สืบล่าหาผู้ใช้ศาสตร์ความตาย - ตอนที่ 8
หลังจากนั้นฉันก็เจอรัทเป็นครั้งคราว
ส่วนใหญ่เขาจะรออยู่ที่ถนนหลังจากฉันซื้อของเสร็จ
ทุกครั้งเขาจะเลี้ยงชาให้ นั่นก็เลยเป็นสิ่งที่ฉันตั้งตารอด้วยเหมือนกัน
ก็ทั้งชาและขนมเป็นสิ่งที่ฉันแทบไม่ค่อยได้กินนี่นา
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ฉันพูดขึ้นมาในร้านชาว่า
“ถ้าทุกคนได้ดื่มชาทุกวันก็คงดี”
แล้วพอพูดจบ
“พูดอะไรไร้สาระ นั่นเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่ต้องขนส่งมาจากแดนไกล ไม่ใช่ของที่ทำให้ราคาถูกง่าย ๆ”
รัทพูดอย่างโอหัง
“แล้ว ขนมล่ะ”
“น้ำตาลที่ใช้ทำขนมน่ะแพงกว่าอีก มันเก็บเกี่ยวได้เฉพาะทางตอนใต้ที่ห่างไกลเท่านั้น”
“งั้นก็ปลูกชากับน้ำตาลอยู่ใกล้ ๆ ก็ได้นี่”
“ของพวกนั้นมันเติบโตได้เฉพาะในสภาพอากาศของพื้นที่นั้น ไม่ได้ทำได้ง่ายอย่างที่เธอว่า”
“งั้นก็ปลูกเยอะ ๆ แล้วขนส่งมาเยอะ ๆ ก็ได้ไม่ใช่เหรอ”
“ทางนั้นเขาก็มีเรื่องของเขา เราจะไปสั่งให้เขาทำตามที่เราบอกมันก็ไม่ได้”
“ไม่สะดวกเลยนะโลกนี้ อยากให้ทุกคนได้เพลิดเพลินกับชาและขนมบ้างจัง”
“โลกที่ทุกคนเป็นขุนนางอย่างนั้นเหรอ เธอนี่
พูดอะไรเหลือเชื่อจริง ๆ”
ก็คุยกันประมาณนั้นแหละ พอดื่มชาทีไร ก็จะนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทุกที
รัถเป็นใครงั้นเหรอ
ไม่รู้สิ คงเป็นขุนนางใหญ่โตละมั้งฉันว่า ท่านอัศวินล่ะ ไม่มีใครในใจบ้างเลยหรือไง
เป็นคนตัวสูง ผมทอง ท่าทางยโสน่ะ
ไม่มี? อืม… ช่างเถอะ
แล้วต่อมา ก็มีครั้งหนึ่งที่เขาขอตามฉันไปเก็บสมุนไพรด้วย
ฉันปฏิเสธไป แต่โดนสวนกลับมาว่า
“ผู้หญิงไปคนเดียวมันอันตราย!”
เขาพูดกึ่งบังคับ
เถียงไปก็ป่วยการ วันนั้นฉันเลยต้องให้โครงกระดูกเฝ้าบ้าน
แล้วรัถกับคิเลียนมาคุ้มกันให้แทน
แต่ว่าก็ช่วยเก็บสมุนไพรด้วย เลยเป็นประโยชน์มากกว่าโครงกระดูกอีก
กะแล้วเชียว ว่าการสอนให้โครงกระดูกเก็บสมุนไพรมันยาก
โครงกระดูกทำงานที่ต้องใช้ความรู้ไม่ได้หรอก แยกสมุนไพรกับพืชมีพิษก็ไม่ออก
ตอนไปเก็บสมุนไพรกับพวกรัถ คิเลียนก็เตรียมอาหารกลางวันให้ด้วย เหมือนงานอดิเรกของขุนนางที่เรียกว่าปิกนิกเลย สนุกดี
อ้อ รัถน่ะแข็งแกร่งเกินคาดนะ
เราเคยถูกปิศาจโจมตีในป่าตอนที่ไปเก็บสมุนไพรด้วยกันด้วยละ
ปกติก็ไม่มีปัญหา เพราะโครงกระดูกจะไล่ให้ แต่นี่เป็นรัถกับคิเลียนไง
ถึงจะดูตำแหน่งสูง แต่ก็มีดีแค่ปาก ไม่น่าจะเก่งกาจเท่าไร
“จะเป็นอะไรไหมนะ” ฉันพูดด้วยความเป็นห่วง
หืม สบาย ๆ สำหรับฉัน?
