สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย [农门福妻全家是反派] - บทที่ 996 เจ้าจะเลือกผู้ใด
บทที่ 996 เจ้าจะเลือกผู้ใด?
บทที่ 996 เจ้าจะเลือกผู้ใด?
“พระชายาชอบเจ้าห้าสกุลเรา นั่นเป็นวาสนาของสกุลสิงแล้ว” ฮูหยินผู้เฒ่าสิงกล่าว “ขอเพียงพระชายาเห็นว่าเหมาะสม พวกเราแน่นอนว่าต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”
“ข้ารู้สึกว่าเหมาะสมทีเดียว” มู่ซืออวี่เอ่ย “ข้ารู้สถานการณ์ของแม่นางห้า งานแต่งให้เป็นหน้าที่ของเรา พวกท่านเพียงแค่ต้องดูแลนางให้ดี เลี้ยงนางให้ขาวอ้วน เรื่องอื่นไม่ต้องกังวล”
“ดียิ่ง เช่นนั้นพวกเราจะรอให้งานมงคลมาถึง”
ตลอดทั้งกระบวนการลู่อี้ไม่ได้กล่าวสักคำ มู่ซืออวี่ดูเข้าหาง่าย ทว่าความรู้สึกถูกกดดันยังคงทำให้สกุลสิงต้องหลั่งเหงื่อกาฬออกมา
จู่ ๆ พวกเขาก็รู้สึกว่าเป็นบ้านดองกับสกุลลู่ พวกเขาก็ไม่แน่ว่าจะได้ประโยชน์อะไร ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะเป็นท่านอ๋องลู่หรือพระชายาลู่ ล้วนไม่ใช่ผู้ที่พูดคุยได้ง่าย ๆ
สิงเจียซือและลู่ฉาวอวี่ทางนี้เป็นไปอย่างราบรื่น ทว่าทางสิงเจียเวยกลับไม่ได้ราบรื่นนัก
สิงเจียเวยปฏิเสธการแต่งงานเพราะโรคประหลาด อย่างไรก็ตามสกุลหัวกลับไม่มีท่าทีกังวลแม้แต่น้อย ยังคงต้องการให้สิงเจียเวยแต่งเข้ามาก่อน ทั้งยังกล่าวว่าจัดงานมงคลขจัดเสนียดจัญไร ไม่แน่ว่าอาจรักษาหายก็เป็นได้
สกุลหัวไม่เพียงแต่ไม่ยกเลิกการหมั้นหมาย แต่ยังหารือกำหนดวันแต่งงานในทันที เนื่องด้วยสถานการณ์พิเศษของสิงเจียเวย สกุลหัวจึงกำหนดวันแต่งงานไว้อีกครึ่งเดือน เร็วยิ่งกว่างานแต่งของสิงเจียซือกับลู่ฉาวอวี่เสียอีก
“ฮูหยินรองหัว ลูกข้าป่วยเป็นโรคประหลาดเช่นนี้ จวนท่านกลับไม่ถือสา เป็นโชคดีของนังหนูสี่ของเราจริง ๆ ทว่าพวกท่านมาจากสกุลใหญ่ หากถูกผู้อื่นรู้ว่าพวกท่านแต่งสะใภ้ป่วยไปผู้หนึ่ง เกรงว่าจะเป็นที่หัวเราะขบขัน พวกเราไม่อาจทำร้ายพวกท่าน ไม่อย่างนั้นงานแต่งครั้งนี้…” สีหน้าของฮูหยินรองสิงเปี่ยมไปด้วยความเสียใจ
ฮูหยินรองหัวคว้ามือฮูหยินรองสิงมากุม ตบหลังมือเบา ๆ แล้วกล่าวว่า “ดูท่านกล่าวเข้าสิ ตอนนั้นพวกเราตกลงกันดิบดี ดวงของเด็กทั้งสองสมพงศ์กัน นั่นเป็นคู่ที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก งานแต่งที่ดีเช่นนี้จะล้มเลิกเพียงเพราะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้อย่างไร? ข้ากลับรู้สึกว่าแม่นางสี่ควรแต่งงานเร็วขึ้นหน่อย เช่นนี้เรื่องมงคลมาถึง ความโชคร้ายเหล่านั้นก็จะคลี่คลายแล้ว”
“พวกเราไม่อยากให้พวกท่านพลอยได้รับผลพวงไปด้วย”
“คนครอบครัวเดียวกันไม่ต้องเกรงใจ ได้รับผลพวงแล้วเป็นอย่างไร? ข้าเห็นนังหนูสี่ครั้งแรก ในใจก็ชอบแล้ว รู้สึกว่านางถูกกำหนดให้มาเป็นลูกสะใภ้ของข้า” ฮูหยินรองหัวกล่าว “เอาละ เช่นนั้นก็ตกลงกันตามนี้พวกท่านก็เตรียมตัวเสียหน่อย พอดีว่าใต้เท้าลู่น้อยกำลังจะแต่งงานกับแม่นางห้าสกุลท่านในอีกหนึ่งเดือน พวกเราจัดงานแต่งงานของแม่นางสี่ก่อน เช่นนี้จะได้ไม่ชนสกุลลู่ทางนั้น”
ชนเชินกันอะไร อันที่จริงเพียงไม่อยากจัดตามหลังสกุลลู่ เช่นนี้จะได้ไม่ถูกผู้อื่นนำไปเปรียบเทียบ
แน่นอนว่าถึงแม้จะจัดล่วงหน้า ที่ควรเปรียบเทียบอย่างไรก็ยังต้องถูกเปรียบเทียบ เพียงแต่การจัดก่อนกับหลังสกุลลู่นั้นยังมีความแตกต่างกันบางประการ ขอเพียงจัดก่อนหน้าก็จะได้ไม่ต้องเห็นงานที่งดงามอลังการของสกุลลู่ ปัญหาย่อมน้อยลง
ฮูหยินรองสิงคิดจะบอกปัดอีกครั้ง ทว่าฮูหยินรองหัวกลับไม่ปล่อยให้นางได้มีโอกาสแม้แต่น้อย
ฮูหยินรองสิงมองฮูหยินรองหัวนั่งรถม้าออกจากจวน สีหน้าของนางเต็มไปด้วยเมฆหมอกหม่นครึ้ม
ฮูหยินรองหัวผู้นี้ใช้ไม้อ่อนไม้แข็งก็ไม่สำเร็จจริง ๆ
หรือว่าคุณชายรองจวนพวกเขาป่วยหนักเกินเยียวยาแล้ว ดังนั้นแม้กระทั่งคนเป็นโรคประหลาดจึงยังไม่ยอมปล่อยไป?
ฮูหยินรองสิงนึกได้เลยว่าอีกประเดี๋ยวไปหาสิงเจียเวยแล้วจะเป็นเช่นไร ถึงอย่างไรนางก็พยายามอย่างเต็มที่แล้ว สกุลหัวยืนกรานจะให้สตรีสกุลสูงศักดิ์ผู้หนึ่งไปแต่งงานขจัดปัดเป่าเสนียดจัญไร และสิงเจียเวยก็โชคร้ายยิ่งนัก กระทั่งการแต่งงานเช่นนี้ยังถูกบังคับให้แต่ง นางผู้เป็นแม่กลับไม่มีวิธีควบคุม
ในรถม้า ฮูหยินรองหัวมองดูทิวทัศน์ด้านนอกพลางเอ่ยว่า “อีกประเดี๋ยวข้าจะซื้อขนมหอมหมื่นลี้เสียหน่อย คุณชายรองชอบทาน”
“ฮูหยิน แม่นางสิงผู้นั้นกำลังป่วยหนัก เหตุใดฮูหยินยังไม่ยกเลิกการงานนี้เล่าเจ้าคะ?” สาวใช้ใหญ่ด้านข้างเอ่ยถาม
“เจ้าคิดว่านางเป็นโรคร้ายแรงจริง ๆ หรือ?” ฮูหยินรองหัวยิ้มเยาะ “อุบายที่พวกนางใช้ ตั้งแต่ยังเล็กข้าล้วนใช้มาหมดแล้ว โลกนี้จะมีเรื่องบังเอิญเช่นนั้นได้อย่างไร ก่อนหน้าไม่เคยเป็นโรคร้าย อนาคตย่อมไม่เป็นโรคร้าย ตอนที่ทั้งสองสกุลหมั้นหมายกันแล้วถึงได้เป็นโรคร้าย นี่เห็นได้ชัดว่าไม่ชอบคุณชายรองของเรา จึงอยากถอนหมั้น เพียงแต่ การแต่งงานกับสกุลหัวเราคิดจะล้มเลิกก็ล้มเลิกได้หรือ?”
“หรือว่าคนสกุลสิงได้ยินสถานการณ์คุณชายรองของเรา ดังนั้นถึงได้…”
“ถึงได้ยินก็เป็นเรื่องธรรมดา กระดาษไม่อาจห่อไฟ ช้าเร็วไฟก็ต้องลุกลาม” สีหน้านางเต็มไปด้วยความกังวล “อวิ๋นเอ๋อร์ที่น่าสงสารของข้า ไยต้องเป็นโรคเช่นนั้นนะ?”
“ประเดี๋ยวสกุลสิงก็จะเกี่ยวดองกับสกุลลู่แล้ว หากคุณหนูสี่สิงแต่งงานเข้ามาแล้วรู้ว่าร่างกายคุณชายรองเราเป็นเช่นนั้น เกรงว่าจะวุ่นวายแล้ว ถึงตอนนั้นสกุลลู่….”
