สืบแค้นคุณหนูสวมรอย - ตอนที่ 195 ยุ่งเรื่องผู้อื่น
ตอนที่ 195 ยุ่งเรื่องผู้อื่น
ยามนี้ทุกคนในจวนรองเจ้ากรมกำลังยุ่งกับงานปีใหม่ จูซื่อนายหญิงบ้านสองดูแลจวนยุ่งจนไม่มีเวลาพัก
ต้วนอวิ๋นเยี่ยนพาสาวใช้คนหนึ่งเดินเล่นมาถึงเวทีงิ้ว
บนพุ่มไม้มีหิมะสุมเต็ม นกยูงสองตัวกระโดดไปมา
ต้วนอวิ๋นเยี่ยนเข้ามาถึง นกยูงสองตัวก็กระพือปีกบินไปเกาะกิ่งไม้สูง
“สวี่อิง เจ้าไปเอาเมล็ดธัญพืชมาหน่อย”
“คุณหนูจะเลี้ยงนกยูงหรือเจ้าคะ” สวี่อิงยิ้มพลางถาม
“อืม รีบไปสิ”
“คุณหนูอย่าได้วิ่งไปที่อื่น รอบ่าวอยู่ตรงนี้นะเจ้าคะ” สวี่อิงกำชับก่อนจะรีบไป
ไม่มีสาวใช้ข้างกาย รอบกายไม่มีผู้คน ต้วนอวิ๋นเยี่ยนกวักมือเรียกนกยูง ปากก็เลียนเสียงนก “กรูๆ กรูๆ…”
หลังจูซื่อดูแลจวน ทุกคนในจวนต่างมีท่าทีให้ความเคารพต่อคุณหนูสี่มากขึ้น ต้วนอวิ๋นเยี่ยนก็รู้สึกผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด
เด็กหญิงในชุดเสื้อตัวสั้นและกระโปรงสีแดง ใบหน้าแดงระเรื่อแลดูสุขภาพดี ทั้งน่ารักไร้เดียงสา
ความน่ารักไร้เดียงสานี้เสียดแทงนัยน์ตาของต้วนอวิ๋นหวามาก
“กรูๆ ลงมาเร็ว ป้อนอาหารเจ้า…”
“หนวกหูจริง” ต้วนอวิ๋นหวาสีหน้าแสยะบิดเบี้ยว ก้มลงเก็บก้อนหินบนพื้นขึ้นมา
“เจ้าทำอันใด”
เสียงตวาดดังขึ้น พร้อมกับได้ต้วนอวิ๋นเยี่ยนที่ได้ยินเสียงก็หันมองมา พอเห็นซินโย่วคว้าข้อมือต้วน อวิ๋นหวา ก้อนหินก้อนหนึ่งตกลงบนพื้น
“ปล่อยนะ!” ต้วนอวิ๋นหวาตวาดใส่ซินโย่วด้วยสีหน้าดุดัน ในใจทั้งแตกตื่นและนึกเสียใจที่ได้คิดกระทำลงไป
นางเป็นอันใดไปหรือ เมื่อครู่กำลังทำอันใด
นางเพียงแค่ไม่ชอบต้วนอวิ๋นเยี่ยนเสียงดังหนวกหู คิดให้นางหุบปาก…
ไม่นานก่อนหน้านี้ ตอนบรรดารุ่นเยาว์คารวะอวยพรปีใหม่ผู้อาวุโส ซินโย่วก็เห็นภาพใหม่ที่เกี่ยวข้องกับต้วนอวิ๋นเยี่ยน
เด็กหญิงในชุดแดงเงยหน้ามองนกยูง รอยยิ้มหวานสดใส แต่ไม่นานก็มีก้อนหินปามา ตรงเข้าที่ขมับนางพอดี
ภาพสุดท้ายก็คือต้วนอวิ๋นเยี่ยนล้มหงายหลังพร้อมโลหิตสดไหลนองพื้นหิมะ
ในภาพที่เห็นไม่เห็นเงาคนร้าย ไม่อาจประเมินได้ว่าก้อนหินขว้างมาจากมือผู้ใด
แต่ไม่นานซินโย่วก็มั่นใจว่าในภาพที่เห็นต้วนอวิ๋นเยี่ยนสวมชุดนี้ เหตุเกิดในวันนี้
ไม่มีเวลาพอจะสืบหาว่าผู้ใดมีความแค้นต่อต้วนอวิ๋นเยี่ยนเช่นนี้ นางได้แต่แอบสังเกตการเคลื่อนไหวของต้วนอวิ๋นเยี่ยนแทน ตอนต้วนอวิ๋นเยี่ยนหยุดตรงนี้ก็ตรงกับภาพที่เห็น ตามทิศทางที่ก้อนหินขว้างมาก็มองไปพบต้วนอวิ๋นหวา