ก็ฉันใช้เวทมนตร์ได้นี่นา เวทที่ใช้โจมตีก็เรียนมาด้วย ถ้าไม่ใช่ปิศาจที่เก่งมากก็จัดการได้หมดแหละ เพราะงั้นไม่มีปัญหา
แต่ว่าพวกเด็กผู้ชายอุตส่าห์มุ่งมั่นพยายามปกป้องฉัน ถ้าฉันชิงโค่นตัดหน้า มันก็เสียมารยาทใช่ไหมล่ะ
ฉันว่าเวลาแบบนี้ควรให้เด็กผู้ชายได้แสดงฝีมือ
พอเวลาพวกเขาไม่ไหว ฉันก็ค่อยไปช่วยก็ได้
จังหวะที่รัถผู้มีความภาคภูมิใจในตัวเองสูงกำลังตกใจที่พ่ายแพ้ให้กับปิศาจ ฉันก็จะเข้าไปช่วยอย่างเท่ ๆ แบบนั้นคงรู้สึกดีไม่น้อย ว่าไหม แถมได้รู้จุดอ่อนของเขาด้วย
นิสัยไม่ดี?
ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย ลูเซียน่าก็เคยพูดแบบเดียวกัน
ถ้าจำไม่ผิด ลูเซียน่าบอกว่ายิ่งผู้ชายภูมิใจในตัวเองมากเท่าไร หลังทำลายความมั่นใจนั้นลง ก็จะยิ่งยอมสยบมากเท่านั้น เพราะงั้นผู้หญิงทุกคนเลยทำเหมือนกันหมดไง ไม่ใช่เหรอ
ไม่ใช่?
ท่านอัศวินไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย ทำไมถึงรู้เรื่องแบบนั้นล่ะ
เอาเถอะ
แต่ก็อย่างที่บอกไปเมื่อกี้ พวกรัถน่ะแข็งแกร่ง
แม้ปิศาจที่โผล่ออกมาจะขนาดใหญ่เหมือนหมาป่าที่โตขึ้นเท่าตัว แต่ทันทีที่มันกระโจนเข้ามา พวกเขาสามารถฆ่ามันได้ในดาบเดียว
ยอดเยี่ยมสุด ๆ
การเคลื่อนไหวก็รวดเร็ว ทั้งที่เป็นปิศาจขนาดใหญ่ แต่ก็ฟาดฟันได้อย่างสวยงามเลยละ
ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องดาบเท่าไร แต่ก็รู้ว่าพวกเขาเก่งมากทีเดียว
เผลอ ๆ อาจเก่งกว่าโครงกระดูกที่บ้านฉันก็ได้
ถึงฉันจะเรียกว่าโครงกระดูกมาตลอด แต่ชื่ออย่างเป็นทางการของมันคือกริม รีปเปอร์ เป็นอันเดดที่ระดับค่อนข้างสูง
ฉันเพิ่งมารู้ทีหลังตอนที่อาจารย์บอกน่ะ
ถ้าเก่งกว่าอันเดดระดับสูงตัวนั้น แสดงว่าฝีมือดาบก็ดีทีเดียว
ไม่เคยยินชื่อนักดาบแบบนั้น?
งั้นเหรอ แต่คิเลียนก็ดูแข็งแกร่งเหมือนกันนะ เอาเถอะ มันต้องมีเรื่องที่ท่านอัศวินไม่รู้บ้างละนะ
เพราะในโลกนี้ย่อมมีสิ่งที่เราไม่รู้มากกว่าสิ่งที่เรารู้เป็นธรรมดา
เรื่องก็อารมณ์ประมาณนี้แหละ บ้างก็ไปดื่มชา บ้างก็ไปช่วยเก็บสมุนไพร ก็เลยสนิทกับรัถมากขึ้น
ทุกครั้งที่มีโอกาส รัถก็จะชวนให้ฉันเป็นอิสระ
ทั้งที่บอกแล้วแท้ ๆ ว่าไม่เป็นไร
แถมยังบอกว่าจะคืนเงินที่อาจารย์จ่ายไปตอนซื้อตัวฉันมาด้วยถ้าฉันต้องการ
ทั้งที่ไม่ใช่จำนวนเงินที่จ่ายได้ง่าย ๆ แม้จะเป็นขุนนางสูงศักดิ์แค่ไหน
แต่ฉันก็ดีใจที่เขาพูดแบบนั้น
พอมาลองคิดดู เด็กผู้ชายที่ฉันรู้จักก็มีแค่รัถคนเดียวเอง
อ้อ แน่นอนว่าคิเลียนก็เป็นคนที่ฉันรู้จัก แต่เขาให้ความรู้สึกเหมือนเป็นน้องชายร่วมสาบานของรัถ เลยต่างออกไปนิดหน่อย
ถ้าพูดถึงผู้ชายคนอื่นที่ฉันรู้จัก ก็มีแต่เมสันกับอาจารย์ แต่คนพวกนั้นแก่กว่าฉันมาก แถมยังเป็นคนที่มีเอกลักษณ์อีกใช่ไหมล่ะ
เพราะงั้น ฉันเลยไม่รู้ว่าผู้ชายธรรมดาเป็นยังไง แต่ก็โชคดีที่ได้รู้จักกับรัถ ถึงการเจอกันครั้งแรกจะเลวร้ายที่สุด แต่เขาก็เป็นคนดีเกินคาด
หน้าตาก็……ถึงจะไม่อยากยอมรับเท่าไร แต่ก็ดีในแบบของเขา ในแบบของเขาน่ะนะ
แต่เราก็ทะเลาะเรื่องแปลก ๆ กันอยู่บ่อยครั้ง
เคยเถียงกันว่า “ใครเป็นเด็กน้อย” ด้วย
แน่นอนว่ารัถก็ต้องเป็นเด็กน้อยอยู่แล้ว แต่ฉันกลับโดนบอกให้พิสูจน์มา ว่าฉันเป็นผู้ใหญ่ยังไง
“ฉันไม่ใช่เด็กน้อยสักหน่อย ฉันรู้เรื่องโน้นเรื่องนี้ตั้งเยอะ!”
