สืบแค้นคุณหนูสวมรอย - ตอนที่ 427 แต่งตั้งฮองเฮา
ตอนที่ 427 แต่งตั้งฮองเฮา
……….
ในห้วงเวลาอ่อนไหวแห่งการแต่งตั้งรัชทายาท ข้อได้เปรียบที่สุดของซิ่วอ๋องก็คืออายุมาก ขุนนางใหญ่ไม่แน่ว่าจะคิดลอบสานสัมพันธ์กับเขา แต่เพราะเขาได้เปรียบที่คำว่า ‘องค์โต’ จึงสนับสนุนเขาอย่างไร้เงื่อนไข
ที่พวกเขาสนับสนุนมิใช่ซิ่วอ๋อง แต่เป็นธรรมเนียมประเพณี
ฮ่องเต้เลือกแต่งตั้งฮองเฮาในตอนนี้ แสดงให้เห็นอันใด ไม่ต้องเอ่ยก็รู้กันได้
“ตำแหน่งฮองเฮาว่างเว้นมาหลายปี พระสนมกุ้ยเฟย จริยาวัตรงดงาม ตระกูลสูงศักดิ์ ดำรงธรรมเนียมจารีตสตรี เราประสงค์แต่งตั้งนางเป็นฮองเฮา ขุนนางทุกท่านมีความเห็นอย่างไร”
ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ตรัสถามเช่นนี้ สีหน้าบรรดาขุนนางแตกต่างกันออกไป
พวกที่เดิมสนับสนุนฮ่องเต้ซิงหยวนตี้อย่างไร้เงื่อนไขย่อมไม่คัดค้าน พวกที่ให้ความสำคัญกับธรรมเนียมประเพณีก็เคยขอให้ทรงแต่งตั้งฮองเฮาที่ว่างเว้นมานานแล้ว ส่วนพวกที่ให้การสนับสนุนซิ่วอ๋องแท้จริงก็คิดคัดค้าน ทว่าไร้เหตุผลคัดค้าน
วังหลังไร้นายหญิง ฮ่องเต้แต่งตั้งฮองเฮาเป็นเรื่องสมเหตุสมผล เสด็จแม่องค์ชายสามก็มีชาติกำเนิด สถานะ และคุณธรรมที่ทำให้คนหาจุดบกพร่องไม่ได้ แต่งตั้งเป็นฮองเฮากล่าวได้ว่าไร้ข้อโต้แย้งใดๆ
ขุนนางใหญ่ที่สนับสนุนซิ่วอ๋องพากันลอบสบตากันไปมา แต่ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยอันใด
คงไม่อาจทูลว่าพระสนมกุ้ยเฟย เสด็จแม่องค์ชายสามไม่เหมาะสม พระสนมอันผินเสด็จแม่ซิ่วอ๋องเหมาะสมกว่ากระมัง
ควรรู้ว่าพระสนมอันผินถูกฮ่องเต้หมางเมินมาหลายปี จนกระทั่งซิ่วอ๋องอายุครบสิบห้าออกจากวังไปมีจวนตนเอง จึงได้เลื่อนเป็นพระสนมระดับผิน หากพวกเขาว่าพระสนมอันผินเหมาะสม แม้แต่พวกเขาก็ไม่อาจกล่อมให้ตนเองเชื่อเช่นนี้ได้เช่นกัน
ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้กวาดสายพระเนตรไปยังบรรดาขุนนางโดยรอบ ก่อนพยักพระพักตร์พึงพอพระทัย
“ในเมื่อขุนนางทุกท่านไม่คัดค้าน เช่นนั้นก็เลือกวันมงคล ทำพิธีแต่งตั้ง”
จากนั้นบรรดาขุนนางก็ออกจากวัง พระสนมโจวกุ้ยเฟยเสด็จแม่องค์ชายสามจะได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮา ข่าวนี้ก็แพร่ออกไป
ซินโย่วนั่งอยู่ในห้องทำงาน ก็เห็นพวกฮว่าไต้จ้าวชะโงกหน้ามาคิดเอ่ยอันใดแต่ก็มิได้เอ่ย
