Transmigration with QQ Farm สาวน้อยปลูกผัก - ตอนที่ 636
TQF:บทที่ 636 นักต่อราคาชั้นยอด (4)
“หยูเฮงน้อย เจ้าอย่าแซวข้าเลย แค่ไม่ทำให้คุณหนูขายหน้าก็พอแล้ว”
ผู้เฒ่าหยิงตอบด้วยรอยยิ้มเฝื่อนๆ พอดีกับที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก้าวเข้ามา “ขายหน้าไม่ขายหน้าอะไรกัน”
“คุณหนู” เมื่อผู้เฒ่าหยิงเห็นนางก็เข้ามาก็ประสานมือด้วยท่าทางจริงจัง เผ่าอสูรตนอื่นก็ไม่กล้าชะล่าใจ ทำความเคารพอย่างนอบน้อมแล้วไปยืนอยู่อีกฝั่งนึง
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวพยักหน้าให้กับสมาชิกเผ่าอสูร แล้วจึงคุยกับผู้เฒ่าหยิง “เมื่อกี้ข้าบอกว่าจะให้เผ่าอสูรเจ้าอีก 3000 ตน แต่หยูเฮงน้อยบอกว่าน้อยไป จะให้ทั้งทีก็ให้เยอะๆ ข้ากลัวว่าเยอะไปจะทำให้เรื่องดีกลับกลายเป็นร้าย อย่างไรซะกลุ่มทหารรับจ้างของเราก็เพิ่งก่อตั้งมาได้ปีเดียวเท่านั้นก็แทบจะครอบคลุมเมืองเกือบครึ่งในผืนดินฉางไห่แล้ว ความเร็วขนาดนี้ไวมากจนเป็นที่สังเกตของคนอื่นแล้ว”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวพูดแล้วก็คิ้วขมวด “ตอนแรกเร่งรีบในการขยับขยายจึงต้องใช้วิธีแบบนี้ ตอนนี้ข้อเสียของมันก็ปรากฏออกมาแล้ว พวกเรากลายเป็นเนื้อชิ้นดีในสายตาคนอื่นๆ ใครๆก็อยากจะกินเข้าปาก ถ้าจู่ๆที่นี่มีทหารรับจ้างเพิ่มมาอีกเป็นหมื่น ข้าเกรงว่าเจ้าปีศาจพวกนั้นจะอยู่ไม่สุขแล้วมาหาข้อเท็จจริงที่นี่ให้รู้แล้วรู้รอด เพราะฉะนั้นข้าจะให้เผ่าอสูรเจ้าสัก 8000 หรือ 10000 เป็นไง ดูแลไหวมั้ย”
“พอขอรับคุณหนู เอาแค่ 8000 แหละ รวมเป็น 10000 พอดี เพียงพอให้เราตั้งหลักอยู่ที่นี่แล้ว คนอื่นอย่าคิดจะมาทำให้ตึกจงหยวนของเราสั่นคลอน”
ผู้เฒ่าหยิงพยักหน้า
“ข้าเคยบอกแล้วว่าให้เจ้าจัดการ เจ้าทำตามที่อยากทำเถอะ มีเรื่องอื่นอีกมั้ย”
“มีขอรับคุณหนู ผู้อาวุโสจากสมาคมทหารรับจ้างแนะนำให้เรารีบเลื่อนระดับเป็นระดับ 3 หรือระดับ 2 ที่จริงพวกเราก็มีพลังระดับ 1 นั่นแหละ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเลื่อนให้เราทีเดียวถึงระดับ 1 เลย เต็มที่ได้แค่ระดับ 2”
“เลื่อนระดับกลุ่มทหารรับจ้างจำเป็นต้องให้ข้าออกหน้าเหรอ” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวถามกลับ
ผู้เฒ่าหยิงพยักหน้า “ควรจะให้คุณหนูออกหน้า แต่ผู้อาวุโสจากสมาคมทหารรับจ้างบอกกับข้าว่าถ้าท่านไม่อยู่ที่ชิงยางท่านก็ทิ้งตราประทับไว้ ให้ข้าไปจัดการแทน”
“ได้ ถ้างั้นก็ง่าย ว่างแล้วเจ้าก็ไปจัดการแล้วกัน”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรับปากอย่างไม่คิดอะไร สำหรับนางแล้วเรื่องนี้ไม่สำคัญเท่าไหร่ ไม่ว่าจะระดับ 4 หรือระดับ 2 คนอื่นก็ไม่กล้าดูถูกกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนหรอก
“ขอรับคุณหนู”
“อ้อ คนที่ข้าบอกเจ้าเมื่อกี้เจ้าจดไว้ก็พอ แหวนมิติเก็บไว้ดีแล้วรึยัง”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวหยิบแหวนมิติออกมา 1 วง อย่าคิดว่ามันเป็นแหวนมิติธรรมดาๆวงนึงเท่านั้น ข้างในนั้นมีแหวนมิติอีกนับไม่ถ้วน ในแหวนมิติแต่ละวงก็มีทรัพยากรมากมายที่ตึกจงหยวนวางขายอยู่
“เก็บไว้ดีแล้วขอรับคุณหนู ทรัพยากรที่คุณหนูต้องการข้าก็ใส่ให้เรียบร้อยแล้ว” ผู้เฒ่าหยิงหยิบแหวนมิติที่เหมือนกันออกมาวงนึง