“เจ้าคิดว่าสกุลลู่จะสนใจพวกเขาหรือ? อย่าได้ฝัน” ฮูหยินรองหัวกล่าว “สกุลสิงสู้กันภายใน บ้านใหญ่กับบ้านรองหมางใจกันมานานแล้ว นับประสาอะไรกับลูก ๆ ของบ้านใหญ่ที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่คนซึ่งมักจะถูกบ้านรองรังแก หากห้าสิงแต่งเข้าสกุลลู่แล้ว นางจะมอบผลดีให้บ้านรองกินได้อย่างไร? ถึงตอนนั้นรอดูเถอะ สกุลสิงคิดว่าแต่งลูกสาวผู้หนึ่งเข้าสกุลลู่ไปจะนำลาภยศชื่อเสียงมาให้ ทว่านั่นก็เป็นแค่เพียงความฝันเท่านั้นแหละ”
หัวเฉิงอวิ๋นคุณชายรองสกุลหัวสุขภาพไม่สู้ดี ถึงแม้ทั้งครอบครัวจะพยายามปกปิด หลายปีมานี้อาศัยอยู่ที่บ้านท่านยาย คนในเมืองหลวงจึงไม่รู้เรื่อง อย่างไรก็ตามเขากลับมาได้สักระยะแล้ว ถึงแม้สกุลสิงจะออกจากแวดวงขุนนาง ทว่าอย่างไรก็มีช่องทางข่าวสารของตนเอง ย่อมต้องรู้เรื่องนี้เช่นกัน
สกุลสิงกระจ่างแจ้งว่าสถานการณ์ของคุณชายรองสกุลหัวเป็นอย่างไร แต่ก็ยังยินดีตอบรับการแต่งงานครั้งนี้ เพียงเพราะต้องการเกี่ยวดองกับสกุลหัว ปูลู่ทางที่งดงามในอนาคตให้กับลูกชายหลานชายสกุลสิง
กล่าวให้ชัดเจนคือ สิงเจียซือเป็นหมากใช้แล้วทิ้งของสกุลสิง หากสิงเจียซือแต่งเข้าสกุลลู่แล้วจริง ๆ นางไม่ฆ่าแกงคนสกุลสิงเหล่านั้นก็ไม่เลวแล้ว จะให้คนสกุลสิงฉกฉวยประโยชน์ได้อย่างไร?
สิงเจียเวยได้ยินว่าสกุลหัวไม่ยอมถอนหมั้น ดวงตาพลันแดงก่ำ
เพื่อแสร้งป่วยเป็นโรคประหลาด นางถึงกับกินยาทำให้เกิดผื่นทั่วร่างกาย
บัดนี้ไม่บรรลุเป้าหมาย นางแทบอดใจไม่ไหวที่จะกินยาถอนพิษ จากนั้นก็ไปโวยวายกับฮูหยินรองสิงด้วยความโกรธ “ท่านรับปากข้าว่าจะยกเลิกการแต่งงานครั้งนี้ ตอนนี้บอกว่าไม่ได้ นั่นไม่เท่ากับให้ข้าแต่งไปหรือ? ข้าไม่แต่ง!”
“เจ้าอย่าได้ร้อนใจ พวกเราคิดหาหนทางอื่นเถอะ” ฮูหยินรองสิงรู้สึกเหนื่อยล้ายิ่ง
ที่บ้านเกิดเรื่องมากมายเพียงนี้ ตาเฒ่าผู้นั้นยังคงไม่อยู่บ้านเช่นเคย มีเพียงใช้เงินหมดแล้วเขาจึงจะกลับมาขอเงินนางเท่านั้น
เวยเอ๋อร์ก็เป็นลูกสาวของเขาเช่นกัน เขาไม่คิดจะดูดำดูดีการแต่งงานของนางเลยหรือไร?
“แสร้งป่วยใช้ไม่ได้แล้ว ยังมีวิธีใดอีก?” สิงเจียเวยเอ่ย “ข้าอยากไปจากเมืองหลวง ไปซ่อนตัวที่บ้านท่านตา”
“ไม่ได้” ฮูหยินรองสิงเอ่ย “หากเจ้าไปยามนี้ นั่นเท่ากับล่วงเกินสกุลหัวโดยสมบูรณ์ พวกเราหาวิธีอื่น ๆ วิธีอื่น ๆ ใช่แล้ว! เจ้ายังจำฮูหยินเสนาบดีฉีที่เคยมาสู่ขอเจ้าได้หรือไม่?”
“รองแม่ทัพผู้นั้นหรือ?” สิงเจียเวยแสดงสีหน้ารังเกียจ “แม่ทัพเหล่านี้ล้วนหยาบกระด้าง ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่าเป็นเพียงทาสในบ้านผู้หนึ่ง สถานะต่ำต้อยเพียงนั้น”
“ลูกรัก บุรุษใกล้ตายอยู่รอมร่อผู้หนึ่งกับแม่ทัพอนาคตไกลผู้หนึ่ง เจ้าจะเลือกผู้ใด?” ฮูหยินรองสิงถามอย่างร้อนใจ