สืบแค้นคุณหนูสวมรอย - ตอนที่ 125 ผู้ยินดีติดเบ็ด
ตอนที่ 125 ผู้ยินดีติดเบ็ด
เฮ่อชิงเซียวไม่ได้มาร้านหนังสือชิงซงติดต่อกันหลายวัน ทำให้หลิวโจวรู้สึกไม่ชิน
“ผู้ดูแลร้าน ท่านว่าเหตุใดใต้เท้าเฮ่อไม่มา”
“ผู้ใดจะไปรู้เล่า” ผู้ดูแลร้านหูลูบเคราท่าทีสบายอารมณ์
“ผู้ดูแลร้าน เหตุใดท่านไม่อยากรู้”
ผู้ดูแลร้านหูส่ายหน้า “ไม่อยากรู้”
หลิวโจวหยิบผ้าเช็ดโต๊ะขึ้นมาเช็ดโต๊ะเก็บเงิน
แล้วไปเถอะ คุยไปก็คงไม่ต่างกับคุยคนละภาษา
“คุณหนูโค่วอยู่ไหม” หน้าประตูร้านหนังสือมีเสียงชายหนุ่มดังขึ้น
ผู้ดูแลร้านหูกับหลิวโจวหันไปมองพร้อมกัน อดสบตากันไม่ได้
เกิดเรื่องยุ่งยากแล้ว ท่านนี้ก็คือคนที่มาพร้อมกับชิ่งอ๋องเพื่อข่มขู่บังคับซื้อ ‘วาดหนัง’ เล่มสองที่ยังไม่วางขายวันนั้น ‘คุณชายไต้’
ผู้ดูแลร้านหูและหลิวโจวล้วนจดจำไต้เจ๋อซื่อจื่อจวนกู้ชางป๋อได้แม่นยำ สือโถวแอบถอยไปยืนแถวประตูโถงร้านที่ตรงไปยังเรือนด้านหลังได้ เตรียมจะไปรายงานซินโย่ว
ไต้เจ๋อเดินนำคนงานสองคนเข้ามา มองไปรอบๆ โถงร้านแล้วก็ไปหยุดที่ผู้ดูแลร้านหู “เจ้าของร้านพวกเจ้าเล่า”
ผู้ดูแลร้านหูรีบลุกขึ้นยืน ก้มกายเล็กน้อยตอบว่า “เจ้าของร้านเราไม่อยู่ที่นี่ขอรับ ไม่ทราบว่าคุณชายต้องการซื้อหนังสือใด”
ผู้ดูแลร้านหูกล่าววาจาเล่นอุบายเล็กน้อย วันนี้ซินโย่วยังไม่ได้ออกมาจากเรือนตะวันออก รอดูวัตถุประสงค์ของคุณชายไต้ก่อน แล้วค่อยรับมือไปตามสถานการณ์
“ไม่อยู่? นางจะกลับมาเมื่อใด” ไต้เจ๋อนั่งลงบนเก้าอี้ข้างโต๊ะเก็บเงินอย่างไม่เกรงใจพลางขมวดคิ้วถาม
กว่าเขาจะรักษาบั้นท้ายหายจนมาหาคุณหนูโค่วได้ นางกลับไม่อยู่?
ผู้ดูแลร้านหูยิ้มอย่างนอบน้อมยิ่งขึ้น “คุณชาย มาหาเจ้าของร้านเรา ท่านมีธุระอันใดหรือขอรับ”
เจ้าของร้านกลับมาตอนไหนก็ขึ้นกับว่าเจ้าคิดทำอันใด
“แน่นอนว่ามีธุระ” ไต้เจ๋อกวาดตามองผู้ดูแลร้านหูด้วยแววตาเย่อหยิ่งถือตัว “ทำไม ซื่อจื่อเช่นข้ามีธุระอันใดต้องรายงานเจ้าด้วยหรือ รีบส่งคนไปตามเจ้าของร้านพวกเจ้ากลับมา”
ในใจผู้ดูแลร้านหูรู้ดีว่าไม่อาจมีเรื่องกับคนผู้นี้ จึงได้แต่ตอบรับ “เชิญซื่อจื่อเข้าไปรอในห้องรับรองก่อนนะขอรับ”
“ไม่จำเป็น ข้าจะรอที่นี่” ไต้เจ๋อมองผู้ดูแลร้านหูด้วยสีหน้าไม่พอใจ “เรียกข้าว่าคุณชายก็พอ ไม่เช่นนั้นคนมาซื้อหนังสือได้ยินเข้า จะเป็นที่จับตามองมากเกินไป”
เคราผู้ดูแลร้านหูกระดิก
เมื่อครู่ผู้ใดเรียกตนเองว่าซื่อจื่อ
