Transmigration with QQ Farm สาวน้อยปลูกผัก - ตอนที่ 653
TQF:บทที่ 653 อัดคนอีกครั้ง (3)
เมื่อเห็นของน่าอร่อย หยูเฮงน้อยก็วิ่งไปที่ของกินเป็นอันดับแรก เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเองก็ใช้โอกาสนี้เดินออกจากฝูงชน เรื่องการแต่งกวีนิอะไรนั่นน่ะนางไม่สนใจจริงๆ
ไม่ว่าอย่างไรนางก็เป็นเป้าสายตาที่ทุกคนจับตามอง ดังนั้นไม่ว่าพวกนางจะไปที่ไหนก็มีคนคอยให้ความสนใจพวกนางอยู่ตลอดเวลา
มีสายตาโกรธเกลียด 2 สายตามองมาที่พวกนางเช่นกัน 2 สาวไม่ต้องมองก็รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร
หยูเฮงน้อยทำทีเป็นดูขนมทั้งหลาย แต่จริงๆแล้วกำลังคุยกับเฉิงเสี่ยวเสี่ยว “คุณหนู ไอสารเลว 2 ตัวนั่นจะให้ฆ่าทิ้งเลยมั้ย”
“เขาไม่มายุ่งกับเราเราก็ไม่ต้องไปยุ่งกับเขา ถ้าพวกเขาลงมือจริงๆละก็เราค่อยลงมือก็ไม่สาย”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้ว่าบุคคลที่หยูเฮงน้อยหมายถึงคือคุณชายของตระกูลจางเมื่อกี้และกงซุนเห้าตั้งที่เจอที่ร้านอาหารตระกูลมู่หรงครั้งที่แล้ว เจ้า 2 คนนี้ต่างเคยหาเรื่องพวกนาง สายตาที่มองพวกนางก็ร้อนแรงเป็นพิเศษ แทบอยากจะเผาให้ตัวพวกนางเป็นหลุมสัก 2-3 หลุม
“ก็ได้ ไม่จัดการพวกเขาก็ได้ แต่คุณหนู ข้ารับประกันได้ว่าพวกเขาไม่ยอมปล่อยพวกเราไปแน”
“กินอาหารของเจ้าไปเถอะ ทหารมาก็เอาแม่ทัพกัน น้ำมาก็เอาดินกลบ พวกเราจะต้องกลัวพวกเขาซะเมื่อไหร่”
“อิอิ คุณหนูพูดถูก”
ทั้ง 2 เลือกขนมนิดหน่อยและเริ่มกินอย่างไม่สนใจใคร คนอื่นๆก็หมดคำจะพูด ทุกคนสงสัยเป็นอย่างมากว่าพวกนางไม่เคยกินขนมที่ตระกูลฟางหรือไงกัน ทำไมถึงหมดท่าที่ตำหนักขององค์ชายเช่นนี้
แม้ว่างานเลี้ยงน้ำชาจะมีขนมเตรียมไว้ แต่คนที่กินจริงๆมีน้อยมาก เพราะทุกคนต่างเป็นคนมีฐานะ กลัวที่จะหมดท่าโดยไม่ตั้งใจ บางคนยอมปล่อยให้ตัวเองหิวยังดีกว่าให้คนอื่นมาหัวเราะเยาะ
“เห้อ น่าเบื่อ บทกวีอะไรสู้นั่งกินให้สะใจไม่ได้หรอก”
หวงฝู่หยีมู่ก้าวมาด้านนี้ด้วยความอาจหาญตามเสียงที่ดังขึ้น ซึ่งก็คือที่ที่ 2 สาวกำลังกินกันอยู่
เมื่อเห็นพวกนางกำลังกินกันอย่างอร่อยเขาก็ยิ้มออกมาอย่างสดใส “ฮ่าๆ แม่นางทั้ง 2 นี่ไวจริงๆ เหลือของกินไว้ให้ข้าด้วยนะ อย่ากินจนหมดล่ะ”
“ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่ล่ะ”
หยูเฮงน้อยยัดเอาเค้กคริสตัลเข้าปากก่อนจะยกเอาจานเค้กคริสตัลบนโต๊ะขึ้นมาพลางหันไปพูดกับหวงฝู่หยีมู่ “เจ้าจะกินอะไรก็ได้ แต่เจ้าห้ามแย่งอันนี้กับข้าเด็ดขาด”
“เจ้า ฮ่าๆๆๆ..” เมื่อได้เห็นท่าทางเด็กๆของหยูเฮงน้อย หวงฝู่หยีมู่ก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง มีความเอ็นดูอยู่ในแววตาของเขา “ได้ ข้าไม่ถืออะไรกับเด็กอย่างเจ้า เจ้ากินไปเถอะ ถ้ายังไม่พอก็ให้ตาหนอนหนังสือสั่งคนเอามาเพิ่มให้เจ้าอีก”
“ตาหนอนหนังสือ?” หยูเฮงน้อยที่ถือจานกินเค้กคริสตัลอยู่ถามอย่างสงสัย “ใครคือตาหนอนหนังสือ”
“ฮ่าๆ ก็ต้องเป็นเจ้าหวงฝู่เส้าจวิ้นน่ะสิ เขาเป็นหนอนหนังสือของแท้เลยล่ะ ขลุกอยู่กับหนังสืออยู่ได้ทั้งวัน” พูดไปสายตาของหวงฝู่หยีมู่ก็เหลือบมองไปที่คนข้างๆ ริมฝีปากของเขายกขึ้นนิดๆอย่างอดไม่ได้ รอยยิ้มจางๆประดับอยู่บนใบหน้า
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวที่อยู่อีกด้านหยิบเมล็ดทานตะวันขึ้นมาแทะเบาๆด้วยท่าทีเรียบเฉย ราวกับไม่ยินบทสนทนาของพวกเขา
สายตาของหยูเฮงน้อยชำเลืองมองคนด้านหน้าที่ถูกล้อมรอบด้วยฝูงชนพลางพยักหน้าเห็นด้วยสุดๆ “จริงด้วย เขาดูเหมือนหนอนหนังสือจริงๆ เหมือนกับท่านเข….”
