สืบแค้นคุณหนูสวมรอย - ตอนที่ 298 ออกจากเขาลึก
ตอนที่ 298 ออกจากเขาลึก
หมู่บ้านหลิวเหอเป็นหมู่บ้านเล็กๆ มีชาวบ้านสิบกว่าหลังคาเรือนเท่านั้น ข้างหมู่บ้านมีแม่น้ำสายหนึ่ง ยาวคดเคี้ยวไปจนถึงหมู่เขาลึก
วันนี้ความเงียบสงบของหมู่บ้านถูกทำลายลงด้วยการมาของคนกลุ่มหนึ่ง
ในบรรดาคนเหล่านี้มีคนใส่ชุดขุนนาง มีคนใส่ชุดธรรมดา ทุกคนแทบล้วนเป็นชายหนุ่มวัยฉกรรจ์
“ตามผู้ใหญ่บ้านพวกเจ้ามา” หวงเฉิงเอ่ยด้วยสีหน้าเยียบเย็น
เดิมเขาเป็นเสือหน้ายิ้ม แต่สามวันมาแล้วยังหาใต้เท้ากับคุณชายซินไม่พบ ทำให้เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
ชาวบ้านที่ถูกถามไหนเลยจะเคยพบสถานการณ์ใหญ่โตเช่นนี้ แม้แต่วาจาก็มิกล้าเอ่ย รีบวิ่งไปหาผู้ใหญ่บ้านทันที
ไม่นาน ก็มีชายชราดูเหมือนเลยวัยห้ารอบแล้วมาถึง
“ข้าน้อยคารวะนายท่าน” ชายชราประสานมือคำนับพวกหวงเฉิง
หวงเฉิงมองมือปราบหลิวทีหนึ่ง
มือปราบหลิวแจ้งสถานะกระจ่างด้วยภาษาถิ่น “พวกเราเป็นคนจากอำเภอที่มาช่วยราษฎรประสบภัยที่นี่เมื่อสามวันก่อน มีใต้เท้าสองท่านประสบอุบัติเหตุตกจากเนินเขา อาจตกลงมาในแม่น้ำและถูกพัดพามาที่นี่ พวกเจ้าได้ช่วยผู้ใดไว้หรือไม่ หรือว่าพบเห็นอันใดหรือไม่ หากมีเบาะแส จะมีรางวัลอย่างงาม”
“ไม่มี” ผู้ใหญ่บ้านตอบอย่างไม่คิดแม้แต่น้อย
“ท่านลองถามชาวบ้านดู”
ผู้ใหญ่บ้านเอ่ยอย่างระมัดระวัง “พวกเราที่นี่มีเพียงสิบกว่าครัวเรือน บ้านใดแม่ไก่ออกไข่ใหม่ก็จะรู้กันทั้งหมู่บ้าน…”
มือปราบหลิวมองไปทางหวงเฉิง
หวงเฉิงสีหน้าเคร่งเครียด ร้อนใจอย่างที่สุด
ผีร้ายบดบังแล้วจริงๆ
ใต้เนินเขาเป็นแม่น้ำ ใต้เนินเขาไม่มีร่องรอยใต้เท้ากับคุณชายซิน เช่นนั้นก็ย่อมต้องถูกกระแสน้ำพัดมาที่นี่ แต่หามานานเพียงนี้ หากอยู่ต้องเห็นตัว…
“หากพบ ต้องรีบไปรายงานที่ทำการอำเภอทันที” มือปราบหลิวสั่งการผู้ใหญ่บ้าน
ผู้ใหญ่บ้านรีบรับคำ พอพวกหวงเฉิงไปแล้ว ก็ส่งเด็กหนุ่มหัวไวไปสืบสภาพการณ์ที่อำเภอ
การตามหาซินโย่วกับเฮ่อชิงเซียว นอกจากคนของตนเองกับคนของทางการ ยังมีชายหนุ่มจากหมู่บ้านซ่างเหอและซย่าเหอสองหมู่บ้านรวมพลมาด้วยตนเอง
พวกเขากล้าเอ่ยถามคนเหล่านี้ ไม่เหมือนทีท่ากลัวๆ กล้าๆ ยามเผชิญหน้ากับคนของทางการ
“ค้นหาผู้ใดน่ะหรือ ก็หาผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตพวกเราสองหมู่บ้านไว้น่ะสิ!”
“หากไม่มีคุณชายซิน หมู่บ้านซ่างเหอเราก็คงถูกน้ำไหลบ่าท่วมแล้ว”
“พวกเจ้ามาจากหมู่บ้านซ่างเหอหรือ ได้ยินว่าทางนั้นเกิดน้ำท่วม ทั้งหมู่บ้านจมใต้บาดาล พวกเจ้าหนีออกมาได้อย่างไร”
“เพราะได้คุณชายซินแท้ๆ! วันนั้นนายอำเภอนำคนหมู่บ้านซย่าเหอไปฝากที่หมู่บ้านเรา คุณชายซินให้พวกเรารีบอพยพ บอกว่าน้ำจะไหลบ่ามาแล้ว เดิมพวกเรายังไม่ยอมมา ปรากฏว่าเดินออกมาได้ไม่นานนัก น้ำก็ไหลบ่ามาจริงๆ!”