หลิวโจวข้างๆ แอบเบ้ปาก ท่านไม่จำเป็นต้องทำตัวเงียบๆ แล้ว อย่างไรทั่วทั้งเมืองหลวงก็รู้กันหมดแล้วว่าท่านถูกกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินจับไปโบยอยู่หน้าจวน ถึงกับมีคนไม่น้อยเห็นบั้นท้ายท่านด้วย
“เช่นนั้นโปรดรอสักครู่ขอรับ” ผู้ดูแลร้านหูขยิบตาให้สือโถว “ไปตามเจ้าของร้านมา อย่าให้คุณชายไต้รอนาน”
สือโถวพยักหน้า ไม่ได้เดินไปทางประตูหลัง แต่วิ่งออกไปจากประตูด้านหน้าร้านหนังสือ
ผู้ดูแลร้านหูรู้สึกชื่นชมความหัวไวของสือโถวมาก
ซินโย่วเขียนนิยายกำลังถึงจุดสำคัญของเรื่อง แต่รายงานของสือโถวขัดจังหวะขึ้น การขัดจังหวะนี้น่าโมโหที่สุด แต่พอได้ยินว่าไต้เจ๋อซื่อจื่อจวนกู้ชางป๋อมา นางก็พลันก็อารมณ์ดีมาก
นางรอไต้เจ๋อมานานแล้ว
คุณชายเสเพลที่มักก่อเภทภัยได้ออกสู่ยุทธภพอีกครั้ง จะทนไม่มาพบนางผู้อยู่ร่วมในเหตุการณ์วันนั้นได้อย่างไร
หลายวันนี้ซินโย่วไม่ออกไปข้างนอก หนึ่ง ต้องการเขียนนิยาย สอง รอปลามาติดเบ็ดด้วยตนเอง หากกล่าวว่ามีเรื่องเหนือความคาดหมายก็คงเป็นบั้นท้ายซื่อจื่อหายช้าไปสักหน่อย
ซินโย่วล้างมือเปลี่ยนชุดใหม่ ออกจากเรือนตะวันออกไปด้านนอกร้าน ก่อนจะวกจากด้านนอกเข้ามาทางร้านหนังสือ
“ท่านเจ้าของร้าน…” เห็นซินโย่วเข้ามา ผู้ดูแลร้านหูกับหลิวโจวส่งเสียงทักพร้อมกัน
ไต้เจ๋อมองไปทางประตูร้านหนังสือ อารมณ์ตื่นเต้นเข้ามาแทนที่อาการหงุดหงิดที่ต้องรอนาน
“คุณชายไต้” ซินโย่วเดินเข้ามาใกล้พลางย่อกายคำนับ
ไต้เจ๋อยืนขึ้น สีหน้ามีรอยยิ้มกว้าง “คุณหนูโค่ว ข้านำของขวัญมาให้”
“ของขวัญ?” ซินโย่วนิ่งอึ้งไปทันที
ผู้ดูแลร้านหูกับหลิวโจวแอบสบตากันไปมา
สมกับที่เป็นคุณชายไต้ปัสสาวะรดลูกหมูป่า ของขวัญที่นำมาให้แทบจะฟาดหน้าร้านหนังสือ
ไต้เจ๋อเม้มปากยิ้มกล่าวว่า “ใช่ เดิมคิดจะมาเร็วกว่านี้ แต่ก็ไม่สะดวกมาตลอด”
“คุณชายไต้เกรงใจไปแล้ว”
“ไม่ได้เกรงใจ วันนั้นหากไม่ใช่ว่ามีคุณหนูโค่วอยู่ ข้าก็คงยุ่งยากกว่านี้แล้ว ข้ารู้สึกขอบคุณคุณหนูโค่ว มากจริงๆ คุณหนูโค่วอย่าได้ปฏิเสธ” ไต้เจ๋อมองไปทางบ่าวติดตาม
บ่าวสองคนรีบยกกล่องในมือไปวางไว้บนโต๊ะเก็บเงิน
กล่องสองใบไม่ใหญ่มาก เมื่อบ่าวเปิดกล่องออกก็เผยให้เห็นทองคำก้อนวางเรียงเป็นระเบียบอยู่ในนั้นกล่องหนึ่ง อีกกล่องอัดแน่นไปด้วยไข่มุก
ผู้ดูแลร้านหูผ่านประสบการณ์มามากย่อมระงับอาการได้ แต่หลิวโจวอดสูดลมหายใจเฮือกไม่ได้
ทองก้อน ทองคำทั้งก้อน!
ซื่อจื่อจวนกู้ชางป๋อใจกว้างมือเติบแท้
หันไปมองไต้เจ๋อ หลิวโจวถึงกับรู้สึกว่าเขารูปงามกว่าเมื่อครู่มาก
ไต้เจ๋อมองดูปฏิกิริยาซินโย่วอย่างคาดหวัง แต่เห็นสีหน้าอีกฝ่ายไม่ได้แปรเปลี่ยนมาก
“คุณหนูโค่วไม่ชอบ?”
