ลู่จื่อชิงกระโดดขึ้นไปแล้วนั่งลงบนหลังคา
ฉินโม่ถงตามนางไปอย่างรวดเร็ว
“หนูเหล่านี้เหม็นเน่าเสียจริง น่าขยะแขยง” ลู่จื่อชิงเอ่ย “เพียงแต่โม่ถง ยุทธภพช่างสนุกยิ่งนัก พวกเราเพิ่งออกมาก็ได้พบเรื่องน่าตื่นเต้นเช่นนี้ กลางคืนข้าจะเขียนจดหมายเล่าให้ท่านแม่ พี่ใหญ่ พี่หญิง และน้องชายของข้าฟัง”
ส่วนบิดานั้น…
นางไม่กล้าเล่าจริง ๆ
[1] สุนัขกัดหลี่ว์ต้งปิน หมายถึง ไม่รู้จักบุญคุณคน