Transmigration with QQ Farm สาวน้อยปลูกผัก - ตอนที่ 615
TQF:บทที่ 615 เส้นทางแห่งเลือด (2)
คนที่เหยียดหยามเจ้านาย ตาย
ดังนั้นไม่ต้องให้ใครสั่ง เห้อไป๋ยี่ลงมือทันที แต่เขายังฆ่าเลยไม่ได้ อย่างไรซะที่นี่ก็เป็นบ้านของฮูหยินฟาง หากจะลงมือฆ่าใครจริงๆต้องรอคำสั่ง
“สหาย ฆ่าพวกมัน….” หัวหน้าทหารยามที่ถูกตบบ้วนเลือดออกมาพร้อมกับฟัน 2 ซี่ ตะโกนขึ้นอย่างเดือดดาล
คนของตระกูลฟางเคยถูกตบหน้าซะที่ไหน เป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้จริงๆ
ฟางซูหยุนก็โมโหแล้วจริงๆ ไม่ทันที่หยูเฮงน้อยจะอาละวาด นางก็สั่งเลย “ไป๋ยี่ ฆ่าไอสารเลวพวกนี้ซะ”
“ขอรับ ฮูหยินฟาง”
ได้รับคำสั่งแล้วเห้อไป๋ยี่ก็เลิกออมมืออีกต่อไป 2 ขาออกแรงทันที ร่างกายราวกับธนูที่ขึ้นคัน พุ่งออกไปอย่างแรงจนเหลือเพียงเงาที่ยังอยู่ที่เดิม
“หืม?”
เมื่อเห็นความเร็วของเห้อไป๋ยี่ เหล่าทหารยามก็ตกใจไม่น้อย ไม่มีใครคาดคิดว่าคนรับใช้ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนรถลากจะไวได้ขนาดนี้ นี่มันเกินกว่าที่พวกเขารู้จริงๆ
กระเรียนเซียนถนัดเรื่องความเร็วอยู่แล้ว เรียกได้ว่าได้เปรียบในระดับนึงในด้านความเร็ว วิทยายุทธของมันไม่ต่างกับของทหารยามนัก แต่ร่างเดิมของมันเป็นเผ่าอสูร จึงได้เปรียบกว่ามนุษย์เยอะ
ดังนั้นไม่ทันที่พวกเขาจะตั้งตัว เห้อไป๋ยี่ก็พุ่งไปอยู่ท่ามกลางพวกเขาแล้ว
ในช่วงเวลาที่เห้อไป๋ยี่เห็นว่าคนพวกนี้ยังไม่ได้ตั้งตัว ในมือของเขาก็มีดาบที่มาจากไหนไม่รู้ ปลายดาบมีแสงสีขาววาบขึ้นทันทีที่กวาดไปยังทหารยามเหล่านี้
“อ๊ากก” เหล่าทหารยามคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเร็วขนาดนี้ และยิ่งคิดไม่ถึงว่าคนรับใช้คนนี้จะโจมตีอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น
เงาดาบซ้อนกัน ประกายวิบวับอย่างเย็นยะเยือก ความมุ่งร้ายที่ไวปานสายฟ้าเข้มข้นอย่างมากจนเหล่าทหารยามตัวสั่นขึ้นมา ผมตั้งขั้นด้วยความรับรู้ได้ถึงความตายที่ใกล้เข้ามา ในปากส่งเสียงกรีดร้องอย่างหวาดกลัว
กรีดร้องส่วนกรีดร้อง ทหารยามเหล่านี้ก็ไม่ธรรมดา พวกเขาตั้งตัวได้อย่างรวดเร็ว มีดในมือคอยปัดป้องกันตัวเอง
“แต๊งๆๆๆๆ”
เกิดการปะทะขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าทหารยามเหล่านี้จะพยายามป้องกันตัวเอง แต่พลังเซียนของอีกฝ่ายหนาแน่นกว่าพวกเขามาก มีดในมือหักสะบั้น พลังลมปราณจากดาบทิ่มแทงไปยังพวกเขา อยากจะหลบก็หลบไม่พ้น
ประกายดาบเต็มไปด้วยคราบเลือด เสียงโหยหวนดังขึ้นไม่ขาดสาย
เพียงแค่แปปเดียวก็มีทหารยาม 4-5 คนล้มลงไป
หัวหน้าทหารยามเห็นสหายที่ล้มลงไป สีหน้าเขาซีดเผือกลงทันที มองคนพวกนี้อย่างไม่อยากจะเชื่อ ตะคอกด้วยเสียงสั่นเทา “พวกเจ้าเป็นใครกันแน่ กล้ามาอาละวาดที่ตระกูลฟาง พวกเจ้าอยากตายรึไง”