“คุณชายซินรู้ได้อย่างไรว่าน้ำจะไหลบ่ามา”
“ข้าบอกพวกเจ้านะ พวกเจ้าอย่าได้พูดไป”
คนได้ยินพากันพยักหน้า
“คุณชายซินเป็นเซียนมาจุติ…”
เทพมาจุติ ช่วยเหลือราษฎรจากภัยพิบัติ เรื่องราวที่มีกลิ่นอายลึกลับเช่นนี้มักเป็นเรื่องที่ผู้คนมักชอบเล่าต่อกัน แพร่กันออกไป
ข่าวซินโย่วเกิดเรื่องถูกส่งรายงานด่วนไปยังฮ่องเต้ซิงหยวนตี้
ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้กำลังหารือกับขุนนางใหญ่เรื่องช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในแต่ละพื้นที่ พอได้ข่าวนี้ก็ปัดถ้วยชาตก ปล่อยให้น้ำชาไหลรดฎีกาเปียก
“ยังหาไม่พบหรือ”
“ทูลฝ่าบาท ตอนข่าวส่งมายังหาไม่พบพ่ะย่ะค่ะ”
“เฮ่อชิงเซียวทำงานอย่างไร!” ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้บ่นไม่พอพระทัยด้วยสีพระพักตร์เคร่งเครียด ไม่ตรัสอันใดอีก
รายงานด่วนเขียนถึงว่าตอนนั้นเฮ่อชิงเซียวโดดตามลงไปช่วย ยังจะกล่าวอันใดได้
ต้องตำหนิที่เด็กคนนั้นใจดีเกินไป ต้องการช่วยเหลือชาวบ้าน ทำให้ตนเองต้องประสบอันตราย
ราชกิจไม่อาจหารือต่อได้อีกแล้ว ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้พระพักตร์บึ้งตึง ทอดพระเนตรขุนนางใหญ่สองสามคนตรงหน้า ตรัสพระสุรเสียงเคร่งเครียด “เราจะลงใต้ด้วยตนเอง ไปดูว่าแท้จริงสถานการณ์เป็นอย่างไร”
พอตรัสเช่นนี้ บรรดาขุนนางใหญ่ก็พากันลงคุกเข่า “ฝ่าบาท ไม่เด็ดขาด ทางใต้กำลังเกิดอุทกภัย พระวรกายดุจทองคำ จะไปเสี่ยงภัยได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”
เห็นว่าไม่อาจเกลี้ยกล่อมได้แล้ว บรรดาขุนนางก็เปลี่ยนแนวทาง “ฝ่าบาท ทางใต้ประสบอุทกภัย ชายแดนทางเหนือมีเหตุปะทะ แต่ละพื้นที่ล้วนมีเภทภัยต้องจัดการ ในราชสำนักมีงานมากมาย ล้วนไม่อาจขาดพระองค์”
“ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ราษฎรนับหมื่นพันล้วนเป็นบุตรหลานของพระองค์ ไม่อาจไร้การคุ้มครองจากพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”
…
ข่าวฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ทรงคิดลงใต้แพร่ออกไป ซิ่วอ๋องได้ยินรีบขอเข้าเฝ้า
“เจ้ามีธุระอันใด” เห็นบุตรชายคนโตคุกเข่าคำนับที่พื้น ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ตรัสถามขึ้นด้วยพระสุรเสียงนิ่งเรียบ
“หม่อมฉันยินดีเป็นตัวแทนเสด็จพ่อลงใต้ ไปช่วยค้นหาซินไต้จ้าว”
“เจ้าไป?” ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ขมวดพระขนงอย่างนึกคาดไม่ถึงอยู่บ้าง
“ขอเสด็จพ่อวางใจ หม่อมฉันจะทุ่มเทกำลังอย่างเต็มที่”
บรรดาขุนนางเห็นเช่นนี้ ก็พากันออกมาพูดแทนซิ่วอ๋อง
องค์ชายใหญ่ไป ก็ดีกว่าฮ่องเต้เสด็จไปเอง
ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ทรงครุ่นคิดอยู่นานก็พยักพระพักตร์
