Transmigration with QQ Farm สาวน้อยปลูกผัก - ตอนที่ 509
TQF:บทที่ 509 ไม่มีค่าพอให้แค้น (1)
ปัญหาสำคัญก็ต้องเป็นเรื่องที่อาศัยของเมืองโลกทมิฬ
ในใจของ 3 ราชวงศ์รู้กันในใจดีว่าปัญหานี้จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข แต่จะแบ่งที่ตรงไหนไป ในหัวของพวกเขามีความคิดหลายอย่าง แต่ไม่มีใครในพวกเขายอมพูดออกมาก่อน สถานการณ์จึงเงียบสงัด
ส่วนคนที่เหลืออยู่ พวกเขามาจากหลากหลายอิทธิพล เรื่องของการแบ่งพื้นที่พวกเขาก็ตัดสินใจอะไรไม่ได้ ทุกสายตาจึงตกไปอยู่ที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยว รอให้นางเอ่ยปาก
เห็นปฏิกิริยาของทุกคนแล้วเฉิงเสี่ยวเสี่ยวเข้าใจดีว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ ขณะเดียวกันก็เข้าใจว่าแต่ละราชวงศ์วางแผนอะไรกันอยู่
คิดไปคิดมาจึงเอ่ยขึ้นเรียบๆ “ตามความเห็นข้า ไม่ว่าจะให้คนของเมืองโลกทมิฬไปไว้ที่ไหน เมืองไหน ก็ไม่ยุติธรรมกับพวกเขาอยู่ดี เพื่อจะได้แก้ปัญหานี้ ข้าอยากให้ทุกคนเสนอที่ที่ทุกคนยอมรับกันได้ จะให้ดีที่สุดควรเป็นเขตชายแดนของทั้ง 4 เมือง หรือก็คือที่ที่ไม่อยู่ใต้การปกครองของพวกเรา ส่วนจะเป็นตรงไหนทุกคนสามารถเสนอกันได้ หวังว่าทุกคนจะเลือกที่ที่เหมาะสม ทุกฝ่ายสามารถยอมรับได้ อย่าทะเลาะหรือไม่พอใจกันด้วยเรื่องนี้อีก”
ความหมายถูกสื่อออกอย่างชัดเจน สถานที่ก็เป็นที่ยอมรับได้ของทุกคน รัชทายาทแห่งอาณาจักรเฟิงหลิงยืนขึ้นพร้อมประสานมือ “คุณหนู พวกเราจะทำตามที่บอก”
“พวกเราก็เหมือนกัน ทุกคนเลือกที่มา พวกเราสนับสนุนหมด”
“พวกเราก็พร้อมจะสนับสนุน คุณหนูตัดสินใจได้เลย”
รัชทายาทของอีก 2 เมืองกล่าวบ้าง
ในใจของพวกเขารู้กันดีว่าให้คนของเมืองโลกทมิฬไปอยู่ขอบชายแดนเป็นที่ที่ดีที่สุดแล้ว พวกเขายอมรับได้จากใจจริง
“ดี ในเมื่อทุกคนยอมรับได้งั้นเราก็ให้พวกเขาอยู่แถบชายแดนนั่นแหละ” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวพยักหน้า “หลังจากนี้เราจะหารือกันเรื่องการออกรบในอีก 3 วันกับเมืองโลกทมิฬ ทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไรเสนอมาได้เลย
“คุณหนู ครั้งนี้เราเตรียมส่งไปกี่คน” ผู้อาวุโสฉินถาม
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวหันมองเขาก่อนจะใช้ความคิด “ครั้งนี้เราต้องคัดคนที่จะส่งไป เรื่องจำนวนไม่เกี่ยว คู่ต่อสู้ของเราครั้งนี้ไม่ธรรมดา ทุกคนที่อยู่ที่นี่เกรงว่าจะต้องออกโรงกันหมด หวังว่าทุกคนจะเตรียมใจไว้ด้วย ส่วนคนอื่นที่เหลืออาจจะมีส่งออกไปบ้าง เพื่อคอยตรวจตราตามแต่ละเมืองไม่ให้มีผู้ฝึกตนวิถีมารแอบอยู่ในฝูงชนได้ ขณะเดียวกันฟื้นฟูหัวเมืองที่กลายเป็นสนามรบไปให้ดี พยายามให้ชาวบ้านได้กลับมามีชีวิตสงบสุขอีกครั้ง เรื่องนี้ให้เจ้านิกายฉินและเจ้าเขาจี้ไปทำ”
“ขอรับ คุณหนู”
“คุณหนู พวกเราเข้าใจ”
ทั้ง 2 ผู้เฒ่ารับภารกิจไว้และทุกคนหารือเกี่ยวกับปัญหาอื่นๆต่อ
หลายชั่วยามผ่านไป ในที่สุดเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็สลัดเรื่องงี่เง่าพวกนี้ออกไปได้ กลับมาสู่ที่พักก็เจอลูกศิษย์แก่เฒ่าของตัวเอง เฟิงเซียวจื่อ
“อาจารย์ ท่านทำธุระเสร็จแล้วหรือ ลูกศิษย์ขอถามคำถามอาจารย์สักหน่อยได้มั้ย” เฟิงเซียวจื่อถามด้วยสีหน้าคาดหวัง
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวหยุดฝีเท้าลง เผยรอยยิ้มอ่อนๆ ตั้งแต่ที่เขามาปรากฏตัวที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวนตัวเองก็แทบไม่ได้เจอหน้าเขาเลย เรียกได้ว่าไม่ได้ชี้แนะอะไรเขาเลย ส่วนเขาได้รับตำราฝึกสัตว์อสูรจากหยูเฮงดีใจราวกับได้ของล้ำค่า ตั้งใจเรียนรู้ในทุกๆวัน ในที่สุดวันนี้ก็ปรากฏตัวมาหานาง
ในใจของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ฝึกสัตว์ตามแบบแผนเช่นนั้น สิ่งที่จะสอนเขาได้จริงๆนั้นมีไม่มาก เหล่าสัตว์ศักสิทธิ์ของนางก็มีสัญญาผูกมัดในมิติอยู่ ไม่จำเป็นที่นางจะต้องทุ่มเทกายใจไปฝึกสัตว์อสูรเหล่านั้น
แต่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ทำอะไรไม่ได้กับความรั้นของเฟิงเซียวจื่อ จะปฏิเสธก็ไม่ได้ อดหัวเราะไม่ได้ก่อนจะเอ่ย “ได้ เราไปนั่งกันที่ห้องรับแขกกันดีกว่า เรื่องใดที่ข้ารู้ข้าจะบอกเจ้า”
“ขอรับ ขอบคุณท่านอาจารย์” เฟิงเซียวจื่อดีใจเป็นอย่างมาก มีรอยยิ้มเบิกบานอยู่บนใบหน้า
หลังจากที่อาจารย์และศิษย์เข้าไปในห้องรับแขกแล้ว เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็คอบตอบคำถามกับสิ่งที่เฟิงเซียวจื่อสงสัยและไม่เข้าใจ
อันไหนที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้นางก็จะบอกเขา ที่ไม่รู้ก็จะเรียกหยูเฮงมาตอบ สุดท้ายแล้วลูกศิษย์เฒ่าคนนี้พอใจมากและดีใจมาก
เมื่อเฉิงเสี่ยวเสี่ยวกลับมาที่ตำหนักเถาวัลย์หยกก็เห็นโม่ซวนซุนยกของอร่อยมาให้อีกแล้ว
ช่วงนี้อาหารการกินของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวเขาเป็นคนจัดการเองทั้งหมด และทุกมื้อจะมาตรงเวลาเป๊ะ ไม่ว่าจะทำอาหารอร่อยมาเยอะเท่าไหนก็จะบังคับนางให้กินจนหมด ห้ามเหลือทิ้งเด็ดขาด
ในเวลาไม่กี่วัน เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็รู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้น ถ้าบำรุงขนาดนี้ต่อไปเรื่อยๆต่อให้นางไม่อยากกลายเป็นคนอ้วนก็คงไม่ทันแล้ว
เห็นว่าเป็นของตุ๋นอีกแล้ว นางก็หมดคำจะพูด
โม่ซวนซุนเห็นสีหน้านางก็รู้ได้ทันทีว่านางคิดอะไรอยู่ รีบเอ่ยขึ้น “อย่าคิดจะปฏิเสธ เดี๋ยวต้องรีบไปจัดการเรื่องของเมืองโลกทมิฬอีก ถึงเวลาเจ้าก็ยุ่งจนไม่มีเวลาพัก ตอนนี้ตอนกินเยอะๆหน่อยจะได้ไม่ผอมจนสลบไปอีก”
“เว่อกินไปรึเปล่า” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเม้มปาก แต่ก็ต้องเตรียมกินของตุ๋นให้หมด
ถ้าไม่กินละก็เขาต้องบ่นอีกเป็นครึ่งวันแน่ น่ารำคาญจะตาย
โม่ซวนซุนมองนางที่กินซุปอยู่ บนใบหน้าหล่อเหลาระบายไปด้วยรอยยิ้ม ดีใจถึงที่สุด
“เจ้ากินอะไรมาหรือยัง” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวถามขึ้นหลังจากที่กินเสร็จ
“กินมาแล้ว ข้าไม่ปล่อยให้ตัวเองหิวหรอก”
เก็บถ้วยขึ้น โม่ซวนซุนพูดอีก “พวกตาแก่นั่นคุยกันว่าอย่างไรบ้าง ไม่ได้มีอะไรลำบากเกินไปใช่มั้ย”
“ยังดี ไม่ใช่เรื่องที่แก้ไขลำบากอะไรนัก” นึกถึงเรื่องที่ประชุมกันไป เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่ได้รู้สึกเป็นห่วงมากนัก อย่างไรซะที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวนก็มีก่อเกิดราชันย์จักรพรรดิ์อยู่ไม่น้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ฝึกฝนวิทยายุทธที่อยู่จุดสูงสุดของระดับจักพรรดิ์เทพยุทธ์
ด้วยคนเหล่านี้จะเอาชนะเมืองโลกทมิฬไม่ใช่เรื่องยากอะไร
โม่ซวนซุนพยักหน้าเบาๆ “ครั้งนี้หลังจากที่สงครามจบลงแล้วถือว่าสงบได้จริงๆ เสี่ยวเสี่ยว ข้าว่าจะตามไปดูหน่อย เจ้าล่ะ”
“เจ้าจะไปด้วย?
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวแปลกใจนิดหน่อย “ไปก็ดี พวกตาแก่ที่เมืองโลกทมิฬน่ะไม่น่าไว้ใจหรอก เราไปดูด้วยกันก็ไม่เลว”
——————————–