Transmigration with QQ Farm สาวน้อยปลูกผัก - ตอนที่ 546
TQF:บทที่ 546 คิดถึงเข้ากระดูก โศกเศร้าน้ำตาไหล (1)
“ซูหยุน เจ้าหมายความว่า…”
อาจารย์ปู่วิหารสวรรค์ขมวดคิ้ว “แต่เดิมพวกเราก็เป็นคนของโถงวิหารสวรรค์อยู่แล้ว ไม่ว่าอย่างไรการจะเข้าไปหาคนก็ง่ายกว่า และยังมีโอกาสได้เจอซวนซุนน้อยด้วย”
“ถูกต้อง อาวุโสพูดถูก ประเด็นก็คือถ้าซวนซุนอยู่ที่ผืนดินนี้ การเข้าโถงวิหารสวรรค์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด”
ฟางซูหยุนพูดอย่างใช้ความคิด “ที่จริง เป็นไปได้มากว่าซวนซุนอยู่ที่ผืนดินนี้ จากที่ข้ารู้มา ผืนดินอื่นด้อยกว่าผืนดินฉางไห่เยอะ ไม่ต่างอะไรกับผืนดินเดิมของพวกเรา ผู้หญิงที่จับซวนซุนไปแกร่งกล้าเกินจะเปรียบ ข้าเชื่อว่าซวนซุนน่าจะถูกจับมาที่ผืนดินนี้แหละ”
“งั้นก็ดี ขอแค่ซวนซุนอยู่ที่ผืนดินนี้ พวกเราก็จะหาเขาเจอ หาเจอได้แน่” หรงจิ้งซือพูดขึ้นอย่างแน่วแน่
“ก็ดี ชื่อเสียงของโถงวิหารสวรรค์ไม่เลว ข้าเชื่อว่าพวกท่านเข้าไปได้ แต่ว่า…”
พูดมาถึงตรงนี้ฟางซูหยุนมองไปที่พวกเขา “อย่างไรซะพวกเจ้าก็เป็นลูกศิษย์ที่มาจากที่อื่น ทุกสำนักต่างข้องเกี่ยวกันด้วยผลประโยชน์ โดยเฉพาะพวกสำนักใหญ่ๆ เรื่องอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น พวกท่านเองก็เคยเป็นเจ้าโถงที่คอยจัดการเรื่องต่างๆมาก่อน เชื่อว่าเข้าใจถึงเหตุการณ์แบบนี้ดี เข้าไปในโถงวิหารสวรรค์แล้วพวกท่านก็ต้องระวังตัว ไม่อย่างนั้นยังไม่ทันจะเจอซวนซุน พวกท่านอาจจะเจอเข้ากับเรื่องยุ่งยากอย่างอื่น”
เดิมทีฟางซูหยุนก็เป็นคนจากผืนดินฉางไห่ รู้เรื่องพวกนี้มากกว่าทุกคน แม้อายุของนางไม่มากเท่าอาจารย์ปู่วิหารสวรรค์และผู้เฒ่าหยิง แต่คำแนะนำจากนางทุกคนก็ยังอยากฟัง
“ที่จริง ที่ไหนก็เหมือนๆกัน เรื่องผลประโยชน์ต้องมาเป็นอันดับ 1 โดยเฉพาะต้องระวังคนที่ไม่รู้จักไว้ เรื่องปล้นฆ่าน่ะเกิดขึ้นได้ทุกนาที และวิทยายุทธของพวกเราก็ไม่สูงด้วย ง่ายที่จะถูกผู้ฝึกฝนวิทยายุทธคนอื่นเพ่งเล็ง ทุกคนต้องคอยระวังตัวทุกฝีก้าว”
“ท่านย่าวางใจเถอะ ทุกคนเข้าใจดี” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวตอบเรียบๆ
ทุกคนต่างพยักหน้า อย่าว่าแต่พวกเขาเลย หยูเฮงเองก็เข้าใจว่าเรื่องปล้นฆ่าสะดมเป็นเรื่องปกติของทุกผืนดิน
“ฮูหยินฟาง หลังจากนี้ล่ะ เราจะเอายังไงกันต่อดี” ผู้เฒ่าหยิงถามขึ้น
“พวกเรา…”
ฟางซูหยุนพูดได้แค่ 2 คำ สายตาของนางมองไปนอกหน้าต่าง แววตาเศร้าสร้อย
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวพูดต่อ “พวกเราพักผ่อนอยู่ที่นี่ก่อน คนที่ไม่มีแผ่นคริสตัลประจำตัวก็รีบไปทำซะ หลังจากนี้พวกเราก็ตามหาโถงสาขาของโถงวิหารสวรรค์ อาจารย์ปู่ อาจารย์ และอาจารย์หญิงไปคัดตัวที่โถงสาขา ส่วนพวกเราก็กลับบ้านตระกูลฟาง”
ท่านย่าอยากจะกลับบ้านไปหาครอบครัว เฉิงเสี่ยวเสี่ยวคิดว่าไม่ว่าอย่างไร ในเมื่อมาถึงผืนดินฉางไห่แล้ว ก็ต้องกลับบ้านตระกูลฟางสักครั้ง
ทุกคนเข้าใจความหมายของเฉิงเสี่ยวเสี่ยว ไม่มีใครเห็นต่าง
สายตาของฟางซูหยุนกลับมาจากนอกหน้าต่าง “ไม่ต้องรีบกลับบ้านตระกูลฟางหรอก วิทยายุทธของข้ายัง….”
