สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย [农门福妻全家是反派] - บทที่ 975 ดื้อด้าน สั่งสอนไม่ได้
บทที่ 975 ดื้อด้าน สั่งสอนไม่ได้
บทที่ 975 ดื้อด้าน สั่งสอนไม่ได้
ฮูหยินผู้เฒ่าสิงเดินเข้าไปในห้องรับรองแขกพร้อมกับแม่นมเฒ่า
“ฮูหยินบ้านดอง ได้ยินว่าท่านตกน้ำหรือ เป็นอย่างไร?” ฮูหยินผู้เฒ่านั่งลงข้างเตียงแล้วเอ่ยถาม
กงซื่อคว้ามือฮูหยินผู้เฒ่ามากุม แล้วร้องไห้ดั่งดอกสาลี่ต้องหยาดฝน… อืม หากจะกล่าวให้แม่นยำคือทุลักทุเลทั้งยังน่าเกลียด นางสะอึกสะอื้นกล่าว “ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านต้องตัดสินให้ข้านะ! เดิมทีข้าเพียงอยากทักทายคุณหนูห้าสิง นึกไม่ถึงว่าจะตกน้ำไปเช่นนั้น เหตุใดคุณหนูห้าสิงถึงได้ใจไม้ไส้ระกำเช่นนี้ ข้าขอร้องอยู่นาน นางก็จับสกุลซ่งเราไว้ไม่ยอมปล่อย…”
ฮูหยินผู้เฒ่าสิงถอนหายใจอย่างให้ความร่วมมือ ปลอบใจกงซื่อ “ได้ยินท่านหมอบอกว่าร่างกายท่านไม่มีปัญหา ขอบคุณฟ้าดินจริง ๆ มิเช่นนั้นท่านคงทุกข์ทรมานแล้ว”
ไม่ว่ากงซื่อจะวนไปถึงเรื่องซ่งลี่กุ้ยอย่างไร ฮูหยินผู้เฒ่าสิงก็ไม่ยอมหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา กงซื่อเห็นว่าหญิงเฒ่าผู้นี้คิดจะหลีกเลี่ยง นางจึงไม่เสแสร้งต่อไปและโพล่งออกมาตรง ๆ
“ฮูหยินบ้านดอง ร้านนั้นเดิมทีก็เป็นของลูกสาวเรา ถึงแม้ลี่กุ้ยจะโลภ ทว่าร้านนั้นก็ยังเป็นของน้องสาวนาง พวกท่านสกุลสิงดึงดันเรื่องนี้ไม่ยอมปล่อย ไม่ไว้หน้าสกุลซ่งเราเกินไปแล้วกระมัง”
“ท่านแม่…” ฮูหยินรองสิงที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยขัดจังหวะ
ในสกุลสิง ฮูหยินผู้เฒ่าสิงเป็นผู้ที่มีอำนาจเด็ดขาด แม้กระทั่งยามที่นายท่านใหญ่สิงยังมีชีวิตอยู่ ตำแหน่งขุนนางสูงส่งก็ยังต้องเคารพยำเกรงมารดาเฒ่าผู้นี้ กงซื่อกลับระบายความโกรธออกมา แล้วนางควรทำอย่างไรดี? นางยังต้องใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้นะ!
“เจ้าอย่ามาแทรก” กงซื่อเอ่ยอย่างกระด้างกระเดื่อง “วันนี้สกุลสิงต้องให้คำตอบที่แน่นอนกับข้าว่าจะถอนฟ้องหรือไม่?”
“ฮูหยินบ้านดอง ข้าอายุมากแล้ว ยุ่งเรื่องผู้เยาว์ไม่ได้ ท่านมาหาข้าก็ไม่มีประโยชน์อะไร อย่างไรเสียนังหนูผู้นั้นก็คุมได้ยาก หลายปีมานี้นางไม่ฟังคำพูดของข้า ข้ากล่าวอะไรนางก็ไม่มีทางฟัง” ฮูหยินผู้เฒ่าสิงเอ่ย “ส่วนที่ท่านบอกว่าร้านนั้นเป็นของสะใภ้รอง เรื่องนี้ข้าต้องเอ่ยแล้ว ตอนที่สะใภ้รองแต่งเข้ามามีสินเดิมติดตัวมาเพียงหนึ่งพันตำลึง ร้านหนึ่งเป็นกิจการที่มีหน้าร้าน ท่านบอกว่านั่นเป็นร้านของนาง ได้มาอย่างไรหรือ?”
ฮูหยินรองสิงหน้าแดงก่ำขึ้นมา รีบร้อนอธิบาย “ท่านแม่ ท่านฟังข้าอธิบาย”
“สะใภ้รอง สกุลสิงยังไม่แยกบ้าน หลังจากสะใภ้ใหญ่จากไป เรื่องที่บ้านล้วนให้เจ้าจัดการ เจ้าเป็นคนมีความสามารถ ทว่าการใช้เงินของสกุลมาซื้อทรัพย์สินของเจ้าเองนั้น…”
ฮูหยินผู้เฒ่าสิงมองฮูหยินรองสิงด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ไม่เห็นสกุลสิงเราอยู่ในสายตาเกินไปหรือไม่? หรือเจ้าคิดว่าข้าแก่แล้ว เลอะเลือนแล้ว เหลือเวลาใช้ชีวิตอีกไม่กี่ปี จึงรีบร้อนเก็บเงินให้ตนเอง?”
