Transmigration with QQ Farm สาวน้อยปลูกผัก - บทที่ 751 อวสาน (19)
TQF:บทที่ 751 อวสาน (19)
ทั้ง 3 ไปจากโถงวิหารสวรรค์เงียบๆโดยไม่ให้ใครรู้ตัว แม้แต่พวกปีศาจเฒ่าก็ยังรู้ไม่เยอะ มีแต่สามีภรรยาโม่อู๋เซอเท่านั้นที่รู้
หลังจากที่ไปจากโถงวิหารสวรรค์แล้วหยูเฮงน้อยก็เหมือนนกน้อยที่ออกจากกรง วุ่นวายอีกครั้ง
วันเวลาหลังจากนั้นก็เป็นไปตามที่หยูเฮงน้อยปรารถนา แต่ละที่ๆพวกเขาเดินทางผ่านนางจะทิ้งร่องรอยไว้เสมอ ขณะเดียวกันก็มีความโกลาหลเกิดขึ้นกับผืนดินฉางไห่อีกครั้ง อิทธิพลน้อยใหญ่ต่างเฝ้าการมาของโจรน้อย
การได้ไปเที่ยวตามที่ต่างๆและซึมซาบวัฒนธรรมท้องถิ่น แล้วยังได้ปล้นตามทางไปด้วย บางครั้งก็บังเอิญเจอคนจาก 3 สำนักใหญ่ที่หลบหนีอยู่ก็ได้สังหารไปทีเดียว วันเวลาของทั้ง 2 อิสระและรื่นรมย์
แต่ละเดือนผ่านไป แต่ละปีผ่านไป เวลาผ่านไปดั่งน้ำไหล ฝีก้าวของพวกเขาเดินทางบ้างหยุดพักบ้าง ไม่ว่าจะที่ไหนๆพวกเขาก็ไปจนทั่ว
ผ่านไป 13 ปีเต็มๆ
หลังจากที่เดินทางไปทั่วผืนดินฉางไห่แล้วและกำลังจะกลับสมาคมตันจง ในที่สุดแสงสีทองระหว่างคิ้วของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ได้หายไป
หรือก็คือคนจาก 3 สำนักใหญ่ที่จับตาดูโดยวิถีสวรรค์ไม่มีเหลือสักคน
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรีบสั่งให้เผ่าอสูรทุกคนกลับสมาคมตันจง ห้ามใครล่าช้า ไม่อย่างนั้นรับผิดชอบผลที่ตามมาเอง
เมื่อได้รับคำสั่งเผ่าอสูรรีบเดินทางกลับสมาคมตันจงทันที หลังจากที่พวกเขากลับมาแล้วเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็จัดเก็บพวกเขากลับเข้ามิติ
แม้แต่เผ่าอสูรในชิงยางและในสมาคมตันจงอยู่แล้วก็ไม่มีเหลือ จัดเก็บกลับหมด
ผ่านการพัฒนามา 10 กว่าปี ไม่ว่าจะเป็นตึกจงหยวนหรือสมาคมตันจงล้วนมั่นคงหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีเผ่าอสูรอีกต่อไป เรียกได้ว่าเผ่าอสูรไม่มีโอกาสได้ปรากฏตัวที่นี่อีก เพราะเฉิงเสี่ยวเสี่ยวสาบานไว้ว่าเผ่าอสูรที่เป็นของนางจะไม่ปรากฏตัวที่ผืนดินฉางไห่อีก
ในตอนที่จัดเก็บเผ่าอสูรเข้ามิติไปแล้ว เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้สึกว่าพลังล่องหนที่ผูกมัดตัวเองอยู่ได้หายไปแล้ว นางรู้ว่านี่คือการผูกมัดที่มีต่อวิถีสวรรค์
หลังจากที่พวกเฉิงเสี่ยวเสี่ยวกลับถึงสมาคมตันจงย่อมตกเป็นที่ฮือฮา ไปทีก็เป็นเวลาถึง 13 ปี ในโลกของผู้ฝึกฝนวิทยายุทธ 13 ปีไม่ได้นานมาก แต่สำหรับคนที่เฝ้าคะนึงหาพวกนางแล้ว 13 ปีนานเกินพอ พอได้ยินข่าวที่นางกลับมาก็พากันมาหาที่สมาคมตันจง
ทุกคนได้พบหน้ากันย่อมเป็นเรื่องน่าดีใจ แต่เรื่องที่ทำให้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวแปลกใจคือ ในช่วงที่นางไม่อยู่ ท่านย่ามีลูกชายอีก 1 คน ตอนนี้ 10 ขวบแล้ว
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวอึ้งไปนิดหน่อยเมื่อเจอท่านอาตัวเล็กคนนี้ แต่ก็ยอมรับแต่โดยดี ไม่ว่าอย่างไรก็ถือว่ามีสายเลือดเดียวกับนาง ของขวัญที่ให้เขามีเป็นกอง คนอื่นๆที่ได้เห็นพากันอิจฉาตาร้อนหมด
ภายใน 3 วันนี้จัดงานเลี้ยงกันใหญ่โต สัตว์วิเศษผลไม้วิเศษต่างๆวางไว้เต็มโต๊ะ ทุกคนนั่งอยู่ด้วยกัน ชนแก้วบ้าง คุยกันบ้าง คึกครื้นสุดๆ