ชั่วขณะหนึ่ง ซินโย่วแทบไม่อยากจะเชื่อ
“พี่หวา พี่ชิง พวกท่านกำลังทำอันใดอยู่” ต้วนอวิ๋นเยี่ยนเดินเข้ามาถามอย่างอยากรู้
“ไม่มีอันใด…”
ซินโย่วเอ่ยขัดคำพูดต้วนอวิ๋นหวาอย่างไม่เกรงใจ “เมื่อครู่นางคิดปาก้อนหินใส่เจ้า”
ต้วนอวิ๋นเยี่ยนก้มหน้ามองก้อนหินบนพื้น แล้วก็มองต้วนอวิ๋นหวาอย่างตกใจ “พี่หวา…”
ยามนี้ต้วนอวิ๋นหวาปฏิกิริยาไวมาก “น้องเยี่ยนอย่าไปฟังนางพูดจาเหลวไหล พวกเราไม่เคยทะเลาะกัน ข้าจะปาเจ้าทำไมกัน”
ต้วนอวิ๋นเยี่ยนแม้อายุน้อย แต่มิได้หลอกง่าย “เช่นนั้นพี่หวาถือก้อนหินไว้ทำไมกัน เมื่อครู่ข้าเห็นพี่ชิงคว้ามือท่านไว้ ก้อนหินจึงได้กระเด็นออกมา”
สีหน้าต้วนอวิ๋นหวาแปรเปลี่ยนเล็กน้อย “ข้าเห็นเจ้าเอาแต่ตะโกนเรียกนกยูงบนต้นไม้ คิดช่วยเจ้าไล่นกยูงลงมา น้องเยี่ยน เจ้าคงไม่ได้เชื่อวาจาเหลวไหลของโค่วชิงชิงกระมัง”
ต้วนอวิ๋นเยี่ยนเม้มปาก
ความจริงนางเห็นเพียงก้อนหินบนพื้น ไม่เห็นพี่หวาถือก้อนหิน
“คุณหนู…” สวี่อิงที่ไปนำเมล็ดธัญพืชกลับมา เห็นซินโย่วกับต้วนอวิ๋นหวาก็มองอย่างนึกสงสัย
ต้วนอวิ๋นเยี่ยนมองต้วนอวิ๋นหวาแล้วก็มองซินโย่ว ก่อนดึงมือสวี่อิง “ข้าไม่เล่นแล้ว ข้าจะกลับไปหาท่านแม่”
ต้วนอวิ๋นหวาได้ยินก็โมโห “น้องเยี่ยน เจ้าหมายความว่าอย่างไร เจ้าเชื่อคำพูดโค่วชิงชิง คิดว่าข้าจะปาก้อนหินใส่เจ้าจริงหรือ”
สวี่อิงเบิกตากว้าง
ปาก้อนหินใส่คุณหนู? เมื่อครู่ตอนนางไม่อยู่ แท้จริงเกิดเรื่องอันใดขึ้น
ต้วนอวิ๋นเยี่ยนเอียงหน้าเล็กน้อยไปกล่าวว่า “เปล่านะ”
“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขอบคุณโค่วชิงชิง”
หนูน้อยมองต้วนอวิ๋นหวา ค่อยๆ เอ่ยว่า “แม้พี่หวาใช้ก้อนหินไล่นกยูง ก็อาจโดนถูกข้าด้วย ดังนั้นข้าต้องขอบคุณพี่ชิง สวี่อิง พวกเราไปกันเถอะ”
มองต้วนอวิ๋นเยี่ยนพาสาวใช้เดินจากไปไกลแล้ว ต้วนอวิ๋นหวาก็มองไปทางซินโย่วอย่างโกรธแค้น “โค่วชิงชิง เจ้ามีหลักฐานอันใดว่าข้าจะปาใส่น้องเยี่ยน ข้าปาก้อนหินออกไปหรือยัง”
ต้วนอวิ๋นหวาสีหน้าบิดเบี้ยว ทำให้ซินโย่วส่ายหน้า “ข้าเพียงแค่เห็นแล้วก็บอกน้องเยี่ยน ส่วนน้องเยี่ยนจะเชื่อหรือไม่ เจ้าจะยอมรับได้หรือไม่ ก็เป็นเรื่องของพวกเจ้าแล้ว”
ปฏิกิริยาต้วนอวิ๋นเยี่ยนทำให้ซินโย่วรู้สึกว่า ‘การยุ่งเรื่องผู้อื่น’ ครั้งนี้คุ้มค่ามาก
“เจ้าจงใจทำลายชื่อเสียงข้า!”