“ท่านแม่ ไม่มีเรื่องเช่นนั้น” ฮูหยินรองสิงเอ่ย “ร้านนั้นเป็นกิจการของสกุลสิงเรา เป็นร้านข้าเองที่ใดกัน? หมู่นี้ไม่ได้ขาดตกของของเจ้าห้าไปหรือ เจ้าห้าก็ชอบมัน ข้าจึงใช้มันชดเชยให้นาง”
“ฮูหยินบ้านดอง ท่านได้ยินแล้ว นั่นเป็นร้านของสกุลสิงเรา ไม่ใช่ร้านส่วนตัวของสะใภ้รอง” ฮูหยินผู้เฒ่าสิงเอ่ย “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ของที่พี่ชายสกุลซ่งของพวกท่านยักยอกไปก็คือของของสกุลสิงเรา”
“แม่เฒ่า แม่เฒ่า” กงซื่อเห็นท่าไม่ดี จึงสวมหน้ากากน่าสงสารอีกครั้ง “ท่านทำทานให้คุณหนูห้าถอนฟ้องออกไปเถอะ! สกุลซ่งเราไม่มีเงินนำออกมาแล้วจริง ๆ! ”
“สะใภ้รอง ดูเหมือนแม่เจ้าจะไม่เป็นไรแล้ว อีกประเดี๋ยวให้สกุลซ่งมารับนางกลับไปเถอะ!” ฮูหยินผู้เฒ่าสิงเอ่ย “ยายเฒ่าผู้นี้อายุมากแล้ว อยู่ข้างนอกได้ไม่ได้นาน ข้ากลับเรือนละ”
“เจ้าค่ะ ท่านแม่”
ฮูหยินผู้เฒ่าสิงลุกขึ้น “ฮูหยินบ้านดอง เช่นนั้นท่านพักผ่อนสักครู่หนึ่ง ประเดี๋ยวให้สะใภ้รองส่งท่านกลับไป”
สีหน้าของกงซื่อพลันไม่น่าดูชมขึ้นมา
สกุลสิงนับวันยิ่งไม่เห็นสกุลซ่งของพวกนางอยู่ในสายตา บัดนี้ยังแสดงท่าทีขับไล่นางกลับไปอย่างชัดเจน
หากนางกลับไปมือเปล่า คนสกุลซ่งจะไม่เขมือบนางหรือ? สกุลพึ่งพาซ่งลี่กุ้ยให้สืบทอดสกุล หากเกิดเรื่องกับเขา ทั้งสกุลซ่งไม่มีทางไว้ชีวิตนางเป็นแน่
“ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านไม่ไว้หน้าสกุลซ่งเราเช่นนี้ เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะออกไปป่าวประกาศว่าพวกท่านสกุลสิงรังแกฮูหยินบ้านดอง เกือบจะฆ่าฮูหยินบ้านดองอยู่ในสระน้ำนั่น?”
“ได้สิ!” ฮูหยินผู้เฒ่าสิงเอ่ยนิ่ง ๆ “ท่านก็ออกไปป่าวประกาศ คดีฟ้องร้องระหว่างสกุลซ่งกับสกุลสิงเป็นเรื่องราวใหญ่โตไปนานแล้ว ยามนี้สกุลซ่งพวกท่านยังมาใส่ร้ายเรา ผู้ใดล้วนรู้ว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร อีกอย่าง พวกท่านสกุลซ่งหัวแข็ง พวกเราสกุลสิงไม่อาจทนรับ เช่นนั้นทำได้เพียงให้พวกท่านสกุลซ่งพาตัวลูกสาวคนดีบ้านพวกท่านกลับไปเถอะ พวกเราสกุลสิงไม่กล้าอาจเอื้อม”
“ท่านแม่ แม่ข้าเพียงเลอะเลือนไป ข้ากล่อมนางก็ดีขึ้นแล้ว” ฮูหยินรองสิงเอ่ย “ท่านแม่อย่าได้โกรธไป ระวังจะส่งผลร้ายต่อร่างกายท่านได้นะเจ้าคะ”
หลังจากฮูหยินผู้เฒ่าสิงกลับไป ฮูหยินรองสิงโกรธมากจนอยากจะขว้างปาข้าวของ อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงข้อจำกัดทางการเงินของที่บ้านระยะนี้ นางก็ยังคงวางข้าวของทุกอย่างลง
“ท่านแม่ แม่ของข้า ท่านไม่อยากเห็นข้าอยู่ดีใช่หรือไม่?” ฮูหยินรองสิงกล่าว “หมู่นี้ข้าเหนื่อยมากแล้วจริง ๆ ข้ามีหลายเรื่องที่ต้องจัดการ หยุดสร้างปัญหาให้ข้าได้หรือไม่?”
