สืบล่าหาผู้ใช้ศาสตร์ความตาย - ตอนที่ 22
คอนราตพาลูน่าและลูกน้องสองคนไปยังคฤหาสน์ของคาน
ยิ่งเข้าใกล้คฤหาสน์ คอนราตก็ยิ่งตกอยู่ในความรู้สึกที่ไม่อยากไปต่อมากกว่านี้ แต่เพราะรู้ล่วงหน้ามาก่อนแล้วว่านี่คือข่ายอาคม จึงกดกลั้นความรู้สึกนั้นแล้วเดินตามหลังลูน่ามา
ลูกน้องทั้งสองคนก็ทำหน้าไม่อยากมาเช่นกัน แต่ก็ยังหาทางตามมาจนได้
ลูน่าเดินผ่านประตูรั้วคฤหาสน์
“ตามฉันมานะ ถ้าไม่อยากให้กูลจับขาละก็”
คอนราตและลูกน้องเดินเรียงแถวตามหลังลูน่าเข้าไปในบริเวณคฤหาสน์อย่างหวาดกลัว
เมื่อลูน่าเปิดประตูคฤหาสน์ ก็มีสเกเลตัน 3 ตัวรออยู่
“กริม รีปเปอร์น่ะ รอฉันกลับมาอยู่สินะ”
คอนราตหน้าซีดเผือดเมื่อถูกแนะนำให้รู้จักกับโครงกระดูกอัปมงคลที่กำลังถือเคียวขนาดใหญ่
“ลูน่า โทษทีนะแต่ว่า ให้พวกนั้นออกไปนอกคฤหาสน์ทีได้ไหม บอกตามตรง ฉันกลัว คือว่า ฉันไม่ถูกกับพวกผีสางมาแต่ไหนแต่ไรแล้วน่ะ”
คอนราตตัวสั่นงันงก
“ท่านอัศวินปอดแหกกว่าที่คิดเหมือนกันนะเนี่ย งั้นให้ไปเฝ้าที่ประตูรั้วก็แล้วกันดีไหม”
ลูน่าหัวเราะคิกคักแล้วชี้ไปที่ประตูออกคำสั่งให้ย้ายไป เหล่ากริม รีปเปอร์มุ่งไปทางที่นิ้วชี้อย่างเชื่องช้า
คอนราตและลูกน้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“เท่านี้ก็ไม่มีอันเดดแล้วใช่ไหม”
“ใช่แล้วล่ะ ท่านอัศวินขี้กลัว”
ลูน่าแซว
“งั้นช่วยพาไปหาคานทีได้ไหม”
“ได้สิ ห้องในสุดเลย ตามมา”
คอนราตมองตามหลังลูน่าที่เดินเข้าไปในคฤหาสน์พลางส่งสัญญาณให้ลูกน้องทั้งสองคน
“ที่นี่แหละ”
เมื่อลูน่าพาไปยังห้องที่อยู่ด้านในสุดและกำลังจะเปิดประตู พวกลูกน้องของคอนราตก็จับตัวเธอไว้
“กรี๊ด!”
ลูน่าร้องกรี๊ดสั้น ๆ แต่คอนราตชักดาบออกมาโดยไม่แยแส จากนั้นก็บุกเข้าไปในห้องแล้วฟันชายผู้นั่งอยู่บนเก้าอี้หันหน้าเข้าหาโต๊ะจากด้านหลัง
ดาบฟันเข้าไปที่ร่างของผู้ชายจากไหล่ลงมาถึงหน้าอกพร้อมกับเก้าอี้ ชายคนนั้นเสียเลือดเป็นจำนวนมากและไม่อาจส่งเสียงร้องใด ๆ ได้ เป็นแผลฉกรรจ์อย่างไม่ต้องสงสัย
“รีบหนีกันเถอะ! จัดการเด็กผู้หญิงคนนั้นด้วย……”
คอนราตหันหลังกลับมาสั่งลูกน้อง แต่กลับก็ต้องเห็นสิ่งที่เหลือเชื่อ
ลูกน้องทั้งสองคนกุมคอด้วยท่าทางเจ็บปวดแล้วล้มลง
ลูน่ายืนอยู่ระหว่างลูกน้องที่ล้มลงแล้วหัวเราะราวกับแกล้งเล่น
“เสร็จธุระแล้วหรือยัง ท่านอัศวิน”
“มันหมายความว่ายังไง ทำไมเจ้าพวกนั้นถึงล้มลง”
คอนราตสับสนและไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเกิดอะไรขึ้น
“ก็พวกเขาไม่รู้จักวิธีดูแลผู้หญิงนี่นา ฉันเลยสั่งสอนไปนิดหน่อยน่ะ ไม่ดีนะรู้ไหม จู่ ๆ มาแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงอย่างหยาบคายเนี่ย”
“แกเป็นคนทำงั้นเหรอ!”
