สืบแค้นคุณหนูสวมรอย - ตอนที่ 254 เซียนเข้าฝัน
ตอนที่ 254 เซียนเข้าฝัน
เทียบกับเสี่ยวเหลียนที่ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ซินโย่วกลับสงบนิ่งกว่ามาก ถึงกับหลับเร็วกว่ายามปกติ
เช้าวันรุ่งขึ้น ต้องไปคำนับนายหญิงผู้เฒ่าตามธรรมเนียม ระหว่างทางที่ซินโย่วเดินนำเสี่ยวเหลียนตรงไปยังเรือนหรูอี้ถังก็ได้พบกับต้วนอวิ๋นหลิง
“พี่ชิง อรุณสวัสดิ์” ต้วนอวิ๋นหลิงก้าวเข้าไปคล้องแขนซินโย่ว อดมองนางทีหนึ่งไม่ได้ “พี่ชิง วันนี้สีหน้าดีมาก”
ตั้งแต่ซินโย่วตัดสินใจให้ ‘คุณหนูโค่ว’ กลับไปอยู่จวนรองเจ้ากรม ลดการปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนภายนอก ยามปรากฏตัวก็จะมีใบหน้าซีดขาว แต่วันนี้ใบหน้านางแดงระเรื่อ แววตากระจ่างใส ต้วนอวิ๋นหลิงพลันรู้สึกว่านางไม่เหมือนเดิม
“เมื่อคืนข้าฝันประหลาด”
“ฝันประหลาด?” ต้วนอวิ๋นหลิงนึกสนใจขึ้นมาทันที
“รอถึงเรือนหรูอี้ถังค่อยเล่า จะได้บอกกล่าวท่านยายด้วย”
ต้วนอวิ๋นหลิงไม่ได้ถามต่อ แต่กลับอยากรู้มากขึ้น
พี่ชิงฝันยังต้องมาบอกกล่าวท่านย่าเป็นพิเศษ แท้จริงฝันอันใดกัน
ดีที่จะได้รู้แล้ว
ณ เรือนหรูอี้ถัง นายหญิงบ้านสองจูซื่อพาคุณหนูสี่ต้วนอวิ๋นเยี่ยนมาถึงแล้ว หลังจากคำนับนายหญิงผู้เฒ่าแล้วก็เตรียมจะกลับไปจัดการงานการ พอเห็นซินโย่วกับต้วนอวิ๋นหลิงเข้ามา ก็รู้สึกว่าคุณหนูนอกไม่เหมือนเดิม
คุณหนูนอกหายดีแล้ว?
จูซื่อดีใจแทนซินโย่วอย่างมาก
พอทั้งสองคนคำนับเสร็จ นายหญิงผู้เฒ่ามองดูซินโย่วแล้วก็เอ่ยว่า “ชิงชิง วันนี้ดูแล้วไม่เลว”
ซินโย่วยิ้มหวานกล่าวว่า “มีท่านยายเอาใจใส่ ยังมีท่านป้าส่งของบำรุงมาให้มากมาย ข้าย่อมต้องหายเร็วเจ้าค่ะ”
คำพูดนี้ทำให้นายหญิงผู้เฒ่ากับจูซื่ออดเผยรอยยิ้มไม่ได้
“แต่ทว่า…” ซินโย่วเปลี่ยนน้ำเสียง
มิใช่เพราะนางอายุปูนนี้ระงับอารมณ์ตนเองไม่อยู่ แต่เพราะในหนึ่งปีมานี้หลานสาวคนนี้ก่อเรื่องเก่งมาก ถึงกับพาตนเองไปวุ่นวายกับกองกำลังองครักษ์จิ่นหลิน ผู้ใดจะรู้ว่า ‘แต่ทว่า’ คือเรื่องใด
ซินโย่วคล้ายไม่รู้สึกถึงท่าทางประหลาดของนายหญิงผู้เฒ่า หัวเราะเบาๆ เอ่ยว่า “ท่านยาย วันนี้ข้าอารมณ์ดีมาก เพราะเมื่อคืนวานนี้ข้าฝัน”
“ฝันอันใดหรือ” นายหญิงผู้เฒ่ารู้สึกว่านี่เป็นการปูพื้นเรื่องของหลานสาวคนนี้ พอถามก็จะตกหลุม แต่หากไม่ถามก็จะแปลกกว่า แสดงให้เห็นว่านางผู้เป็นยายกลัวหลานสาวตนเอง
“ข้าฝันเห็นเซียน”
เซียน?