ฉันพูดไปแบบนั้น
“เหรอ อย่างเช่น?”
“ถ้าประทับริมฝีปากบนร่างกายของคนที่เรารักก็จะมีรอยริมฝีปากติดอยู่ด้วยนะ นายน่ะรู้หรือเปล่า นี่ค่อนข้างเป็นความรู้ของผู้ใหญ่เลยนะ”
”……ได้ยินมาจากใคร เรื่องแบบนั้นน่ะ”
“จากพี่สาวที่ร้านขายยา”
“……เปลี่ยนไปขายยาร้านอื่นเถอะ”
รัถอารมณ์ไม่ดีด้วยละ
เป็นเรื่องไร้สาระใช่ไหมล่ะ แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงจำได้แม่น
ช่วงเวลาที่ไม่ได้มีอะไรสำคัญแบบนั้น มันจะสำคัญเกินคาดเลยละ ฉันมั่นใจ
แล้วจากนั้น ฉันก็ได้ของขวัญเป็นครั้งแรกในชีวิต
“ถ้าเป็นเครื่องประดับ ยังไงก็โดนอาจารย์เห็นแน่ ๆ ไม่เอาหรอก”ฉันก็ปฏิเสธไป แต่เขาก็บอกว่า “งั้นก็ใส่ไว้ใต้ร่มผ้าสิ”มันเป็นกำไลข้อมือเล็ก ๆ น่ะ
ถึงฉันจะคิดว่าถ้าใส่ไว้ใต้ร่มผ้า เครื่องประดับก็ไร้ความหมายของมันสิ
แต่ตอนนี้ฉันก็ยังคงใส่กำไลที่ไม่มีความหมายวงนั้นอยู่ ไว้ใต้ร่มผ้าน่ะนะ
คุณบอกว่ารัถชอบฉันงั้นเหรอ?
นั่นมันแน่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ
เพราะฉันเป็นคนสวยนี่นา
เพราะฉันสวยนี่นา ไม่มีเด็กผู้ชายคนไหนไม่ชอบฉันหรอก
……แต่ฉันก็รู้อยู่ ว่าอีกฝ่ายเป็นขุนนาง ส่วนฉันเป็นคนที่เคยถูกขาย ที่มาที่ไปก็ไม่ค่อยรู้ ไม่มีทางไปด้วยกันได้หรอก
แต่ก็ดีแล้วแหละ เพราะฉันจะใช้ชีวิตในฐานะผู้ใช้เวทไปเรื่อย ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องมีเรื่องแบบนั้นหรอก
ในอนาคตก็เช่นกัน
เอ่อ เรื่องของฉันน่าจะจบแค่นี้แล้วมั้ง
ไม่ค่อยได้เล่าเรื่องอาจารย์เท่าไรเลยใช่ไหม ขอโทษด้วยนะ
อาจารย์หมกตัวอยู่ในคฤหาสน์ตลอด แทบไม่ออกไปข้างนอกเลย
เพราะงั้นเลยไม่มีอะไรให้เล่าน่ะ แต่ถ้าเป็นเรื่องตัวเอง ฉันพูดน้ำไหลไฟดับเลยละ
อาจารย์ไม่ออกไปข้างนอกเลยแม้แต่นิดเดียวใช่ไหม?
ออกบ้างนะ เป็นครั้งคราว แต่ก็ไปทีก็นาน หายไปเป็นอาทิตย์เลยก็มี คงไปรวบรวมของที่จำเป็นสำหรับเวทมนตร์ละมั้ง
ตอนที่อาจารย์ไปซื้อตัวฉัน เขาก็ปล่อยให้คฤหาสน์ว่างอยู่นานพอสมควร
ถามว่าล่าสุดออกไปเมื่อไหร่งั้นเหรอ
น่าจะประมาณ 1 เดือนก่อน ออกไปนานทีเดียว
แถมตอนกลับมาคฤหาสน์ก็ดูเหนื่อยนิดหน่อยด้วย ฉันจำได้แม่นเลย
ได้ข้อมูลเพียงพอแล้วใช่ไหม
แบบนั้นก็ดีแล้ว ฉันก็ได้ดื่มชาฟรีด้วยเหมือนกัน