สาวไอดอลห้องเดียวกับผมชอบทำตัวน่าสงสัย(The Idol Girl in My Class Is Acting Suspiciously) - ตอนที่ 32
วันศุกร์
การสอบเริ่มไปเมื่อวันพุธและจบลงอย่างรวดเร็วและในที่สุดการติวแบบกลุ่มก็จบลง
เนื่องจากพวกเราสี่คนมักจะติวด้วยกันตลอดทำให้พวกเรามั่นใจว่าพวกเราทำได้ดีแน่ๆ
ยิ่งติวมากเท่าไหร่ก็ยิ่งให้เห็นว่าซาเองุสะซังสอนเก่งแค่ไหน
ทาคายูกิถึงกับอิจฉาความสามารถของเธอจนต้องพูดออกมาว่า “ซาเองุสะซัง คุณดูจะฉลาดเกินไปที่จะเรียนที่นี่นะ” แต่เธอก็ตอบมาเพียงแค่รอยยิ้มเขินๆ
ยังไงๆการที่จะเข้าเรียนที่ไหนก็ขึ้นอยู่กับคนๆนั้นล่ะนะ ถึงพวกเขาจะเก่งเกินกว่าจะมาเรียนที่นี่ แต่ว่าการได้พบกับพวกเขาก็เป็นเรื่องที่ดีนะ
ช่างเรื่องนั้นเถอะ ตอนนี้พวกเราได้หลุดพ้นจากคำสาปที่เรียกว่าการสอบได้ก็นับว่าดีแล้ว
พวกเราตกลงกันว่าจะฉลองกันที่ร้านแฮมเบอร์เกอร์หน้าสถานี
พวกเราเพียงแค่ทานแฮมเบอร์เกอร์กับพูดคุยเรื่องการสอบ แต่ว่าซาเองุสะซังก็ยังดึงดูดสายตาของคนรอบๆอยู่ดี
และไม่ใช่แค่เธอคนเดียว ทั้งทาครยูกิกับชิมิซุซังก็เช่นกัน
การได้เห็นชิมิซุซังทานแฮมเบอร์เกอร์ด้วยปากเล็กๆของเธอ ทำให้ผมนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้
หลังจากที่พวกเราได้เป็นเพื่อนกันแล้ว พวกที่มาจากโรงเรียนเดียวกับชิมิซุซังต่างถามผมว่า “นายทำยังไงถึงได้เป็นเพื่อนกับเจ้าหญิงคนนั้นเนี่ย?” ทำเอาผมแปลกใจเลย
เมื่อผมถามเหตุผลไปพวกเขาก็บอกว่า ถึงแม้เธอจะเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโรงเรียน แต่เธอก็ได้รับฉายาว่า “เจ้าหญิงผู้โดดเดี่ยว” เพราะว่าเธอปฏิเสธทุกคนที่มาสารภาพรัก
ตอนนั้นผมยิ้มออกมาแบบไม่ได้คิดอะไรมาก โดยคิดว่า “ไอ้เรื่องอย่างกะนิยายโนเวลนั่นมันอะไรกัน?” แต่ว่าขนาดพวกที่มาจากโรงเรียนเดียวกับผมยังแปลกใจที่เห็นว่าชิมิซุซังซึ่งไม่ให้ใครเข้าใกล้แม้แต่กับเพศเดียวกันนั้นอยู่กับพวกเราได้เหมือนเป็นเพื่อนกันปกติ
“ซากุจัง มีซอสติดอยู่ที่แก้มแน่ะ”
“เอ๊ะ? น่าอายจัง”
แล้วซาเองุสะซังก็เอามือปาดซอสที่แก้มของชิมิซุซังที่นั่งอยู่ข้างๆออก
ชื่อต้นของชิมิซุซังคือซากุราโกะ ซาเองุสะซังจึงเรียกเธอสั้นๆว่า “ซากุจัง”
ผมรู้สึกว่าที่สองคนนั้นสนิทกันเป็นพิเศษน่าจะเพราะว่าความเป็นมิตรของซาเองุสะซังล่ะนะ
หลังจากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันเพื่อที่จะกลับบ้าน
“อิจิโจคุง!”
ระหว่างที่ผมกำลังเดินกลับบ้านก็มีเสียงเรียกจากด้านหลัง เมื่อผมกันไปก็ต้องแปลกใจ
—คนที่เรียกผมก็คือชิมิซุซัง
เธอคงจะเดินตามผมมาได้สักพักแล้ว หลังจากที่เธอทำเป็นเดินแยกออกไป
“เอ๊ะ? ชิมิซุซัง? มีอะไรเหรอครับ?”
มันเกิดอะไรขึ้นฟะเนี่ย? ผมคิดในใจระหว่างที่พูดกับเธอ
“ฉันมีเรื่องอยากจะปรึกษาหน่อยน่ะ…..”
เธอกล่าวออกมาด้วยท่าทางที่ดูจะแปลกกว่าปกติ
เมื่อผมเดินเข้าไปหา เธอก็ชี้ไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกลเๆและพูดว่า “พวกเราไปคุยกันที่นั่นได้มั้ย?”
ดังนั้นผมจึงเข้าไปที่ร้านกาแฟด้วยกันกับชิมิซุซัง
หลังจากพวกเราเข้ามาในร้านผมก็นั่งตรงหน้าของชิมิซุซัง
ตอนที่พวกเรานั่งลง ผมอดไม่ได้เลยที่จะรู้สึกประหม่าเพราะว่าชิมิซุซังนั้นดูดีมาก
ตอนแรกผมตอบรับอย่างไม่คิดอะไร แต่พอผมมองไปที่เธอก็ได้รู้ว่าเธอนั้นเหมือนกับซาเองุสะซังที่ผมจะมองหน้าตรงๆได้ยากมาก
เธอเป็นหญิงสาวตัวเล็กที่มีผิวขาวสว่างและใบหน้าที่สวยเหมือนกับแมว ก็สมกับที่ได้เป็นหนึ่งในผู้หญิงสองคนที่สวยที่สุดในชั้นปีล่ะนะ
“เอาล่ะ จะคุยเรื่องอะไรเหรอครับ?”
