Transmigration with QQ Farm สาวน้อยปลูกผัก - ตอนที่ 643

TQF:บทที่ 643 ลางสังหรณ์เท่านั้น (2)

ราวกับอยากจะทำให้คำพูดของเขาเป็นจริง จู่ๆด้านบนของบ้านก็ปรากฏวังวนที่เกิดจากการรวมตัวของพลังวิญญาณ ที่ค่อยๆหมุนอย่างช้าๆ

ราวกับพลังวิญญาณมากมายถูกดึงดูดโดยพายุขนาดใหญ่ตามการหมุนตัวของมัน

ผ่านไปเรื่อยๆ พลังวิญญาณที่นี่ก็มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะรอบวังวนที่มีพลังวิญญาณจำนวนมหาศาลที่แทบจะมีรูปมีร่าง แผ่ซ่านความปรวนแปรออกมาอย่างน่าสยดสยอง

เหตุการณ์แบบนี้ทุกคนที่เป็นผู้ฝึกฝนวิทยายุทธรู้กันดีว่ามีคนกำลังจะบรรลุ ถึงได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้

“ใคร ใครกำลังบรรลุ”

“นี่เป็นก้าวสู่เทพเทวาของตระกูลฟางรึ”

“ทำไมถึงมีคนบรรลุในเมืองล่ะ เรื่องนี้มันใหญ่มากจริงๆ”

“น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ มีคนกล้าบรรลุในเมืองด้วย ไม่กลัวว่าจะถูกรบกวนเลยรึไง เอ๋ ดูเหมือนว่าจะเป็นคนของตระกูลฟาง…”

“ใช่แล้ว ทิศนั้นคือบ้านตระกูลฟาง”

“ทำไมคนของจระกูลฟางถึงบรรลุอีกแล้วล่ะ ใครกันที่บรรลุอยู่ ท่าทางเหมือนจะบรรลุระดับก้าวสู่เทพเทวาอีกด้วย”

………..

ในเขตต่างๆของชิงยาง มีผู้คนนับไม่ถ้วนที่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงและความผิดปกติของบ้านตระกูลฟาง พากันบินมาลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือบ้านตระกูลฟาง มองไปที่บ้านเก่าๆด้วยความประหลาดใจ และยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นว่าใครกันที่เป็นผู้ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้

ผู้ฝึกฝนวิทยายุทธทุกคนรู้ว่าปกติแล้วเวลาบรรลุจะต้องเลือกสถานที่ที่ไม่มีใครรบกวน

เนื่องจากยิ่งมีวิทยายุทธสูงเท่าไหร่ เหตุการณ์ตอนบรรลุก็จะยิ่งใหญ่หลวง จึงกลัวว่าจะถูกรบกวน ดังนั้นจึงมีคนน้อยมากที่เลือกบรรลุในเมือง โดยทั่วไปแล้วต้องเลือกพื้นที่ที่ไม่มีคนมารบกวน หรือให้คนที่ไว้ใจได้มาช่วยคุ้มกัน

ทุกคนต่างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะการบรรลุเป็นเรื่องใหญ่

หากพวกเขาถูกรบกวนอาจสูญเสียความสำเร็จทั้งหมดที่ผ่านมา และร่างกายก็อาจต้องชอกช้ำ ดังนั้นเรื่องนี้จึงแปลกมากสำหรับพวกเขา

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวและหยูเฮงน้อยสังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพลางมองหน้ากันด้วยสีหน้าแปลกใจนิดหน่อย

“หยูเฮงน้อย เจ้ารีบไปเร็ว อย่าปล่อยให้คนอื่นใช้โอกาสนี้ลอบทำลายมัน”

ท่านปู่เล็กทรมานมาหลายสิบปีกว่าจะมีวันนี้ เฉิงเสี่ยวเซียวไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายเขาเด็ดขาด

หยูเฮงน้อยพยักหน้า “ไม่มีปัญหา ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้”

หยูเฮงน้อยหายออกไปจากห้องรับแขกทันที เฉิงเสี่ยวเสี่ยวยังไม่สบายใจเท่าไหร่จึงตามออกมาด้วย ร่างของคนโตและคนเล็กปรากฏขึ้นอยู่ในอากาศ

คนเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก มีดวงตาที่ราวกับวาดเอาไว้ ใสสกาวและไร้เดียงสา นางน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนเด็กสาวข้างบ้าน

คนโตเพิ่งจะปรากฏตัวก็ดึงดูดสายตาของทุกคนไว้ในทันที ชุดสีขาวของนางพลิ้วไหว งดงามราวคนในภาพวาด ผมสีดกดำของนางยาวลงไปจนถึงเอวเรียวราวกับน้ำตก ขับใบหน้างดงามของนาง ให้ยิ่งสง่างามและเปล่งประกาย สายตาของนางเย็นชาอย่างมาก และมีความดุร้ายซ่อนอยู่บนใบหน้า

