สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย [农门福妻全家是反派] - บทที่ 947 วิกฤตรายล้อมทุกด้าน
บทที่ 947 วิกฤตรายล้อมทุกด้าน
บทที่ 947 วิกฤตรายล้อมทุกด้าน
มู่ซืออวี่เขียนจดหมายแล้วให้คนนำไปส่งยังที่อยู่ที่ลู่จื่อชิงทิ้งไว้เมื่อคราวก่อน
อย่างไรก็ตาม ยุทธภพเต็มไปด้วยอันตราย การผจญภัยของลู่จื่อชิงและซ่งหานจือยังคงดำเนินต่อไป ทั้งยังไม่ราบรื่นเท่าไหร่นัก
ภายในถ้ำ ลู่จื่อชิงกอดซ่งหานจือ กวาดตามองทางเข้าถ้ำแคบ ๆ ด้านบนแล้วเอ่ยว่า “หานจือ เจ้าตื่นสิ อย่าหลับนะ…”
หน้าผากของซ่งหานจือมีผ้าขาวพันรอบทบหนึ่ง นั่นเป็นเสื้อผ้าของลู่จื่อชิงที่นางฉีกออกเพื่อพันแผลให้เขา
ทั้งสองถูกลอบสังหารขณะกำลังต่อสู้กับคนจากตำหนักเซิ่งหัว เพราะปกป้องลู่จื่อชิง ซ่งหานจือจึงตามนางมาแล้วตกลงไปในถ้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้นางได้รับบาดเจ็บ เขาจึงทำหน้าที่ต่างเบาะรองให้
ก่อนหน้านี้เขาประมือกับศัตรูนับร้อยครั้ง บาดเจ็บสาหัสอยู่ก่อนแล้ว คราวนี้ประสบอุบัติเหตุอีก ลมหายใจจึงถี่กระชั้นขึ้นเรื่อย ๆ ซ่งหานจือหายใจรวยริน สถานการณ์ย่ำแย่เป็นอย่างยิ่ง
ที่แห่งนี้ซ่อนอยู่ลึกมากจึงไม่มีผู้ใดเห็นว่าพวกเขาตกลงมาที่นี่ พวกเขาต้องพึ่งพาตนเองในการหลบหนี ทว่าซ่งหานจือได้รับบาดเจ็บ นางไม่อาจอุ้มคนเจ็บออกไปด้วยตัวคนเดียวได้
ลู่จื่อชิงปลดกระบอกน้ำออกจากเอวแต่มันกลับว่างเปล่า
จากนั้นนางก็ปลดกระบอกน้ำออกจากเอวซ่งหานจือ
ข้างในมีเสียงน้ำกลิ้งไปมา
เมื่อได้ยินเสียงนี้ ลู่จื่อชิงจึงโล่งใจ
นางจ่อปากกระบอกน้ำไปที่ริมฝีปากของซ่งหานจือ ค่อย ๆ เอียงลงเพื่อไม่ให้น้ำหกออกจากปากเขา
ตอนนี้ยังออกไปข้างนอกไม่ได้ นางยังพอมีอาหารแห้งติดตัวมาด้วย ซึ่งเพียงพอให้ทั้งสองคนอยู่ได้สองสามวัน อย่างไรก็ตาม นางไม่มีน้ำ ยามนี้มีเพียงน้ำในกระบอกของซ่งหานจือเท่านั้นจึงต้องใช้เท่าที่จำเป็น
ซ่งหานจือปิดปากแน่น เห็นได้ชัดว่าไม่ให้ความร่วมมือแม้แต่น้อย
ลู่จื่อชิงเห็นน้ำไหลออกมาก็ปวดใจเป็นอย่างยิ่ง
“ซ่งหานจือ เจ้าดื่มน้ำหน่อย ไม่เช่นนั้นจะกระหายน้ำตายเอาได้”
“หานจือ…”
“เจ้าเปิดปากเถอะ…”
ริมฝีปากของซ่งหานจือทั้งแห้งและแตก
ลู่จื่อชิงเขย่าตัวเขาเบา ๆ เมื่อเห็นว่าเขาขมวดคิ้วราวกับกำลังเจ็บปวด นางจึงหยุดเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
นางเหลือบมองกระบอกน้ำ แล้วหันไปมองซ่งหานจือ ลู่จื่อชิงไม่สนใจสิ่งใดอีกต่อไป นางเงยหน้าขึ้นดื่มน้ำลงไปอึกหนึ่ง ก่อนจะประทับลงไปที่ริมฝีปากของซ่งหานจือเพื่อป้อนให้เขา
อึก! อึก!