กำลังจะพูดคำว่าท่านเขย แต่หยูเฮงน้อยหยุดคำว่าเขยไว้ได้ทันเวลา นางมองไปที่เฉิงเสี่ยวเซียวทันทีด้วยรอยยิ้มประจบ
แน่นอนว่าเฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้ว่านางกำลังจะพูดอะไร ชำเลืองมองนางนิดหน่อยแล้วก็ไม่ได้สนใจอีก แต่ปฏิกิริยาของทั้ง 2 สาวตกอยู่ในสายตาของหวงฝู่หยีมู่อย่างชัดเจน ตาคู่เรียวยาวของเขามีแววประกายอยู่แว้บหนึ่ง ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
“แม่นางเฉิงแห่งตระกูลฟางก็น่าเป็นหญิงสาวที่มีความสามารถ ขอให้นางแต่งบทกวีให้พวกเราทุกคนหน่อยเป็นไง ให้พวกเราได้เปิดหูเปิดตาบ้าง”
คนที่พูดอยู่ก็คือคุณชายกงซุน เขาประสบความสำเร็จในการทำให้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเป็นจุดเด่นอีกครั้ง แต่ละคนหันหลังมามองคนที่กำลังแทะเมล็ดทานตะวันอยู่อย่างพร้อมเพรียงกัน
พี่น้องตระกูลฟางที่กำลังคุยกับพี่น้องชายตระกูลมู่หรงเมื่อได้ยินคำนี้และพวกเขาก็โมโหเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะฟางซีเสียนที่เตรียมจะกระโจนออกไปแต่ถูกน้องสาวฟางถงยวี่หยุดไว้ก่อน นางส่งกระแสจิตถึงพี่ชายคนรองของตัวเอง “พี่รอง ท่านจะร้อนใจไปทำไม น้องสาวกับใช่คนยอมคนที่ไหน ท่านเคยเห็นพวกนางยอมใครรึไง ท่านอย่าออกไปสร้างเรื่องวุ่นวายเพิ่มเลย ปล่อยให้น้องสาวและหยูเฮงน้อยจัดการก็พอแล้ว”
เมื่อได้ฟังคำพูดของน้องสาว ฟางซีเสียนก็เหมือนถูกสาดด้วยน้ำเย็นตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำให้เขากระจ่างขึ้นและทำให้เขารู้ถึงความแตกต่างระหว่างตัวเขาและน้องสาว
สายตามองไปที่ร่างสง่างามนั่นอีกครั้ง เนิ่นนานที่เขาไม่ยอมพูดจา
ส่วนเฉิงเสี่ยวเสี่ยวได้ยินคำเชิญต่อตัวเองไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น ตอบไปตามตรง“ แต่งไม่เป็น และไม่สนใจด้วย”
“หา ฮ่าๆๆๆ….” จู่ๆคุณชายกงซุนก็หัวเราะเสียงดังและชี้ไปที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยว “ที่แท้เจ้าก็เป็นแค่คนไม่มีความรู้นี่เอง กับแค่แต่งบทกวีก็แต่งไม่เป็น ช่างน่าอับอายเสียจริง ฮ่าๆๆ…”
การเหยียดหยามคนที่ผู้คนต่างหมายปองต่อหน้าทุกคน นอกจากคนส่วนหนึ่งที่ตกใจแล้ว ก็ยังมีอีกหลายคนที่แสดงท่าทีโกรธเคือง นอกจากพี่น้องฟางซีเฉิงที่รู้ว่าทำไมกงซุนเห้าตั้งถึงตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ไม่ค่อยมีรู้ความจริงเท่าไหร่
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่ได้โกรธกับการเยาะเย้ยถากถางของเขาอย่างที่เขาคาดหวังไว้ ยังคงแทะเมล็ดทานตะวันต่อไปด้วยท่าทีเรียบเฉยพลางพูดอย่างเฉยเมยว่า “ไม่เป็นก็ไม่เห็นแปลกนี่ เจ้ารับประกันได้เหรอว่าเจ้าจะทำได้ทุกอย่าง แล้วคลอดลูกล่ะเจ้าทำได้มั้ย ถ้าเจ้าทำให้ท้องโตและให้กำเนิดทารกออกมาได้สักคนละก็ ข้าจะแต่งบทกวีสักร้อยบทเพื่อแสดงความยินดีให้เจ้าก็ได้”
————————–