Transmigration with QQ Farm สาวน้อยปลูกผัก - ตอนที่ 490
TQF:บทที่ 490 เรื่องเล็กเรื่องใหญ่ในบ้าน (1)
“อาเล็ก”
ได้เจอคนที่ไม่เจอมานาน เฉิงเสี่ยวเสี่ยวอดประหลาดใจไม่ได้
แม้ว่าเฉิงฮุ่ยฮุ่ยก็อยู่ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวนเหมือนกัน แต่มาปรากฏตัวที่บ้านหลักน้อยครั้งมาก เนื่องจากผู้เฒ่าเฉิงเคยบอกไว้ว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวนนั้นไม่ใช่บ้านตระกูลเฉิง แต่เป็นสำนัก สำนักหนึ่ง
ที่สำคัญกว่านั้น ผู้เฒ่าเฉิงคิดว่าที่บ้านตัวเองมีทุกวันนี้ได้ก็เป็นบุญคุณจากบ้านเฉิงไป๋หยวน จะอ้างฐานะแล้วทำตัวเป็นเจ้านายที่นี่ไม่ได้ อย่างไรก็จะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสาวกคนหนึ่ง
เฉิงฮุ่ยฮุ่ยอายุไม่น้อย แน่นอนว่าต้องเข้าใจความหมายของท่านพ่อตัวเอง อีกอย่างคนในครอบครัวตัวเองทั้ง 3 รุ่นก็มีสภาพความเป็นอยู่ไม่เลว ไม่แตกต่างอะไรกับผู้เฒ่าหยิง โดยเฉพาะหลี่ฮุยน้อยของตัวเองที่ได้รับทรัพยากรที่ดี อายุน้อยๆก็ฝึกฝนถึงระดับนักรบ ในใจของพวกเขาต่างซาบซึ้งเป็นอย่างมาก
อีกอย่าง เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่ใช่คนเดิมแล้ว ความสัมพันธ์ของนางกับเฉิงฮุ่ยฮุ่ยก็อยู่ในระดับธรรมดา ถ้าเฉิงฮุ่ยฮุ่ยไม่ออกมา เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ไม่ค่อยได้เข้าไปหานัก แม้ว่าจะอยู่ที่เดียวกัน แต่ช่วง 1 ปีมานี้ทั้ง 2 แทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเลย
อยู่ๆเฉิงฮุ่ยฮุ่ยมาปรากฏตัวต่อหน้า เฉิงเสี่ยวเสี่ยวแปลกใจจริงๆ
เฉิงฮุ่ยฮุ่ยมีสีหน้าอึดอัดนิดหน่อย เอ่ยอย่างเขินๆ “เสี่ยวเสี่ยว เจ้ายุ่งอยู่เหรอ รบกวนเจ้ารึเปล่า”
“อาเล็ก พูดอะไรอย่างนั้น” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
รู้อยู่แก่ใจว่านางมีกำแพงและไม่ได้เป็นกันเองกับบ้านตัวเองเท่าไหร่นัก แต่ในสายตาเฉิงเสี่ยวเสี่ยว อย่างไรก็มาจากตระกูลเดียวกัน อีกอย่างผู้เฒ่าเฉิงก็นับว่าตั้งใจทำงานและซื่อสัตย์กับดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวน ดังนั้น เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็รู้สึกดีกับคนตรงหน้าอยู่บ้าง
“อาเล็ก เข้ามานั่งสิ”
“ได้….” ลังเลอยู่ครู่ เฉิงฮุ่ยฮุ่ยก็ก้าวเข้าไปในศาลา วางห่อในมือลงบนโต๊ะ ยิ้มเขินๆ “เสี่ยวเสี่ยว ได้ข่าวว่าเจ้าจะแต่งงานกับคุณชายโม่แล้ว อาเล็กไม่มีของขวัญอะไรจะให้เจ้า นี่เป็นปลอกหมอนที่ข้าเย็บเอง หวังว่าเจ้าจะไม่ถือสา”
“หา อาเล็กให้ข้าเหรอ”
มองอาเล็กตรงหน้าที่ดูเขินอาย ก็นึกถึงอายุของนางขึ้นมาทันที จะว่าไปนางก็อายุ 20 กว่าแล้ว 2 ปีมานี้ก็อยู่ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวนตลอด ไม่รู้ว่านางมีคนที่ชอบรึเปล่า
“ใช่แล้ว หวังว่าเสี่ยวเสี่ยวจะไม่รังเกียจ” เฉิงฮุ่ยฮุ่ยยิ้มอ่อนโยน
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวยิ้มอย่างขอบคุณ “อาเล็ก ข้าดีใจแทบไม่ทันจะรังเกียจได้ไง ข้าน่ะเป็นแค่ยัยโง่คนนึง เย็บอะไรพวกนี้ไม่เป็นหรอก”
จริงอย่างที่นางว่า ถ้าให้นางใช้เข็มฆ่าคนน่าจะง่ายกว่าใช้เข็มในการเย็บปักถักร้อย”
“ถ้าเจ้าเป็นคนโง่ ใต้หล้านี้ก็ไม่มีคนฉลาดแล้ว” เฉิงฮุ่ยฮุ่ยหัวเราะ “เจ้าก็แค่ไม่ได้เรียนงานเย็บปักเท่านั้นแหละ ถ้าเจ้าเรียนละก็ต้องทำได้ดีกว่าใครๆแน่”
