Transmigration with QQ Farm สาวน้อยปลูกผัก - ตอนที่ 664
TQF:บทที่ 664 รวมตัวอีกครั้ง(1)
แม้ว่าเฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่ได้ออกไป แต่นางก็สัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวที่หน้าประตูตระกูลฟาง มากันยิ่งใหญ่เชียวนะ
สำนักมารพาคนมาประมาณ 300 คน ส่วนคนของตระกูลฟางที่ออกไปต้อนรับก็มีหลายร้อยคนเหมือนกัน เรียกได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่ยิ่งใหญ่อลังการ
โดยเฉพาะยิ่งต้องเห็นความไม่จริงใจของคนเหล่านั้นก็ยิ่งทำให้นางรู้สึกพะอืดพะอมอยากจะอ้วก
เรื่องที่สำนักมารไปที่บ้านตระกูลฟางกระจายข่าวไปทั่วชิงยาง โดยเฉพาะพวกคนที่คอยจับตาดูตระกูลฟางอยู่รู้กันตั้งแต่ตอนแรก
หวงฝู่หยีมู่ที่กำลังจะไปบ้านตระกูลฟางเช่นกันเมื่อได้ฟังข่าวก็ขมวดคิ้วคมและสั่งให้หัวหน้าทหารยามของตัวเองไปคัดเลือกทหารชั้นยอดอีก 50 คนให้ติดตามไปด้วย
พระโอรสแห่งตำหนักองค์ชาย 3 เมื่อได้รับข่าวนี้ก็ประหลาดใจเล็กน้อย ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้น “คนในสำนักมารไม่น่าจะมาดี ท่าทางข้าเองก็ต้องไปพูดคุยเรื่องบทกวีแม่นางเฉิงด้วยซะแล้ว”
พูดมาถึงตรงนี้เขาก็รีบสั่งให้คนข้างไปเตรียมทหารยู่หลิน 50 คนให้ติดตามเขาไปยังบ้านตระกูลฟาง
ที่ตำหนักองค์ชาย 7 พระธิดาฉียวี่ที่กำลังฝึกดาบอยู่เมื่อได้ยินข่าวนี้ก็เก็บดาบทั้งชุดทันที นางยืนอยู่สักพักก็ออกคำสั่ง “เรียกทหารยู่หลินมาให้ข้า 100 คนออกไปกับข้า”
“พะย่ะค่ะ”
คำสั่งเดียวกันยังมาจากตำหนักองค์ชายใหญ่ พระธิดาซีหลานก็เตรียมคนออกไปในเวลาเดียวกัน
ทันใดนั้น กองกำลังของตำหนักองค์ชายทั้งหลายระดมพลไปที่บ้านตระกูลฟางหมด
ขณะนี้ ผู้คนที่กำลังจะเข้าสู่บ้านตระกูลฟางต่างหยุดลงและหันกลับไปมองที่ด้านหลังพร้อมกัน
ก็เห็นกองทหารยู่หลินของราชวงศ์ปรากฏขึ้น 1 ในนั้นที่ขี่สัตว์อมตะม้าสวรรค์ก็ปรากฏสู่สายตาของทุกคน
ไม่ต้องให้คนบอก แค่เห็นม้าสวรรค์ที่ไม่เหมือนใครตัวนั้นทุกคนก็รู้แล้วว่าคนมาคือใคร
แต่ไม่ทันที่ทุกคนจะได้ทักทายกับท่านแม่ทัพอ๋องด้านหลังก็มีเสียงที่ดังยิ่งกว่าขึ้นมา
มีคนมาปรากฏตัวกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า ทุกคนกอดสงสัยไม่ได้ว่าวันนี้เป็นวันอะไรทำไมถึงมีคนมากมายขนาดนี้มาที่บ้านตระกูลฟาง
ทหารยู่หลินปรากฏสู่สายตาของทุกคนอีกครั้ง และคนที่มากก็มากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้น พระโอรสแห่งตำหนักองค์ชาย 3 พระธิดาฉียวี่แห่งตำหนักองค์ชาย 7 และพระธิดาซีหลานแห่งตำหนักองค์ชายใหญ่ก็ปรากฏตัวตามๆกันมา
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวที่อยู่ในบ้านด้านในของตระกูลฟางก็ตกใจกับการเคลื่อนไหวข้างนอกนั่นเหมือนกัน นางขมวดคิ้วเรียวเบาๆ ไม่รู้จริงๆว่าพระโอรสและพระธิดาเหล่านี้เล่นอะไรกันอยู่
ทุกคนในตระกูลฟางตึ้งอึ้ง พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าพระโอรสและพระธิดาที่ยากจะเรียนเชิญเกิดอารมณ์ดีในวันนี้และพากันมาหมด
แต่พวกเขาก็ไม่กล้าละเลย รีบเข้าไปทักทาย
