สืบแค้นคุณหนูสวมรอย - ตอนที่ 295 วิธีการที่ถูกต้อง
ตอนที่ 295 วิธีการที่ถูกต้อง
อุบัติเหตุกะทันหันมาก ทำเอาทุกคนพากันนิ่งอึ้งไปทันที
เชียนเฟิงสบตากับผิงอัน กระโดดลงไปอย่างไม่ลังเล เพียงแต่ต่างจากการกระโดดตรงลงไปของเฮ่อชิงเซียว พวกเขาอาศัยก้อนหินและพุ่มไม้ทางลาดเนินเขาลงไป
“ไปหาใต้เท้า!” หวงเฉิงตะโกนสั่งการ ก่อนตนเองกระโดดตามพวกเชียนเฟิงลงไป
เห็นคนตรงหน้าเหล่านั้นล้วนไม่สนใจอันตราย แต่ละคนกระโดดลงไป หัวหน้าหกได้แต่มองตาค้าง
ทำอย่างไรดี?
ลงไปหมดแล้ว เหลือแค่เขาแล้ว!
เขามองเจ้าแปดที่ตาค้างเหมือนกันทีหนึ่งกัดฟันเอ่ยว่า “ข้าลงไปดูด้วย”
เจ้าแปดลนลาน “งั้น งั้นข้าล่ะ”
“เจ้าอย่าเพิ่งลงมา หากเกิดเรื่อง ยังต้องพึ่งพาเจ้าอีก” หัวหน้าหกกล่าวเช่นนี้ไปก็ใกล้จะร้องไห้แล้ว
หากเขาไปครั้งนี้เกิดไร้ลมหายใจกลับมา ก็คงต้องมีคนเก็บศพเขากระมัง
ผู้ใดจะคิดว่าความมั่งคั่งสำเร็จตรงหน้าหายวับไปกับตาย เป็นตายยากคาดเดา
ไม่นานด้านล่างก็มีเสียงตะโกนเจือเสียงสะอื้นไห้ของหัวหน้าหกดังขึ้น “ช่วยด้วย!”
เจ้าแปดชะโงกมองลงไปก็เห็นหัวหน้าหกกอดก้อนหินที่ยื่นออกมาไว้แน่น เสื้อผ้าถูกกิ่งไม้เกี่ยวไว้ด้านบนจนเสื้อเลิกขึ้นไปครึ่งตัว ห่อศีรษะเขาเอาไว้ด้านใน เผยให้เห็นเพียงท่อนล่างที่ไร้เสื้อผ้าปกปิด
นายอำเภอจ้าวรีบสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทางการฝีมือดีไปช่วยหัวหน้าหกขึ้นมา จากนั้นก็เลือกเจ้าหน้าที่สองคนที่มีวิชายุทธ์ลงไปค้นหา แม้เขาร้อนใจ แต่เขาไม่กล้ารอช้า ยังคงนำขบวนชาวบ้านไปต่อ
เวลาผ่านไปนาน ในที่สุดฝนก็หยุด คนสองหมู่บ้านมาถึงที่ปลอดภัย หยุดพักผ่อน
ชาวบ้านที่วิ่งหนีน้ำมายังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ชาวบ้านที่เห็นซินโย่วร่วงลงไป
“คุณชายซินกับใต้เท้าเฮ่อล้วนเป็นคนดี เหตุใดจึงเกิดเรื่องได้!”
“ใช่ ข้ายังคิดว่าใต้เท้าเฮ่อเป็นเจ้านายวางอำนาจสำแดงบารมี ถือดาบชี้พวกเรา คิดไม่ถึงน้ำบ่ามาจริงด้วย…” คนที่พูดก็คือหนึ่งในชาวบ้านที่ตอนนั้นเป็นตายก็ไม่ยินดีมา ยิ่งคิดก็ยิ่งนึกกลัว
“พวกเจ้าพูดกันมากมายนี่ ตกลงคุณชายซินกับใต้เท้าเฮ่อแท้จริงเกิดเรื่องอันใดขึ้น”
“เพื่อช่วยนังหนูสาม” หญิงที่อุ้มเด็กหญิงตาแดงสะอื้นไห้ “นังหนูสามล้ม พอดีมีก้อนหินร่วงลงมาจากบนเขา คุณชายซินเตือนว่ามีก้อนหิน ใต้เท้าเฮ่ออุ้มนังหนูสามหลบ ก้อนหินนั้นก็กระแทกลงบนที่นังหนูสามอย่างแรง…”
คนที่ได้ฟังต่างพากันสูดลมหายใจเฮือก พากันถามขึ้นว่า “จากนั้นเล่า”
หญิงผู้นี้สีหน้างุนงง “หินก้อนนั้นแตก คุณชายซินก็ร่วงลงไปเร็วมาก เร็วมากๆ…”
อุบัติเหตุเพียงชั่วพริบตา ตอนที่ได้เห็นพื้นถนนมีรอยแตก ทุกคนจึงได้รู้ว่าเกิดเรื่องใดขึ้น
“ทำอย่างไรดี…”
บรรดาชาวบ้านเป็นห่วงความปลอดภัยของทั้งสองคน และกลัวว่าหากเจ้านายเกิดเรื่อง พวกเขาจะพลอยมีความผิดไปด้วย
