สืบแค้นคุณหนูสวมรอย - ตอนที่ 286 รองนายอำเภอ
ตอนที่ 286 รองนายอำเภอ
ขุนนางราชสำนักที่ประจำที่ทำการอำเภอ นอกจากนายอำเภอเจิ้ง รองนายอำเภอหยาง ยังมีจู่ปู้หนึ่ง เจ้าหน้าที่คุมนักโทษหนึ่ง ที่เหลือล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ศาล หัวหน้าผู้คุมคุก เจ้าหน้าที่อาลักษณ์ อะไรพวกนี้
ยามนี้คนเหล่านี้รวมตัวกันอยู่ในโถงกลางด้วยความคิดที่แตกต่างกัน
ซินโย่วแอบสังเกต ได้ยินรองนายอำเภอหยางถามเฮ่อชิงเซียว
“ใต้เท้าเฮ่อ พวกท่านเดินทางมาพบกับหัวหน้าโจรค่ายเมฆาดำได้อย่างไร”
รองนายอำเภอหยางไม่ได้ถามต่อหน้าชาวบ้านมากมาย ตอนนี้ไม่ถามให้กระจ่างก็ย่อมรู้สึกไม่สบาย
เขาตั้งปณิธานปราบโจร ทนเห็นพฤติกรรมนายอำเภอเจิ้งที่นิ่งดูดายไม่ไหว ในฐานะรองนายอำเภอที่มีสถานะรองจากนายอำเภอ เขาได้แต่อดทน ตอนนี้มีใต้เท้าเฮ่อและคนเหล่านี้มา ย่อมต้องดูก่อนว่าเป็นโอกาสหรือกับดัก
เฮ่อชิงเซียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น “ล้วนเพราะเจิ้งหมิง เช้านี้ข้าให้ลูกน้องนำตัวโจรภูเขามาส่ง เจิ้งหมิงเป็นห่วงว่าเรื่องสมคบคิดกับโจรภูเขาจะถูกเปิดโปง จึงได้ส่งข่าวให้หัวหน้าใหญ่ค่ายเมฆาดำที่กำลังหาความสำราญอยู่ในเมือง หัวหน้าใหญ่คิดฆ่าคนปิดปาก โจมตีองครักษ์กองกำลังองครักษ์จิ่นหลิน…”
ทุกคนได้ฟังก็มีสีหน้าตกใจไม่น้อย โดยเฉพาะจู่ปู้ที่มีความสนิทกับนายอำเภอเจิ้งมาก ยามนี้ใบหน้าสั่นระริก ในใจคิดว่านายอำเภอช่างเลอะเลือน โจรค่ายเมฆาดำก็ยิ่งเลอะเลือน เหตุใดต้องไปมีเรื่องกับกองกำลังองครักษ์จิ่นหลิน!
“เรื่องราวเป็นเช่นนี้ คงเพราะวาสนาความบังเอิญ ฟ้าดินกว้างใหญ่ ทำให้เจิ้งหมิงขุนนางสุนัขไม่อาจปิดบังความชั่วตน ทำร้ายราษฎรต่อ” เฮ่อชิงเซียวค่อยๆ กวาดตามองทุกคนในโถง “พวกข้ามีงานสำคัญ เพียงแค่ผ่านทางมา ไม่ว่าก่อนหน้านี้พวกท่านเป็นอย่างไร แต่จากนี้ไปขอเพียงให้ความร่วมมือปราบโจร ก็จะเป็นขุนนางมีความดีความชอบ”
สังหารนายอำเภอเจิ้งก็เพื่อสำแดงบารมี ทำให้คนที่เหลือเป็นดังมังกรไร้หัวไม่กล้าเหิมเกริมอีก ฝ่ายเขาที่กำลังน้อยกว่าจำต้องปลอบประโลมใจคนเหล่านี้ไว้
ดังคาด ฟังออกว่าเฮ่อชิงเซียวไม่คิดไล่เรียงความผิด หลายคนก็พากันโล่งอก
