สืบแค้นคุณหนูสวมรอย - ตอนที่ 218 ได้พิสูจน์ความจริง
ตอนที่ 218 ได้พิสูจน์ความจริง
คำพูดต้วนอวิ๋นเฉินทำให้เสี่ยวเหลียนเคร่งเครียดอย่างมาก แต่ซินโย่วกลับสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน
“คนเราย่อมเปลี่ยนแปลงได้ โดยเฉพาะหลังผ่านเรื่องเลวร้ายมา” นางมองชายหนุ่มที่กำลังกรึ่มด้วยฤทธิ์สุรา มุมปากยิ้มเยาะ “หรือพี่ใหญ่คาดหวังให้ข้าไม่เปลี่ยน พี่ใหญ่เช่นนี้ข้าเองก็รู้สึกว่าไม่เหมือนเมื่อก่อน”
เริ่มต้นยังกลัวว่าคนตระกูลต้วนจะรู้สึกว่านางไม่ใช่โค่วชิงชิง ผ่านมานานเพียงนี้ก็ไม่กลัวแล้ว
ต้วนอวิ๋นเฉินไม่ได้โง่เขลา ย่อมฟังวาจาเสียดสีนี้ออก เขาหวังให้เด็กสาวชื่นชอบเขาไม่คลาย
อย่างไรเขาก็ยังรักหน้าตา ลมค่ำคืนเย็นเล็กน้อยพัดโชยมา ทำให้อาการเมาสุราจางลงไม่น้อย เอ่ยอำลาอย่างเก้กังแล้วก็รีบหันหลังกลับโดยไม่คิดเหลียวหลังอีก
เสี่ยวเหลียนสบถใส่ทิศทางที่ต้วนอวิ๋นเฉินจากไป “คนอันใดกันนี่!”
เห็นอยู่ว่าไม่ได้ชอบคุณหนู พอพบว่าคุณหนูเย็นชาต่อเขา กลับรู้สึกว่าไม่ถูกต้องอย่างนั้นหรือ ช่างหน้าไม่อายจริง
“ไม่จำเป็นต้องให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องมาทำให้อารมณ์ขุ่นข้อง กลับห้องกัน”
“เจ้าค่ะ” สาวใช้ก้าวตามซินโย่วกลับเรือนตะวันออก
ยามนี้ชิ่งอ๋องเพิ่งออกจากจวนกู้ชางป๋อกลับถึงจวนชิ่งอ๋อง
ศพกู้ชางป๋อยังตั้งอยู่ ชิ่งอ๋องในฐานะหลานชายแท้ๆ เพียงคนเดียว แม้เป็นถึงองค์ชายสูงศักดิ์ ก็ควรต้องไปร่วมงานให้คนเห็นหน้าทุกวันจึงจะสมควร
ขณะเดินกลับเรือน อารมณ์ชิ่งอ๋องก็ขุ่นข้อง
ตั้งแต่ท่านลุงเกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ เขายังไม่ได้เข้าเฝ้าเสด็จพ่อเลย เดาพระทัยเสด็จพ่อไม่ออกจริงๆ กองกำลังองครักษ์จิ่นหลินกำลังสืบเรื่องอันใดอยู่กันแน่ เกี่ยวข้องกับการตายของท่านลุงหรือไม่
ปัญหามากมายดังก้อนหินกดทับหัวใจจนหนักอึ้ง
ลมค่ำคืนในเดือนสามนำพาละอองไอจากทะเลสาบพัดกระทบเสื้อผ้าของผู้คนให้รู้สึกเย็นสบาย ชิ่งอ๋องก้าวเดินไปยังทะเลสาบจำลองด้วยสัญชาตญาณ
ริมทะเสสาบมีนกกระเรียนขาวพลันกระพือปีก ทำให้ผิวน้ำกระเพื่อม
ชิ่งอ๋องชะงักฝีเท้าหันไปมองคลื่นน้ำสะท้อนงดงาม พลันนึกถึงที่ซินโย่วให้เขาระวังเรื่องน้ำ
แม้ว่ารู้สึกว่าเหลวไหล แต่ก็ยากจะไม่เกิดความรู้สึกระวัง ชิ่งอ๋องกลับเรือนหลักด้วยสีหน้าบึ้งตึง
ห้องอาบน้ำยามค่ำคืนไอร้อนกำจาย ชิ่งอ๋องแช่น้ำคลายความเหนื่อยล้าแล้วก็ลุกขึ้นยืนในถังน้ำ สาวใช้เช็ดตัวให้สะอาดแล้วก็ก้าวออกมา ขณะที่เท้าแตะพื้น ก็รู้สึกเจ็บที่น่อง ยังไม่ทันตั้งสติก็หกล้มไปบนพื้นแล้ว
“ท่านอ๋อง!” สาวใช้ที่ไม่ทันได้เข้าไปประคองลงคุกเข่าอย่างตกใจ
สาวใช้ที่รับหน้าที่เช็ดตัวกับเปลี่ยนเสื้อผ้าตกใจพากันลงคุกเข่าทันที
ชิ่งอ๋องมือหนึ่งยันพื้นพลันรู้สึกเจ็บปลายที่ข้อเท้า ทั้งโมโหทั้งเจ็บประดังเข้ามาทำเอาสีหน้าบิดเบี้ยว “พวกขยะ ยังไม่ประคองข้าขึ้นอีก!”
