สืบแค้นคุณหนูสวมรอย - ตอนที่ 201 หาเรื่อง
ตอนที่ 201 หาเรื่อง
“คุณหนูโค่ว?” พอเห็นซินโย่วเงียบไป บ่าวรับใช้ในจวนอ๋องก็เอ่ยเร่ง
ซินโย่วตั้งสติตอบขออภัยไปว่า “ระยะนี้ได้พบท่านซงหลิงเพียงครั้งเดียว ท่านซงหลิงบอกว่าเขาจะไปจากเมืองหลวงแล้ว”
บ่าวรับใช้ในจวนอ๋องได้ยินว่าท่านซงหลิงไม่อยู่เมืองหลวง ก็มองแววตาซินโย่วด้วยสายตาค้นหาความจริง “นิยายที่ท่านซงหลิงเขียนเป็นที่นิยมอย่างมาก ทำกำไรและชื่อเสียงได้ เหตุใดจึงไปจากเมืองหลวง”
ซินโย่วเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบ“ข้าเองก็ไม่ทราบ ร้านหนังสือเรากับท่านซงหลิงร่วมมือกันเท่านั้น จะไม่ถามเรื่องส่วนตัวของท่านซงหลิง”
บ่าวรับใช้ในจวนอ๋องได้แต่กลับไปรายงานเช่นนี้
ไม่ได้พบท่านซงหลิง ชิ่งอ๋องหัวเสียไม่น้อย
แค่นักเขียนตัวเล็กๆ คนเดียว เขายังพบไม่ได้ เหตุใดพอเกี่ยวข้องกับคุณหนูโค่วล้วนไม่ราบรื่น
ชิ่งอ๋องระงับความหงุดหงิดลงชั่วคราว จากนี้ถัดไปยังต้องมีงานเลี้ยงอีกมาก อย่างไรก็ให้พ้นระยะนี้ไปก่อนค่อยไปร้านหนังสือชิงซง
ยามนี้ร้านหนังสือชิงซงเพิ่งเปิดประตูร้าน หลิวโจวกับสือโถวกำลังจัดชั้นหนังสือ ผู้ดูแลร้านหูนั่งตรวจสมุดบัญชี พอเห็นชิ่งอ๋องเข้ามาก็กระโดดผึงขึ้นทันที
“ข้าน้อย…”
ชิ่งอ๋องโบกมือหยุดผู้ดูแลร้านหูที่กำลังคำนับ “คุณหนูโค่วอยู่ไหม”
วันนี้เขาแต่งกายด้วยชุดแพรไหมธรรมดาไม่แสดงสถานะ สีหน้าท่าทางเหมือนไม่ยี่หระอันใดสักเท่าไร
ผู้ดูแลร้านหูไม่กล้ารอช้า รีบให้สือโถวไปเชิญซินโย่วออกมา
“หม่อมฉันถวายบังคมชิ่งอ๋อง”
ยามนี้ยังไม่มีลูกค้ามากัน ชิ่งอ๋องมองประเมินโถงร้านที่มีหนังสือวางเรียงแน่นทีหนึ่ง ก่อนจะถามขึ้นว่า“คุณหนูโค่วสามารถพาข้าไปชมโรงพิมพ์ได้หรือไม่”
“โรงพิมพ์คนงานวุ่นวาย หากทำให้ชิ่งอ๋องตกพระทัย หม่อมฉันคงมีโทษเพคะ”
ชิ่งอ๋องสีหน้าเย็นเยียบ “ข้าไม่ใช่คนอ่อนแอ ไปเขตภัยพิบัติติ้งเป่ยมาก็ไม่เป็นอันใด หรือว่าไปโรงพิมพ์จะเป็นอันใดได้”
พาชิ่งอ๋องไปชมโรงพิมพ์ไม่มีอันใด นางเพิ่งปฏิเสธอ้อมๆ ก็เพื่อลองเชิงดู
ชิ่งอ๋องมาไม่เป็นมิตรดังคาด
“เช่นนั้นเชิญชิ่งอ๋องตามหม่อมฉันมา” ซินโย่วย่อตัวลงเดินนำทาง
ชิ่งอ๋องพาองครักษ์สองนายตามไป
โรงพิมพ์ร้านหนังสือชิงซงใหญ่กว่าที่ชิ่งอ๋องคิดไว้มาก แม้ยังเช้าตรู่ก็มีคนงานมาทำงานกันไม่น้อยแล้ว
ช่างพิมพ์เหล่านี้พอเห็นซินโย่วก็พากันทักทาย เหลือบมองชิ่งอ๋องอย่างอยากรู้
ชิ่งอ๋องขมวดคิ้ว
เขามาเพราะท่านซงหลิง ไม่ได้สนใจการพิมพ์จริงๆ เสียหน่อย
เดินชมรอบหนึ่งแล้ว ชิ่งอ๋องก็หยุดลง “หลายวันก่อน ข้าอยากพบท่านซงหลิง เสียดายไม่ได้พบ วันนี้มาก็คิดถามคุณหนูโค่วสักหน่อยว่าท่านซงหลิงไปที่ใด จะกลับมาเมืองหลวงเมื่อใด”