“พวกเราเป็นใคร? ก็บอกเจ้าไปแล้วไม่ใช่รึไงว่าพวกเราเป็นคนของตระกูลฟาง ไอสุนัขรับใช้ ไม่แหกตาหมาของแกดูดีๆล่ะ เฮอะ…”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเหลือบมองเขาเย็นๆ หันไปบอกกับคนข้างๆโดยไม่แม้แต่จะมองทหารยามคนอื่นที่นอนจมกองเลือดอยู่ “ท่านย่า พวกเราเข้าไปกันเถอะ”
“ได้ พวกเราไปกัน” อย่างไรซะคนพวกนี้ก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไร จากคำพูดที่ออกจากปากพวกเขาก็รู้ได้ถึงสันดานคนพวกนี้ ดังนั้นฟางซูหยุนไม่ได้คัดค้านอะไรกับการฆ่าพวกเขา
อีกอย่างวันนี้ต้องมีคนต้องหลั่งเลือดอยู่แล้ว
“ใครน่ะ…”
เพิ่งก้าวเข้าประตูบ้านตระกูลฟางมาก็มีเสียงตะโกนว่าดังมา ท่าทางเสียงโหยหวนเมื่อกี้จะสะเทือนไปถึงคนอื่นๆ
หลังจากที่มีเสียงฝีเท้าไวๆดังมา ก็มีทหารยามอีก 10 กว่าคนปรากฏตัวขึ้นภายใต้การนำของผู้เฒ่าคนหนึ่ง
เมื่อเห็นคนที่มา ฟางซูหยุนหรี่ตาลง นางไม่เคยเห็นคนผู้นี้มาก่อน
“พวกเจ้าเป็นใครกัน กล้ามาอาละวาดที่บ้านตระกูลฟาง เด็กๆ จับนางไว้”
มีความตะลึงปรากฏขึ้นในแววตาของผู้เฒ่าเพียงแว้บเดียวก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความอาฆาตอย่างโหดร้าย ก่อนจะสั่งให้คนข้างหลังลงมือทันที ราวกับไม่ต้องการให้ฟางซูหยุนได้มีโอกาสพูด
ฟางซูหยุนยังไม่ทันจะพูดอะไร ความเยือกเย็นรอบตัวเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็แผ่ซ่านออกไป นัยต์ตาสีดำกลายเป็นผาลึกที่มองไม่เห็นข้างล่าง “ลงมือเลย ฆ่าอย่าให้เหลือ”
วิทยายุทธระดับผู้เฒ่าอาจจะปิดบังคนอื่นได้ แต่ความคิดของเขาไม่มีทางปิดบังเฉิงเสี่ยวเสี่ยวและหยูเฮงน้อยได้เด็ดขาด ทั้ง 2 มองจิตใจที่แปรปรวนอยู่เมื่อกี้ของเขาออก
คนพวกนี้ได้รับคำสั่งมาตั้งแต่แรกแล้วไว้ดูถูกเหยียดหยามฟางซูหยุนที่กลับบ้านวันนี้ให้ถึงที่สุด เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ ให้คนพวกนี้รู้ไปเลยว่าหลั่งเลือดของใครอยู่
เมื่อได้ยินคำสั่ง ไม่ใช่แค่เห้อไป๋ยี่ที่ลงมือ หยูเฮงน้อยก็ออกโรงเช่นกัน นางแค่ตวัดไม้ตบยุงเล็กๆนั่นเพียงทีเดียวเท่านั้นก็กลายเป็นพัดอันใหญ่ พุ่งเข้าใส่คนเหล่านั้น
ในเมื่ออยากจะฆ่าจะแกง ก็จะไม่ออมมือเด็ดขาด
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวยืนอยู่อีกด้านกับฟางซูหยุนด้วยท่าทีเรียบๆ แค่ 2 คนนั้นลงมือก็พอแล้ว
ผู้เฒ่าเผยรอยยิ้มเมื่อเห็นทั้ง 2 ที่ลงมืออยู่ เพราะเขาไม่เห็นคนเหล่านี้อยู่ในสายตาจริงๆ
โดยเฉพาะหยูเฮงน้อย ผู้เฒ่าสัมผัสการเคลื่อนไหวของพลังเซียนหรือพลังวิญญาณในตัวนางไม่ได้เลย ย่อมไม่ใส่ใจนาง
ขณะนั้นริมฝีปากของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็คลี่ยิ้มออกมาเช่นเดียวกัน นางเชื่อว่าคนที่ยิ้มจนถึงตอนสุดท้ายได้คือตัวเองอย่างแน่นอน
และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ หยูเฮงน้อยและเห้อไป๋ยี่ราวกับหมาป่าที่เข้าไปอยู่ในฝูงแกะ ไม้ตบยุงอันใหญ่ฟาดออกไปทีก็มีคนแหลกจนมองรูปร่างไม่ออก ส่วนดาบของเห้อไป๋ยี่กวาดไปทางไหนก็กลายเป็นคราบเลือดแนวยาว ไม่ดาบหักมีดหักก็มือขาดขาขาด
————————–