บรรดาสาวใช้คล้ายตื่นจากฝัน รีบเข้าไปประคองชิ่งอ๋องขึ้นมา
ชิ่งอ๋องเปลี่ยนชุดตัวในสะอาดแล้วก็นั่งลงบนเตียง ให้หมอที่ถูกตามมาเร่งด่วนนวดกระจายอาการเท้าแพลงอยู่ กลิ่นยาเบาบางลอยมากระทบ พลันนึกถึงคำพูดของซินโย่วขึ้นมา
ได้รับบาดเจ็บเพราะน้ำ…ก็คือที่นี่?
ปฏิกิริยาแรกของชิ่งอ๋องก็คือรู้สึกบังเอิญ แต่พอคิดมากอีกนิด สีหน้าก็ค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้น
ไม่เคยประสบเหตุลื่นล้มหลังอาบน้ำพวกนี้ แต่กลับเกิดขึ้นในวันนี้ ยังเท้าแพลงอีก…หรือว่าที่น้องชายเขาพูดมาเป็นเรื่องจริง คุณหนูโค่วรู้เหตุดีร้ายผ่านการมองใบหน้าคนคนหนึ่งได้
ชิ่งอ๋องครุ่นคิด ยิ่งครุ่นคิดก็ยิ่งเชื่อ พอเชื่อแล้วก็ยิ่งรู้สึกอยากพบคุณหนูโค่วจนแทบทนรอไม่ไหว
“ซี๊ด…” ความเจ็บกระชากอารมณ์ชิ่งอ๋องกลับคืนมา
การรักษาเพื่อให้เลือดลมเดินย่อมเจ็บเป็นธรรมดา แต่หมอกลับรีบขอรับโทษ
ชิ่งอ๋องไม่ได้เอาผิด เพียงแค่ถามขึ้นว่า “เท้าเราพรุ่งนี้จะหายได้หรือไม่”
หมอแอบนึกแปลกใจที่ชิ่งอ๋องถึงกับไม่เอาโทษ ก็เอ่ยว่า “องค์ชายเท้าแพลงไม่นับว่ารุนแรง แต่หากคิดจะหายเป็นปกติ อย่างน้อยต้องพักผ่อนสามวันพ่ะย่ะค่ะ”
“เช่นนั้นพรุ่งนี้ก็ออกไปข้างนอกไม่ได้” ชิ่งอ๋องสีหน้ากลัดกลุ้ม แต่ไม่ได้ทำให้หมอลำบากใจ โบกมือให้เขาออกไป
คืนนี้ชิ่งอ๋องนอนหลับไม่สนิท เช้าวันต่อมาก็ส่งบ่าวรับใช้ไปร้านหนังสือชิงซง
ในเมื่อคุณหนูโค่วมีวิชานรลักษณ์ลึกล้ำเพียงนี้ เช่นนี้ก็มองเห็นว่าเรื่องของท่านลุงจะส่งผลดีหรือร้ายต่อเขาได้ใช่หรือไม่
“ชิ่งอ๋องเชิญข้าไปจวนอ๋อง?” ได้ยินบ่าวรับใช้ในจวนอ๋องเอ่ยถึงจุดประสงค์ที่มา ซินโย่วก็เข้าใจว่าเรื่องที่นางเห็นในภาพเกิดขึ้นแล้ว
เรื่องเท้าแพลงเล็กน้อยแค่นี้ นาง ‘มองเห็น’ เรื่องราวเหล่านี้จากผู้คนมากมายไม่รู้กี่ครั้ง ส่วนใหญ่เลือกที่จะนิ่งเงียบ แต่เพื่อทำให้ชิ่งอ๋องเชื่อนาง ได้แต่กล่าวออกไป คิดไม่ถึงวันนี้ก็ได้พิสูจน์ความจริงแล้ว
ซินโย่วคาดเดาเช่นนี้แล้ว ก็ยิ่งต้องสงบอารมณ์ลง ยิ้มขออภัยบ่าวรับใช้ในจวนอ๋องว่า “ขออภัย เกรงว่าข้าไม่สะดวกไป”
บ่าวรับใช้ในจวนอ๋องรับถามสาเหตุ
ซินโย่วเอ่ยตามตรง “ข้าเป็นเจ้าของร้านหนังสือ ช่วยแบ่งเบาความทุกข์ของลูกค้าเป็นเรื่องสมควร แต่อย่างไรข้าก็เป็นหญิงสาว หากอยู่ๆ ไปเยือนจวนชิ่งอ๋อง เกิดแพร่ออกไป ชื่อเสียงของข้าก็คงไม่เท่าไร แต่หากทำให้ความองอาจผ่าเผยของชิ่งอ๋องมัวหมอง แม้ตายหมื่นครั้งก็ยากชดใช้ความผิด”
บ่าวเชิญนางไปไม่ได้ พอกลับถึงจวนอ๋องก็รายงานคำพูดซินโย่วต่อชิ่งอ๋อง