นางเดินออกมา ยิ้มถามว่าเรื่องอันใด
“ซินไต้จ้าว เลิกงานแล้วมีธุระหรือไม่ หากไม่มี พวกเราไปกินข้าวกัน” ฮว่าไต้จ้าวน้ำเสียงนับว่าเป็นธรรมชาติแล้ว แต่แววตายังคงมีความระแวดระวัง
ซินโย่วรู้ดีกว่าเพราะบรรดาไต้จ้าวได้ยินเรื่องพระสนมโจวกุ้ยเฟยจะได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮา คิดว่านางจะไม่เบิกบานใจ จึงมาชวนนางไปร่ำสุราผ่อนคลายอารมณ์
“วันนี้พอดีมีธุระ วันหน้าข้าเลี้ยงพี่ๆ ทุกท่าน”
ฮว่าไต้จ้าวเห็นสีหน้านางเป็นปกติ แววตานิ่งสงบ ดูแล้วไม่เหมือนเสียใจมากอันใด ก็ยิ้มเอ่ยว่า “เช่นนั้นก็ดี พวกเรามีเวลาว่างทุกวัน ซินไต้จ้าวทำงานเถอะ พวกเรากลับโถงตะวันตกละ”
ซินโย่วมองตามบรรดาไต้จ้าวเดินจากไปแล้วก็หันกลับไปมองห้องทำงานที่เก็บสะอาดสะอ้าน ก่อนจะตรงออกจากสำนักฮั่นหลินย่วน
ตลอดทางมาได้รับสายตาประหลาดจากคนมากมาย
เดินออกจากสำนักฮั่นหลินย่วนได้ไม่นาน ซินโย่วก็เห็นเฮ่อชิงเซียวยืนอยู่ใต้ต้นไม้ริมทาง
นางเดินเข้าไปถามว่า “กำลังรอข้าอยู่หรือ”
เฮ่อชิงเซียวพยักหน้ายอมรับ
“เหตุใดไม่ให้คนเฝ้าประตูไปตามข้า หากข้าเลิกงานค่อยออกมา ก็คงไม่ต้องรอนาน” ซินโย่วเดินไปข้างกายเขา ทั้งสองเดินตรงไปด้วยกัน
“วันนี้พอดีไม่มีงาน รอสักหน่อยเป็นการฆ่าเวลา” เฮ่อชิงเซียวประเมินมองสีหน้านาง
“ไม่ได้เสียใจ” ซินโย่วเดาว่าเขาเป็นกังวลอันใด จึงได้เอ่ยขึ้นตรงๆ
เฮ่อชิงเซียวชะงักฝีเท้า นิ่งมองเข้าไปในดวงตานาง
ซินโย่วเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้เก็บซ่อนอารมณ์ยามอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ “หากเป็นเรื่องที่ฝ่าบาททรงคิดแต่งตั้งฮองเฮาข้าก็ทราบแล้ว ทุกคนน่าจะคิดว่าในใจข้าจะไม่ยินดี”
นางก้าวเข้าไปสองสามก้าว มีหลายคนจากที่ไกลออกไปพากันชะเง้อมองอย่างอยากรู้
“ของที่ท่านแม่ไม่ต้องการ คนอื่นได้ไป ข้ามิได้รู้สึกอันใด”
เพียงแค่ทำให้นางได้เห็นการตัดสินใจของคนผู้นั้นกระจ่างชัดขึ้นเท่านั้น
นางกลับอยากรู้ขึ้นมาว่าซิ่วอ๋องได้ยินเรื่องนี้แล้วจะรู้สึกเช่นไร
ยามนี้ซิ่วอ๋องกำลังถูกบรรดาที่ปรึกษารุมล้อมอยู่ในห้องหนังสือ ทุกคนมีสีหน้าร้อนใจและสงสัยอย่างที่สุด
“ท่านอ๋อง ทันทีที่พิธีแต่งตั้งฮองเฮาเรียบร้อย เช่นนั้นองค์ชายสามก็จะได้รับสถานะเป็นโอรสจากภรรยาเอก!”