สถานการณ์ในตระกูลเป็นอย่างไรฟางซูหยุนรู้ดี แต่เดิมนางเป็นหญิงสาวสุดภาคภูมิในตัวเอง ตำแหน่งในบ้านก็ไม่แย่ ผ่านไป 40 ปีแล้ว วิทยายุทธก็ถูกสาปให้สะกดไว้ กลับไปจะเป็นอย่างไรนางเดาไม่ออกจริงๆ
นางไม่อยากให้หลานสาวไปลำบากกับตัวเองที่บ้านตระกูลฟางด้วย หรืออาจะถูกดูแคลน
เห็นสีหน้าของท่านย่าแล้ว เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้ทันทีว่านางคิดอะไรอยู่ “ท่านย่า พวกเราก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการเดินทางไปชิงยาง พวกเราจะพยายามหาวิธีคลายสะกดของวิทยายุทธท่านย่า”
“ยากเกินไป….”
“ไม่ยาก ฮูหยินฟาง ไม่ยากจริงๆ ตอนนี้พวกเรามาถึงผืนดินฉางไห่แล้ว ต้องหาคัมภีร์ลับยันต์วิเศษได้แน่ ถึงเวลาพวกเราก็คลายสะกดให้ฮูหยินฟางได้ ต่อให้พวกเราทำไม่ได้ พวกเราก็ยังตามหาผู้สะกดยันต์ (นักอาคม)ได้ ขอแค่พวกเราจ่ายด้วยของที่เขาอยากได้ เขาต้องยอมช่วยแน่”
หยูเฮงสีหน้ามั่นใจ การสืบสานต่อยันต์วิเศษของนางยังไม่ตื่นขึ้นมา เหลือแค่รอโอกาสวาสนาเท่านั้น อีกอย่างของล้ำค่าในมิติก็มีไม่น้อย จะให้คนอื่นช่วยก็ง่าย”
“ไม่ว่าจะที่ไหน ทำเรื่องสำคัญให้เสร็จก่อน”
เป็นอันว่าเฉิงเสี่ยวเสี่ยวยอมรับข้อเสนอของหยูเฮง คำสาปของท่านย่าเหมือนจะคลายยาก แต่ถ้าจะแก้ก็หาวิธีเจอได้แน่ เพราะฉะนั้นจีงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมาก
“ที่นี่พลังวิญญาณหนาแน่น มีประโยชน์กับวิทยายุทธของพวกเรามาก ช่วงหลายวันที่อยู่ที่นี่ จะให้ดีพวกเราควรยกระดับวิทยายุทธขึ้นไปอีกระดับ ถ้าเรายิ่งมีพลังมากก็ยิ่งง่ายต่อการจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่”
“เสี่ยวเสี่ยวพูดถูก ข้าจะคอยสืบหาข่าวและทำแผ่นคริสตัลประจำตัวให้พวกท่าน” ฟางซูหยุนเห็นด้วยกับหลานสาว
คนอื่นก็พยักหน้า ไม่ว่าอย่างไรพลังเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
วิทยายุทธของพวกเขาต่ำเกินไปจริงๆ ต่อให้เสี่ยวเอ้อในร้านข้างนอกนั่นก็ยังอยู่ระดับบรรลุราชันย์จักพรรดิ์เลย พูดตรงๆก็คือแม้แต่เสี่ยวเอ้อพวกเขาก็สู้ไม่ได้
นอกจากฟางซูหยุน เฉิงเสี่ยวเสี่ยว และหยูเฮง อีก 4 คนที่เหลือต่างเก็บตัวฝึกฝนกันหมด เรื่องอื่นๆก็ปล่อยให้สาวสวยที่อายุต่างกันทั้ง 3 คนไปจัดการ
ตอนกลางคืน ทุกคนต่างกลับไปพักผ่อนที่ห้อง หยูเฮงอยู่ห้องเดียวกับเฉิงเสี่ยวเสี่ยว แม้ว่าเจ้าตัวเล็กจะไม่จำเป็นต้องนอนพักผ่อน แต่นางก็ไปนอนอยู่บนเตียงแต่ไว เหมือนเด็กที่ได้นอนเตียงใหม่ กอดผ้าห่มนุ่มๆไว้ มีรอยยิ้มอ่อนๆอยู่บนใบหน้าราวกับนอนหลับอยู่
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้ว่านางแค่เล่นสนุกเท่านั้นจึงไม่ได้สนใจนาง ยืนมองท้องฟ้าสีดำอยู่ข้างหน้าต่าง ดวงดาวบนท้องฟ้าเป็นประกายระยิบระยับ เสมือนไข่มุกและเศษทองที่กระจายอยู่ตามจานหยก สงบอย่างที่สุด
———————————