สืบแค้นคุณหนูสวมรอย - ตอนที่ 134 สะบั้นสัมพันธ์
ตอนที่ 134 สะบั้นสัมพันธ์
“ชิงชิงมีเรื่องอันใดหรือ” รองเจ้ากรมต้วนยิ้มให้สาวน้อยที่เดินเข้ามา ในใจมิได้สงบนิ่งเหมือนสีหน้าท่าทาง
หลายเดือนมานี้ หลานสาวทำให้เขาเสียเงินทองไปไม่น้อย เขาไม่อยากสนทนากับสาวน้อยผู้นี้แล้วจริงๆ
วันนี้อยู่ๆ มาพบเขา คงมิใช่คิดจะตกเงินทองเขาอีกกระมัง
รองเจ้ากรมต้วนคิดถึงระยะนี้กิจการร้านหนังสือชิงซงรุ่งเรืองก็แอบไม่พอใจ
คุณหนูตัวน้อยๆ เดิมควรไร้เดียงสา ไร้พิษภัย ไร้มลทินแปดเปื้อน เด็กคนนี้กลับละโมบยิ่ง
ซินโย่วย่อกายลง “วันนี้มาหาท่านลุงเพราะมีเรื่องหารือเจ้าค่ะ”
ไม่รอให้รองเจ้ากรมต้วนเอ่ยปาก ซินโย่วก็ลงนั่งตรงหน้าเขา ท่าทางเช่นนี้ทำให้แววตารองเจ้ากรมต้วนเย็นเยียบ รู้แล้วว่าหลานสาวมาหาเรื่องเขาแล้ว
ครั้งนี้จะขูดรีดเขาอีกเท่าไร หนึ่งพันหรือสองพันตำลึง?
ขอเงินจนติดเป็นนิสัยไปแล้วจริงๆ
รองเจ้ากรมต้วนคิดในใจว่าครั้งนี้ต้องจ่ายเท่าไรจึงจะขับไล่หลานสาวกลับไปได้
ซินโย่วเอ่ยปาก “ท่านลุง ข้าอยากหารือกับท่านลุงเรื่องการจัดการสมบัติตระกูลโค่วสักหน่อยเจ้าค่ะ”
“สมบัติตระกูลโค่ว?” เพราะเหนือความคาดหมายมากเกินไป รองเจ้ากรมต้วนลืมแม้แต่จะแสดงอาการโมโห ได้แต่งงงัน
“ใช่เจ้าค่ะ ก็คือสมบัติที่บิดามารดาข้าทิ้งไว้ นำมาที่บ้านท่านลุงตอนเข้าเมืองหลวงมาตอนนั้น”
รองเจ้ากรมต้วนตกใจดังสายฟ้าฟาด ยามนี้ใบหน้าเผยโทสะคุกรุ่นอย่างไม่อาจระงับ
หนึ่งพันสองพันตำลึงไม่อาจทำให้สาวน้อยตรงหน้าพึงพอใจได้อีกต่อไปแล้ว ถึงกับกล้าหมายปองสมบัติพวกนี้?
นี่เป็นเงินหลายแสนตำลึงเชียวนะ! นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าที่ดินอีกเท่าไร…
รองเจ้ากรมต้วนจ้องมองซินโย่วสีหน้าดุดัน “ชิงชิง เจ้าเข้าเมืองหลวงมานำทรัพย์สินติดตัวมาก็จริง แต่ว่าทั้งหมดอยู่ในการดูแลของท่านยายเจ้ามาตลอดไม่ใช่หรือ”
ซินโย่วพยักหน้า
“จำที่ท่านยายบอกได้ไหม รอให้เจ้าออกเรือนก่อน ก็จะมอบสมบัติเหล่านั้นใส่มือเจ้า”
ซินโย่วพยักหน้าอีกครั้ง
รองเจ้ากรมต้วนสีหน้ายิ่งเคร่งเครียด น้ำเสียงเย็นเยียบไม่อาจระงับ “เช่นนั้นเจ้ามาหารือกับลุงทำไมกัน”
ซินโย่วมองรองเจ้ากรมต้วนด้วยสีหน้านิ่งสงบ กระดกมุมปากยิ้ม “ข้าได้วัยปักปิ่นเข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้ว อยากจะจัดการทรัพย์สมบัติตนเอง”
รองเจ้ากรมต้วนสีหน้าเคร่งเครียด “เหลวไหล!”
