สุดยอดชาวประมง - บทที่ 242 ช่วยเหลือผู้คน
บทที่ 242 ช่วยเหลือผู้คน
บทที่ 242 ช่วยเหลือผู้คน
กองกำลังที่กำลังไล่ล่าฉู่เหินหลงเชื่อว่าเธอแค่เกลียดฉู่เหินเลยมาตามล่าเขาเหมือนกัน ไม่งั้นคงไม่ส่งจิตสังหารออกมาเมื่อเห็นภาพฉู่เหิน แต่ว่าพวกเขาไม่เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อคนหนึ่งรักซึ่งกันและกันมากกว่าชีวิตของตัวเอง เธอจะไม่มีวันยกโทษให้กันคนที่ทำให้เธอรักต้องลำบากเด็ดขาด เฉินเจียนเองก็เป็นคนแบบนั้น! เธอแค่ปล่อยจิตสังหารออกมาโดยไม่รู้ตัว
ก่อนจะลงจากภูเขามาฝึกวิชา เธอไม่มีอะไรพิเศษในชีวิตของเธอ เธอใช้ชีวิตอย่างราบเรียบ แต่ในเดือนที่ฉู่เหินปรากฏตัว เขาได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอครั้งใหญ่ เพียงแต่ว่าเฉินเจียนชอบที่จะเก็บทุกสิ่งไว้ในใจของเธอ จึงทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
หลังสนทนากับพรรคกระบี่เทียนซานเมื่อครู่นี้ เฉินเจียนก็มั่นใจว่าตอนนี้
ฉู่เหินอยู่ในภูเขาลูกนี้ เธอเข้าใจว่าทางที่ดีที่สุดในการซ่อนตัวก็คือ ซ่อนในภูเขาลูกนี้และหาที่หลบภัยที่สามารถหลบได้สักครึ่งเดือน เห็นได้ชัดว่ามันเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดที่จะหลบซ่อนตัว
แต่หลังจากค้นหา เธอก็ยังไม่เจอที่ซ่อนของเขา นั้นทำให้เธออดที่จะกังวลไม่ได้!
“สาวน้อย ถ้าฉันช่วยให้เธอได้เจอชายคนนี้ เธอจะคารวะฉันในฐานะอาจารย์ไหม?” หญิงชราคนหนึ่งที่อยู่ห่างจากเฉินเจียนไปไม่กี่เมตรพูดขึ้น
“ตกลง ถ้าคุณทำได้ ฉันจะถือว่าคุณเป็นอาจารย์ของฉัน” หลังจากค้นหามาพักหนึ่งแล้วเธอก็ยังหาฉู่เหินไม่เจอ เฉินเจียนเลยได้แต่พยักหน้าและเห็นด้วยกับอีกฝ่าย แม้เธอจะไม่รู้ว่าหญิงชราคนนี้มีจุดประสงค์อะไร แต่เธอรู้สึกว่าตราบใดที่เธอสามารถช่วยฉู่เหินได้ เธอจะเป็นจะตายยังไงก็ช่าง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องแค่ให้ไปเป็นลูกศิษย์ของอีกฝ่ายเลย
หลังจากหญิงชราเห็นว่าเฉินเจียนยินยอมแล้ว รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ ต่อมาเธอก็ปล่อยพลังจิตวิญญาณของเธอออกมา มันคือพลังอันยิ่งใหญ่ลอยไปตามสายลมและกระจายออกไปทั่วทุกสารทิศทันที!
ภายใต้การปกคลุมของพลังจิตวิญญาณนี้ ร่างกายของเฉินเจียนรู้สึกสั่นสะเทือน เธอรู้ดีว่าหญิงชราไม่ได้ตั้งเป้ามาที่เธอ ไม่งั้นเธออาจถูกบดขยี้จนร่างกายแหลกเป็นเศษเนื้อด้วยแรงกดดันอันมหาศาลนี้ไปแล้ว
พลังจิตวิญญาณของหญิงชราแพร่กระจายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในทันใดนั้นภูเขาเทียนซานทั้งหมดก็ถูกปกคลุมไปด้วยพลังราวกับว่าเป็นคลื่นแผ่นดินไหว พรรคกระบี่แห่งเทียนซานถูกปกคลุมไปด้วยพลังจิตวิญญาณขนาดใหญ่นี้ หลังจากสมาชิกระดับสูงสัมผัสถึงมันได้ พวกเขาต่างสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เจอเจ้าของพลังจิตวิญญาณนี้ แต่พวกเขาก็รู้ว่าวรยุทธของคนผู้นี้นั้นแข็งแกร่งไร้เทียมทาน โชคดีที่คนผู้นี้ไม่ได้เล็งเป้าหมายอะไรมาที่พวกเขา เจ้าพลังจิตวิญญาณนี้เพียงแค่กวาดตาผ่านและไม่ได้อยู่นานนัก ทุกคนรู้ว่าบางทียอดฝีมือผู้นี้อาจกำลังตามหาอะไรที่นี่อยู่
จากนั้นพวกเขาก็ออกคำสั่งให้ศิษย์พรรคกระบี่แห่งเทียนได้รับรู้อย่างรวดเร็ว เตือนให้พวกศิษย์รับทราบว่าพวกเขาจะต้องไม่ลงไปที่ตีนเขา หากพวกศิษย์พวกนี้ไปทำผิดต่อยอดฝีมือลึกลับท่านนี้ เกรงว่าพรรคที่มีมากว่าพันปีคงต้องล่มสลายแล้วละ