“ไม่ทราบว่าทุกท่านมีความเห็นอย่างไรต่อค่ายเมฆาดำ”
เจ้าหน้าที่คุมนักโทษเอ่ยขึ้น “ชื่อเสียงค่ายเมฆาดำมีมาได้เจ็ดแปดปี ตอนทางการรู้ก็เป็นค่ายโจรมั่นคงแล้วนายอำเภอคนก่อนนำคนไปกวาดล้างสองสามครั้ง ทำให้เสียกำลังเจ้าหน้าที่ไปไม่น้อย แต่กลับไม่กล้าบุกเข้าไป…”
จู่ปู้กำลังกินปูนร้อนท้อง แย่งเอ่ยขึ้นก่อนเพื่อแสดงท่าที “ประเด็นหลักอยู่ที่เขาอูอวิ๋นอยู่ในชัยภูมิอันตราย หากฝืนบุกเข้าไปจะสูญเสียหนักมาก ได้ไม่คุ้มเสีย…”
พวกผู้คุมคุกพากันเงียบงัน หัวหน้ามือปราบที่คุมเจ้าหน้าที่พวกนี้อดถามขึ้นไม่ได้ว่ากองกำลังหนิงซานมีจำนวนเท่าไร
ซินโย่วพบว่ารองนายอำเภอหยางพูดน้อย ส่วนพวกจู่ปู้ยืนห่างจากรองนายอำเภอหยางไกลอยู่บ้าง
พฤติกรรมโดยสัญชาตญาณนี้ทำให้มองออกว่า รองนายอำเภอหยางไม่สนิทกับคนเหล่านี้มาก
ตำแหน่งรองในที่ทำการอำเภอหนึ่งมีความสัมพันธ์ธรรมดากับลูกน้อง หวนคิดถึงนายอำเภอเจิ้งที่เพิ่งออกไปต้อนรับมีพวกจู่ปู้ล้อมหน้าล้อมหลัง ไม่ยากคาดเดาว่ารองนายอำเภอหยางไม่ลงรอยกับนายอำเภอเจิ้ง
นายอำเภอเจิ้งเป็นขุนนางทุจริตขูดรีดราษฎรอย่างไม่ต้องสงสัย เช่นนั้นรองนายอำเภอหยางที่ไม่เข้าไปร่วมมือกับเขา ย่อมมีความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือกันมากยิ่งขึ้น
แน่นอนนี่เป็นเพียงการคาดเดา รองนายอำเภอหยางควรค่าแก่การไว้วางใจหรือไม่ก็ต้องดูต่อไป
“รองนายอำเภอหยาง ไม่ทราบว่าพวกเราพักที่ใด” ซินโย่วเอ่ยถาม
ในเมื่อกล่าวว่าจะอยู่ปราบโจร ก็ย่อมต้องหาที่พักชั่วคราว
รองนายอำเภอหยางยังคงสงสัยสถานะของซินโย่ว แต่ก็รู้ความไม่ได้ถามออกไป ได้ยินก็ประสานมือตอบ “ที่ทำการรองนายอำเภอยังมีห้องว่างสองสามห้อง ขอเชิญคุณชายซินกับใต้เท้าเฮ่อไปพักชั่วคราว”
“รองนายอำเภอหยางเกรงใจไปแล้ว รบกวนพาพวกเราไปดูก่อน”
รองนายอำเภอหยางพยักหน้า พาพวกซินโย่วเดินไปยังที่ทำงานปกติของเขา
เหลือเพียงพวกจู่ปู้มองหน้ากันไปมา แต่ละคนล้วนมีสีหน้าเคร่งเครียด
ครู่หนึ่งผ่านไป จู่ปู้ก็ถามเสียงสั่นเครือขึ้นว่า “คนในครอบครัวนายอำเภอ…เจิ้งหมิง พวกล้วนถูกจับเข้าคุกแล้วหรือ”
ในสมัยนี้ให้ความสำคัญกับการที่คนหนึ่งสำเร็จผล หมาไก่ก็ย่อมลอยขึ้นฟ้า คนหนึ่งต้องอาญา ทั้งครอบครัวก็ย่อมถูกประหาร
มือปราบพยักหน้าเคร่งเครียด “ตอนรองนายอำเภอหยางเข้ามาก็สั่งการไปแล้ว”
“ลงมือเร็วจริง!” จู่ปู้กัดฟัน
เขาย่อมต้องลนลาน หากกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินรู้ว่าเขาเองก็ได้ผลประโยชน์ด้วย เช่นนั้นจุดจบก็…
คนอื่นๆ พากันเงียบงัน ในใจก็เริ่มเคร่งเครียด
ส่วนทางรองนายอำเภอหยางพาซินโย่วกับเฮ่อชิงเซียวมาถึงที่ทำงานของรองนายอำเภอ เฮ่อชิงเซียวถามขึ้นว่า “รองนายอำเภอหยาง ไม่ทราบว่าท่านมีความคิดเห็นเช่นไรต่อการปราบโจร”
รองนายอำเภอหยางนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จ้องมองเฮ่อชิงเซียวเขม็งก่อนจะถามขึ้นว่า “ใต้เท้าเฮ่อเดิมก็แค่ผ่านมาทางนี้ มีใจคิดปราบโจรให้ราบคาบจริงหรือ”
คำพูดนี้เหมือนไม่ให้ความเคารพอยู่บ้าง แต่รองนายอำเภอหยางจำเป็นต้องลองเชิงให้กระจ่าง
เฮ่อชิงเซียวมองไปทางชายหนุ่มที่ยืนเงียบอยู่ข้างกายเขา “ข้าเดินทางมาครั้งนี้มีภารกิจคุ้มกันคุณชายซิน คุณชายซินทนเห็นราษฎรทนประสบทุกข์ภัยจากโจรร้ายไม่ได้ คิดปราบโจรภูเขา ข้าก็ย่อมดำเนินการตาม”
พอเอ่ยเช่นนี้ รองนายอำเภอหยางก็มองซินโย่วลุ่มลึกทีหนึ่ง แววตาพลันแปรเปลี่ยน
ที่แท้คุณชายซินท่านนี้ก็คือคนที่คิดทุ่มเทกำลังปราบโจร
“ข้าขอเป็นตัวแทนชาวอำเภอหลิง ขอบคุณคุณชายซินกับใต้เท้าเฮ่อ” รองนายอำเภอหยางประสานมือคำนับซินโย่วนอบน้อม
ซินโย่วเบี่ยงตัวหลบ “รองนายอำเภอหยางอย่าได้ทำเช่นนี้ คิดปราบโจรภูเขายังต้องการความร่วมมือจากรองนายอำเภอหยางอย่างเต็มที่อีกแรง”
การที่เฮ่อชิงเซียวมอบชื่อเสียงที่ดีให้นาง ซินโย่วก็มิได้ปฏิเสธ
ด้วยคำพูดของเฮ่อชิงเซียว เรื่องพวกนี้ไม่มีผลอันใดต่อกองกำลังองครักษ์จิ่นหลิน ออกจากเมืองหลวงมาทำงานแล้วสร้างผลงานมีชื่อเสียง ไปถึงพระกรรณฮ่องเต้อาจมิใช่เรื่องดี
ต่างจากซินโย่ว ชื่อเสียงมอบให้นาง ในบางเวลาอาจกลายเป็นดาบคมกริบโจมตีศัตรูได้
“ทั้งสองท่านเชิญดูนี่” รองนายอำเภอหยางกางแผนที่ออกบนโต๊ะ “นี่คือแผนที่ละแวกเขาอูอวิ๋น ค่ายเมฆาดำ ชัยภูมิป้องกันง่ายโจมตียาก ก็เพราะทางเข้าโจมตีนั้นเป็นทางแคบมากเพียงเส้นทางเดียว ไม่อาจขนยุทโธปกรณ์ขนาดใหญ่ผ่านไปได้ ด้านข้างยังเป็นเนินเขา อีกทางเป็นหน้าผา อาศัยกำลังโจรภูเขาเฝ้าที่นี่จำนวนไม่มาก ก็อาจโจมตีผู้มาบุกโจมตีที่มากกว่ากำลังโจรภูเขาได้…”