“ฮูหยินผู้เฒ่าผู้นั้นไม่ดีต่อเจ้าอย่างนี้ เจ้ายังขอความเมตตาจากนางอีกหรือ ขายหน้าจริง ๆ” กงซื่อเบ้ปาก ทว่าเพราะคำขู่เหล่านั้นของฮูหยินผู้เฒ่า นางไม่กล้าดื้อด้านอย่างเมื่อครู่แล้ว ด้วยเกรงว่าลูกสาวจะต้องหย่าร้างแล้วกลับบ้านจริง ๆ หากเป็นเช่นนั้น สกุลซ่งยิ่งเสียหน้ากว่าเดิม และสถานะของนางในสกุลซ่งคงจะยิ่งตกต่ำลง
“ท่านแม่ หากท่านยังสร้างปัญหาอยู่เช่นนี้ ข้าจะกลายเป็นภรรยาที่ถูกทิ้งจริง ๆ แล้ว หากข้าเป็นภรรยาที่ถูกทิ้งจะมีผลดีอะไรต่อท่าน? ตอนนี้ท่านสุขสบาย นั่นก็เพราะมีข้าช่วยพวกท่าน ท่านไม่ใคร่ครวญดูบ้าง พี่หญิงใหญ่เหลียวแลท่านหรือ? น้องหญิงสามเหลียวแลท่านหรือ? หลายปีมานี้ พวกท่านเคยได้เงินจากมือพวกนางถึงสิบตำลึงเงินหรือไม่? ยังไม่ใช่ต้องพึ่งพาข้ารึ? บัดนี้เพื่อคนบ้านรองแล้ว แม้กระทั่งลูกสาวแท้ ๆ ของท่าน ท่านก็จะทำลายจนป่นปี้!”
“เอาละ เอาละ เจ้าช่วยไม่ได้ก็ช่วยไม่ได้ ข้าเห็นว่าเจ้าอยู่ในสกุลสิงก็ไม่ได้มีสถานะอะไร” กงซื่อรู้สึกผิด ทว่าสุดท้ายนางก็เคยชินกับการแสดงท่าทีหัวแข็งต่อหน้าฮูหยินรองสิง คำพูดคำจายังคงไม่เข้าหูเช่นเคย
“ประเดี๋ยวข้าจะให้คนส่งท่านกลับไป” ฮูหยินรองสิงเหนื่อยล้าทั้งกายใจ ไม่อยากพูดคุยอีก “เรื่องพี่ชายท่านก็ไม่ต้องคิดแล้ว กลับไปบอกพวกเขาให้หาเงิน! ชดใช้เสียดี ๆ เถอะ! พวกเราผู้ใดกล่าวล้วนไม่ได้ผล นังหนูห้าบ้านใหญ่ผู้นั้นยุ่งด้วยไม่ได้ง่าย ๆ”
กงซื่อไม่ยินยอม ทว่าก็รู้ดีว่าไม่มีประโยชน์อะไร
กงซื่อนั่งรถม้าสกุลสิงกลับไปสกุลซ่ง
ฉิงโหรวกลับไปที่สวน แล้วบอกสิงเจียซือที่กำลังป้อนอาหารนกอยู่ที่นั่น “คุณหนู คนไปแล้วเจ้าค่ะ”
“อืม ไม่ต้องกังวล” สกุลซ่งไม่มีผลอะไรต่อนาง เพียงแค่หาเงินมาให้นางก็พอแล้ว
หลังจากเหตุการณ์นี้ ฮูหยินรองสิงคงกระจ่างว่านางไม่ใช่คนที่จะยุ่งด้วยได้ ภายหน้าคิดจะล่วงเกินนางต้องคิดให้ถี่ถ้วนเสียก่อน
“เจ้าหาคนที่ไว้ใจได้สักสองสามคน กระจายข่าวเรื่องนี้ออกไป” สิงเจียซือเอ่ย “ไม่จำเป็นต้องราดน้ำมันบนกองเพลิง ควรเป็นอย่างไรก็ให้เป็นอย่างนั้น”
“บ่าวไม่เข้าใจ” ฉิงโหรวเอ่ย “คุณหนูต้องการให้ผู้อื่นรู้โฉมหน้าที่แท้จริงของสกุลซ่ง เป็นเพราะฮูหยินรองสิงหรือเจ้าคะ?”
สิงเจียซือยิ้มน้อย ๆ “พวกเขาจะเป็นอย่างไร เดิมทีข้าไม่ได้สนใจ”
นางเพียงแค่อยากให้คนในสกุลหัวรู้ว่านางเป็นคนที่ไม่ยอมกล้ำกลืนฝืนทน สกุลมั่งคั่งร่ำรวยธรรมดาทั่วไปย่อมไม่ต้องการให้สตรีโหดเหี้ยมมากเล่ห์เช่นนี้ไปเป็นสะใภ้ สิงเจียซือเพียงแค่อยากให้สกุลหัวยอมถอย