หญิงชรายืนอยู่กับที่ก็สำรวจทั้งภูเขาอย่างระมัดระวังจากนั้นเธอก็ส่ายหัว เธอโบกมือเบา ๆ พาเฉินเจียนไปอีกทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันเธอก็กระจายพลังจิตวิญญาณออกไปอีกครั้งและเริ่มสัมผัสรอบข้างอย่างละเอียด เธอเข้าไปในหุบเขาขณะรับสัมผัสตรวจสอบทั้งภูเขาทีละลูกๆ
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งใบหน้าของหญิงชราก็น่าเกลียดเป็นอย่างมากเห็นได้ชัดๆว่า เธอตรวจสอบทั้งภูเขาแล้วแต่ก็ไม่พบร่องรอยของอีกฝ่ายเลย หรือว่าเด็กน้อยคนนี้จะหายไปในอากาศได้งั้นเหรอ? เธอยืนอยู่เงียบ ๆ แล้วคิดอย่างรอบคอบ ทันใดนั้นแม่น้ำใต้ดินที่เท้าของเธอก็ส่งเสียงดังขึ้นนั่นคือเสียงของคลื่นน้ำที่กระทบฝั่ง!
หลังจากได้ยินเสียงนี้ดวงตาของหญิงชราก็สดใสขึ้นมา จากนั้นเธอก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทำไมเธอถึงหาเด็กนั้นไม่เจอ จากนั้นเธอก้มศีรษะลงและจ้องมองไปที่แม่น้ำใต้ดินเบื้องล่าง! เธอเพ่งพลังจิตวิญญาณเพิ่มขึ้นและเริ่มค้นหาอย่างรอบคอบในแม่น้ำ
และในช่วงสั้น ๆ เธอก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมาเบาๆ เป็นอย่างที่เธอคาดไว้มีร่างนั่งอยู่ลึกลงไปในก้นแม่น้ำ แต่หลังจากมองไม่กี่ครั้งเธอก็รู้สึกแปลก ๆ เนื่องจากเธอพบว่าฉู่เหินซ่อนตัวอยู่ในค่ายกล และตอนนี้….ใบหน้าของเธอน่าเกลียดอย่างผิดปกติ เธอเห็นได้ชัดว่าเขากำลังเสียสติทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้ได้ยังไง
“สาวน้อย คนที่เธอกำลังตามหาอยู่ใต้แม่น้ำนี้ แต่ตอนนี้เขาดูย่ำแย่ไปหน่อย ดูเหมือนว่าเขาถูกพิษกระตุ้นอารมณ์ แม้ว่านี่จะเป็นพิษแต่เขาก็ไม่สามารถขับมันออกมาได้ นอกเสียจากว่าเขาจะสานสัมพันธ์ชายหญิง เธอต้องคิดให้ดีถ้าเธอช่วยเขา เธอจะต้องสูญเสียบริสุทธิ์ มันคุ้มค่าหรือไม่เธอก็ควรคิดให้รอบคอบห้ามไม่หุนหันพลันแล่นเด็ดขาด”
หลังจากได้ยินคำพูดของหญิงชรา เธอก็ไม่ลังเลรีบลงไปในแม่น้ำใต้ดินทันที เมื่อสังเกตุเห็นถึงความกังวลของเฉินเจียน หญิงชราก็ส่ายหัวอย่างอดไม่ได้
“สาวน้อย เธอเป็นถึงใครกัน เธอเป็นลูกศิษย์ของฉันเลยนะ เธอกล้าทำเรื่องไม่ดีไม่งามแบบนี้กับเขา มันคุ้มค่าแล้วหรือไง?” เนื่องจากเธอต้องการรับเฉินเจียนเป็นลูกศิษย์ของเธอ เธอจึงไม่อยากให้เฉินเจียนทำสิ่งที่ตัวเองจะต้องเสียใจภายหลัง เธอมองดูก็รู้ว่าชายที่อยู่ในน้ำนับว่าเป็นแฟนที่ดีของเฉินเจียนถือว่ามีพรสวรรค์ไม่น้อย แต่ถ้าเฉินเจียนไปกับเธอพวกเขาจะถูกลิขิตให้เดินกันคนละเส้นทางอย่างแท้จริง
สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออนาคตของเฉินเจียน อนาคตนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดคิดได้ ยังไงชายหนุ่มในแม่น้ำก็เป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้น เรื่องนี้ทำให้ทั้งสองแตกต่างกันเกินไป เธอเกรงว่าความพยายามในวันนี้ของเฉินเจียนจะสูญเปล่า หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบ เธอจึงอยากจะพูดอีกครั้งเพื่อเตือนสติเฉินเจียน แต่คำตอบของเฉินเจียนทำให้เธอตกใจตาค้าง
“เขา…เขาถือได้ว่าเป็นหนึ่งในศัตรูที่ฆ่าพ่อของฉัน!” หลังจากพูดคำพูดนี้ เฉินเจียนก็อดไม่ได้เผยรอยยิ้มอันขมขื่นออกมา “ในขณะเดียวกัน เขาก็ถือเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของฉันด้วย!”