“หม่อมฉันไม่ทราบเพคะ…” ซินโย่วยังคงกล่าวคำเดิม
ชิ่งอ๋องแค่นเยาะ “คุณหนูโค่วคิดว่าข้าเป็นเด็กสามขวบหรือ”
ซินโย่วมองอย่างไม่เข้าใจ
ชิ่งอ๋องยกมือชี้ “ร้านหนังสือเจ้าการค้ารุ่งเรืองได้เพียงนี้ ล้วนอาศัย ‘บันทึกตะวันตก’ นิยายท่านซงหลิงเห็นชัดว่ายังมีอีกแปดถึงสิบเล่มยังไม่ออก เจ้าจะปล่อยท่านซงหลิงไปง่ายๆ หรือ”
เผชิญหน้ากับการเค้นถามของชิ่งอ๋อง ซินโย่วนิ่งสงบอย่างมาก “ร้านเล็ก ๆ ของเราไม่อาจขาดนิยายใหม่ท่านซงหลิงไปได้จริงๆ โชคดีที่ท่านซงหลิงไตร่ตรองได้รอบคอบ ก่อนไปได้มอบต้นฉบับ ‘บันทึกตะวันตก’ทั้งหมดให้หม่อมฉันแล้ว”
ชิ่งอ๋องนิ่งอึ้งไปทันที “เจ้าหมายถึงต้นฉบับ ‘บันทึกตะวันตก’ ทั้งหมดหรือ”
“เพคะ หลังจากนี้ยังมีอีกแปดเล่ม ร้านเราวางแผนจะวางขายสักสองเดือนเล่มหนึ่ง เช่นนี้ภายในสองปีก็จะไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนิยายใหม่”
ชิ่งอ๋องมองซินโย่วลุ่มลึกทีหนึ่ง หัวเราะเอ่ยว่า “ข้าอ่าน ‘บันทึกตะวันตก’ เล่มสองแล้ว อยากรู้ว่าต่อไปจะเกิดเรื่องอันใดขึ้น ไม่ทราบว่าจะขอยืมต้นฉบับไปอ่านหน่อยได้หรือไม่”
เผชิญหน้ากับชิ่งอ๋องที่คาดเดาไม่ได้ ซินโย่วรีบยิ้มกล่าวว่า “‘บันทึกตะวันตก’ ได้รับความชื่นชมจากชิ่งอ๋อง ถือเป็นเกียรติของร้านเรา เสี่ยวเหลียน…”
“เจ้าค่ะ”
“ไปห้องหนังสือข้านำต้นฉบับ ‘บันทึกตะวันตก’ มา”
เสี่ยวเหลียนลังเลเล็กน้อยก่อนจะย่อกายรับคำ “เจ้าค่ะ”
ชิ่งอ๋องมองบ่าวที่ชื่อเสี่ยวเหลียนเดินออกไปรวดเร็ว แววตาก็นิ่งคิด
ต้นฉบับนิยายที่ยังไม่วางขายสำคัญต่อร้านหนังสือเพียงใด เขาเอ่ยขอเรื่องนี้ออกไป ก็เตรียมถูกปฏิเสธแล้ว
พอถูกปฏิเสธ ก็จะได้ถือโอกาสระเบิดอารมณ์
แต่คุณหนูโค่วรับปากอย่างไม่ลังเล ทำให้เขาไม่อาจเอาเรื่องได้
คิดถึงครั้งแรกที่มาร้านหนังสือชิงซงก็เป็นเช่นนี้ ชิ่งอ๋องนิ่งมองซินโย่วลุ่มลึกทีหนึ่ง
หญิงผู้นี้ช่างรู้หลบรู้หลีกเสียจริง ปรับเปลี่ยนฉับไว ไม่เหมือนเป็นคุณหนูอายุเพียงสิบกว่าจริงๆ
“คุณหนู ต้นฉบับมาแล้วเจ้าค่ะ” ผ่านไปไม่นาน เสี่ยวเหลียนก็ประคองกล่องหนึ่งกลับมา
ซินโย่วรับมากล่าวว่า “ชิ่งอ๋อง นี่คือต้นฉบับ ‘บันทึกตะวันตก’”
องครักษ์นายหนึ่งก้าวเข้ามารับกล่องไปเปิดออกทันที เห็นด้านในมีต้นฉบับนิยายซ้อนกันอยู่ตั้งหนึ่ง องครักษ์อีกคนก็หยิบต้นฉบับขึ้นมาตรวจสอบแล้วก็ประคองส่งให้ชิ่งอ๋อง
ซินโย่วมองดูด้วยสีหน้าเป็นปกติ เตือนตนเองอีกครั้งว่าอย่าได้ลงมือวู่วามต่อชิ่งอ๋อง
ชิ่งอ๋องผู้นี้ดูแล้วเหมือนแต่งกายปิดบังสถานะไม่คิดอันใด แต่แท้จริงแล้วรักชีวิตมาก