ซิ่วอ๋องมองไปยังคนที่พูด
องค์ชายออกจากวังมามีจวนเป็นของตนเองก็จะได้รับจัดสรรบ่าวรับใช้ชุดหนึ่ง ขุนนางกลุ่มนี้ถูกกำหนดให้ร่วมชะตากรรมกับเขาแล้ว รุ่งเรืองก็รุ่งเรืองพร้อมกัน ตกต่ำก็ตกต่ำพร้อมกัน
เขาเข้าใจอารมณ์คนเหล่านี้ แต่กลับไร้แรงกำลังจะสนใจอารมณ์พวกเขา
“ท่านอ๋อง…”
ซิ่วอ๋องหันมองมาด้วยแววตาเย็นชา น้ำเสียงเย็นเยียบ “หรือว่าให้ข้าไปทูลเสด็จพ่อ อย่าได้แต่งตั้งฮองเฮา? หากคำพูดข้ามีประโยชน์ เสด็จพ่อก็คงไม่แต่งตั้งฮองเฮาในตอนนี้”
ที่ปรึกษาสองสามคนพากันเงียบงัน
เดิมการแย่งชิงกันระหว่างองค์ชายใหญ่กับองค์ชายสาม พวกเขาได้เปรียบไม่น้อย กล่าวได้ว่าขอให้แต่งตั้งองค์ชายใหญ่เป็นรัชทายาท ในใจบรรดาขุนนางก็จะผลักไปตามน้ำ แม้ว่าฮ่องเต้ทรงโปรดองค์ชายสาม แต่ก็คงมีแรงหนุนไม่น้อย
ทว่าฮ่องเต้ไม่ได้ตรัสว่าจะแต่งตั้งองค์ชายสาม ไม่เปิดโอกาสให้บรรดาขุนนางได้ถกเถียง แต่แต่งตั้งฮองเฮาก่อน
นี่เป็นการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง ปิดเส้นทางองค์ชายใหญ่
ที่ปรึกษาท่านหนึ่งถอนหายใจดังออกมา
เป็นขุนนางคนสนิทของท่านอ๋องความจริงก็ไม่เลว แต่เห็นอยู่ว่าท่านอ๋องเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด มีโอกาสมากที่สุด เขาทำใจยอมรับผลลัพธ์เช่นนี้ไม่ได้จริงๆ!
“ทุกท่านออกไปเถอะ ข้าเหนื่อยแล้ว”
ทุกคนพากันลุกขึ้นคำนับออกไปเงียบๆ
ซิ่วอ๋องนั่งเงียบกริบในห้องหนังสือไม่ขยับแม้แต่น้อย
ฟ้าค่อยๆ เริ่มมืดลง ในห้องหนังสือไม่มีแสงไฟ ซิ่วอ๋องหลับตาลง น้ำตาหยดหนึ่งค่อยๆ รินไหลภายใต้ความมืดบดบัง
จากนั้นสำนักโหรหลวงก็ต้องเลือกวันมงคล กรมต่างๆ นำโดยกรมพิธีการก็ต้องเตรียมงานใหญ่นี้ก่อน จึงเริ่มเตรียมตัวกันขึ้นมา
ส่วนใหญ่พิธีการยิ่งใหญ่เช่นนี้ต้องเตรียมการอย่างน้อยหนึ่งเดือน สำนักโหรหลวงเลือกวันฤกษ์มงคลในอีกหนึ่งเดือนกว่า
ซิ่วอ๋องออกจากจวนมาอีกครั้งก็เห็นการเตรียมงานแต่งตั้งฮองเฮากันวุ่นวายไปทุกแห่ง ทุกที่ต่างคุยกันเรื่องพิธีแต่งตั้งฮองเฮา
“ถวายบังคมซิ่วอ๋อง” ขุนนางสองคนกำลังคุยกันเห็นซิ่วอ๋องผ่านมา ก็รีบหยุดถวายคำนับ
ซิ่วอ๋องพยักหน้าตอบรับ ได้ยินเสียงคนด้านหลังถอนหายใจโล่งอกเบาๆ