ซ่งหานจือกลืนน้ำลงไป
ลู่จื่อชิงสูดหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง มือตบลงบนแก้มร้อนผ่าวของตนเอง
นางหันกลับไปมองซ่งหานจือ
เขายังคงไม่รู้สึกตัวใด ๆ ทั้งสิ้น ประหนึ่งเป็นหินก้อนหนึ่ง
“หิน! ใช่ ตอนนี้เขาก็คือหิน ข้าเพียงต้องปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นก้อนหินก็พอ”
ลู่จื่อชิงจิบน้ำอีกคำแล้วป้อนให้เขาเหมือนก่อนหน้านี้
คราวนี้ซ่งหานจือก็ดื่มลงไปเช่นกัน
เพียงแต่เขากลับตวัดลิ้นพันเกี่ยวนาง อย่างไรก็ไม่ยอมปล่อย
แก้มของลู่จื่อชิงร้อนผ่าว ๆ ประหนึ่งลุกเป็นไฟขึ้นมาแล้ว
นับตั้งแต่เมื่อครู่จนกระทั่งบัดนี้ นางล้วนไม่สงบเหมือนเคย อันที่จริง นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่นางได้ใกล้ชิดกับบุรุษถึงเพียงนี้ ลู่จื่อชิงก็เหมือนกับแม่นางน้อยธรรมดาทั่วไป ย่อมรู้สึกขัดเขินขึ้นมา
เกิดเป็นความรู้สึกประหนึ่งกวางน้อยกำลังซุกซนไปมาภายในใจนาง หากซ่งหานจือไม่ได้ไร้สติ นางคงหาที่ซ่อนไปแล้ว
ลู่จื่อชิงมัวแต่จดจ่อความสนใจไปที่การหลบหนีเกลียวลิ้นที่ลุกไล่พัวพันของซ่งหานจือ จึงไม่ได้สังเกตว่าคนที่นอนแข็งทื่อราวกับก้อนหินเมื่อครู่นี้กำหมัดแน่นเพียงใด ทั่วทั้งกายของเขาตึงเครียด ลมหายใจถี่กระชั้นยิ่งกว่าเดิม
ท้ายที่สุดลู่จื่อชิงก็กลับมาเป็นฝ่ายควบคุม นางจึงรีบถอนตัวออกมา
แพขนตาของซ่งหานจือสั่นระริก ทั่วทั้งร่างกายเขาสั่นสะท้าน
ลู่จื่อชิงไม่ได้สังเกต หากแต่อาศัยโอกาสนี้มองไปรอบ ๆ พยายามคิดหาหนทางออกไปจากที่นี่
ที่นี่เป็นถ้ำแห่งหนึ่ง ทว่าเพราะดินถล่มระหว่างที่พวกเขากำลังต่อสู้กัน ทางออกเดิมจึงถูกปิดทับไป อีกทั้งปากถ้ำแห่งนี้ก็สูงเกิน นางไม่สามารถเหาะออกไปพร้อมกับซ่งหานจือได้
เว้นเสียแต่ว่า นางจะเหาะออกไป หาอุปกรณ์กลับมาช่วยซ่งหานจือ เพียงแต่หากใช้วิธีนี้ นางต้องทิ้งซ่งหานจือไว้ที่นี่เพียงลำพัง หากเขาเจองูพิษหรือแมงป่องเข้าจะทำอย่างไร? นางไม่กล้าเสี่ยง
“โม่ถงควรมาหาพวกเราแล้วกระมัง!” ลู่จื่อชิงพึมพำ “ครั้งสุดท้ายเราต่อสู้อยู่ใกล้ ๆ นี้ โม่ถงฉลาดเพียงนั้น คงหาเราเจอ”
นางนั่งลงข้าง ๆ ซ่งหานจือ แล้วใช้มือแตะหน้าผากของเขา
ในยามนี้เอง ซ่งหานจือก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา
“เจ้าฟื้นแล้ว!” ลู่จื่อชิงดีใจยิ่งนัก
เพียงแต่…
นางกลับนึกถึงเรื่องเมื่อครู่นี้ขึ้นมา
เมื่อเห็นซ่งหานจือเม้มริมฝีปาก จู่ ๆ ใบหน้าลู่จื่อชิงก็แดงเรื่อ นางไม่กล้าสบสายตากับซ่งหานจือ
“เจ้าไม่สบายที่ใดหรือไม่?”
“ชิงเอ๋อร์…” ซ่งหานจือขมวดคิ้ว “ข้ารู้สึก… อึดอัดที่หน้าอก”
“หน้าอกหรือ?” ลู่จื่อชิงลูบ ๆ คลำ ๆ ไปบนหน้าอกของเขาอย่างรวดเร็ว “ได้รับบาดเจ็บรึ? ภายนอกไม่ได้รับบาดเจ็บ หรือว่าบาดเจ็บภายใน? ตกลงมาจากข้างบน มิหนำซ้ำข้ายังทับบนตัวเจ้า เจ้าจะต้องได้รับบาดเจ็บภายในเป็นแน่”
“เจ็บ…” ซ่งหานจือดูไม่สบายตัวเป็นอย่างยิ่ง “หลังข้าก็รู้สึกเจ็บเช่นกัน ดูเหมือนจะทับก้อนหินอยู่”
“ให้ข้าดู…” ลู่จื่อชิงช่วยพยุงซ่งหานจือลุกขึ้นนั่ง
ซ่งหานจือค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่ง ร่างกายโอนเอนไปมา
ลู่จื่อชิงรีบประคองเขาไว้โดยเร็ว แล้วให้ซ่งหานจือพิงลงบนร่างของนาง
“พื้นไม่เรียบจริง ๆ มิน่าเล่าเหตุใดถึงได้รู้สึกไม่สบาย” ลู่จื่อชิงเอ่ย “มีที่ใดไม่สบายอีกหรือไม่?”