หลังจากพูดประโยคนี้จบลงหญิงชราก็ไม่มองหญิงสาวอีก เธอไม่เข้าใจสิ่งที่เด็กผู้หญิงคนนี้คิดเลยแม้แต่น้อย เธอรู้สึกว่าเธอแก่แล้วจริงๆ ทำให้เธอไม่เข้าใจความคิดของคนหนุ่มสาวสมัยนี้
มันเป็นความต้องการสูงสุดที่จะล้างแค้นเอง เลยไปช่วยศัตรูงั้นเหรอ?
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเสียสละความบริสุทธ์ของตัวเองเลยหนิ จริงไหม? เธอถอนหายใจอย่างหมดหนทาง เธอไม่เข้าใจเลยจริง ๆ และเธอก็ไม่อยากจะคิดเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว!
“ถ้าเธออยากช่วยเด็กหนุ่มคนนั้น ฉันก็จะช่วยไม่ให้มีใครไปรบกวนเธอได้ ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับเธอแล้ว!”
หลังจากกล่าวจบเธอก็ขยับมือขึ้นเบาๆ จากนั้นก็มีกระแสลมอ่อน ๆ ปรากฏบนฝ่ามือของเธอ สายลมอ่อนๆดูเหมือนไร้พลังแต่เมื่อมันสัมผัสกับพื้นน้ำ น้ำในแม่น้ำก็ถูกแยกออกเป็นสองฝั่ง
ลมปราณของหญิงชรารวมตัวกันเป็นฝ่ามือใหญ่ๆ และตรงเข้าไปอย่างไม่ลังเล
ฉู่เฟิงที่ได้แต่วนไปวนมาอยู่ที่ด้านล่างของแม่น้ำ ไม่รู้ว่าจะช่วยฉู่เหินยังไงดีเพราะเขาเห็นว่าตอนนี้ฉู่เหินกำลังสูญเสียสติความคิดของตัวเอง มันสายเกินไปที่จะช่วยเหลือฉู่เหินตอนนี้
ขณะที่เขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี เขาก็รู้สึกได้ว่ามือใหญ่ๆ พุ่งลงมาจากอากาศ ไม่ให้โอกาสเขาต่อต้านเลยแม้แต่น้อย เขาถูกปิดกั้นพลังทั้งหมดภายในร่างไม่เพียงแค่นั้นแม้สติทั้งห้าของเขาก็ยังถูกผนึกอย่างหมดจด!
ฉู่เฟิงอยากกรีดร้องแต่ก็ไม่สามารถกรีดร้องได้ แม้จะลืมตาอยู่แต่เขาก็มองไม่เห็นภาพตรงหน้าเขาเลยแม้แต่น้อย หูก็ไม่ได้ยินเสียง จมูกก็ไม่ได้กลิ่น สติก็ไม่อาจคงอยู่ได้ สูญเสียการรับรู้อย่างสมบูรณ์แบบ! หลังจากเสียประสาทสัมผัสทั้งห้าเขาก็กลายเป็นผักเน่าๆ* (ผู้พิการที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้) เขาไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนและกำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“สาวน้อย 50 ลี้นับจากนี้ถูกฉันปิดกั้นไว้หมดแล้วไม่มีใครมารบกวนเธอได้อย่างแน่นอน แต่เธอคิดว่ามันคุ้มค่าแล้วจริงๆ เหรอ แน่ใจนะ?” หญิงชรายังคงเตือนอีกครั้งอย่างไม่เต็มใจ
“ท่านอาจารย์ ถ้าหากท่านเป็นอาจารย์ของฉันจริงๆ ท่านก็ต้องช่วยฉันในครั้งนี้ ถึงแม้ฉันจะตาย ฉันก็จะไม่ยอมให้ฉู่เหินเป็นอันตรายเด็ดขาด!”
เฉินเจียนตอบอย่างหนักแน่นและเด็ดขาด ปล่อยให้หญิงชราได้แต่ถอนหายใจยาวๆ และปล่อยให้เป็นเรื่องราวของชะตากรรม
ภายใต้ม่านสีแดง ผ้าไหมซิ่วหู น้ำตาแห่งความรัก รากบัวทั้งสองนั้นห่อด้วยดอกบัวหยก ภูมิทัศน์และหัวใจต่างก็พึ่งพาซึ่งกันและกัน