“คุณชายซินคงไม่เป็นอันใด” คนที่พูดเป็นหญิงชรา
ปกติหญิงชราผู้นี้ดูแล้วสติไม่ค่อยดี เป็นคนจำพวกนที่ยามชาวบ้านประสบเหตุจะนำไข่ไก่สองฟองไปถามความ
“คุณชายซินรู้เหตุล่วงหน้า เป็นดังเทพมาจุติ จะเกิดเรื่องได้อย่างไร!” หญิงชราเสียงดังขึ้น แม้แต่นายอำเภอจ้าวก็ได้ยิน
คำพูดที่ว่าเป็นดังเทพมาจุติ แม้นายอำเภอจ้าวไม่เชื่อ แต่ก็ไม่เอ่ยอันใด
การที่ชาวบ้านเชื่อเรื่องภูตผีเทพเซียนก็เพราะจะทำให้พวกเขามีความกล้าและมั่นใจยามเผชิญกับความทุกข์ยากลำบาก
แต่ทว่า…คุณชายซินรู้ได้อย่างว่าจะมีน้ำไหลบ่า
ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในความคิดนายอำเภอจ้าวก่อนจะถูกความกังวลกลบลง
พอจัดการที่พักให้ชาวบ้านเหล่านี้เรียบร้อย นายอำเภอจ้าวก็เรียกรวมพลทุกคนในที่ทำการอำเภอ คนกลุ่มหนึ่งรับหน้าที่ตรวจตราในเมือง คนกลุ่มหนึ่งไปตรวจสอบเหตุในแต่ละหมู่บ้าน ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งส่งไปค้นหาคุณชายซินกับใต้เท้าเฮ่อโดยเฉพาะ
ใต้เนินเขามีแม่น้ำไหลบ่าไปด้านหน้า ไปสมทบกับแม่น้ำอีกสายหนึ่งที่ถูกน้ำไหลบ่าท่วมไปแล้ว
ในส่วนลึกสุดของถ้ำที่ซ่อนตัวอยู่มีบึงน้ำลึกอยู่บึงหนึ่ง ไม่รู้ก้นบึงเงียบสนิทนี้จะไหลไปสู่ที่ใด ยามนี้ผิวน้ำสงบนิ่งพลันกระเพื่อมขึ้น เผยร่างคนผุดขึ้นมา
เฮ่อชิงเซียวกอดซินโย่วไว้ พยายามดันนางขึ้นไปริมบึง ตนเองกลับลอยผลุบโผล่ออยู่เหนือผิวน้ำ ไร้แรงกำลังจะปีนขึ้นฝั่ง
ในถ้ำคล้ายว่าไม่มีแสงเล็ดลอด มีชายผู้หนึ่งใบหน้าขาวดุจหิมะลอยอยู่บนผืนบึงน้ำมืดดำสนิท
เขาหลับตาแน่นไม่ขยับตัว ใบหน้าคล้ายว่ามีเพียงจมูกที่อยู่เหนือน้ำ คล้ายดังไร้ลมหายใจไปแล้ว
ไม่รู้อยู่ในสภาพนี้นานเพียงใด ในที่สุดชายในบึงน้ำก็สะสมกำลังกายได้เพียงพอ พลันลืมตาขึ้น
เขาลองขยับนิ้วมือ ปลายนิ้วยืดออกแล้วก็กำเข้า รู้สึกว่าควบคุมร่างกายได้แล้ว เฮ่อชิงเซียวก็รีบว่ายไปริมบึงน้ำ
เสียงน้ำซ่าดังกระจ่างชัดอย่างมากท่ามกลางผืนถ้ำเงียบสงบ
ที่ยิ่งกระจ่างชัดก็คืออารมณ์ตื่นตระหนกของเฮ่อชิงเซียว
“ซินไต้จ้าว!” เขากอดคนที่นอนราบอยู่ข้างกายขึ้นมา พลางส่งเสียงร้องเรียก
คนที่พิงแนบอกเขาผมหลุดลุ่ย เพราะถูกกระแสน้ำพัดพามาไม่หยุด แม้การแปลงโฉมแบบกันน้ำก็หลุดออก กลับคืนสู่สภาพดังเดิม
คนในอ้อมกอดผอมจริงๆ
ในสภาพสลัวนี้ เขามองเห็นสภาพนางไม่ชัด แต่กลับรู้สึกได้ว่าเป็นเรื่องจริงแท้
ส่งเสียงเรียก ‘ซินไต้จ้าว’ สองสามครั้ง คนในอ้อมกอดยังคงไร้ปฏิกิริยา เฮ่อชิงเซียวประคองนางนอนราบลงด้วยอาการสองมือสั่นเทาอย่างไม่อาจระงับ กดท้องนางลงไปหนึ่งครั้ง สองครั้ง คิดจะกดให้น้ำออกมา
เพดานถ้ำมีหยดน้ำเกาะตัวเป็นก้อน เสียงหยดน้ำแต่ละหยดที่หยดลงในบึงน้ำลึกเป็นจังหวะ ทำให้การรับรู้ของคนเลือนราง เวลาเหมือนผ่านไปช้ามาก ถึงกับราวกับหยุดนิ่งอยู่ที่การรับรู้ของเฮ่อชิงเซียว
“คุณหนูซิน เจ้าฟื้นสิ!”