“พอเถอะอาเล็ก ไม่ต้องชมข้าหรอก ข้าน่ะรู้ความสามารถตัวเองดี งานเย็บปักไม่ใช่งานถนัดของข้า มีแต่กุลสตรีอย่างอาเล็กเท่านั้นแหละที่ทำได้”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวส่ายหัวเบาๆก่อนจะกล่าวยิ้มๆ “อาเล็ก ท่านทำงานเย็ปปักแบบนี้เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ คงไม่ได้ตั้งใจเตรียมการเพื่อข้าหรอกนะ หรือว่าท่านมีคนในใจแล้ว บอกข้าได้มั้ยว่าใคร”
พูดถึงตรงนี้ นางเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าอาเล็กอายุ 20 กว่าแล้ว แต่ก็นับว่าอายุไม่มากสำหรับผู้ฝึกฝนวิทยายุทธ คนบางคนอายุเป็นร้อยปีกว่าจะได้แต่งงาน
แต่เมื่อเห็นว่านางทำงานเย็บปักเป็นก็แปลกใจพิลึก อดแซวคนตรงหน้าไม่ได้
แต่เฉิงฮุ่ยฮุ่ยชะงักไปเมื่อได้ยินคำนี้ หน้าของนางขึ้นมีแดงบางๆ ก่อนจะมีสีหน้าเศร้าหมองลงไป แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
แม้นางจะไม่พูด แต่ปฏิกิริยาของนางก็ทำให้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้ว่า มีอะไรในกอไผ่แน่ๆ
คิดมาถึงตรงนี้ เฉิงเสี่ยวเสี่ยวอดสงสัยไม่ได้ ใครกันน้าที่นางชอบ ถามด้วยความอยากรู้ “อาเล็ก ใครกันที่ขโมยหัวใจท่านไป บอกข้ามา เดี๋ยวข้าจะไปจับโจรให้เป็นไง”
“เหลวไหล”
เฉิงฮุ่ยฮุ่ยยิ่งอายเข้าไปใหญ่เมื่อถูกแซว แดงไปยันคอแล้วก็ยังไม่ยอมรับ “เสี่ยวเสี่ยวอย่าพูดมั่วนะ ข้าไม่มีคนที่ชอบ”
ท่าทางของนางดูยังไงก็รู้ว่ามี แต่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ไม่ได้คาดคั้น แค่พูดเบาๆว่า “อาเล็ก ถ้ามีคนที่ชอบแล้วก็อย่าพลาดโอกาสล่ะ ยังไงซะมีคนคอยอยู่เคียงข้างก็เป็นเรื่องดี หวังว่าอาเล็กมีอะไรอย่าเก็บไว้ในใจคนเดียว พูดออกมาให้ทุกคนช่วยจัดการดู”
“เอ่อ ไม่มีอะไรหรอก จัดการอะไรกัน” เฉิงฮุ่ยฮุ่ยแววตามีพิรุธ ไม่กล้าสบตากับเฉิงเสี่ยวเสี่ยว น้ำเสียงก็รนๆ
“ไม่มีอะไรก็ดี”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวมองนางแว้บหนึ่งก่อนจะแอบถอนหายใจ ตัดสินใจว่าจะแก้ปัญหานี้ให้นาง
แม้นางจะไม่ยอมรับ แต่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ดูออกว่าอาเล็กของตัวเองต้องแอบชอบใครอยู่แน่ๆ และคนนั้นอาจจะไม่รู้ จะได้คู่กันหรือไม่เป็นอีกเรื่องนึง ตอนนี้ต้องช่วยนางดูสถานการณ์ก่อน
เชื่อว่าคนที่นางชอบเป็นลูกศิษย์ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวน คนที่ได้รับเลือกล้วนเป็นคนนิสัยใจคอไม่เลวเลยทีเดียว ถ้าทั้งคู่ต่างมีใจให้กันก็นับว่าเป็นเรื่องดี
“เสี่ยวเสี่ยว เจ้าคิดอะไรอยู่” เฉิงฮุ่ยฮุ่ยอดถามไม่ได้เมื่อเห็นนางเงียบไปนาน
“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวได้สติกลับมา มองเฉิงฮุ่ยฮุ่ยอย่างพิจารณา ก่อนจะเอ่ยพลางยิ้มอ่อนๆ “อาเล็กสวยจัง”
นี่ไม่ได้เป็นการชมไปงั้นๆ คนตรงหน้าท่าทางเรียบร้อย โครงหน้าสบายตา ทั้งตัวมีบรรยากาศแห่งความอ่อนโยนแผ่ซ่านออกมา ความสวยแบบนี้ดึงดูดสายตาคนได้จริงๆ
“เสี่ยวเสี่ยว เจ้าเลิกแซวข้าได้แล้ว ข้าสวยที่ไหนกัน”
ได้ยินคำนี้ เฉิงฮุ่ยฮุ่ยที่ตอนแรกเศร้าหมองก็ค่อยๆอารมณ์ดีขึ้น มีรอยยิ้มบางๆผุดขึ้นบนใบหน้างาม ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ดีใจกับการที่ตัวเองถูกชมทั้งนั้นแหละ
สองอาหลานคุยเรื่อยเปื่อยไปสักพักเฉิงฮุ่ยฮุ่ยก็บอกลาและจากไป
——————————