ซินโย่วมองเขาด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
สาวน้อยสีหน้านิ่งสงบและแววตานิ่งเรียบยิ่งกว่าเดิม ทำเอาสีหน้าเข้มงวดของรองเจ้ากรมต้วนที่พยายามระงับโทสะไร้ที่ระบาย
รองเจ้ากรมต้วนพลันรู้สึกย่ำแย่ถึงสุดขีด พยายามฝืนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลง “ชิงชิง แม้ว่าเจ้าได้วัยปักปิ่นแล้ว แต่อย่างไรอายุก็ยังน้อย เงินทองมากมายเช่นนั้นจะจัดการอย่างไร จะจัดเก็บอย่างไร ไม่ใช่เรื่องง่ายดังที่เจ้าคิด ฟังคำท่านยายดีกว่า รอให้เจ้าออกเรือนค่อยว่ากัน”
เด็กคนนี้ละโมบเกินไปแล้ว
อย่างไรท่านแม่ก็มองการณ์ไกล ควรให้เฉินเอ๋อร์แต่งกับนาง น่าแค้นใจนักที่เฉียวซื่อมองการณ์แคบและยังละโมบ จนเกิดเป็นเรื่องเช่นตอนนี้
เห็นซินโย่วขมวดคิ้ว รองเจ้ากรมต้วนก็กระหนาบอีกที “หรือว่าแม้แต่ท่านยายเจ้า เจ้าก็ไม่เชื่อถือ”
“ท่านลุงเข้าใจผิดแล้ว ข้ากำลังเจรจากับท่านเจ้าค่ะ”
“เจรจาอันใด”
“ท่านว่าข้ายังเด็ก ไม่อาจดูแลสมบัติ ท่านลุงลืมไปหรือไม่ การค้าร้านหนังสือชิงซงรุ่งเรืองเพียงนี้ ระยะนี้กล่าวว่าเงินทองไหลมาเทมาก็ไม่ผิด ชิงชิงจัดการได้ไม่ดีหรือ”
“เจ้า…” รองเจ้ากรมต้วนอยากบอกว่านั่นเป็นเพราะพวกผู้ดูแลร้านช่วยเหลือ แต่พอสบสายตาเย็นเยียบของสาวน้อยก็ได้แต่กลืนคำพูดนี้ลงท้องไป
เขามองออกว่า เด็กสาวผู้นี้ต้องการนำสมบัติกลับคืนไปอย่างแน่วแน่และไม่เปลี่ยนใจแล้ว
รองเจ้ากรมต้วนนั่งตัวตรงขึ้นด้วยสัญชาตญาณทันที น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นราบเรียบ “ชิงชิง ในเมื่อเจ้าคิดจัดการดูแลสมบัติบิดามารดาเจ้าในตอนนี้ เช่นนั้นก็กลับไปถามความเห็นท่านยายเจ้า ลุงไม่ได้แตะต้องเงินกองนี้ เจ้ามาหาลุง ลุงคงได้แต่ทำให้เจ้าผิดหวังแล้ว”
รองเจ้ากรมต้วนน้ำเสียงแปรเปลี่ยนทำให้ซินโย่วรู้สึกอยากจะหัวเราะ
ในที่สุดก็กระชากผ้าที่ปิดบังความน่าอายออกได้ชั้นหนึ่งแล้ว
นางยื่นมือไปยกกาน้ำชาขึ้น รินน้ำชาให้รองเจ้ากรมต้วนแก้วหนึ่งด้วยตนเอง น้ำชาที่เหลือครึ่งแก้วถูกเติมจนเต็ม ใบชาคลี่ใบลอยอยู่กลางน้ำ
รองเจ้ากรมต้วนไม่ขยับ รอซินโย่วเอ่ยปาก
“ท่านยายอายุมากแล้ว ชิงชิงกลัวว่าตรงเข้าไปขอ ท่านยายก็จะเข้าใจข้าผิดเหมือนท่านลุง ว่าข้าไม่เชื่อใจนาง เกิดโมโหขึ้นมาแล้วเป็นอันใดไปจะทำอย่างไรเจ้าคะ”
รองเจ้ากรมต้วนแค่นเยาะ “ในเมื่อเจ้ารักท่านยาย ก็ไม่ควรมาขอสิ่งที่ไม่ควรขอ ท่านแม่เจ้าเป็นน้องสาวเพียงคนเดียวของลุง บุตรสาวคนเดียวของท่านยายเจ้า และเจ้าก็คือเลือดเนื้อเชื้อไขหนึ่งเดียวของท่านแม่เจ้า หรือว่าพวกข้าจะละโมบสมบัติที่ท่านพ่อท่านแม่เจ้าทิ้งไว้เสียให้ได้กัน”
ซินโย่วเหลือบตาขึ้นมอง
ดวงตานางโตมาก แต่กลับไม่ใช่แบบกลมโต เป็นแบบเรียวยาวและหางตาเชิดขึ้น เปลือกตาบางสองชั้นงดงาม แต่ยามมองด้วยสายตาเย็นเยียบแล้ว ก็สูงส่งจนทำให้ผู้คนไม่กล้าเสียมารยาท
รองเจ้ากรมต้วนสะอึกในใจ แอบด่าตนเองว่าเห็นผีเข้าแล้ว
ล้วนต้องโทษคนปากเปราะที่เอ่ยว่าเด็กสาวผู้นี้หน้าตาละม้ายคล้ายองค์หญิงใหญ่เจาหยาง เมื่อครู่เขาเห็นก็ตกใจ ถึงกับรู้สึกว่าเหมือนฮ่องเต้ยิ่งกว่า!
ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้เป็นปฐมฮ่องเต้ก่อตั้งแผ่นดิน ราชวงศ์ต้าซย่าตั้งขึ้นมาได้เพราะผลงานสำเร็จกรำศึกของพระองค์กับบรรดาขุนพลชื่อเสียงโด่งดังเหล่านั้น ไม่ใช่ได้มาโดยบังเอิญ หากราชวงศ์ต้าซย่าดำรงต่อไปอีกหลายร้อยปี ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ก็คือฮ่องเต้วีรบุรุษสงครามสูงสุดแห่งราชวงศ์ต้าซย่า
จากสามัญชนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งโอรสสวรรค์ทีละก้าว บางทีฮ่องเต้ซิงหยวนตี้อาจมีหลายสิ่งไม่เพียบพร้อม แต่มีเรื่องหนึ่งที่ไม่ต้องสงสัย เขาดำรงบารมีสูงสุดในท่ามกลางขุนนางบุ๋นและบู๊
ในความคิดรองเจ้ากรมต้วนไม่เคยมีความคิดว่าหลานสาวจะหน้าตาเหมือนฮ่องเต้อันเป็นความคิดลบหลู่เบื้องสูง
เขาดื่มน้ำชาติดกันหลายอึก ขจัดความตกใจกลัว
“ท่านลุงอย่าได้คิดมาก ข้าไม่ได้บอกว่าพวกท่านละโมบในสมบัติข้า แต่ข้ายังไม่คิดออกเรือนในตอนนี้ และก็มีความสามารถดูแลทรัพย์สมบัติตนเองได้แล้ว เหตุใดไม่อาจนำสมบัติกลับมาอยู่ในมือตนเองในตอนนี้ได้” รอยยิ้มเยาะมุมปากซินโย่วแวบขึ้นมาแล้วก็จางหายไป ประเมินมองสีหน้ารองเจ้ากรมต้วน “ข้าตรงไปขอท่านยาย ท่านยายอาจเข้าใจผิด ท่านลุงช่วยข้าไปพูด ย่อมไม่มีปัญหาเจ้าค่ะ”
รองเจ้ากรมต้วนเพียงแค่รู้สึกน่าขัน “เรื่องของเจ้า ลุงไม่อาจข้องเกี่ยว”
เขาไม่เชื่อว่าเด็กสาวผู้นี้จะกล้าไปขอเงินท่านแม่เขาด้วยท่าทีแข็งกร้าว
นั่นไม่ใช่แค่ไม่กี่หมื่นตำลึงนะ
ซินโย่วยิ้มเอ่ยว่า “ท่านลุงไม่กลัวเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าจวนรองเจ้ากรมละโมบในทรัพย์สินข้าหรือ”
รองเจ้ากรมต้วนสีหน้าเคร่งเครียดทันที “ชิงชิง เจ้ากล้าเอ่ยเช่นนี้หรือ”
หากคำพูดก่อนหน้านี้เป็นเพราะเติบโตขึ้น คิดละโมบมากขึ้น รู้ประโยชน์ของทรัพย์สินเงินทองมากขึ้น แต่คำพูดตอนนี้เห็นได้ชัดว่าสะบั้นสัมพันธ์แล้ว
รองเจ้ากรมต้วนระงับโทสะในใจลง แอบครุ่นคิดว่าซินโย่วเลือกสะบั้นสัมพันธ์เพราะมีที่พึ่งใด “ก่อนหน้านี้มีข่าวลือซุบซิบกัน ต่อมาผู้คนรู้ว่าเข้าใจผิด ก็เลิกรากันไปแล้วไม่ใช่หรือ ชิงชิงเปิดร้านหนังสือ ทางบ้านก็ให้การสนับสนุน เจ้าจะต้องมีเรื่องกับทางบ้านให้ได้หรือไร”
จะว่าไปแล้ว โชดดีที่เด็กสาวผู้นี้จะเปิดร้านหนังสือให้ได้ ทำให้ผู้คนได้เห็นว่าจวนรองเจ้ากรมตามใจนาง และยังมีการแอบชี้นำของจวนรองเจ้ากรม จึงได้สยบข่าวลือพวกนั้นลงได้
“ใช่แล้ว ร้านหนังสือ” ซินโย่วคล้ายได้สติขึ้นมา นำกล่องที่นำมาวางบนโต๊ะที่คั่นกลางระหว่างทั้งสองคน “นี่คือต้นฉบับนิยายใหม่ ท่านลุงสนใจอ่านหรือไม่เจ้าคะ”
รองเจ้ากรมต้วนขมวดคิ้ว มองดูสาวน้อยยิ้มละไมพร้อมกับยื่นมือไปเปิดกล่องออก ในกล่องมีหนังสือที่ยังไม่มีหน้าปกวางอยู่ ไม่มีชื่อเรื่อง
รองเจ้ากรมต้วนจ้องมองครู่หนึ่งก็หยิบต้นฉบับออกมาอ่านทีละหน้า