ชิ่งอ๋องไม่ได้รับไว้ แต่กวาดตามองต้นฉบับพลางยิ้มเอ่ยว่า “ลายมือท่านซงหลิงไม่เลว น่าจะเป็นบุคคลที่อิสระไม่ยึดติดสิ่งใด ไร้วาสนาได้พานพบน่าเสียดายยิ่ง”
ซินโย่วยิ้มละไม “ท่านซงหลิงบอกว่าจะมาเมืองหลวงอีก ชิ่งอ๋องต้องได้พบอย่างแน่นอน”
“วันนี้รบกวนคุณหนูโค่วแล้ว” ไม่อาจหาเรื่องได้แล้ว ชิ่งอ๋องก็ขี้เกียจจะอยู่ต่อ นำต้นฉบับจากไปอย่างสบายอารมณ์
มองดูรถม้าของชิ่งอ๋องหายลับไปแล้ว เสี่ยวเหลียนก็กังวลมาก เอ่ยว่า “คุณหนู ต้นฉบับตกอยู่ในมือชิ่งอ๋อง เกิดหลุดแพร่ออกไปจะทำเช่นไรเจ้าคะ”
เกิดร้านหนังสืออื่นได้ไป ก็จะเป็นการเสมือนตัดชุดแต่งงานให้ผู้อื่นได้ไป ร้านหนังสือชิงซงจะเสียหายหนัก
ซินโย่วหลุบตาลงจ้องมองพื้น
รอยแยกก้อนหินชิงจวนบนพื้น มีต้นหญ้าแทรกขึ้นมา ต้นเล็กอ่อนนุ่ม เป็นสีสันแห่งต้นฤดูใบไม้ผลิ
“หากหลุดแพร่ออกไปจริงก็ช่างเถอะ ไม่เป็นอันใด”
เสี่ยวเหลียนยอมรับไม่ได้ “แต่ว่า…”
“พวกเราไม่ขาดแคลนเงินทอง หากต้องล่วงเกินองค์ชายเพราะเรื่องนี้ก็ย่อมไม่จำเป็น” ซินโย่วพูดจบก็หันหลังเดินเข้าด้านใน
เสี่ยวเหลียนกัดริมฝีปากตามไปเงียบๆ
คุณหนูกล่าวได้ถูกต้อง แต่พอคิดถึงความลำบากที่คุณหนูอดทนเขียนมา ความทุ่มเทให้กิจการร้านหนังสือ ก็รู้สึกยอมรับไม่ได้จริงๆ
เป็นถึงองค์ชาย เหตุใดจึงทำเช่นนี้!
ซินโย่วกลับถึงเรือนตะวันออกก็เข้าไปในห้องหนังสือเป็นนานไม่ยอมออกมา
ชิ่งอ๋องกลับไปเริ่มอ่านต้นฉบับ พอได้อ่านก็จมดิ่งอย่างไม่อาจถอนตัว
เขาไม่ชอบคุณหนูโค่ว แต่ ‘บันทึกตะวันตก’ ก็สนุกจริง
ชิ่งอ๋องไม่ได้นอนติดกันสองคืน ในที่สุดก็อ่านจบ
“ท่านพี่ เป็นอันใดไปหรือ” ไต้เจ๋อมาเล่นกับชิ่งอ๋องถามขึ้นอย่างตกใจ
“ข้า…” ชิ่งอ๋องชะงักมองสีหน้าอยากรู้ของน้องชายทีหนึ่งก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา
‘บันทึกตะวันตก’ ยังไม่ออกสู่ตลาด หากหลุดแพร่ออกไป ย่อมเป็นการทำลายร้านหนังสือชิงซง ก็จะได้ล้างแค้นที่เขาเสียหน้าในวันเกิดเสด็จอาหญิง
แต่หากต้นฉบับแพร่ออกไปจากจวนชิ่งอ๋อง วันหน้าผู้คนเอ่ยถึงก็คงไม่ดี แต่หากเป็นไต้เจ๋อก็ว่าไปอย่าง น้องชายเขาคนนี้ไม่สนใจธรรมเนียมใด ก่อเรื่องอันใดขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ไต้เจ๋อรู้ว่าเขามีต้นฉบับ ‘บันทึกตะวันตก’ จะต้องร้องขอแน่ เจ้าเด็กนี่เก็บความลับไม่อยู่ หากขอไปแล้ว แพร่ออกไปก็ย่อมเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่างไม่ต้องสงสัย
ชิ่งอ๋องหาวทีหนึ่ง สีหน้าเหมือนง่วงนอน “อ่าน ‘บันทึกตะวันตก’ มา”
“‘บันทึกตะวันตก’ หนึ่งเล่มไม่เท่าไรกระมัง จำนวนหน้าไม่มากนี่”
ชิ่งอ๋องเหล่มองไต้เจ๋อทีหนึ่ง “หนึ่งเล่มไม่มาก หากมีสิบเล่มเล่า”