“หากเจ้าคิดเช่นนี้ พวกเราก็ไปพบท่านยายด้วยกัน”
“ผู้ใดมีเวลามามีเรื่องกับเจ้า” ต้วนอวิ๋นหวาแค่นเสียงใส่แล้วก็รีบเดินจากไป
แม้โค่วชิงชิงพูดจาไร้หลักฐาน แต่หากแพร่ออกไป คนคิดอย่างไรก็ล้วนกล่าวได้ยาก ไม่เป็นผลดีต่อนาง
ตอนต้วนอวิ๋นเยี่ยนมาหานายหญิงบ้านสอง จูซื่อกำลังต้อนรับคนจากจวนกู้ชางป๋อ
บางทีอาจเพราะจวนรองเจ้ากรมเชื่อมสัมพันธ์กับจวนกู้ชางป๋อ คนมาอวยพรปีใหม่จึงมากกว่าปีก่อน ไม่น้อย คนที่ปกติไม่เคยได้ไปมาหาสู่ก็ส่งบ่าวนำเทียบอวยพรมา
เห็นมารดายุ่งจนหัวหมุน ต้วนอวิ๋นเยี่ยนก็รอคอยเงียบๆ อย่างว่านอนสอนง่าย
พอจูซื่อมีเวลาว่างก็หันมาถามบุตรสาว “เยี่ยนเอ๋อร์ ทำไมไม่ออกไปเล่น”
“ท่านแม่ ข้ามีเรื่องอยากคุยกับท่านแม่เจ้าค่ะ”
เห็นบุตรสาวสีหน้าจริงจัง จูซื่อก็อดยิ้มไม่ได้ “เรื่องอันใดหรือ”
“เมื่อครู่ข้าอยู่ในสวนเห็นนกบนต้นไม้ พี่หวาถือก้อนหินขึ้นมา พี่ชิงเข้ามาขวางไว้ พี่หวาบอกว่านางคิดช่วยข้าไล่นกยูงลงมา พี่ชิงว่าพี่หวาคิดปาใส่ข้า…”
สีหน้าจูซื่อพลันแปรเปลี่ยน “บาดเจ็บหรือไม่”
“ไม่เจ้าค่ะ ก้อนหินตกลงพื้น”
“แท้จริงเกิดเรื่องอันใดขึ้น เจ้ามองละเอียดแล้วหรือ”
ต้วนอวิ๋นเยี่ยนส่ายหน้า “ข้าไม่เห็น ท่านแม่เคยสอนว่า หากเรื่องใดไม่แน่ใจอย่าได้มีเรื่องโต้เถียงกับผู้อื่นง่ายๆ ข้าจึงได้กลับมาหาท่านแม่ก่อน”
“เยี่ยนเอ๋อร์ทำได้ถูกต้องแล้ว” จูซื่อลูบศีรษะบุตรสาว พยายามระงับโทสะทำงานให้เสร็จก่อนไปเรือนหว่านฉิง
ซินโย่วคาดไว้แล้วว่าจูซื่อจะมา
“ท่านป้ารอง”
“ชิงชิง เจ้าเป็นคนฉลาด ป้ารองขอกล่าวตามตรง คุณหนูรองหยิบก้อนหิน แท้จริงคิดทำอันใด”
ซินโย่วเองก็มิได้คิดปิดบัง “ตอนข้าเดินเล่นในสวน พอดีได้พบกับพวกนาง ตอนนั้นต้วนอวิ๋นหวาสีหน้าคับแค้นถือก้อนหินในมือ ไม่เหมือนจะปาใส่นกยูง ข้ามีเรื่องกับต้วนอวิ๋นหวามาก่อน คำพูดนี้อาจยากจะทำให้คนเชื่อ และก็คงไม่มีเรื่องไปถึงท่านยาย เชื่อหรือไม่ ท่านป้ารองตัดสินใจด้วยตนเอง”
“ข้าเชื่อ…” จูซื่อแววตาเข้มขึ้น เอ่ยน้ำเสียงเบามาก “ข้าเชื่อ…”
นั่นคือบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนของนาง อย่าว่าแต่คุณหนูนอกเดิมก็เป็นคนฉลาดไว้ใจได้ แม้เป็นเพียงความเป็นไปได้ไม่มาก แต่นางก็ไม่กล้าละเลยความปลอดภัยของบุตรสาวนางแม้เพียงน้อยนิด
“น้องเยี่ยนเคยล่วงเกินต้วนอวิ๋นหวาหรือ” ซินโย่วถามความสงสัยในใจ
จูซื่อยิ้มตอบว่า “ชิงชิงเคยล่วงเกินป้าใหญ่หรือ”
ใจคนเราชั่วร้าย ทำเรื่องอันใดก็ไม่แปลก
จูซื่อกล่าวขอบคุณซินโย่วอีกครั้ง ก่อนจะจากไปด้วยสีหน้านิ่งสงบ