แหวนมิติ 2 วงที่ใส่ทรัพยากรแตกต่างกันได้เกิดการแลกเปลี่ยน เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ไม่อยู่ต่อ จะได้ไม่ถูกจับผิดจากคนที่คอยจับตาดู
หยูเฮงน้อยสะกดทั้งห้องรับแขกไว้หมดแล้ว ไม่มีจิตเทพดวงไหนจะเข้ามาได้ เฉิงเสี่ยวเสี่ยวโบกมือเรียกเผ่าอสูรออกมา 8000 คนต่อหน้าทุกคน
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวบอกให้เผ่าอสูรเหล่านี้คอยฟังคำสั่งจากผู้เฒ่าหยิงเสร็จก็ลากหยูเฮงน้อยจากไป
2 สาวสวยเดินออกมาด้วยการนำจากสาวสวยเผ่าอสูรคนหนึ่ง เมื่อเห็นพวกนางปรากฏตัวพี่น้องตระกูลฟางก็วางใจลงทันที พวกเขากลัวจริงๆว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ซื้อของหลายอย่างที่จะเอากลับไปฝากคนอื่นเสร็จก็จากไปท่ามกลางการบอกลาอย่างกระตือรือร้นของสมาชิกเผ่าอสูร
พวกนางมาอยู่ที่ตลาดอย่างมีความสุขอีกครั้ง ฟางถงยวี่เสนอว่าเริ่มสายแล้ว หาโรงเตี๊ยมกินข้าวกันดีกว่า ก็ได้รับการอนุมัติจากทุกคน
ซึ่งก็จริง พวกนางเดินเล่นมาก็หลายชั่วยามแล้ว ถึงเวลาที่ต้องกินข้าวแล้ว
เมื่อพวกนางเดินไปได้ไม่ไกล เจ้านายและคนรับใช้คู่นั้นที่ไปไหนไม่รู้เมื่อกี้ก็ปรากฏตัวออกมาอีก ตามหลังพวกนางไปเรื่อยๆ
สุดท้ายคน 2 กลุ่มก็เข้าร้านอาหารที่ชื่อว่าตึกจุ้ยเซียงไปติดๆ ตอนนี้มีคนมากินข้าวอยู่เต็มไปหมด ห้องโถงใหญ่เหลือโต๊ะว่างน้อยมาก
แต่ภายใต้การนำของคุณชายตระกูลฟางไม่มีทางจะกินข้าวที่โถงใหญ่เด็ดขาด
ผู้จัดการร้านเหมือนจะรู้จักคุณหนูคุณชายตระกูลฟาง ไม่ทันที่พวกเขาจะเอ่ยปากก็สั่งเสี่ยวเอ้อพาพวกเขาขึ้นไปที่ห้องส่วนตัวชั้น 2 ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เมื่อเห็นพวกนางขึ้นข้างบนไปแล้ว ผู้จัดการก็กระซิบสั่งบางอย่างกับเสี่ยวเอ้ออีกคนหนึ่ง
เสี่ยวเอ้อที่ได้รับคำสั่งแล้วพยักหน้าทันที ก่อนจะหายออกไปจากประตูหน้าตึกอย่างรวดเร็ว
ทุกคนเข้าไปในห้องส่วนตัว ไม่ต่างอะไรมากกับห้องวีไอพีจากชาติก่อน เพียงแต่โต๊ะเก้าอี้ที่นี่เป็นแบบโบราณ ดูแล้วสง่ากว่าเยอะ
นอกม่านหน้าต่างมีสาวนักร้องเพลงบรรเลงเครื่องดนตรีโบราณที่ฟังแล้วผ่อนคลายจิตใจสงบ กลิ่นหอมจากไม้ถานโชยมาเบาๆ เสียงดนตรีสะท้อนอยู่ในโถง ทุกคนที่กำลังลิ้มลองอาหารโอชะหรือในมือมีแก้วเหล้าหรูหราต่างหลับตาซึมซับเสียงดนตรีอันไพเราะนี้
ต้องยอมรับว่าผู้จัดการร้านนี้มีความตั้งใจ เขาสร้างบรรยากาศต่างๆขึ้น ไม่แปลกที่คนมากินข้าวที่นี่เยอะขนาดนี้ ธุรกิจเฮงสุดๆ
พี่น้องตระกูลฟางสั่งอาหารที่เสี่ยวเอ้อแนะนำ และก็สั่งเหล้าผลไม้อีก 1 โถ ก่อนจะบอกให้เสี่ยวเอ้อออกไป
“พี่สาว ตึกนี้เป็นของใครเหรอ” หยูเฮงน้อยรู้สึกมีอะไรแปลกๆ นางซ่อนอะไรในใจไม่ได้อยู่แล้วจึงเอ่ยถาม
“อ๋อ ตึกนี้เป็นของบ้านท่านอา เมื่อก่อนท่านอาพาพวกเรามากินข้าวที่นี่อยู่บ่อยๆ เพราะฉะนั้นผู้จัดการและเสี่ยวเอ้อล้วนรู้จักพวกเรา”
เมื่อได้ฟังจากฟางถงยี่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็กระจ่างทันที มิน่าล่ะผู้จัดการร้าานถึงมีท่าทีกระตือรือร้นกับพี่น้องตระกูลฟางขนาดนี้ อย่างไรซะก็เป็นหลานชายและหลานสาวของฟางชิวหมิ่น ในฐานะบริวารย่อมไม่กล้าขัดใจญาติของเจ้านายอยู่แล้ว
————————–