สาวไอดอลห้องเดียวกับผมชอบทำตัวน่าสงสัย(The Idol Girl in My Class Is Acting Suspiciously) - ตอนที่ 19
พวกเราสนุกสนานกับการร้องเพลงกันราวๆสองชั่วโมงก่อนจะแยกย้านกันกลับ
เมื่อผมมาถึงบ้านก็อาบน้ำอาบท่าแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง
ความเหนื่อยล้าในวันนี้ของผมค่อยๆหายไปเมื่อผมได้นอนลงบนเตียง
—แต่วันนี้มันก็สนุกมากจริงๆนั่นแหละ
ผมหัวเราะและดีใจกับตัวเองที่ได้เป็นเพื่อนกับซาเองุสะซังกับชิมิซุซัง
—ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนของไลม์ดังขึ้น
ผมที่กำลังสลึมสลือค่อยๆหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
“วันนี้สนุกมาก! ขอบคุณมากนะ!”
มันคือข้อความจากซาเองุสะซัง
“ฉันก็เหมือนกัน!”
“ผมก็ด้วย! ไว้คราวหน้าไปด้วยกันอีกนะ!”
ชิมิซุซังกับทาคายูกิตอบกลับมาทันที
ผมก็ควรจะตอบกลับไปด้วย…..สินะ…..
ผมไม่ได้ตอบ…..แล้วก็…..
—นอนตายคาเตียง
แล้วผมก็ได้ยิงเสียงเตือน
หืม? นาฬิกาปลุกเหรอ? ผมเอามือแตะจอเพื่อปิดเสียงนั้นโดยที่ไม่ได้มอง
“เห้ อิจิโจคุง?”
ทำไมเหมือนผมจะได้ยินเสียงซาเองุสะซังกันนะ…..
“ฮัลโหล ได้ยินฉันมั้ยเอ่ย?”
ผมรู้น่าว่านั่นเสียงเธอ……
สุดท้ายผมก็ยอมแหกขี้ตาตื่นขึ้นมา
“ซาเองุสะซัง! อะไรครับเนี่ย?”
ผมรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากล่าวตอบปลายสาย งั้นเสียงที่ผมได้ยินเมื่อกี้คือเสียงโทรเข้าไม่ใช่เสียงนาฬิกาปลุกสินะ
แต่ทำไมจู่ๆเธอถึงโทรมาล่ะ? ผมสงสัยหนักกว่าเดิมอีก
“ขอบคุณพระเจ้า! ในที่สุดนายก็ตอบสักที…..”
ผมได้ยินเสียงของเธอที่ดูโล่งใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“ขอโทษครับ เมื่อกี้ผมกลับอยู่น่ะ มีอะไรงั้นเหรอครับ?”
“อ้อ……หลับงั้นเหรอ…..งี้นี่เอง แหะๆ”
เธอหัวเราะออกมาเบาๆ
“ก็นายเป็นคนเดี่ยวที่ไม่ได้มาคุยกับพวกเรานี่นา”
“คุยเหรอ? อ้อ….”
เมื่อเธอพูดแบบนั้นผมจึงรู้ทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เมื่อผมลองเช็คดูก็พบว่าพวกเขาสามคนพูดคุยกันอยู่สักพักตอนที่ผมหลับอยู่ แถมซาเองุสะซังยังโทรไลม์มาหาผมด้วยตัวเองซะด้วย
“ขอโทษครับ! ผมเผลอหลับไปตอนที่กำลังพิมพ์บอกน่ะ”
“ม-ม-ม-ไม่เป็นไร ฉันเองก็โทรมาหาแบบกะทันหันเหมือนกัน”
“ไม่ครับ ผมผิดเองครับ”
พวกเราต่างขอโทษกันและกัน
“จะว่าไปนี่เป็นครั้งแรกเลยนะครับที่เราได้โทรคุยกันน่ะ”
“เอ๊ะ? ช-ใช่แล้ว! แต่ฉันขอโทษนะที่โทรมาตอนนายหลับน่ะ…….”
“ไม่เป็นไรครับ มันช่วยให้ผมหายง่วงได้ เพราะงั้นขอบคุณมากครับ”
“ไม่ได้จะทำแบบนั้นสักหน่อย…..แต่ก็ขอบคุณนะ……”
ปลายสายยิ้มออกมา
แต่การการที่ได้โทรคุยกับซาเองุสะซังแบบนี้มันน่าอายชะมัดเลยแหะ มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเป็นไปด้วยด้วยซ้ำ
“เอ่อ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ ไว้เจอกันที่…….”
ด้วยความอายผมจึงพยายามที่จะจบการสนทนานี้
“เดี๋ยวก่อน!”
แต่ว่าซาเองุสะซังก็ไม่ยอมให้ผมทำแบบนั้นง่ายๆ
“ค-คือว่า สุดสัปดาห์นี้นานว่างมั้ย?”
“เอ๋? สุดสัปดาห์เหรอครับ? อืม ผมมีงานพาร์ทไทม์คืนวันอาทิตย์น่ะครับ แต่ว่าเวลาที่เหลือผมว่างครับ”
“ง-งั้น พรุ่งนี้เราไปข้างนอกด้วยกันมั้ย?”
ซาเองุสะซังกล่าวถามในสิ่งที่ผมไม่คาดคิด
—ไปข้างนอกด้วยกัน?
—ผมกับซาเองุสะซังเนี่ยนะ?
“เออออออออออออ๋!!!!!!!!!!!!!!”
ผมเข้าใจดีว่าเธอจะสื่ออะไร แต่ไม่คิดว่ามันจะเหนือความคาดหมายของผมจนหลุดโลกขนาดนี้
“ไม่ได้เหรอ?”
ซาเองุสะซังถามกลับมาอย่างลุ้นระทึก
“ไม่ใช่แบบนั้นครับ มันก็แค่…..”
“ค่อยโล่งอกหน่อย”
จะให้ผมปฏิเสธยังไงอะ?
คงไม่มีชายแท้คนไหนหรอกที่กล้าปฏิเสธคำชวนของซาเองุสะซังหรอก
แต่ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมต้องเป็นผม
“แต่ว่าเป็นผมจะดีเหรอครับ?”
ผมถามความแน่ใจกับเธอว่าให้คนธรรมดาแบบผมไปด้วยจะดีงั้นเหรอ เธอเงียบไปสักพักก่อนจะตอบมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา
“อิจิโจคุงและ…..ดีแล้วล่ะ…..”
หน้าของผมกลายเป็นสีแดงอย่างกับปลาหมึกโดนต้ม
“ง-งั้นเดี๋ยวฉันส่งข้อความไปอีกทีนะ! ราตรีสวัสดิ์!”
ขณะที่ผมกำลังช็อคซาเองุสะซังก็กล่าวราตรีสวัสดิ์กับผมด้วยเสียงสั่นๆก่อนจะวางสายไป
—ติ๊ง!
แล้วผมก็ได้รับชื้อความใหม่
“เจอกันที่ร้านกาแฟหน้าสถานีตอนสิบเอ็ดโมงนะ!”
นั่นคือเวลาที่ซาเองุสะซังได้บอกกับผม
ผมจ้องมองไลม์เพื่อยืนยันว่ามันไม่ใช่ภาพลวงตาแต่เป็นความจริง
แล้วผมก็ต้องออกไปข้างนอกกับซาเองุสะซังในวันพรุ่งนี้ด้วยสาเหตุอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน