สืบแค้นคุณหนูสวมรอย - ตอนที่ 273 พิรุณ
ตอนที่ 273 พิรุณ
คุณหนูซิน… เฮ่อชิงเซียวขยับริมฝีปาก คำเรียกขานนี้ติดอยู่ในลำคอ
เขาได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรงของตนเอง รู้สึกได้ถึงแก้มที่ร้อนผ่าว คล้ายว่าขอเพียงเรียกออกมา ก็เท่ากับคำมั่นสัญญาอันใดสักอย่าง
แต่เขาไม่กล้าให้คำมั่นสัญญา
ตั้งแต่ฮ่องเต้ให้เขาดำรงตำแหน่งเจิ้นฝูสื่อกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินนี้ เขาก็ไม่คิดว่าตนเองจะมีจุดจบที่ดี ในประวัติศาสตร์ ขุนนางมีชื่อเสียงดำรงชีวิตโดดเดี่ยวแล้วมีจุดจบที่ดีได้นั้นมีเพียงน้อยนิดอย่างที่สุด
แต่เขานับว่าโชคดีมาก ได้พบกับคุณหนูที่ทำให้เขาหวั่นไหว สิ่งที่เขาทำได้ก็คือพยายามทำให้นางได้เดินไปบนเส้นทางวันหน้าโดยไม่ต้องเผชิญความยากลำบากมากมาย
“ขออภัยที่เมื่อครู่หลุดเรียกเช่นนั้นออกไป”
คำพูดนั้นของซินโย่วก็ดังภูตผีดลใจ เอ่ยออกไปแล้วก็พลันได้สติว่าไม่เหมาะสม นางแต่งกายเป็นชาย ก็ควรระมัดระวังตัวไว้ตลอดเวลาจะดีกว่า
“หากใต้เท้าเฮ่อมีความคืบหน้าใหม่ รบกวนแจ้งข้าด้วย”
ในใจซินโย่วกระจ่างดี เฮ่อชิงเซียวช่วยนางเรื่องแก้แค้นให้มารดามามาก นางย่อมไม่หลอกตนเองแสร้งทำไม่รู้ น้ำใจที่เขาช่วยเหลือนี้ นางสลักไว้ในใจแน่นหนา
“ได้” เฮ่อชิงเซียวรับปากอย่างไม่ลังเล เห็นซินโย่วอารมณ์ยังดี ก็เอ่ยถึงอีกเรื่องหนึ่ง “ข่าวจากทางใต้รายงานมาว่า เพราะฝนตกหนักหลายวัน ขบวนอารักขาโลงพระศพฮองเฮาเข้าเมืองหลวงหยุดอยู่ที่ทะเลสาบอวิ๋นหูชั่วคราว…”
ทะเลสาบอวิ๋นหู ระหว่างทางเมืองหลวงกับหว่านหยาง มีทะเสสาบมากมาย ซินโย่วเคยไปเที่ยวทะเลสาบอวิ๋นหู เป็นสถานที่คุ้นเคยของนาง
ท่านแม่มาถึงทะเลสาบอวิ๋นหูแล้ว
พอได้ยินข่าวนี้ ซินโย่วก็มีความคิดหนึ่งขึ้นมาทันที
จากข่าวที่ใต้เท้าเฮ่อนำมา การตายของท่านแม่จะต้องมีคนผลักดันอยู่เบื้องหลัง นางไม่มีทางปล่อยคนร้ายไป แต่ก็ต้องสืบให้ถึงรากโคน อาจเพราะขัดแย้งทางการเมืองกับกลุ่มอิทธิพลบางกลุ่ม ย่อมต้องเป็นแหล่งรวมของคนกลุ่มใหญ่ที่มีความคิดเห็นไปในทางเดียวกัน การทำให้คนบางคนรับโทษตามกฎหมายสำหรับคนกลุ่มนี้แล้วไม่คู่ควรแก่การเอ่ยถึง เพราะหากความคิดท่านแม่เป็นจริงได้ ราษฎรก็จะหลุดพ้นจากความทุกข์ มีชีวิตที่ดี จึงจะเป็นการจัดการกลุ่มอิทธิพลนี้ให้สะเทือนได้มากที่สุด
แต่การจะบรรลุเป้าหมายนี้ก็มิใช่เรื่องที่จะกระทำสำเร็จได้ในวันสองวัน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางจะปล่อยไปชั่วคราวก่อน รอรับท่านแม่เข้าเมืองหลวงมาก่อนค่อยว่ากัน
พอความคิดนี้ผุดขึ้นมา ความคิดถึงท่านแม่ก็รุนแรงขึ้นมากกว่าเดิม
“ใต้เท้าเฮ่อวันนี้จับกุมคนมามากมาย จะยุ่งยากหรือไม่” คุยเรื่องสำคัญจบ ซินโย่วก็นึกเป็นห่วงคนตรงหน้า
เฮ่อชิงเซียวยิ้มกล่าวว่า “ยุ่งยากเล็กน้อย มิต้องเป็นห่วง”
ฮ่องเต้ยังคิดใช้งานเขา เรื่องที่เขากระทำยังตรงพระทัยฮ่องเต้ ความยุ่งยากมากมายเพียงใดก็ไม่อาจเรียกว่าความยุ่งยาก
เป็นขุนนางที่ชื่อเสียงย่ำแย่คนหนึ่ง ก็ถือว่ามีประโยชน์เช่นกัน
“เช่นนั้นก็ดี” ซินโย่วไม่ได้ถามต่อ
พอแยกจากเฮ่อชิงเซียว ซินโย่วก็เดินกลับที่พัก เห็นรถม้าตรงหน้าแขวนโคมไฟเขียนอักษร ‘จัง’
“หยุดรถ!” เสียงดังมาจากในรถม้า พอรถม้าหยุดลงก็มีชายหนุ่มกระโดดลงมา
พ่อบ้านที่เดินอยู่ข้างรถม้ารีบเข้ามาขวางไว้ “คุณชาย รีบกลับเถอะ ใต้เท้ารอท่านอยู่ที่จวน”
จังซวี่ผลักพ่อบ้านออกมาขวางทางซินโย่ว สีหน้าไม่ประสงค์ดีนัก
“คุณชายจังออกมาจากคุกแล้วหรือ” ซินโย่วน้ำเสียงราบเรียบ
พ่อบ้านขมวดคิ้ว
ชายหนุ่มผู้นี้อันใดไม่เอ่ย กลับเอ่ยเรื่องนี้?
จังซวี่สีหน้ายิ่งย่ำแย่ดังคาด “เจ้าหมายความว่าอย่างไร คิดว่าข้าออกมาเร็วไป?”
“ก็ประหลาดใจจริง คนอื่นก็ได้ออกมาแล้วหรือ”
“คนอื่น…” จังซวี่ชะงัก “พวกข้าถูกจับไม่ใช่เพราะเจ้าหรือ!”
ได้ยินจังซวี่เอ่ยเช่นนี้ พ่อบ้านตั้งสติได้ทันทีว่าชายหนุ่มตรงหน้าคือผู้ใด แอบบ่นใจในว่าแย่แล้ว ก่อนจะกระซิบเตือนพลางยึดแขนจังซวี่ไว้ “คุณชาย หากท่านก่อเรื่องอีก ใต้เท้าจะยิ่งโมโห…”
ซินโย่วยืนอยู่ที่เดิม มองดูจังซวี่ถูกลากขึ้นรถม้าไปไกลแล้ว เป็นนานก่อนจะเดินต่อไป
วันต่อมาตอนเข้าไปในสำนักฮั่นหลินย่วน ตลอดทางคนที่พบนางล้วนมีสายตาแปรเปลี่ยน คนที่คิดเข้ามาตีสนิทในทีแรกก็เริ่มลังเล พอมีข่าวลือแอบอ้าง ก็ทำให้รู้สึกดูแคลน ตอนนี้อารมณ์มากมายประดังเข้ามา แต่ที่ชัดเจนที่สุดก็คือความกลัว
ย่อมเพราะเมื่อวานกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินจับกุมคนไปอย่างเหิมเกริม
ซินโย่วเดินเข้าห้องโถงทำงานไต้จ้าวเงียบๆ พวกฉือไต้จ้าวหันมามองพร้อมกับรีบหลบตารวดเร็ว
ฮว่าไต้จ้าวลังเลแล้วลังเลอีก ก่อนจะเดินเข้ามาตรงหน้าซินโย่วด้วยตนเอง วางของสิ่งหนึ่งลง
เป็นขนมหวานชิ้นหนึ่ง
“ซื้อมาหลายชิ้น ซินไต้จ้าวลองชิมดู…”
สำหรับคนทั่วไปแล้ว น้ำตาลมีค่าดังทองคำ ซินโย่วเคยออกเดินทางไปทั่ว ย่อมรู้ความทุกข์ยากของชาวบ้านดี รู้ดีว่าขนมหวานชิ้นนี้แสดงถึงน้ำใจ
นางพลันลุกขึ้น ประสานมือคำนับฮว่าไต้จ้าว “ขอบคุณฮว่าไต้จ้าว ข้ายังไม่ได้กินอาหารเช้าพอดี”
เห็นซินโย่วไม่รังเกียจ ฮว่าไต้จ้าวก็ลอบถอนหายใจ รีบย่องกลับที่นั่ง
พอยามบ่าย ซินโย่วถูกเรียกตัวเข้าวัง ในที่สุดฉือไต้จ้าวก็ได้โอกาสมาสัพยอก “พี่ฮว่า ขนมหวานล่ะ”
“ขนมหวานอันใด” ฮว่าไต้จ้าวแสร้งไม่รู้เรื่อง
ฉือไต้จ้าวยื่นมือออกไป “ขนมหวานที่ซื้อมาหลายชิ้นไงเล่า”
พวกเขาทุกคนล้วนยากจนไม่ต่างกัน ฮว่าไต้จ้าวต้องส่งบุตรชายเรียนหนังสือจึงยากจนที่สุด ถึงกับมอบขนมหวานให้ซินไต้จ้าว!
