สืบแค้นคุณหนูสวมรอย - ตอนที่ 420 กลับวัง
ตอนที่ 420 กลับวัง
……….
พระสนมลี่ผินจ่อปิ่นไว้ที่ลำคอ มองดูขันทีเหิมเกริมได้ใจ ในใจเต็มไปด้วยความรันทด
ยามนี้นางมิได้ทำเพื่อซินโย่ว แต่เพื่อตนเอง
แท้จริงเหตุใดกัน
ไม่เป็นที่โปรดปราน สุดท้ายไม่มีแม้แต่เกียรติยศศักดิ์ศรี
นางเองก็เป็นหญิง เป็นกุลสตรีในจวนที่รอคอยคู่ครองที่ดี ต่อมาได้เป็นพระสนม หวังเพียงได้รับความโปรดปราน สุดท้ายก็ไม่คิดหวังอีกแล้ว แต่นางก็เป็นคน คนที่เจ็บเป็น ปวดเป็น
หากวันหน้าต้องเผชิญหน้ากับฮ่องเต้เหลวไหลเช่นนี้ มีชีวิตที่น่ารันทดเช่นนี้ เช่นนั้นก็ไม่ควรมีชีวิตต่อไป
พระสนมลี่ผินนิ่งมององค์หญิงเสวียนทีหนึ่ง เผยสีหน้ารู้สึกผิดและอาลัย
องค์หญิงเสวียนมองออกว่ามารดาตัดสินใจสละชีวิต แม้รู้ก็เข้าไปห้ามไม่ทัน ก้มศีรษะพุ่งใส่หลี่เหวย
หลี่เหวยไม่ทันระวังถูกผลักล้มกลิ้งไป ส่งเสียงตะโกนแหลมดัง “ทำอันใดน่ะ”
องค์หญิงเสวียนกระชากผมหลี่เหวย อีกมือก็ข่วนใบหน้าเขา
เสียงร้องโหยหวนดังก้อง ขันทีที่ติดตามหลี่เหวยมาพากันมองไปยังองค์หญิงเสวียนที่ลงมือราวกับหญิงชาวบ้านร้านตลาด ทุกคนพากันมองตาค้างลืมเข้าไปห้ามไว้
พระสนมลี่ผินเองก็ลืมว่าตนเองทำอันใดอยู่
แต่แรงหลี่เหวยมากกว่า ผลักองค์หญิงเสวียนกระเด็นไป โมโหกัดฟันกรอด “องค์หญิงเสวียนขัดขวางการตรวจค้น ยังไม่รีบจับตัวนางไว้อีก!”
องค์หญิงเสวียนถูกผลักล้มลงพื้น เงยหน้ามองพระสนมลี่ผิน ตะโกนเรียก “เสด็จแม่ ช่วยข้าด้วย เสวียนเอ๋อร์กลัว…”
พระสนมลี่ผินปล่อยปิ่นในมือ ลุกจากเตียงไปปกป้องบุตรสาว
ขันทีสองสามคนเข้าไปคุมตัวองค์หญิงเสวียน พลันได้ยินเสียงตวาดโมโหดังของหญิงชราดังขึ้น
“กำลังทำอันใดกัน!”
ทุกคนพากันหันไปมองก็เห็นพระสนมเสวียนเฟยประคองไทเฮาเดินเข้ามา
“ถวายบังคมไทเฮา” ทุกคนคุกเข่าลง
ไทเฮากวาดสายพระเนตรมองผ่านใบหน้าหลี่เหวยที่ถูกข่วนเป็นรอย ไปหยุดที่พระสนมลี่ผินสองแม่ลูกตรัสพระสุรเสียงเยียบเย็น “พวกเจ้ายังรู้ว่าข้าคือไทเฮา! หลี่เหวย เจ้ารู้หรือไม่ว่านี่คือวังหลัง?”
หลี่เหวยรีบทูล “บ่าวรู้พ่ะย่ะค่ะ”
“ในเมื่อรู้ เจ้านำขันทีมากมายมาวังหลังรื้อค้นตู้ค้นหีบหรือ ข้ายังคิดว่าโจรบุกหมู่บ้าน!”