นายหญิงผู้เฒ่าสีหน้านิ่งอึ้ง ต้วนอวิ๋นหลิงอดเบิกตาโตไม่ได้ จูซื่อหลุบตาลงทำทีเหมือนไม่รู้เรื่องอันใด
ซินโย่วไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องเซียน แต่กลับเอ่ยถึงเรื่องอื่น “ข้างนอกมีคนมากมายลือกันว่าข้าดูนรลักษณ์เป็น ท่านยายได้ยินเรื่องนี้แล้วหรือยังเจ้าคะ”
นายหญิงผู้เฒ่ายิ้มส่ายหน้า “ได้ยินมาแล้ว ยายไม่เคยเชื่อเรื่องเหลวไหลพวกนี้…”
“เป็นเรื่องจริงเจ้าค่ะ”
นายหญิงผู้เฒ่าชะงักงัน
หลังจากอึ้งไปในคราแรกแล้ว นายหญิงผู้เฒ่าก็มีความตกใจเข้าแทนที่ “ชิงชิงกำลังพูดเรื่องใดอยู่”
นางคิดว่าเป็นข่าวลือเหลวไหลมาตลอด หลานสาวถึงกับบอกว่าเป็นเรื่องจริง?
บุตรสาวนางปกติดีมาก หลายเขยก็ปกติดี สองสามีภรรยาที่ปกติดี ให้บุตรสาวเพียงคนเดียวเรียนวิชาดูนรลักษณ์?
“แม้ว่าชิงชิงไม่เคยฝากตัวเป็นศิษย์อาจารย์ชื่อดัง แต่กลับคล้ายว่ามีพรสวรรค์ด้านนี้ เมื่อคืนมีท่านเซียนมาเข้าฝัน นับว่าได้ไขข้อข้องใจให้ข้าแล้ว” ซินโย่วพูดไปก็มองไปทางนายหญิงผู้เฒ่า
“ท่านเซียนเอ่ยอันใดหรือ” นายหญิงผู้เฒ่าอายุมากเพียงนี้ก็ยากจะไม่เชื่อเรื่องผีสางเทวดา ไม่เช่นนั้นวัดวาอารามก็คงไม่มีกลิ่นธูปควันโขมง
“ท่านเซียนบอกว่าข้าดูนรลักษณ์ได้โดยไม่ต้องมีอาจารย์ เพราะมีพรสวรรค์ดวงตาวิเศษคู่หนึ่ง หากไม่ใช้ในทางที่ควร ก็จะผิดต่อฟ้าเบื้องบนที่เมตตา และจะทำลายโชควาสนาตนเอง”
นายหญิงผู้เฒ่าสีหน้าจริงจังขึ้นมา “ทำลายโชควาสนา?”
ขอบเขตของคำว่าทำลายโชควาสนามากเพียงใด เพียงแค่หลานสาวคนเดียว หรือว่าจะกระทบถึงคนรอบข้างด้วย?
แววตาต้วนอวิ๋นหลิงไม่เข้าใจ
เหตุใดพี่ชิงกล่าวเรื่องพวกนี้กับท่านย่า นางไม่รู้หรือว่าทำลายโชควาสนาคืออันใด เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ถือสาที่สุด
“อืม ท่านเซียนชี้แนะเช่นนี้ แต่ท่านเซียนก็บอกวิธีแก้ไขมาด้วยเจ้าค่ะ”
นายหญิงผู้เฒ่ารีบถามขึ้นว่า “แก้ไขอย่างไร”
“ท่านเซียนถ่ายทอดเคล็ดลับให้ข้า ให้ข้าตั้งใจเก็บตัวบำเพ็ญ เช่นนี้จะได้มิได้ผิดต่อพรสวรรค์ที่ได้มาและไม่ทำลายโชควาสนาตนเอง” ซินโย่วเล่าคล่องแคล่ว ในที่สุดก็เอ่ยถึงเรื่องสำคัญ “นับแต่พรุ่งนี้ไป ชิงชิงจะเก็บตัวบำเพ็ญหนักอยู่แต่ในเรือนหว่านฉิง ไม่อาจมาคำนับท่านยายทุกวันได้แล้วเจ้าค่ะ”
นายหญิงผู้เฒ่าอึ้งตกใจ “แค่นี้หรือ”
ซินโย่วเผยสีหน้าละอายใจ “เมื่อก่อนอยู่ข้างนอกก็แล้วไป ตอนนี้กลับมาอยู่จวนยังไม่อาจมาคำนับท่านยายเช้าค่ำ ชิงชิงรู้สึกเศร้าใจยากระงับจริงๆ…”
นายหญิงผู้เฒ่ารีบเอ่ยว่า “ไม่เป็นไร ยายรู้ว่าเจ้ามีใจกตัญญู”
ไม่ว่ามีเซียนเข้าฝันจริงหรือเท็จ นางคิดว่าจะมีเรื่องให้หนักใจอีกแล้ว คิดไม่ถึงเพียงแค่ไม่ออกจากเรือนตนเอง
ไม่ออกมาก็ดีสิ ไม่ออกมาก็จะไม่ก่อเรื่อง