ซินโย่วยิ้ม “คุณชายไต้ล้อเล่นแล้ว เงินทองของมีค่าผู้ใดจะไม่ชอบ แต่ของขวัญนี้สูงค่าเกินไป ข้าไม่กล้ารับไว้เจ้าค่ะ”
ผู้ดูแลร้านหูแอบพยักหน้า
เจ้าของร้านทำได้ถูกต้องแล้ว ทรัพย์สินจากคนเช่นซื่อจื่อจวนกู้ชางป๋อไม่อาจรับไว้ ผู้ใดจะรู้ว่าจะนำความเดือดร้อนใดมาสู่หรือไม่
แม้หลิวโจวรู้สึกเสียดาย แต่ก็คิดเหมือนผู้ดูแลร้านหู
ไต้เจ๋อขมวดคิ้ว “ในเมื่อชอบก็รับไว้เถอะ หากคุณหนูโค่วไม่รับ มิใช่ว่าดูแคลนข้าหรือ”
“จะดูแคลนคุณชายไต้ได้อย่างไร เพียงแต่ของขวัญสูงค่าที่คุณชายไต้มอบให้เช่นนี้ ผู้ใหญ่ที่บ้านท่านทราบหรือไม่เจ้าคะ”
ไต้เจ๋อเริ่มโมโหหน้าแดงก่ำ “ของพวกนี้เป็นเงินค่าขนมของข้า ข้าใช้จ่ายตามสบาย คุณหนูโค่วเห็นข้าเป็นเด็กน้อยหรือ เรื่องแค่นี้ก็ต้องถามผู้ใหญ่ในบ้าน”
ซินโย่วกะพริบตา “คุณชายไต้เข้าใจผิดแล้วเจ้าค่ะ เพียงแค่ข้าผ่านโลกมาน้อย แต่ไรมาไม่เคยรับของขวัญสูงค่าเช่นนี้ หากไม่ถามให้กระจ่าง เกิดวันหน้าคนที่บ้านคุณชายไต้มาเอาเรื่อง ข้าจะไม่เสียหน้าหมดสิ้นหรือเจ้าคะ”
ไต้เจ๋อยิ่งโมโห “เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเรื่องเช่นนี้ คุณหนูโค่วเห็นข้าเป็นคนเช่นไร!”
มอบของขวัญให้ผู้หญิง คนที่บ้านจะมาเอาคืน เขายังมีหน้าพบผู้ใดได้อีก
“เช่นนั้นก็ได้เจ้าค่ะ” ซินโย่วพยักหน้าให้ผู้ดูแลร้านหู “ผู้ดูแลร้าน รับไว้”
“รับ รับไว้?” ผู้ดูแลร้านหูถามอย่างแน่ใจ
ไข่มุกเงินทองมากมายเช่นนี้ รับไว้ได้จริงหรือ
“อืม รับไว้”
ได้ยินซินโย่วยืนยัน ผู้ดูแลร้านหูรีบปิดกล่อง
ไต้เจ๋อยิ้ม “ถูกต้องแล้ว”
คุณหนูโค่วไม่ใช่คนท่าทางมากพิธีดังคาด ไม่เสียทีที่เขาให้ความสำคัญ
“แค็กๆ คุณหนูโค่ว ขอคุยด้วยสักครู่ได้ไหม”
ซินโย่วพาไต้เจ๋อเข้าไปในห้องรับรอง ทิ้งคนงานสองคนเฝ้าประตูห้องไว้ พร้อมกับผู้ดูแลร้านกับคนงานเฝ้ากล่องที่โต๊ะเก็บเงินด้วยสีหน้ากังวลและระแวดระวัง
ซินโย่วรินน้ำชาแก้วหนึ่งให้ไต้เจ๋อ ถามขึ้นอย่างเกรงใจว่า “คุณชายไต้ต้องการคุยอันใดกับข้าหรือเจ้าคะ”
ไต้เจ๋อขยับตัวมาด้านหน้าถามความขัดข้องในใจที่อัดแน่นมาหลายวัน “คุณหนูโค่ว ตอนนั้นเจ้าช่วยเด็กนั่นไว้ได้อย่างไร”
ซินโย่วตอบอย่างไร้พิรุธ “ตอนนั้นข้าก็ไม่ได้ทำอะไร แค่ปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณเท่านั้นเจ้าค่ะ”
“ไม่ ไม่ ไม่” ไต้เจ๋อส่ายหน้าไปมา “ข้ารู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”
คำพูดนี้ทำเอาซินโย่วอดเลิกคิ้วไม่ได้ “เหตุใดคุณชายไต้กล่าวเช่นนี้”