หลี่เหวยเขยิบเข้ามาอธิบาย “ไทเฮา ตรวจค้นวังหลังเป็นรับสั่งฮ่องเต้ บ่าวมิกล้าประมาท”
“ฮ่องเต้ให้พวกเจ้ามารื้อค้นวังหลัง ก็เพื่อค้นหาตัวซินโย่ว?”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“หลังจากหาพบเล่า”
“ซินโย่วได้รับพระราชทานโทษตาย แต่กลับขัดราชโองการหลบหนี ความผิดทับซ้อนความผิด หากจับตัวได้ก็คือโทษตายสถานเดียว”
ไทเฮาขมวดพระขนง “ฮ่องเต้มีราชโองการเช่นนี้จริงหรือ”
“บ่าวเป็นเพียงขันทีเล็กๆ จะกล้าหลอกลวงไทเฮาได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ถูกต้อง…” ไทเฮาพึมพำ พยายามลืมพระเนตรขมุกขมัวจ้องมองหลี่เหวย “ตอนช่วยฮ่องเต้ทรงตกน้ำขึ้นมาได้ ได้เชิญนักพรตมาขับไล่ภูตผีปีศาจหรือไม่”
บุตรชายคงมิใช่โดนมารร้ายเข้าสิงกระมัง ไม่เช่นนั้นจะตัดใจสังหารบุตรสาวของเขากับซินซื่อได้ลงหรือ
นางรังเกียจซินโย่วแต่ก็มิได้เคยคิดจะให้เด็กนั่นตาย อย่างไรเด็กนั่นก็มีโลหิตของบุตรชายอยู่ในกาย นับประสาอันใดกับบุตรชายที่หลงใหลซินซื่อจนหาทางหาออกไม่เจอ
มีปัญหา มีปัญหาอย่างแน่นอน
“หลี่เหวย”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“ตรวจค้นวังหลังนี่ช้าไว้ก่อน เจ้าไปตำหนักเฉียนชิงกงเข้าเฝ้าฮ่องเต้กับข้า”
“เกรงว่า…” หลี่เหวยลังเลคิดปฏิเสธ แต่กลับถูกคนวิ่งเข้ามาตัดบทขึ้น
คนที่วิ่งเข้ามาก็คือขันทีผู้หนึ่ง คนของเขาเอง
“เกิดเรื่องใดขึ้น”
“อาจารย์ อยู่ๆ ก็มีองครักษ์มากันมากมาย”
“องครักษ์? ได้ถามไหมว่าเกิดเรื่องใดขึ้น” หลี่เหวยมีลางสังหรณ์ไม่ดีนัก
ยามนี้ด้านนอกมีเสียงตะโกนดังขึ้น “หลี่เหวย เจ้าสมคบคิดกับเฝิงเหนียน แอบอ้างราชโองการฝ่าบาทกระทำการเหิมเกริม ตอนนี้ฮ่องเต้ตัวจริงกลับถึงวังหลวงแล้ว ยังไม่รีบมอบตัว!”
ขันทีอีกนายหนึ่งวิ่งล้มลุกคลุกคลานเข้ามา “สอง…มีฮ่องเต้อยู่ด้านนอกสองพระองค์!”
หลี่เหวยเย็นวาบไปทั้งตัว ชี้ไปทางขันทีที่วิ่งเข้ามา “เล่ามาให้ละเอียด!”
“ก็…ก็คือมีฮ่องเต้เหมือนกันสองพระองค์ หนึ่งในนั้นถูกจับตัวมัดไว้แล้ว ฮ่องเต้อีกพระองค์มาพร้อมกับฉางเล่อโหวและขันทีซุน ยังมีผู้บัญชาการจ้าวและคนอีกมากมาย ตอนนี้ล้อมตำหนักฟางหนิงกงไว้แล้ว ขอให้ท่านออกไป…”
“แน่ใจว่าเป็นฉางเล่อโหวกับมหาขันทีซุน”
“เป็นพวกเขาจริง อาจารย์ แท้จริงเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่”
ไทเฮากระทืบเท้าทันที “ข้าเข้าใจ พวกเจ้านำฮ่องเต้ตัวปลอมมาหลอก! หลี่เหวย เจ้าบ่าวสุนัขบังอาจเหิมเกริมจริง…”
พระสุรเสียงตอนท้ายของไทเฮาแปรเปลี่ยน พวกพระสนมเสวียนเฟยส่งเสียงร้องตกใจ พากันตะโกนเรียก
“ไทเฮา”
หลี่เหวยมือหนึ่งบีบคอไทเฮาไว้ อีกมือถือปิ่นเงิน “ออกไปให้หมด!”
