สืบแค้นคุณหนูสวมรอย - ตอนที่ 266 ลายมือ
ตอนที่ 266 ลายมือ
จูเสี่ยวเยวี่ยไม่เพียงแต่ฉลาด แต่ยังรู้กาลเทศะ ตนเองมาทำงานร้านหนังสือชิงซงก็เปลี่ยนคำเรียกขานซินโย่วเป็นเจ้าของร้าน
เรื่องนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ดูแลร้านหูชื่นชมจูเสี่ยวเยวี่ย คนทำการค้ารู้กาลเทศะจะไปได้ไกล
จูเสี่ยวเยวี่ยส่งเสียงเรียก ทำให้เจ้ากรมตรวจสอบเหอที่ยกบันทึกการเดินทางเล่มหนาไว้ในมือหันมามองทันที จากนั้นก็รีบก้มหน้าก้มตากับหนังสือ
ซินโย่วเหลือบมองการกระทำของเจ้ากรมตรวจสอบเหอ ความสงสัยว่าเขาจะเป็นตงเซิงผู้นั้นลดลงไม่น้อย
ไม่ใช่เพราะนางประมาท แต่การตามเกี้ยวพานหญิงสาวของเจ้ากรมตรวจสอบเหอเรียกได้ว่าหน้าบางมาก นึกภาพไม่ออกว่าผู้บงการสังหารมารดานางจะเลือกใช้หมากตัวนี้
“คุณหนูจูอยู่ร้านหนังสือคุ้นเคยแล้วหรือยัง” ซินโย่วเดินเข้ามาส่งเสียงหัวเราะเบาๆ พลางถามขึ้น
“คุ้นเคยมากแล้ว ผู้ดูแลร้านกับคนงานดีมาก ยังมีหนังสือให้อ่านมากมาย…” จูเสี่ยวเยวี่ยเอ่ยถึงชีวิตที่ร้านหนังสือในหลายวันนี้ มุมปากก็อดมีรอยยิ้มไม่ได้
ความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียครอบครัวไปย่อมมิอาจสลัดไปจากใจ แต่จูเสี่ยวเยวี่ยรู้ดีกว่าหลังจากประสบความโชคร้ายอย่างหนักมา มีชีวิตเช่นนี้ได้ นับว่าเป็นความโชคดีอย่างมาก
และทุกอย่างก็ล้วนเพราะมีคุณหนูโค่ว
สายตาที่จูเสี่ยวเยวี่ยมองซินโย่วเต็มไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ
“คุณหนูจูคุ้นเคยแล้วก็ดี หากพบปัญหาใด ก็บอกพวกผู้ดูแลร้านหูหรือฟางหมัวมัวได้”
“ได้ วันนี้ท่านเจ้าของร้านจะอยู่พักที่ร้านหรือ”
“ไม่ละ อีกสักครู่ก็จะกลับจวนรองเจ้ากรม” ซินโย่วมองไปทางผู้ดูแลร้านหู “ผู้ดูแลร้าน ห้องหนังสือชั้นสองมีข้าวของมากมายวางอยู่กระมัง”
ห้องโถงกลางของร้านหนังสือชิงซงกว้างขวาง นอกจากช่วงเวลาพิเศษที่วางขายหนังสือใหม่ขายดีแล้ว ก็เพียงพอจะรับมือกับการค้าขายประจำวัน ชั้นสองเป็นห้องหนังสือ ขนาดเพียงหนึ่งในสี่ของชั้นหนึ่ง บันไดขึ้นอยู่ด้านใน ต้องมาจากเรือนด้านหลังจึงจะขึ้นไปได้ นานวันเข้าก็กลายเป็นที่เก็บข้าวของจิปาถะ
ซินโย่วยิ้มกล่าวว่า “ผู้ดูแลร้านเข้าใจข้าที่สุด ข้าเห็นว่ามีแขกมาอ่านหนังสือกันประจำ จึงอยากใช้ห้องหนังสือขึ้นมา”
“ท่านเจ้าของร้านโปรดให้รายละเอียดอีกสักหน่อยเถิด”
“ทำบันไดใหม่ขึ้นจากโถงกลาง ตกแต่งห้องหนังสือใหม่สักหน่อย ตั้งฉากกำบัง โต๊ะ เก้าอี้และเบาะนุ่ม ให้นักอ่านหนังสือที่มาประจำลงทะเบียน ขึ้นไปใช้ชั้นสองอ่านหนังสือได้”
ผู้ดูแลร้านหูฟังอย่างตั้งใจ หลิวโจวอดเอ่ยแทรกไม่ได้ “ท่านเจ้าของร้าน ท่านคิดทำการกุศลอีกแล้วหรือ”
“หืม?” ซินโย่วเลิกคิ้ว
หลิวโจวเหลือบมองไปทางเจ้ากรมตรวจสอบเหออย่างรวดเร็วทีหนึ่ง หรี่เสียงลงเอ่ยว่า “ท่านดู มีแขกประจำที่ชอบยืนอ่านอยู่นั่น หากตั้งใจจัดสถานที่ให้อ่านหนังสือสบายๆ เช่นนั้นจะไม่มาเบียดกันหัวแตกหรือ”
ให้คนมายืนอ่านสบายเช่นนี้ มิใช่ทำการกุศลแล้วคืออันใด
“ก็ขายน้ำชาและขนมได้ แขกขึ้นไปชั้นบนอย่างน้อยต้องสั่งชาธรรมดาสักหนึ่งแก้ว…” ซินโย่วเอ่ยถึงรายละเอียดอีกไม่น้อย
ผู้ดูแลร้านหูยิ่งฟังก็ยิ่งเข้าใจ สุดท้ายเอ่ยชม “ท่านเจ้าของร้านอัจฉริยะยิ่งนัก!”