เวลาเพียงสั้นๆ ไม่กี่วัน ผู้ที่มีสิทธิ์ครองตำแหน่งรัชทายาทที่สุดก็กลายเป็นตัวตลกในสายตาบรรดาขุนนางและชนชั้นสูง
ในวัง ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ถามถึงปฏิกิริยาซิ่วอ๋อง
“ซิ่วอ๋องดูแล้วอารมณ์ตกต่ำอยู่บ้าง แต่ทว่ามิได้แสดงท่าทีไม่พอใจ”
ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ฟังแล้วก็พยักหน้า ถามถึงซินโย่วต่อ
“องค์หญิงอาโย่วปกติดีทุกอย่างพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ไม่ค่อยเชื่อ แต่ก็ไม่กล้าเรียกตัวซินโย่วเข้าวัง รับสั่งซุนเหยียนส่งของพระราชทานมากมายไปจวนตระกูลซิน
องค์ชายสามมีตำแหน่งรัชทายาท ซินโย่วได้รับความโปรดปราน พอเทียบกันแล้ว ก็ยิ่งทำให้ซิ่วอ๋องน่ารันทดยิ่งขึ้น
ซิ่วอ๋องเงียบไปสองสามวันก็กลับคืนสู่ปกติดังเดิม พูดคุยกับบรรดาขุนนางด้วยท่าทีอ่อนโยนและถ่อมตน ทำให้คนแอบนึกเสียดาย
องค์ชายสามเป็นอย่างไรตอนนี้ยังมองไม่ออก แต่ซิ่วอ๋องใจกว้างและเมตตา เป็นผู้ปกครองได้ก็จะดีมาก
น่าเสียดายไม่ว่าบรรดาขุนนางคิดอย่างไร งานเตรียมพิธีแต่งตั้งฮองเฮาก็ดำเนินการต่อไปตามขั้นตอน ไม่ได้หยุดชะงักเพราะความนึกเสียดายของคนจำนวนหนึ่ง
ก่อนพิธีแต่งตั้งหนึ่งวัน สำนักหงหลูนำกำหนดการออกประกาศในท้องพระโรง บรรดาขุนนางโขกศีรษะคำนับ ฮองเฮารับพระราชทานแต่งตั้งเสร็จ ก็ถวายคำนับขอบพระทัยไทเฮา รับพิธีถวายคำอวยพร
วันถัดมาก็เป็นวันของบรรดาอ๋องเข้าวังมาแสดงความยินดีตามธรรมเนียม
ในราชวงศ์ตอนนี้มีซิ่วอ๋องเพียงพระองค์เดียว เขาจึงเป็นผู้นำ นำบรรดาองค์ชายถวายคำนับฮองเฮาโจว
ขุนนางในพิธีเชิญฮองเฮาขึ้นประทับนั่ง ซิ่วอ๋องคุกเข่าลง “หม่อมฉันเฉินผิงขอนำน้องๆ ถวายพระพรเสด็จแม่”
คำนับหนึ่ง คำนับสอง ซิ่วอ๋องคำนับแปดครั้งตามธรรมเนียมแล้วก็พาบรรดาองค์ชายลุกขึ้น จากนั้นองค์หญิงเสวียนก็นำน้องสาวสองคนเข้ามาถวายคำนับฮองเฮาใหม่แปดครั้งตามธรรมเนียม
ซิ่วอ๋องมองน้องสาวทั้งสามถวายคำนับฮองเฮาเงียบๆ ในบรรดาคนเหล่านี้ไม่มีซินโย่ว
นางไม่ได้จารึกชื่อในรายนามราชวงศ์ จึงหลบสถานการณ์นี้ได้ตามคาด
เขาเหลือบมองไปยังองค์ชายสามเฉินอิ้ว