ในห้องทุกคนต่างนิ่งงันดังไก่ไม้
“ได้ยินไหม ออกไปให้หมด ไม่เช่นนั้นข้าจะสังหารไทเฮาทิ้ง!” หลี่เหวยถือปิ่นเงินด้วยมือที่สั่นเทารุนแรง น้ำเสียงสั่นรุนแรงยิ่งกว่า
เขาไม่รู้ว่าเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร
จับตัวไทเฮาเป็นตัวประกัน เป็นเรื่องที่ในชีวิตนี้เขาไม่คิดกระทำ แต่พอตั้งสติได้อีกครั้งก็กระทำไปแล้ว
คล้ายว่าตั้งแต่ตกปากรับคำพวกเสนาบดีซุนกับเฝิงเหนียน ทุกอย่างก็ไม่อาจควบคุมได้อีก
พระสนมเสวียนเฟยเห็นท่าทีหลี่เหวยผิดปกติ ก็รีบเอ่ยว่า “พวกเราจะออกไปตอนนี้ เจ้าอย่าได้ทำร้ายไทเฮาเด็ดขาด”
มีพระสนมเสวียนเฟยนำออกไป ไม่นานในห้องก็เหลือเพียงหลี่เหวยกับไทเฮา
ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้เห็นพวกพระสนมเสวียนเฟยออกมาก็เผยสีพระพักตร์สงสัย “พระสนมเสวียนเฟย เหตุใดมาอยู่ตำหนักฟางหนิงกง”
พระสนมเสวียนเฟยรีบลงคุกเข่า “เมื่อครู่หม่อมฉันทูลเชิญไทเฮามาตำหนักฟางหนิงกง หม่อมฉันมีโทษเพคะ!”
ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้สีพระพักตร์แปรเปลี่ยน “ไทเฮาเองก็อยู่?”
หลังจากเขาได้กลับมากุมอำนาจในวังอีกครั้ง ก็สั่งจับกุมคนปลอมตัวเป็นเขาด้วยตนเอง ได้ข่าวว่าหลี่เหวยตรวจค้นตำหนักฟางหนิงกงอย่างเหิมเกริมก็ตรงมาที่นี่ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้
“หลี่เหวยควบคุมตัวไทเฮาไว้ ให้พวกเราออกมาให้หมด…”
ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้เสด็จเข้าไปตวาดพระสุรเสียงดังว่า “หลี่เหวย เจ้าถึงกับกล้าควบคุมตัวไทเฮา เราจะถลกหนังเจ้า!”
ได้ยินเสียงฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ หลี่เหวยก็ร่ำไห้ “บ่าว บ่าวรู้ผิดแล้ว แต่บ่าวว่าถอยหลังไม่ได้แล้ว…ทำอย่างไรดี บ่าวยังอยากอยู่ต่อ…”
ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้เสด็จเข้ามาเห็นไทเฮากับหลี่เหวย
“เสด็จแม่!”
ไทเฮาชรามากแล้ว ดำรงสถานะสูงศักดิ์สุขสบายมาหลายปี ไหนเลยจะเคยประสบสถานการณ์เช่นนี้ ยามนี้หน้าซีดจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
“หลี่เหวย เรานับว่าให้ความสำคัญกับเจ้า แต่เจ้ากลับตอบแทนเราเช่นนี้”
ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้เสด็จไปด้านหน้าก้าวหนึ่ง หลี่เหวยก็ถอยหลังก้าวหนึ่ง
ความเคารพเกรงบารมีฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ของเขาฝังลึกอยู่ในกระดูก เดิมคิดว่าฮ่องเต้ซิงหยวนตี้สิ้นพระชนม์แล้ว เพื่ออำนาจและเกรงว่าจะถูกฆ่าปิดปาก ดังนั้นจึงรับปากร่วมมือ
ผู้ใดจะคิดว่าฮ่องเต้ไม่ตายและกลับมาแล้ว!
“บ่าวผิดไปแล้ว ฝ่าบาทไว้ชีวิตบ่าวด้วย บ่าวจะปล่อยไทเฮาเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”
พระเนตรฮ่องเต้ซิงหยวนตี้วูบไหว พระสุรเสียงอ่อนโยนลง “หลี่เหวย เจ้าอย่าได้วู่วาม คำขอของเจ้า เราไตร่ตรองได้…”
หลี่เหวยตั้งใจฟังรับสั่งของฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ คล้ายดังคว้าฟางเส้นสุดท้ายไว้ได้ ตอนเขารู้สึกว่าศีรษะปวดร้าวรุนแรง ภาพตรงหน้าก็ดับวูบลง ทำอันใดไทเฮาไม่ได้อีก
ซินโย่วดึงไทเฮามาไว้ด้านหลัง มองดูหลี่เหวยหมุนตัวไปครึ่งรอบก่อนจะล้มลงบนพื้นอย่างไม่ทันรู้ตัว ก็ลูบหมัดที่รู้สึกเจ็บเล็กน้อย มองไปทางชายหนุ่มข้างพระวรกายฮ่องเต้ซิงหยวนตี้
“จับตัวหลี่เหวย!” จ้าวเฟยฝานตวาดดัง
ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ไม่แม้แต่จะทอดพระเนตรหลี่เหวย เสด็จข้ามไปข้างกายไทเฮากับซินโย่ว “เสด็จแม่ อาโย่ว ไม่เป็นไรใช่ไหม”
ไทเฮาทอดพระเนตรมองฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ทีหนึ่ง ก่อนจะพระเนตรเหลือกสงบไป
……….