“ไม่ต้องกังวล ข้าไม่เป็นไร”
“ตกลงมาจากข้างบนจะไม่เป็นไรได้อย่างไร?”
“ไม่เป็นไรจริง ๆ วรยุทธ์ที่ข้าฝึกมาหลายปีไม่ได้ไร้ประโยชน์เสียทีเดียว”
“เช่นนั้นเจ้าจะอ่อนแออย่างนี้หรือ?” ลู่จื่อชิงกล่าว
ซ่งหานจือ “…”
อันที่จริงเขาไม่ต้องอ่อนแอถึงเพียงนี้ก็ได้
เพียงแต่ หากเขาไม่อ่อนแอเช่นนี้ นางจะเห็นใจเขาหรือ? นางจะเป็นห่วงเขาหรือไม่? ช่องว่างระหว่างพวกเขาในช่วงเวลาหลายปีมานี้จะเติมเต็มได้อย่างง่ายดายหรือ?
“เจ้าได้รับบาดเจ็บ ขยับตัวไม่ได้ ตอนนี้พวกเรามีสองทางเลือก หนึ่งคือรอให้พวกเขามาช่วยเหลือ เพียงแต่ไม่รู้ว่าพวกเขาจะพบเราเมื่อใด สองคือให้ข้าขึ้นไปก่อน แล้วหาของกลับมาช่วยเจ้า”
“เช่นนั้นเจ้าขึ้นไปเถอะ!” ซ่งหานจือเอ่ย “ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่”
“ที่นี่ดูเหมือนจะชื้นเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะมีสัตว์มีพิษหรือไม่…”
“ไม่เป็นไร โชคของข้าคงไม่ได้เลวร้ายเพียงนั้น”
ซ่งหานจือพูดแล้วสะบัดแขนไปทางฝั่งตรงข้าม
ตู้ม!
กำลังภายในทำให้หินแตกกระจายออกจากกัน
“ดูสิ ข้ายังใช้กำลังภายในได้”
“เช่นนั้นก็ได้ เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่” ลู่จื่อชิงเห็นดังนั้นจึงเงยหน้าไปยังช่องข้างบน
นางกระโดดและอาศัยกำแพงถ้ำไต่ขึ้นไปตามหิน
เพียงแต่….
ลู่จื่อชิงลื่นไหลลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ตกลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า
ปากถ้ำแคบเกินไป ผนังถ้ำก็เรียบเกิน ทำให้ปีนได้ไม่ง่ายเพียงนั้น
“ชิงเอ๋อร์ เจ้ามายืนบนตัวข้าสิ”
“ไม่ได้”
“ฟังข้า ข้าไม่ได้บอบบางเพียงนั้น”
“อย่างไรก็ไม่ได้” ลู่จื่อชิงเอ่ย “พวกเรารออีกประเดี๋ยวเถอะ บางทีโม่ถงและคนอื่น ๆ อาจจะหาเราพบในไม่ช้า ตอนนี้เจ้าได้รับบาดเจ็บภายใน ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าได้รับบาดเจ็บมากไปกว่านี้แล้ว”
“แต่ที่นี่หนาวเกินไป ชิงเอ๋อร์” ซ่งหานจือเข้าไปโอบนาง “ข้าเกรงว่าข้าจะทนไม่ไหว ดังนั้น ข้าส่งเจ้าขึ้นไปก่อน แล้วเจ้าค่อยคิดหาทางมาช่วยข้าเถอะ”
สิ้นคำ เขาก็ใช้กำลังผลักลู่จื่อชิงขึ้นไปด้านบน
ลู่จื่อชิงหันกลับไปมองซ่งหานจือ
เพราะเขาใช้กำลังภายใน ที่มุมปากจึงมีเลือดไหลออกมา
เมื่อเห็นภาพนี้ หัวใจของลู่จื่อชิงก็บีบรัดอย่างหนัก
นางไม่อาจทำให้ความพยายามของเขาสูญเปล่าได้ ดังนั้น…
นางปีนป่ายขึ้นไปตามมุมต่าง ๆ พบว่าเหลือเพียงก้าวสุดท้ายเท่านั้น อีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น…
ไม่ได้ ยังคงไม่ได้ ใกล้จะร่วงลงไปแล้ว!
มีมือหนึ่งมาคว้ามือนางเอาไว้
“สนุกหรือไม่?” จี้ซ่งเฉิงโผล่หัวออกมา
ลู่จื่อชิงดึงมือของเขาขึ้นไปจากปากถ้ำ นางไม่มีเวลาคุยกับเขา เพียงแต่หันไปมองซ่งหานจือที่อยู่ด้านล่าง
“หานจืออยู่ข้างใน รีบหาอะไรมาช่วยเขาเร็วเข้า”