“ใช่แล้ว เวทมนตร์ง่าย ๆ แค่นี้ ฉันทำได้อยู่แล้ว”
เมื่อลูน่ายกมือขวา ทำท่าเหมือนกำลังกำอะไรสักอย่าง คอของคอนราตก็เริ่มรัดแน่นขึ้นด้วยพลังที่มองไม่เห็น
“อย่า……”
คอนราตส่งเสียงไม่ออกก่อนหน้าที่จะเริ่มหายใจไม่ออกเพียงนิดเดียว
เสี้ยววินาทีก่อนที่สติจะดับ ลูน่าก็คลายมือขวาที่กำไว้ แล้วพลังที่มองไม่เห็นที่รัดคออยู่ก็หายไป
“……กะ……แกเป็นใคร”
คอนราตจับคอที่ถูกบีบและตรวจสอบว่าไม่เป็นอะไร
“ฉันแนะนำตัวไปแล้วตอนอยู่ที่ทำการกองอัศวินไม่ใช่เหรอ ลูกศิษย์ของคานไง”
“ถ้าเป็นลูกศิษย์ แล้วทำไมถึงไม่สะทกสะท้านปล่อยให้อาจารย์ตัวเองถูกฆ่า?”
“อาจารย์ตายไปเมื่อประมาณ 50 ปีก่อนแล้ว ยังเหลือเถ้ากระดูกอยู่ในห้องใต้ดินอยู่เลย”
คอนราตหันหลังกลับไปมองคนที่ตัวเองเพิ่งฟันไป
“แล้วหมอนี่คืออะไร!”
“นั่นเป็นภาพลวงตาต่างหาก”
เมื่อลูน่าดีดนิ้วดังป๊อก คนที่ถูกฟันก็หายไป ทิ้งไว้เพียงเก้าอี้ที่ถูกดาบฟันไปถึงครึ่งหนึ่งของพนักพิง
ตาของคอนราตเบิกโพลงและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“แกเป็นผู้ใช้ศาสตร์ความตายใช่ไหม!”
“ใช่แล้ว”
ลูน่ายอมรับโดยไม่มีท่าทีรู้สึกผิด
“นี่แกหลอกฉันงั้นเหรอ!”
“หยาบคายจังเลยนะ ฉันไม่ได้หลอกอะไรสักหน่อย คุณเคยถามฉันสักคำหรือไง ว่า ‘เป็นผู้ใช้ศาสตร์ความตายหรือเปล่า’”
แน่นอนว่าเขาจำไม่ได้ว่าเคยพูด แต่ใครจะไปคิดว่าลูน่าที่อายุเท่านี้จะใช้เวทมนตร์ระดับสูงได้
ไม่มีทางที่เธอจะเรียนรู้เวทมนตร์ระดับสูงได้ด้วยวัยเท่านี้
……ไม่สิ มีเพียงสิ่งเดียวที่แว็บเข้ามาในหัวของคอนราต นั่นคือปิศาจซึ่งเป็นอมตะที่เขารู้จักระหว่างการค้นคว้าเรื่องศาสตร์ความตาย
“ผีดูดเลือดงั้นเหรอ”
อันเดดที่เลวร้ายที่สุดที่เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นพวกเดียวกันได้ด้วยการดูดเลือด จุดสุดท้ายของศาสตร์ความตาย
“ไม่ถูกซะทีเดียว แต่ก็คล้าย ๆ กันนั่นแหละ”
“ทำไมถึงอยู่ข้างอาณาจักรราม การต่อสู้ของมนุษย์ไม่เกี่ยวกับแกสักหน่อย!”
ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย คอนราตคิดเช่นนั้น มันแปลกที่ปิศาจเข้ามาแทรกแซงการต่อสู้ของมนุษย์
“เกี่ยวสิ เกี่ยวในระดับหนึ่ง”
ผีดูดเลือดตนนี้มีความเกี่ยวข้องกับอาณาจักรราม? คอนราตซึ่งทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลและสืบราชการลับในกองอัศวินไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนั้นมาก่อน
“ไม่สิเดี๋ยวก่อน รอเดี๋ยว แกหวังอะไรอยู่ ฉันก็จะให้ทุกอย่างที่แกอยากได้ คนเหรอ อยากได้คนงั้นเหรอ ก็พวกแกดูดเลือดคนนี่นา กี่คนดีล่ะ แกต้องการสักกี่คน เท่าไรฉันก็จะหามาให้ ไม่สิ ฉันจะหามาให้ทุกวันเลย! ถ้าฉันจะยึดราชอาณาจักรมาได้มันก็แค่ของกล้วย ๆ! ไม่ใช่แค่คนนะ จะเงินทองหรือสิ่งของก็ย่อมได้ตามแต่ใจเลย อยากได้อะไร หวังอะไรอยู่”
“พูดเรื่องยากจังเลยนะ ท่านอัศวิน”
ลูน่ารู้สึกเอือม
“สิ่งที่ฉันต้องการ คือความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ เหมือนคนทั่วไป แต่มันหายไปแล้วและจะไม่มีวันกลับมาอีก มันควรเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครในประเทศของรัถก็สามารถมีได้ ทำไมคุณถึงไม่พอใจมันล่ะ”
“อะไร พูดอะไรของแก ทำไมปิศาจอย่างแกถึงพูดอย่างกับเป็นคนธรรมดา”
“มาหาว่าฉันเป็นปิศาจแบบนี้ ฉันเจ็บนะ”
“เดี๋ยวก่อน! ฉันขอโทษ! ฉันขอโทษสำหรับคำพูดเมื่อกี้! ฉันผิดไปแล้ว ยกโทษให้ฉันด้วย”
คอนราตลงนั่งกับพื้นแล้วถอยหลังไปในท่านั้น
“ถ้างั้น ถ้างั้นเอาแบบนี้เป็นไง มาดูดเลือดฉัน แล้วก็เปลี่ยนฉันให้เป็นผีดูดเลือด มอบชีวิตอมตะให้ฉัน ถ้าทำแบบนี้ ฉันจะกลายเป็นพวกของแก เป็นบริวารของแกยังไงล่ะ แบบนี้ดีไหม”
“……คุณนี่ไม่งดงามเอาซะเลย”
ลูน่าหมดความสนใจในชายตรงหน้าแล้ว
“ฉันเองก็เลือกคนที่ฉันจะดูดเลือดเหมือนกันนะ ไม่ใช่ใครก็ได้สักหน่อย ถึงจะโดนปฏิเสธอย่างเดียวก็เถอะ”
เมื่อลูน่าพูดจบ ชายคนหนึ่งก็เข้ามาในห้อง
เขาเป็นชายชราผมหงอกสวมชุดเกราะอัศวิน รูปร่างสูงใหญ่กำยำ สวมผ้าปิดตาหนึ่งข้าง บนร่างกายเห็นแต่บาดแผลมากมายเกินกว่าจะนับได้ ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าชายชราผู้นี้เป็นผู้แข็งแกร่งที่ผ่านการต่อสู้มานับไม่ถ้วน
“ขอโทษที่มาช้าครับ ท่านลูน่า”
ชายชราก้มหัวให้ลูน่า
“ไม่เจอกันนานเลยนะ คิเลียน เป็นคนใหญ่คนโตโดยสมบูรณ์แล้วสินะ”
ลูน่ายิ้มอย่างขมขื่นให้กับสภาพของคิเลียนที่แทบไม่เหลือเค้าโครงอย่างภาพในความทรงจำแล้ว มีเพียงตาข้างที่เหลืออยู่และเสียงเท่านั้นที่ยังทับซ้อนกับภาพนั้น
“ท่านหัวหน้า! ทำไมถึงมาที่นี่ได้ครับ!”
คอนราตเปล่งเสียงด้วยความประหลาดใจ คิเลียนเห็นสารรูปของคอนราตแล้วก็แสดงสีหน้าผิดหวัง
“ไม่นึกเลยว่าลูกน้องที่ขึ้นตรงกับผมจะกลายเป็นคนทรยศซะเอง……มิน่าทำไมถึงหาเท่าไรก็ไม่เจอ ผมไม่รู้จะเอาหน้าไว้ที่ไหนเลยครับ”
“ช่วยไม่ได้นี่นา ก็ตามีอยู่ข้างเดียว สิ่งที่มองไม่เห็นก็ย่อมเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา”
“ทำไมแกถึงรู้จักกับท่านหัวหน้า!”
คอนราตตะโกนถาม
“ฉันเล่าเรื่องรัถกับคิเลียนให้คุณฟังแล้วไม่ใช่เหรอ อ้อ ชื่อจริงของรัถคือรามนาถน่ะ จำชื่อเล่นของกษัตริย์ตัวเองไว้ซะ ถึงมันจะไม่มีประโยชน์แล้วก็เถอะ”
“งั้นเรื่องที่แกเล่าก็……”
“เป็นเรื่องในอดีตเมื่อประมาณ 50 ปีก่อนน่ะ เป็นเรื่องที่เล่าให้ใครฟังไม่ค่อยได้ ฉันเลยดีใจมากที่คุณรับฟัง ขอบคุณนะ”
ลูน่ายิ้มอย่างกว้าง ตอนนี้สายตาของคอนราตไม่ได้จับจ้องกับสิ่งใดแล้ว
“ท่านลูน่า ที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของผมเอง กรุณาไปที่วังเถอะครับ ฝ่าบาททรงรออยู่”
ดวงตาข้างเดียวของคิเลียนเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
“……งั้นเหรอ เข้าใจแล้ว นายเองก็เหมือนกัน อย่าไปใส่ใจผู้ชายพรรค์นี้อยู่ตลอดเวลาจะดีกว่านะ”
คิเลียนพยักหน้าเงียบ ๆ ให้คำพูดของลูน่า