ผมที่ไม่อาจทนได้อีกต่อไปจึงเอ่ยถามขึ้น
“ฉันมีเรื่องอยากจะถามอิจิโจคุงเกี่ยวกับ…..”
ชิมิซุที่น่าจะประหม่าอยู่พูดออกมาอย่างติดๆขัดๆ
เธออย่างจะถามอะไรน่ะเนี่ย?
“เกี่ยวกับเรื่องของ…….ยามาโมโตะคุงน่ะ…..”
“หืม? เจ้าทาคายูกิน่ะเหรอครับ?”
ผมรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่ได้ยินชื่อเพื่อนรักของผมจากเธอ
ดูเหมือนว่าเธอจะมาขอคำปรึกษาเรื่องเจ้าทาคายูกิแหะ
“ใช่ๆ ยามาโมโตะคุงเขา…..มีแฟนหรืออะไรทำนองนั้นหรือเปล่า?”
“แฟนเหรอ…..เหมือนจะมีอยู่นะครับ”
ในที่สุดผมก็รู้สักที
รู้ว่าทำไมชิมิซุซังถึงมาปรึกษากับผมและในเมื่อผมได้รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ผมสามารถพูดคุยกับเธอแบบปกติได้สักที
แต่ว่าดูเหมือนชิมิซุซังจะที่ได้ยินคำตอบของผมจะช็อคไปแล้ว
“พวกเขา….ยังคบกันอยู่เหรอ?……”
ผมต้องขอโทษชิมิซุซังที่ถามกลับมาด้วยท่าทางหวั่นใจ แต่ว่าท่าทางของเธอนั้นน่ารักเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆเลยครับ
“ตอนนี้หมอนั่นไม่มีหรอกครับ ก็จริงที่หมอนั่นเคยมีอยู่ แต่ว่าไอ้เรื่องนั้นมันก็ตั้งแต่สมัยประถมแล้วครับ”
ใช่ครับ เจ้าทาคายูกิมีแฟนตั้งแต่อยู่ประถมและเป็นแค่เพียงเวลาสั้นๆเท่านั้น
หลังจากที่เจ้านั่นเข้าม.ต้นก็เอาแต่คลุกคลีอยู่กับกิจกรรมชมรม แม้ว่าหมอนั้นจะเผ็นที่นิยมมากๆ แต่ว่าก็ไม่เคยหาคนมาเป็นแฟนเลย
จากนั้นผมก็ได้เล่าเรื่องของเจ้าทาคายูกิตอนก่อนเข้าเรียนม.ต้น
ชิมิซุซังนั่งฟังเรื่องที่ผมเล่าด้วยรอยยิ้มอย่างสนใจ
ไม่ใช่เพราะว่าเรื่องที่ผมเล่านั้นน่าสนใจ แต่เธอดํจะมีความสุขที่ได้ฟังเรื่องของเจ้าทาคายูกิมากกว่า
ผมบอกตรงๆเลยว่าผมอิจฉาหมอนั่นชะมัดที่มีสาวสวยอย่างชิมิซุซังมาชอบเนี่ย(T/N: เมิงไม่ต้องพู๊ดดด!!!)
“แล้วคุณอย่างให้ผมช่วยเรื่องนี้มั้ยล่ะครับ?”
“อะไรนะ? ช่วยเหรอ? ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นเลยนะ”
เมื่อผมถามออกไปเธอก็โบกมือไปมาด้วยใบหน้าที่เขินอาย
“ฉันก็แค่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ก็เลยไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีน่ะ…..”
ชิมิซุซังหน้าแดงและกล่าวออกมาเสียงเบาอย่างน่ารัก ราวกับสาวน้อยกำลังมีความรัก
“ผมไม่ได้ลำบากอะไรหรอกครับ ผมก็แค่ทำสิ่งที่ผมอยากทำน่ะ ถ้าอยากให้ช่วยอะไรก็บอกได้เลยนะครับ”
ผมตัดสินใจที่จะช่วยเหลือชิมิซุซังให้ประสบความสำเร็จในรักแรกของเธอ
แถมคนที่เธอชอบยังเป็นเพื่อนรักของผมด้วย
—กามเทพทาคุยะ! ออกปฏิบัติการณ์!
พูดจริงๆนะ ตอนที่ชิมิซุซังยิ้มออกมาและพยักหน้าเบาๆด้วยหน้าที่แดงแบบนั้นมันน่ารักชะมัด
—เป๊ง!
แล้วผมก็ได้ยินเสียงช้อนหล่นดังขึ้น
เมื่อผมหันไปมองก็พบกับซาเองุสะซังที่นั่งอยู่ห่างจากโต๊ะของเรานิดหน่อย
เธอพยายามที่จะซ่อนตัว แต่ว่ามันสายเกินไปแล้วล่ะ
“อะไรกัน? ชิจังเหรอ?”
เมื่อผมเรียกเธอออกไปซาเองุสะซังที่ถูกจับได้ก็หัวเราะออกมาเบา และชิมิซุซังก็พูดออกมาอย่างสับสนว่า “อะไรนะ? ชิออนจังเหรอ?”
เมื่อซาเองุสะซังถูกพวกเราจับได้เธอก็ยิ้มออกมา แต่ผมว่าหน้าเธอตอนนี้มันดูน่ากลัวแปลกๆยังไงก็ไม่รู้สิ