มีความพิเศษเช่นนี้ วันหน้าแม้ท่านซงหลิงไม่เขียนนิยายใหม่อีก ร้านหนังสือก็คงไม่ตกต่ำไปเหมือนเมื่อก่อน ส่วนเรื่องน้ำชากับขนม เป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนชั้นสองได้ก็คุ้มค่าแล้ว หากได้กำไรเล็กน้อยก็ถือว่าโชคสองชั้น
“ท่านเจ้าของร้าน ร้านหนังสือเราขาดท่านไม่ได้นะขอรับ!” ผู้ดูแลร้านหูมองซินโย่วด้วยแววตาจริงใจ และเอ่ยจากใจแท้จริง
ซินโย่วยกผ้าเช็ดหน้าปิดปากกระแอมไอเบาๆ ทีหนึ่ง “ตั้งแต่โดนลงทัณฑ์ที่กองกำลังองครักษ์จิ่นหลินมา สุขภาพก็ไม่ค่อยดีนัก รอให้รักษาตัวหายดีก่อนก็จะกลับมา”
ได้ยินนางเอ่ยเช่นนี้ พวกผู้ดูแลร้านหูก็ไม่เอ่ยอันใดอีก
ยามนี้เองเจ้ากรมตรวจสอบเหอก็เดินเข้ามา
จูเสี่ยวเยวี่ยแนะนำ “ท่านเจ้าของร้าน นี่คือใต้เท้าเหอ เจ้ากรมตรวจสอบ ใต้เท้าเหอ นี่คือเจ้าของร้านเรา คุณหนูโค่ว”
ซินโย่วย่อตัวคำนับ “ได้ยินชื่อเสียงใต้เท้าทรงธรรมของเจ้ากรมตรวจสอบเหอมานานแล้ว เลื่อมใสยิ่งนัก”
เจ้ากรมตรวจสอบเหอประสานมือ “คุณหนูโค่วชื่อเสียงใจกุศลขจรไปไกล ข้าเองก็เลื่อมใสมานานเช่นกัน”
“เมื่อครู่ได้ยินพี่จูบอกว่า ระยะนี้ใต้เท้าเหอมักจะมาอ่านหนังสือที่ร้าน” ซินโย่วเอ่ยถึงจูเสี่ยวเยวี่ย ก็พบว่าเจ้ากรมตรวจสอบเหอท่าทางเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด “พอดีร้านหนังสือข้าจะมีบริการรูปแบบใหม่…”
เอ่ยถึงแนวทางการค้าใหม่คร่าวๆ แล้ว ซินโย่วก็ยิ้มเชื้อเชิญ “แขกที่ลงทะเบียนสามคนแรกจะได้รับอภินันทนาการเป็นน้ำชาครึ่งเดือน ห้องอ่านหนังสือเพิ่งเปิดใหม่เช่นนี้ ไม่ทราบว่าจะดึงดูดแขกได้หรือไม่ ใต้เท้าเหอจะให้เกียรติมาเป็นแขกคนแรกได้หรือไม่ นับว่าได้ช่วยพวกเราโฆษณาสักหน่อย”
เดิมเจ้ากรมตรวจสอบเหอยังลังเลอยู่ แต่พอได้ยินว่าอภินันทนาการเป็นน้ำชาครึ่งเดือน ความลังเลก็ลดลงไปครึ่งหนึ่ง มองไปสบสายตารอคำตอบของจูเสี่ยวเยวี่ย ความลังเลอีกครึ่งก็พลันมลายหายไป
“ได้”
เห็นเจ้ากรมตรวจสอบเหอพยักหน้า ในใจซินโย่วก็คลายลงเล็กน้อย มองผู้ดูแลร้านหูทีหนึ่ง
ผู้ดูแลร้านหูรีบกางสมุดเล่มใหม่ให้ทันที “ใต้เท้าเหอเชิญลงทะเบียนก่อนขอรับ อีกสามวันห้องอ่านหนังสือเราก็จะเปิดได้แล้ว”
เจ้ากรมตรวจสอบเหอรับพู่กันจากมือหลิวโจว จรดพู่กันเขียนชื่อแซ่และข้อมูลตนเองคร่าวๆ
“ข้าขอตัวก่อน” เจ้ากรมตรวจสอบเหอประสานมือ มองไปทางจูเสี่ยวเยวี่ยอย่างเก้อเขินก่อนจะรีบก้าวออกจากร้านหนังสือ
ซินโย่วถอนสายตากลับมามองบนสมุดเล่มใหม่
หมึกยังไม่แห้ง ลายมือคมชัด ไม่เหมือนลายมือบนจดหมายนั่นแม้แต่น้อย
นอกจากเจ้ากรมตรวจสอบเหอจะใช้มือซ้ายเขียนหนังสือได้ มองแค่ลายมือนี้ ก็อาจขจัดความสงสัยในตัวเขาทิ้งไปได้
“เจ้ากรมตรวจสอบเหอเขียนหนังสือได้ไม่เลวจริงๆ” ผู้ดูแลร้านหูเอ่ยชม
สายตาหลิวโจวที่มองผู้ดูแลร้านหูฉายแววไม่รู้จะเอ่ยอันใดกับเขาดี
นี่ผู้ดูแลร้านรู้ว่าเจ้ากรมตรวจสอบเหอเพิ่งยี่สิบกว่า จึงได้ชูจุดเด่นเจ้ากรมตรวจสอบเหอขึ้นมากะทันหัน?