นายหญิงผู้เฒ่าแทบอยากให้เป็นเช่นนี้ รีบรับปากรวดเร็วทันที ถึงกับกำชับพวกต้วนอวิ๋นหลิง “พวกเจ้าเองก็อย่าไปรบกวนชิงชิง…”
ออกจากเรือนหรูอี้ถัง ต้วนอวิ๋นหลิงมองซินโย่วแล้วก็อยากจะพูดแต่ก็ไม่พูด
ซินโย่วยิ้มถามว่า “น้องหลิงคิดเอ่ยอันใดหรือ”
“พี่ชิง ความฝันของพี่…”
ซินโย่วพยักหน้าสีหน้าจริงจัง “จริงๆ จริงๆ”
เรื่องต่างๆ ที่ผ่านมาในหนึ่งปีนี้ ต้วนอวิ๋นหลิงไม่เพียงแต่รู้สึกสนิทสนมกับซินโย่ว ที่มากไปกว่านั้นคือความเลื่อมใส เห็นนางพูดจริงจังเช่นนี้ ก็พลันไร้ข้อสงสัย
พี่ชิงจัดการปัญหาใหญ่ต่างๆ ได้ เดิมก็มิใช่คนธรรมดา มีเซียนมาเข้าฝันก็ไม่แปลก
ระหว่างทางกลับของจูซื่อสองแม่ลูก ต้วนอวิ๋นเยี่ยนเองก็ถามขึ้นว่า “ท่านแม่ มีท่านเซียนมาเข้าฝันพี่ชิงจริงหรือ”
เห็นมีบ่าวเดินสวนทางมา จูซื่อรีบดึงมือบุตรสาวไว้ เอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “กลับห้องค่อยคุย”
พอเข้าไปใหน้อง จูซื่อให้สาวใช้ออกไป กุมมือบุตรสาวมากำชับว่า “มีจริง แต่เยี่ยนเอ๋อร์ต้องจำไว้ว่า อย่าได้บอกกับคนนอก”
ท่านเซียนเข้าฝัน นางไม่ค่อยเชื่อเท่าไร เกรงว่าคุณหนูนอกคิดต้องการทำอันใด แต่เพราะคุณหนูนอกเคยช่วยเยี่ยนเอ๋อร์ไว้ นางก็จะไม่ต่อต้านการกระทำนี้ ไม่ว่าคุณหนูนอกคิดทำอันใด ขอเพียงไม่ได้ประสงค์ร้ายต่อบ้านของพวกนางก็พอแล้ว
ความจริงนางอยากรู้มากว่าสาวน้อยที่กำพร้าบิดามารดาผู้นี้จะสร้างปาฏิหาริย์ใด
จูซื่อคิดถึงตนเองที่ไร้มารดาแต่ยังเล็ก ตอนยังสาวมีชีวิตไม่ดีนัก การแสดงออกของคุณหนูนอกหนึ่งปีมานี้ทำให้นางอดคิดไม่ได้ บางทีผู้หญิงเราก็อาจบุกเบิกเส้นทางชีวิตของตนเองได้
กลับถึงเรือนหว่านฉิง เสี่ยวเหลียนรู้สึกคาดไม่ถึง “นายหญิงผู้เฒ่าเชื่อง่ายดายเพียงนี้หรือ!”
“อาจเชื่อ และอาจไม่เชื่อ ประเด็นคือข้าไม่ออกจากเรือน ในสายตานายหญิงผู้เฒ่าแล้วก็คือไม่ก่อเรื่องยุ่งยากอีก”
ไม่ต้องมีเรื่องให้ยุ่งยากกายใจ และยังไม่เสียเงินทอง เหตุใดไม่เชื่อ
ครึ่งชั่วยามผ่านไป อาศัยจังหวะที่เสี่ยวเหลียนดึงคนเฝ้าประตูไปคุยด้วย ซินโย่วก็แอบออกจากจวนรองเจ้ากรมไปเงียบๆ พอออกมาถึงเมืองฝั่งตะวันตก ก็กลายร่างเป็นชายหนุ่มหน้าตากระจ่างใสผู้หนึ่ง
เมืองฝั่งตะวันตกวันนี้ ยังมีการประหารตัดศีรษะคนอีกระลอก นักโทษที่จะประหารวันนี้ก็คือคนจวนกู้ชางป๋อ อีกสักพักจะได้เวลาประหาร นักโทษประหารถูกคุมตัวออกมา บนแผ่นหลังแต่ละคนมีป้ายโทษปักไว้คุกเข่าเรียงกันผมเผ้ารุงรัง
ซินโย่วยืนมองอยู่กลางฝูงชน จากมุมนั้นมองเห็นใบหน้าฉางเหลียงผู้คุ้มกันจวนกู้ชางป๋อที่คุ้นเคยท่ามกลางหมู่นักโทษ
ติดกันกับเขาเป็นนักโทษประหารวัยกลางคน หน้าตาคล้ายกับฉางเหลียงหลายส่วน คิดว่าน่าจะเป็นอาของฉางเหลียง นี่คือศีรษะของบรรดาคนที่สังหารมารดานาง