ได้ยินคำอธิบายสภาพเขาอูอวิ๋นของรองนายอำเภอหยาง ก็รู้กระจ่างว่าท่านผู้นี้คือเจ้าหน้าที่ทางการที่มีปณิธานปราบโจรแท้จริงผู้หนึ่ง
“สถานการณ์ก็เป็นเช่นนี้ คุณชายซิน ใต้เท้าเฮ่อ ไม่ทราบว่ากองกำลังหนิงซานจะมากันเท่าไร” รองนายอำเภอหยางพูดจบ แววตาก็มองทั้งสองคนอย่างมีความหวังเต็มเปี่ยม
ซินโย่วแอบลอบมองไปทางเฮ่อชิงเซียว
เฮ่อชิงเซียวเห็นสีหน้าผิดหวังของผู้คนมามากมาย พูดออกไปอย่างไม่รู้สึกกดดันแต่อย่างใด “ตอนนี้ยังมิได้ส่งสารให้กองกำลังหนิงซาน”
รองนายอำเภอหยางอดเบิกตาโตไม่ได้
“ใต้เท้าเฮ่อคงมิได้ล้อเล่นกระมัง” พอตั้งสติได้ รองนายอำเภอหยางก็ถามเสียงสั่น
ไม่มีกองหนุนจากกองกำลังหนิงซาน หรือว่าอาศัยเพียงแค่กำลังเจ้าหน้าที่ของที่ทำการอำเภอที่สั่งการได้สองสามร้อยนาย?
กล่าวว่ากำลังเจ้าหน้าที่สั่งการได้สองสามร้อยนาย พวกแอบสมคบคิดโจรก็ต้องตัดทิ้งไปครึ่งหนึ่ง รู้ว่าไม่มีกองหนุนมาช่วยก็ต้องตกใจไปอีกครึ่งหนึ่ง สุดท้ายที่คิดทุ่มเทกำลังแท้จริงมีเจ็ดแปดสิบคนก็ไม่เลวแล้ว
“แม้ข้ามีป้ายคำสั่งเคลื่อนกำลังอยู่ในมือ การสั่งเคลื่อนกำลังก็ยังคงต้องรอบคอบ อีกอย่างทางกองกำลังหนิงซานเองก็ประสบเหตุอุทกภัยยากเดินทางมาได้ รอกองหนุนจากกองกำลังหนิงซานมาเสียเวลามากเกินไป…”
รองนายอำเภอหยางฟังแล้ว สีหน้าก็ยิ่งซีดเผือด สุดท้ายสีหน้าเต็มไปด้วยความผิดหวัง
“หากเป็นเช่นนี้ กล่าวกับทั้งสองท่านตามตรง อาศัยกำลังที่ทำการอำเภอปราบโจร ไร้สิ้นความหวัง”
“รองนายอำเภอหยางตั้งใจแน่วแน่จะปราบโจรหรือไม่” ซินโย่วถาม
รองนายอำเภอหยางสีหน้าตกใจ เอ่ยน้ำเสียงหนักแน่น “ข้าตั้งใจแน่วแน่ปราบโจร แต่จะทำอย่างไรได้ แม่ครัวไม่อาจเก่งกาจยามไร้ข้าวสาร”
“ข้ามีแผนการ หากรองนายอำเภอหยางเลือกเจ้าหน้าที่ไว้ใจได้สักร้อยคนมาให้ข้า ข้ามั่นใจว่าจะปราบโจรได้อย่างน้อยแปดส่วน”
แปดส่วน?
รองนายอำเภอหยางแววตาส่องประกายวาบ “หากมีความมั่นใจมากเช่นนี้จริง การนำกำลังร้อยคนมาย่อมมิใช่ปัญหา!”
“เช่นนั้นก็ดี” ซินโย่วประสานสายตากับเฮ่อชิงเซียวเอ่ยถึงแผนการ