“ก็เพราะกลัวว่าซินไต้จ้าวไม่กล้ารับไว้ไหมเล่า” ฮว่าไต้จ้าวกระแอมไอ “ถอยหน่อย บังแสงข้าวาดรูป”
ตำหนักเฉียนชิงกง ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ทอดพระเนตรเห็นสีหน้าซินโย่วยังไม่เลว จึงได้วางใจ
“ข่าวลือข้างนอก เราได้ยินมาแล้ว เจ้าอย่าได้เก็บมาใส่ใจ หากมีผู้ใดพูดจากเหลวไหลต่อหน้าเจ้าอีก ด่ากลับไปก็แล้วกัน”
เขายังรอโอกาสเหมาะสมมอบสถานะให้มู่เอ๋อร์ แต่กลับเป็นการปล่อยให้พวกเหิมเกริมไร้สมองมาเอาเรื่องโวยวายต่อหน้ามู่เอ๋อร์ ดูท่าคงต้องแต่งตั้งสถานะองค์ชายให้มู่เอ๋อร์แล้ว
แต่ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ทรงรู้ดี แม้ทนรอแทบไม่ไหว แต่เรื่องนี้ก็ควรให้โลงศพภรรยามาถึงเมืองหลวงก่อนค่อยหารือ
พอคิดถึงเรื่องเหล่านี้ ในพระทัยฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ก็รู้สึกหนักพระทัย
เขาได้รับข่าวเรื่องโลงพระศพฮองเฮาซินต้องหยุดอยู่ที่ทะเลสาบอวิ๋นหูเพราะฝนตกหนัก จำต้องยอมรับว่าภายใต้ผืนฟ้านี้ แม้เป็นราชันแห่งแผ่นดินก็ได้แต่จนปัญญา
ไม่เพียงแต่ที่ทะเลสาบอวิ๋นหู หลายวันนี้ได้รับข่าวอุทกภัยหลายพื้นที่ต่อเนื่อง
เรื่องน่าหงุดหงิดเหล่านี้ ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ทรงไม่แสดงออกต่อหน้าซินโย่วแม้แต่น้อย ตรัสถามนางเรื่องความสัมพันธ์ของนางกับสหายขุนนาง
ได้ยินข่าวลือพวกนั้นแล้ว สหายร่วมงานก็คงไม่เย็นชาต่อมู่เอ๋อร์กระมัง
“สหายขุนนางทางห้องฝั่งตะวันออกอยู่ร่วมกันอย่างดีมากพ่ะย่ะค่ะ” คิดถึงขนมหวานชิ้นนั้นแล้ว ซินโย่ว อดยิ้มไม่ได้ “เช้านี้ฮว่าไต้จ้าวยังให้ขนมหวานกระหม่อมชิ้นหนึ่ง”
“ฮว่าไต้จ้าว?” ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้คิดแล้วก็นึกภาพไม่ออก หันไปทอดพระเนตรซุนเหยียนทีหนึ่ง
ตั้งแต่ซินโย่วไปประจำสำนักฮั่นหลินย่วน ซุนเหยียนก็สอบถามเรื่องของพวกฮว่าไต้จ้าวเพื่อทำความเข้าใจรอบหนึ่ง ยามนี้จึงได้นำมาใช้งานแล้ว “ทูลฝ่าบาท ฮว่าไต้จ้าวชื่อว่าหวาอันฝู ชำนาญวาดภาพคน…”
“อ้อ ชำนาญวาดภาพคนหรือ รอให้วันไหนเราไม่ยุ่งมาก เจ้าให้ฮว่าไต้จ้าวมาวาดรูปให้เราหน่อย”
ซุนเหยียนรับคำทันทีพร้อมกับลอบมองซินโย่วทีหนึ่ง
ฮ่องเต้ไหนเลยคิดวาดภาพ เห็นชัดว่าต้องการให้เกียรติซินไต้จ้าว
ยามนี้เองมีฎีการายงานข่าวภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกะทันหันเพราะฝนตกหนักติดต่อกันหลายพื้นที่
ทันทีที่เกิดภัยพิบัติ การจะช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอย่างไร จะจัดการเรื่องราวหลังจากนั้นอย่างไร ต้องการทุกหน่วยงานร่วมหารือ หลายวันก่อนประสบเหตุการณ์นี้ ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้รับสั่งให้ขันทีส่งซินโย่วออกจากวัง ทว่าวันนี้เพิ่งคิดจะรับสั่งก็เปลี่ยนพระทัย
“ซินไต้จ้าวก็อยู่ฟังด้วย”