ซิ่วอ๋องออกเดินทางไปอำเภอไป๋อวิ๋นทันที คนที่พาไปด้วย ส่วนหนึ่งเป็นองครักษ์จวนซิ่วอ๋อง แต่ส่วนใหญ่เป็นคนจากกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินและกองกำลังส่วนพระองค์ประจำเมืองหลวง
คนนำกำลังส่วนพระองค์ประจำเมืองหลวงไปครั้งนี้เหนือความคาดหมายของทุกคน ก็คือไป๋อิงบุตรีขุนพลไป๋
ขุนพลไป๋ก็มาขอด้วยตนเองว่าจะลงใต้ไปค้นหาซินไต้จ้าว แต่เพราะสุขภาพไม่ดี จึงให้บุตรสาวไปแทนนาง
แม้ว่าขุนนางใหญ่บางคนมีความเห็นแย้งในเรื่องนี้ แต่กลับไม่อาจทัดทานการตัดสินพระทัยของฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ได้
คิดถึงความสัมพันธ์ของขุนพลไป๋กับฮองเฮาซิน บรรดาขุนนางก็ยิ่งรู้สึกว่าฮ่องเต้ให้ความสำคัญกับซินไต้จ้าวมาก
ซินไต้จ้าวไปรับโลงพระศพฮองเฮาเข้าเมืองหลวงด้วยตนเอง ปราบโจรภูเขา กวาดล้างทหารกบฏ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ชื่อเสียงในหมู่ราษฎรประมาณมิได้ หากกลับมาอย่างปลอดภัยได้ เกรงว่าจะเกิดเหตุเปลี่ยนแปลงในราชสำนักครั้งใหญ่แล้ว
แต่ทางนี้กลับไม่ได้วุ่นวายเหมือนด้านนอก เฮ่อชิงเซียวแบกซินโย่วเดินมาได้สามวันจึงออกจากแนวเทือกเขามาได้ โชคดีได้พบกับครอบครัวนายพราน ได้พักอยู่บ้านนายพรานหลายวัน ซินโย่วไข้ลดจนลงเดินเองได้แล้ว จึงได้เตรียมอำลา
“หลายวันนี้รบกวนพี่ชายและท่านน้าแล้ว”
ครอบครัวนายพรานมีเพียงสองแม่ลูก เดิมนายพรานมีภรรยา แต่หลายปีก่อนคลอดบุตรยากสิ้นใจจากไปทั้งแม่ลูก ครอบครัวยากจนแต่งสะใภ้ลำบาก จึงได้เหลือเพียงสองแม่ลูกพึ่งพากันและกัน
เฮ่อชิงเซียวรู้ว่าเรื่องพวกนี้เพราะอาศัยมารดานายพรานที่พูดเก่งมาก
ยามนี้เองมารดานายพรานดึงมือซินโย่วไปกุมพลางกำชับเฮ่อชิงเซียว “ภรรยาเจ้าผอมเกินไปแล้ว จึงได้อ่อนแรง ไว้กลับบ้านต้องบำรุงให้ดีๆ นะ”
“ขอรับ” แม้ว่าได้ฟังมาหลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งที่ได้ฟังคำว่า ภรรยา เฮ่อชิงเซียวก็ยังคงอดใบหน้าร้อนผ่าวไม่ได้
แต่กับผู้อาวุโสนั้น เขามีความอดทนฟังได้นานมาแต่ไหนแต่ไร แม้มารดานายพรานจะพูดข้อความเดิมซ้ำไปมาหลายครั้ง ก็ยังคงอดทนฟังได้หลายรอบ
“ท่านแม่ ท่านอย่าพูดเยอะ คนฟังหูตึงไปหมดแล้ว”
มารดานายพรานค้อนใส่บุตรชายทีหนึ่ง “เจ้าดูเสี่ยวเฮ่อ นิสัยดีขนาดไหน มิน่าจึงได้มีภรรยางาม”
นายพรานไม่ยอมรับ บ่นเบาๆ “ไม่ใช่เพราะเสี่ยวเฮ่อรูปหล่อหรือ”
“เจ้าว่าอะไรนะ” มารดานายพรานขึ้นเสียง
“ข้าว่าท่านแม่กล่าวได้ถูกต้อง”
ซินโย่วคลี่ยิ้ม “ท่านน้า พี่ชาย ขอบคุณพวกท่านที่รับพวกเราไว้ ไว้ข้ากลับถึงบ้านรักษาตัวหายดี จะกลับมาเยี่ยมพวกท่านอีก”
“ไม่ต้องๆ พวกเจ้าใช้ชีวิตให้ดีๆ ก็พอ” มารดานายพรานมองดูหนุ่มสาวรูปงามคู่นี้ดังกิ่งทองใบหยก อดกำชับอีกไม่ได้ว่า “เสี่ยวเฮ่อ ภรรยาเจ้าอายุยังน้อย ไม่ต้องรีบมีบุตร…”
ใบหน้ารูปงามของเฮ่อชิงเซียวแดงระเรื่อ แต่มารดานายพรานกำชับไม่หยุด ได้แต่ต้องตอบรับ “ท่านน้าวางใจ พวกเราไม่รีบมีบุตร”
ซินโย่วก้มหน้าลงเล็กน้อย