หากเป็นก่อนหน้านี้ ชิ่งอ๋องก็จะโมโหเดือดดาล แต่ตอนนี้เชื่อในวิชานรลักษณ์ของคุณหนูโค่วเจ็ดแปดส่วนแล้ว ย่อมไม่เหมือนเดิมที่เคยเป็นมา
“เชิญคุณหนูโค่วไปดื่มน้ำชาที่ร้านน้ำชาไม่ไกลจากจวนอ๋อง”
ซินโย่วได้รับเชิญอีกครั้ง ก็มิได้ปฏิเสธ
ร้านน้ำชาห่างจากจวนจวนชิ่งอ๋องไม่ไกล ตกแต่งประณีตหรูหรา ใช้สำหรับรับรองแขกสูงศักดิ์ มีห้องรับรองหนึ่งไว้เพื่อชิ่งอ๋องโดยเฉพาะ
ตอนซินโย่วมาถึง ชิ่งอ๋องก็รออยู่ก่อนแล้ว
“ถวายบังคมชิ่งอ๋อง”
“คุณหนูโค่วไม่ต้องมากพิธี” ชิ่งอ๋องแสดงท่าทางบอกให้บ่าวออกไปรอด้านนอก เหลือบ่าวในห้องรับรองคนเดียว
ตอนนี้ขาเขาไม่สะดวก รอบคอบไว้ก่อน ไม่มีทางประมาทว่าผู้ชายได้เปรียบที่เรี่ยวแรงมากกว่า
นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ชิ่งอ๋องก็เอ่ยว่า “เมื่อวาน…ข้าเท้าแพลง”
ซินโย่วเอ่ยแสดงความห่วงใยตามมารยาท
“คุณหนูโค่วรู้ว่าเหตุใดข้าจึงเท้าแพลงไหม” ชิ่งอ๋องถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ
ซินโย่วตอบด้วยสีหน้านิ่งสงบ “หลังอาบน้ำทรงลื่นล้มเท้าแพลงเพคะ”
แววตาค้นหาความจริงของชิ่งอ๋องพลันจางหายไป จากที่เชื่อเพียงเจ็ดแปดส่วนก็เป็นสิบส่วนเต็ม
เขาลื่นล้มเมื่อคืนวานนี้เป็นเรื่องบังเอิญ คุณหนูโค่วไม่มีทางซื้อตัวคนในจวนอ๋องได้ มีเพียงคำตอบเดียว นอกจากเชี่ยวชาญวิชานรลักษณ์จริง ไม่มีทางมีสาเหตุอื่น
“คุณหนูโค่ว ข้าอยากขอคำแนะนำสักเรื่องหนึ่ง” ชิ่งอ๋องก้มตัวลงเล็กน้อย เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง
“เชิญท่านอ๋องกล่าวมาได้เพคะ”
“เจ้าบอกไต้เจ๋อว่าการตายของลุงข้าเกี่ยวข้องกับข้า บอกรายละเอียดได้หรือไม่”
ซินโย่วนั่งนิ่งมองอยู่นานก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “หม่อมฉันมองออกเพียงแค่เกี่ยวข้องกับทางใต้”
ทางใต้?
ชิ่งอ๋องนิ่งอึ้งไปทันที
ในใจเขากระจ่างดี เรื่องทางเหนือไม่ได้จัดการเรียบร้อยงดงามเหมือนภาพภายนอก ทันทีที่เสด็จพ่อทรงรู้ย่อมกริ้วหนัก
แต่ทางใต้มีเรื่องอันใดกัน
ชิ่งอ๋องถามอีก ซินโย่วกลับส่ายหน้า “ตอนนี้ข้าดูได้เพียงเท่านี้ แต่ว่า…”
“แต่ว่าอันใด” ชิ่งอ๋องรีบถามทันที
“ท่านอ๋องจะได้รับผลกระทบ จากนี้ไปดวงชะตาจะไม่ค่อยดี ระยะนี้ให้นิ่งสงบไว้จะดีกว่า”
ก่อนใต้เท้าเฮ่อจะสืบได้ผลมา หาเรื่องให้น้อยสักหน่อยดีกว่า
“ข้ารู้แล้ว”
เห็นว่าถามไม่ได้ความอันใดอีกแล้ว ชิ่งอ๋องก็สั่งให้บ่าวไปส่งซินโย่ว
ท่าทีเจ้านายย่อมส่งผลต่อท่าทีบ่าวรับใช้ บ่าวไปส่งซินโย่วหน้าร้านน้ำชาด้วยท่าทางสุภาพเกรงใจ “คุณหนูโค่วค่อยๆ เดินนะ”
ซินโย่วเดินไปยังรถม้าที่จอดอยู่ริมทาง ก็เห็นซิ่วอ๋องเดินมา