หลายวันหลังจากนั้น เฉิงเสี่ยวเสี่ยวได้อยู่กับท่านย่าตามลำพัง
ฟางซูหยุนมองหลานสาวด้วยใจที่ยุ่งเหยิง เหมือนนางจะคิดอะไรได้บางอย่าง สีหน้าหม่นหมองลงไป 10 ปีมานี้แม้ตัวนางจะเปลี่ยนไปไม่มาก และจิตใจนางก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน
เมื่อก่อนเฉิงเสี่ยวเสี่ยวเป็นจุดศูนย์กลางของนาง ทั้งใจและในสายตามีหลานสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น ตอนนี้นางมีครอบครัวใหม่แล้ว มีสามีและลูก วันเวลาเมื่อก่อนถูกฝังเอาไว้ในใจจนเกือบจะลืมมันไป
บัดนี้หลานสาวได้อยู่ตรงหน้านางอีกครั้ง วันเวลาในอดีตหลั่งไหลมาอยู่ตรงหน้าราวกับสายธาร นาทีเหมือนนางไม่รู้จะคุยกับหลานสาวยังไง หรือไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้สึกถึงความสั่นไหวของอารมณ์ท่านย่า จึงไม่ได้รบกวนนาง เพียงแต่อยู่ข้างๆนางเงียบๆ
เนิ่นนาน ฟางซูหยุนถอนหายใจเศร้าๆ สายตาจับจ้องไปที่หลานสาวตรงหน้าพลางเอ่ยเบาๆ “เสี่ยวเสี่ยว เตรียมจะกลับแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์จงหยวนแล้วใช่มั้ย” “ใช่แล้วท่านย่า ผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว ข้าต้องกลับไปดูหน่อย อย่างไรซะที่นั่นต่างหากคือบ้าน” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวยิ้ม มองเห็นการดิ้นรนในแววตาท่านย่า ส่วนเหตุผลนั้นนางก็รู้ดี
ความจริงที่แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์มีทั้งลูกชายและหลานชายของนาง สมควรที่จะกลับไปดูหน่อย แต่ตอนนี้นางมีบ้านใหม่ มีลูกและสามี นางไม่รู้ว่าควรจะกลับไปมั้ย หรือกลับไปแล้วไม่รู้จะเผชิญหน้ากับลูกชายและเหล่าหลานๆของตัวเองอย่างไร
แน่นอน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือฟางซูหยุนรู้ว่าเฉิงเสี่ยวเสี่ยวและโม่ซวนซุนกลับไปครั้งนี้ต้องจัดงานแต่งแน่ๆ ถึงยังไงนางผู้เป็นย่าก็ไม่ควรไม่ไปใช่มั้ย แต่นางยังมีความกังวลอยู่ในใจ “เสี่ยวเสี่ยว ข้า….” “ท่านย่า ไม่ว่าจะข้าหรือท่านพ่อท่านแม่ต่างอยากให้ท่านมีความสุข ไม่ว่าท่านจะเลือกยังไงพวกเราก็สนับสนุนท่าน อย่าทำให้ตัวเองต้องลำบากใจ ได้มั้ย”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวขัดท่านย่าที่กำลังจะพูดเบาๆ นางอยากให้ท่านย่ามีความสุข ไม่อยากให้ท่านลำบากใจ ส่วนจะกลับแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์จงหยวนหรือไม่นั่นแล้วแต่นางจะตัดสินใจ “เสี่ยวเสี่ยว…” มีน้ำตาคลอขึ้นมาในตาของฟางซูหยุน นางเหลือบตาไปข้างๆ ไม่ได้สบเข้ากับนัยน์ตาจริงใจของหลานสาวและถามเสียงค่อย “พวกเจ้าเตรียมจะกลับไปเมื่อไหร่” “ที่นี่ไม่มีอะไร พวกเราก็กลับในอีก 3 วันข้างหน้า ใช้มิติกลับไป สะดวกมาก” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวบอกด้วยรอยยิ้ม “ได้” ฟางซูหยุนพยักหน้า บอกด้วยความตั้งมั่นอย่างที่สุด “เสี่ยวเสี่ยว รอข้านะ 3 วันหลังจากนี้ต้องรอจนกว่าข้าจะมา เข้าใจมั้ย” “ได้”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวตกลงด้วยรอยยิ้ม
เวลา 3 วันผ่านไปในพริบตา
นางฝากสมาคมตันจงและตึกจงหยวนไว้ในมือฟางเต๋อหยวนและอาจารย์ปู่วิหารสวรรค์หลังจากนี้ที่นางไม่อยู่ก็ให้ฟางเต๋อหยวนและอาจารย์ปู่วิหารสวรรค์คอยดูแลและตัดสินใจเรื่องต่างๆ
เพราะอาจารย์ปู่วิหารสวรรค์ไม่ค่อยอยากกลับแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์จงหยวนนัก เขารู้สึกว่ากลับไปก็ไม่มีความหมายอะไร จึงอาสาอยู่ดูแลสมาคมตันจงให้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวที่นี่ ส่วนโถงวิหารสวรรค์เขาก็ไม่อยากไป อย่างไรซะอายุเขาก็ไม่น้อยแล้ว วิทยายุทธยังอยู่ระดับก้าวสู่เทพเทวาเท่านั้น อยู่ที่สมาคมตันจงนั่นแหละเหมาะที่สุด
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวโม่ซวนซุน หยูเฮงน้อย และผู้เฒ่าหยิง ขันทีชราอาเฟิง รวมถึงสามีภรรยาฟางหมิงเห้อที่จะไปพบเฉิงไป๋หยวน ขณะเดียวกันพวกเขาก็เป็นตัวแทนที่จะไปร่วมงานแต่งของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวและโม่ซวนซุน
ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่โถงใหญ่ เตรียมไปรับคนที่โถงวิหารสวรรค์ทุกเมื่อ แล้วตรงกลับแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์จงหยวน
คนที่รอคอยอยู่ปรากฏตัวแล้ว
คนที่มาไม่ใช่แค่ฟางซูหยุนเท่านั้น แม้แต่หวงฝู่มั่วเฉินและท่านอาตัวน้อยหวงฝู่หนิงเชวียนก็มาเช่นกัน
สีหน้าหวงฝู่มั่วเฉินเคร่งขรึม มองไปที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวและถามเสียงเข้ม “ยัยหนูเสี่ยวเสี่ยว เจ้ารับข้าเป็นปู่บุญธรรมรึเปล่า” “รับแน่นอน ทำไมเหรอ” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเขาหมายความว่าอย่างไร “งั้นก็ดี” หวงฝู่มั่วเฉินพยักหน้าและกล่าวต่อ “เจ้าหนิงเชวียนถือเป็นอาแท้ๆของเจ้าใช่มั้ย”
มุมปากเฉิงเสี่ยวเสี่ยวกระตุกนิดหน่อยเมื่อสบตาเข้ากับท่านอาตัวเล็ก “เป็นสิ เป็นแน่นอน” “ถ้าอย่างนั้นเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันใช่มั้ย” “ใช่ ครอบครัวเดียวกัน”
นาทีนี้ถ้าเฉิงเสี่ยวเสี่ยวยังไม่รู้อีกว่าเขาจะพูดอะไรนางก็คงโง่เกินไป ไม่ทันที่พวกเขาจะพูดอะไรอีกก็รีบเอ่ยขึ้น “ดีๆ งั้นพวกเราไปเถอะ ไปรับอาจารย์และอาจารย์หญิงที่โถงวิหารสวรรค์กัน”
พูดจบไม่ทันที่ทุกคนจะรู้ตัวก็โยนพวกเขาเข้ามิติหมดและทะลุมิติตามโม่ซวนซุนไป
ส่วนคนที่เพิ่งเคยเข้ามิติครั้งแรกอึ้งกันไปหมด
ไม่นานนักพวกเขาก็ได้รู้ความจริงทุกอย่างจากปากของฟางซูหยุนและผู้เฒ่าหยิง ขณะเดียวกันขันทีชราอาเฟิงและหวงฝู่มั่วเฉินก็เข้าใจในที่สุด
ทำไมเฉิงเสี่ยวเสี่ยวถึงมีทรัพยากรมากมายขนาดนี้ ทำไมนางถึงมีเผ่าอสูรจำนวนนับไม่ถ้วน สำหรับเจ้าของที่ครอบครองผืนดินแห่งมิตินี้ไม่มีอะไรน่าแปลก
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวและโม่ซวนซุนมาถึงโถงวิหารสวรรค์ในเวลาเพียง 1 วันและใช้มิติเข้าไปในสถานที่ต้องห้าม ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขากลับมา ไปรับพวกเขาสามีภรรยาในปราสาทของโม่ซวนซุน แล้วค่อยไปรับตาแก่ซอมซ่อในปราสาทของเขา จากนั้นก็หายไปจากฐานหลักโถงวิหารสวรรค์
ในที่สุดก็จะกลับแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์จงหยวนแล้ว
——————————–