นางก็คือเฉิงเสี่ยวเสี่ยว

ในหัวของทุกคนมีชื่อนี้โผล่เข้ามาอย่างน่าประหลาด

นอกจากนางแล้วดูเหมือนจะไม่มีใครคู่ควรกับชื่อนี้

ผู้กล้าหนุ่มไม่น้อยที่ติดตามมาตาเป็นประกาย ปรารถนาเหลือเกินที่จะเข้าใกล้สาวงามผู้นี้ ดูเหมือนความงามของทั้งใต้หล้านี้จะถูกบดบังเมื่ออยู่ต่อหน้านาง

แต่พวกตาแก่เมื่อได้เห็นเด็กสาวที่อยู่จุดสูงสุดของระดับก้าวสู่เทพเทวา และพร้อมจะบรรลุปรากฏเทพเทวาทุกเมื่อ ก็ได้แค่ยิ้มเฝื่อนๆออกมา

ถ้าพวกเขาไม่ได้เห็นกับตาก็คงจะไม่เชื่อ ว่าเด็กผู้หญิงอายุแค่ 19-20 ปีเท่านั้นจะมีวิทยายุทธที่เทียบเคียงกับพวกเขา หรือว่าผลของการฝึกฝนตลอดหลายร้อยหลายพันปีที่ผ่านมานี้ของพวกเขาไปอยู่บนตัวหมาหมดแล้วรึไง

สายตาคมกริบราวธนูทิ่มแทงเข้ามา แต่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ไม่ได้สนใจ กวาดตาไปยังผู้คนรอบๆด้วยสายตาเย็นยะเยือก แล้วค่อยมองลงไปยังห้องด้านล่างที่ได้รับการคุ้มครองจากท่านปู่ทวดและเหล่าผู้อาวุโสก่อนจะพยักหน้า

แม้จะเป็นเช่นนี้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ไม่ได้ชะล่าใจ ถึงอย่างไรนางก็ไม่รู้ว่าตระกูลฟางมีศัตรูอยู่กี่คน จะมีคนลอบทำร้ายหรือไม่ อีกอย่างคนในบ้านตระกูลฟางก็มีคนที่คิดไม่ดี

ที่ลอยอยู่ในอากาศโบกแขนคู่เรียวเบาๆ และมิติก็เริ่มบิดเบี้ยว ด้านซ้ายมือของนางมีสัตว์อมตะหลายสิบตัวปรากฏขึ้นภายใต้สายตาของทุกคน จากนั้นมิติด้านขวาของนางก็เริ่มบิดเบี้ยวเช่นกัน และก็มีสัตว์อมตะอีกสิบตัวปรากฏตัว รวมๆแล้วมีสัตว์อมตะนับร้อยตัวห้อมล้อมนางไว้

สัตว์อมตะเหล่านี้ผู้เฒ่าบางคนเคยเห็นมันมาก่อน เจ้านกน้อยของนางเมื่อ 3 วันก่อนนั่นแหละ สัตว์ปีกแต่ละตัวที่แข็งแกร่งเหลือหลาย

“ฟู่”

คนที่เพิ่งเห็นฉากแบบนี้เป็นครั้งแรกอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึก ในที่สุดพวกเขาก็เชื่อข่าวลือเมื่อ 2 วันนี้แล้ว คุณหนูผู้เป็นญาติตระกูลฟางเจ้าแห่งการฝึกสัตว์

ข่าวนี้จริงแท้แน่นอน

เพราะพวกเขาต่างเห็นมันด้วยตาตัวเอง

เหล่าสัตว์อมตะล้อมรอบท้องฟ้าเหนือห้องนอนไว้ภายใต้คำสั่งของเฉิงเสี่ยวเสี่ยว ผู้ที่อยู่ใกล้ต่างถูกเบียดออกไปด้วยสัตว์อมตะ

ในเวลานี้ใครจะคิดเล็กคิดน้อยกับสัตว์อมตะเหล่านี้ ตราบใดที่สัตว์อมตะเข้ามาใกล้ ผู้คนที่มาดูเรื่องสนุกต่างถอยหลังออกไปอย่างว่าง่าย

สถานการณ์ข้างนอกนั่นเป็นอย่างไรฟางหมิงเห้อไม่รู้ บัดนี้เขากัดฟันกรอดฝืนทนอยู่บนเตียง อดทนด้วยความทรมานที่พลังวิญญาณในร่างพรวดพราดราวกับมังกรที่ดุร้าย รู้สึกได้ถึงเส้นชีพจรลมปราณเริ่มปะทุออกไปทีละน้อย

เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเส้นชีพจรแต่ละเส้นในร่างได้เปิดออกอย่างสมบูรณ์ด้วยฤทธิ์ยาที่รุนแรง พลังวิญญาณมากมายได้เข้าไปเติมเต็มอย่างรวดเร็ว ยึดครองเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ

—————————-