แต่เจ้านักมารกลับไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่คนรุ่นหลังเด่นกว่าเขา
ส่วนฟางซูเสวี่ย นางนึกไปถึงข่าวที่ได้รับเมื่อวานแล้วเห็นทั้ง 4 คนที่ปรากฏในวันนี้ คิ้วสวยของนางก็ขมวดเป็นปม
หวงฝู่หยีมู่รู้สึกเซ็งอยู่นิดหน่อยที่ลูกพี่ลูกน้องทั้ง 3 ก็มาด้วย แต่ก็ต้องจำใจฉีกยิ้มเพื่อทักทายพวกเขา
“ทำไมไม่เห็นฟางซีเฉิงและแม่นางเฉิงล่ะ”
หลังจากที่มองไปรอบๆท่ามกลางผู้คนหลายร้อยคน และไม่เห็นร่างที่ต้องการพบ หวงฝู่หยีมู่ก็ถามขึ้นอย่างไม่พอใจ
“พระโอรส ท่าทางยิ่งใหญ่จริงนะ”
เสียงขึงขังดังมาจากหน้าประตูของบ้านตระกูลฟาง หวงฝู่หยีมู่เงยหน้าขึ้นก็สบเข้ากับสายตาของอีกฝ่ายด้วยความดุดันที่ไม่แพ้กัน ทรงพลังอย่างยิ่ง
เป็นแค่เด็กรุ่นหลังแต่กลับไร้มารยาทขนาดนี้ เจ้าสำนักมารยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ เขาปลดปล่อยพลังอันแข็งแกร่งออกจากร่างไปยังหวงฝู่หยีมู่ พลังระดับปรากฏเทพเทวาถูกแผ่ซ่านออกมา
ทุกคนในบ้านตระกูลฟางตกใจกันมาก ถ้าพระโอรสเกิดอะไรขึ้นที่บ้านตระกูลฟางละก็ ทั้งตระกูลฟางก็ต้องแบกรับความเกรี้ยวกราดของราชวงศ์
เจ้าบ้านอย่างฟางเต๋อซิวสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่มีร่างหนึ่งหายตัวออกมาในอากาศเสียก่อน ซึ่งก็คือหยูเฮงน้อยนั่นเอง
เมื่อหยูเฮงน้อยปรากฏตัวก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนไป แต่หยูเฮงน้อยหน้าบึ้งตึง โบกมืออย่างไม่พอใจ การข่มของเจ้าสำนักมารที่มีต่อหวงฝู่หยีมู่ก็หายมลายสิ้นไปทันที
เจ้าสำนักมารมีสีหน้าตะลึง สายตาจ้องเขม็งไปยังคนที่อยู่ในอากาศ ยัยเด็กผู้หญิงคนนี้ลบล้างพลังเซียนของเขาด้วยการโบกมือเพียงครั้งเดียว แล้วยังทำให้พลังเซียนของเขาเหมือนกับปะทะเข้ากับบางอย่างและสะท้อนกลับมา ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไหวตัวทัน ก็อาจจะได้รับแรงสะเทือนจนบาดเจ็บก็ได้
“เฮอะ….”
หยูเฮงน้อยเฮอะเบาๆ และเสียงนั้นก็พุ่งตรงไปยังเจ้าสำนักมาร จากที่เขาเกือบได้รับบาดเจ็บอยู่แล้วก็ราวกับถูกค้อนขนาดใหญ่กระแทกเข้าที่หน้าอก รุนแรงจนร่างโอนเอน มีเลือดไหลออกจากมุมปากของเขาอย่างควบคุมไม่ได้
“สามี นี่ท่าน…” ฟางซูเสวี่ยตกใจอย่างมาก รีบประคองสามีของตัวเองไว้ ทั้งตกใจและหวาดระแวง รู้สึกได้ลางๆว่าเป็นฝีมือของเด็กสาวตรงหน้า แต่ก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเรื่องนี้
เจ้าสำนักมารส่ายหัวโดยไม่พูดอะไร และจ้องมองหยูเฮงน้อยด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
เขาเป็นแค่ปรากฏเทพเทวา ตอนนี้ต่อให้หยูเฮงน้อยต้องเผชิญหน้ากับคนระดับจักพรรดิเซียนนางก็ไม่กลัว เมื่อวานซืนที่มิติเลื่อนขั้น พลังของนางก็แข็งแกร่งขึ้นอีกหลายระดับ เรียกได้ว่าเป็นคนที่สามารถเดินแทยงในผืนดินฉางไห่ได้
ต่อให้เป็นเจ้าสำนักมารแล้วยังไง ในสายตาของหยูเฮงน้อยเขาก็ไม่ต่างอะไรกับเด็ก อยากจะทำอะไรกับเขายังไงก็ได้ตามต้องการ
แต่เมื่อฉากนี้ตกอยู่ในสายตาของทุกคนพวกเขาก็ตกใจอีกครั้ง ทุกคนคิดไม่ถึงเลยจริงๆ
“เจ้าตัวโต ทำไมเจ้าเพิ่งมา”
หยูเฮงน้อยยิ้มให้กับหวงฝู่หยีมู่ ท่าทางจิ้มลิ้มบริสุทธิ์เหมือนกับเด็กผู้หญิงข้างบ้าน
————————–