“คุณหนูซิน…”
เสียงผู้ชายแหบพร่าอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ แอบซ่อนความสิ้นหวัง
เขาไม่กล้าปล่อยให้อารมณ์เช่นนี้ลุกลามออกไป เอ่ยเรียกคำเรียกขานที่ไม่เคยกล้าเอ่ยออกมา
ในที่สุดสาวน้อยที่ดวงตาปิดสนิทก็สำลักน้ำออกมา พร้อมส่งเสียงไอขึ้น
ห้วงเวลานั้น ดวงตาเฮ่อชิงเซียวก็เปล่งประกายวาบ รีบพยุงนางให้ลุกขึ้นนั่ง
“คุณหนูซิน เป็นอย่างไรบ้าง”
ซินโย่วขนตาขยับไหว นางได้ยินคนเรียกนางว่าคุณหนูซิน
ท่านแม่ชอบเรียกนางว่าอาโย่ว ผู้อื่นในหุบเขาต่างเรียกนางว่าคุณหนูโย่ว ตอนออกไปเดินทางท่องเที่ยว ผู้อื่นเรียกนางว่าคุณชายซิน
ใช่แล้ว นางยังเป็นคุณหนูโค่ว ซินไต้จ้าว…แต่กลับไม่มีคนเรียกนางว่าคุณหนูซิน
ไม่ นางเคยบอกกับคนผู้หนึ่งว่า เรียกนางว่าคุณหนูซินได้
ใต้เท้าเฮ่อ!
พอความคิดนี้ผุดขึ้นมา ในที่สุดซินโย่วก็ลืมตาขึ้น
ภาพตรงหน้ามืดดำไปหมด
“คุณหนูซิน!” เฮ่อชิงเซียวที่ชินกับความมืดในถ้ำแล้ว พอเห็นดวงตาซินโย่วลืมขึ้น แววตามีแต่ความประหลาดใจระคนยินดี
หลังจากนิ่งเงียบไปเล็กน้อย สาวน้อยก็เก็บซ่อนน้ำเสียงตื่นตกใจ ถามขึ้นว่า “ใต้เท้าเฮ่อ ข้ามองไม่เห็น”
“ไม่ต้องกลัว ที่นี่มืดไปสักหน่อย” เฮ่อชิงเซียวอดกุมมือนางแน่นไม่ได้
“แค็ก แค็ก …” ซินโย่วไอออกมาสองสามที ก่อนจะลูบท้องที่บวมเจ็บอยู่บ้าง “ใต้เท้าเฮ่อ พวกเรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
พอปรับตัวกับความมืดได้แล้ว นางก็พยายามมองสภาพของเขา
“พวกเราตกลงมาในแม่น้ำใต้เนินเขา ใต้แม่น้ำมีกระแสน้ำวน ถูกม้วนเข้าไปในนั้นแล้วก็มาโผล่ที่นี่ ที่นี่น่าจะเป็นถ้ำสักแห่ง…”
ซินโย่วนิ่งฟังเฮ่อชิงเซียวพูดจบ ก็โพล่งถามขึ้นว่า “ใต้เท้าเฮ่อกดท้องข้าไว้ตลอดเพื่อกดเอาน้ำออกมาหรือ”
เฮ่อชิงเซียวพลันไม่รู้ว่าควรพยักหน้าหรือไม่
ไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกผิดพลาดหรือไม่ เขาฟังออกว่ามีน้ำเสียงตำหนิอยู่บ้าง
รังเกียจเขาที่รุ่มร่ามกับนางหรือ
“ใต้เท้าเฮ่อรู้วิธีการช่วยคนจมน้ำอย่างถูกต้องหรือไม่”
เฮ่อชิงเซียวส่ายหน้างุนงง
ไม่ใช่กดเอาน้ำที่กลืนลงไปออกมาหรือ
“ควรเป็นเช่นนี้…” ริมฝีปากอ่อนนุ่มเย็นเยียบดุจน้ำแข็งของสาวน้อยประทับลงบนริมฝีปากเขา