“ผู้ดูแลร้านเก็บสมุดให้ดี ข้าจะมาตรวจดูเป็นระยะ รีบจัดการห้องชั้นสองให้เรียบร้อย …”
“ท่านเจ้าของร้านวางใจได้เลยขอรับ”
ผู้ดูแลร้านหูกำลังเก็บสมุด ก็เห็นเฮ่อชิงเซียวเดินเข้ามา
ผู้ดูแลร้านชะงักนิ่งไปครู่หนึ่ง
หลิวโจวรีบเข้าไปต้อนรับ “ไม่ได้พบใต้เท้าเฮ่อหลายวัน ใต้เท้าเฮ่อ ร้านหนังสือเรามีบริการรูปแบบใหม่…”
ได้ยินหลิวโจวพูดจบ เฮ่อชิงเซียวก็ยื่นมือออกไป “ข้าลงชื่อด้วย”
เห็นข้อมูลคร่าวๆ ที่เจ้ากรมตรวจสอบเหอเขียนไว้ พู่กันในมือเฮ่อชิงเซียวก็ชะงัก ก่อนจะเขียนชื่อลงไปข้างๆ
“นานแล้วที่ไม่ได้พบใต้เท้าเฮ่อ หากใต้เท้าเฮ่อมีเวลาว่าง เชิญเข้ามาดื่มน้ำชาในห้องรับรองก่อนเจ้าค่ะ” ซินโย่วเอ่ยเชื้อเชิญ
“ขอบคุณคุณหนูโค่ว”
ทั้งสองคนเข้าไปในห้องรับรอง รู้สึกได้ถึงไอร้อนกระทบใส่ ทำให้รู้ว่าตอนซินโย่วไม่อยู่ ไม่มีคนใช้ห้องรับรองของร้านหนังสือ
เฮ่อชิงเซียวเดินไปเปิดหน้าต่างออกให้ลมพัดเข้ามาเบาๆ
เดิมหลิวโจวคิดจะไปเปิดหน้าต่าง แต่เห็นเช่นนี้ก็ถอยออกไปจากห้องรับรองเงียบๆ
“คุณหนูโค่วคิดหาวิธีค้นหาเจ้าของลายมือได้แล้วหรือ”
ซินโย่วพยักหน้า
“ข้าจัดคนคอยจับตาดูจ้าวหลางจงแล้ว จะหาโอกาสนำกระดาษที่เขาเขียนมา ส่วนฮว่าไต้จ้าว…”
ซินโย่วรับคำ “ข้าทำงานหน่วยงานเดียวกับฮว่าไต้จ้าว การจะดูลายมือเขาน่าจะไม่ยาก ในสามคนนี้มีคนเขียนหนังสือมือซ้ายหรือไม่…”
“ค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็รู้เป้าหมายแล้ว คิดหาข้อมูลเพิ่มก็ไม่ยาก”
“ใต้เท้าเฮ่อกล่าวได้ถูกต้อง” ซินโย่วเม้มริมฝีปากก่อนถามขึ้น “ใต้เท้าเฮ่อรีบมาเพราะมีเหตุใหม่หรือ”
เฮ่อชิงเซียวพยักหน้า “ลูกน้องที่จับตาดูฮว่าไต้จ้าวรายงานว่า มีชายสวมหมวกสานผู้หนึ่งออกมาจากที่พักของฮว่าไต้จ้าวไปตั้งแผงภาพวาดริมถนน พอคนผู้นั้นถอดหมวกออก ดูหน้าตาแล้วไม่เหมือนฮว่าไต้จ้าว”
สายตาเขาจับจ้องมองใบหน้าซินโย่ว พร้อมกับเอ่ยการคาดเดา “ฮว่าไต้จ้าวน่าจะแปลงโฉม”