สุดยอดชาวประมง - บทที่ 264 กลับบ้าน
บทที่ 264 กลับบ้าน
บทที่ 264 กลับบ้าน
“พวกแกจะต้องชดใช้ในสิ่งที่พูดออกมา ในเมื่อบอกให้หนีไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้ก็ไม่ไป งั้นตอนนี้พวกแกก็อยู่ชดใช้เสียเถอะจะได้รู้สำนึก ถ้ามันมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตล่ะก็ ฉันจะเอาชีวิตพวกแกแน่” หลังจากที่บรรพบุรุษเงือกพูดออกมา เธอก็โบกมือเบา ๆ 2 ครั้งแล้วน้ำทะเลก็เริ่มก่อตัวเป็นคลื่นยักษ์ ทันทีที่คลื่นปรากฎออกมามันก็ได้โถมเข้าใส่ทั้งสอง
ไม่ต้องถามเลยว่าพวกเขาจะต่อต้านกันได้ยังไง พวกเขารู้แล้วว่าพวกเขาจะอยู่หรือตายนั้นอยู่ในกำมือของบรรพบุรุษเงือกแล้ว คิดว่ามันยากแค่ไหนกว่าพวกเขาจะฝึกฝนทีละขั้นตอนจนถึงตอนนี้ ความยากลำบากที่ผ่านมามากขนาดนี้ ถ้าพวกเขาตายไปทั้งหมดที่ทำมาก็ไร้ค่า
ทั้งสองถูกขังอยู่ในคุกน้ำเล็ก ๆ ด้วยความหวาดกลัวพวกเขาร้องตะโกนเสียงดัง ไม่ว่าใครจะดีหรือชั่วขอแค่ยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่มีใครอยากตาย ศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสองหวาดผวาและตื่นตระหนกมาก
เมื่อความกลัวในใจของพวกเขารุนแรงมากขึ้น คำพูดแผ่วเบาก็ปรากฎในหูของพวกเขา “เนื่องจากพวกแกไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราว ครั้งนี้ฉันจะปล่อยไปก็ได้ แต่ถ้ามีครั้งต่อไป ต่อให้พวกแกหนีไปอยู่ที่ไหนฉันก็จะตามไปลากหัวพวกแกมาฆ่าให้ได้”
หลังจากได้ยินคำพูดทั้งสองไม่ได้รู้สึกโกรธเลย กลับกันพวกเขากลับดีใจด้วยซ้ำ ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อให้โดนด่าก็ยอม
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่ไว้ชีวิต” ทั้งสองถูกเกลียวคลื่นซัดไปไกลตะโกนออกมา
แต่จะพูดขอบคุณจบพวกเขารู้สึกว่าคุกน้ำแคบ ๆ ของพวกเขาดูเหมือนจะเคลื่อนไหว ทั้งยังเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วอีกด้วย เพียงชั่วครู่หนึ่งพวกเขารู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่าง จากนั้นทั้งสองก็พบว่าตัวเองถูกพัดเข้ามาริมชายฝั่ง และกระแสพลังภายในร่างกายของพวกเขาถูกทำลายยับเหยิน
เห็นได้ชัดว่านี้ต้องเป็นการกระทำของบรรพบุรุษเงือก ทั้งสองกอดกันอย่างหวาผวาแล้วให้ความเคารพต่อท้องทะเล ไม่กล้าทำตัวไม่ให้ความเคารพพวกเงือกอีกแล้ว !
จากนั้นพวกเขาก็เริ่มมองสถานที่แห่งนี้รอบ ๆ ว่าป็นอย่างไร แต่หลังจากตรวจสอบแล้วพวกเขาก็พบว่าที่นี่เป็นทางเชื่อมกันของทะเลโบ๋ไห้และทะเลตงไห้ ทั้งสองหายใจยาว ๆ และเมื่อนึกถึงสิ่งที่บรรพบุรุษเงือกได้กระทำต่อพวกเขาเอาไว้ หัวใจก็เริ่มเต้นระรัว
ต้องรู้ว่าที่นี่อาจอยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์จากที่ ๆ พวกเขาอยู่กันเมื่อกี้อีกฝ่ายกลับส่งพวกเขามาที่นี่ได้ในทันทีนั้นบอกได้เลยว่าอีกฝ่ายทรงพลังขนาดไหน หลังจากครุ่นคิดซักพักพวกเขาก็เงียบกริบไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก ได้แค่รีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว
ฉู่เหินรู้สึกขอบคุณบรรพบุรุษเงือกจากใจจริง บรรพบุรุษเงือกเองก็โบกมือและบอกพวกเขาว่าเรื่องนี้มันเล็กน้อยไม่ต้องคิดมาก
เนื่องจากใกล้ถึงวันที่ 15 สิงหาคม การแข่งขันระหว่างหมู่บ้านชาวประมงไหก่างและสี่ตระกูลจะเริ่มขึ้นแล้ว ทุกปีในวันที่ 15 สิงหาคมหมู่บ้านชาวประมงไหก่างถือว่าเป็นช่วงที่คึกคักที่สุด
ในตอนแรก สองหมู่บ้านแค่ส่งส่งคนหนุ่มสาวและวัยกลางคนไปทำการทดสอบต่าง ๆ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาการแข่งขันนี้มีความหมายมาก เพราะรัฐบาลท้องถิ่นให้การสนับสนุนค่อนข้างมาก ด้วยเหตุนี้การแข่งขันระหว่างสองหมู่บ้านจึงเกือบจะกลายเป็นการแข่งขันกันระหว่างสองเมืองใหญ่
มีการทดสอบแบ่งออกเป็นหลายรายการเช่น การแข่งเรือมังกร,
การชักเย่อ, การแข่งขันวิ่งผลัด และอีกอันคือการว่ายน้ำ การแข่งขันในแต่ละปีจะมีการจับสลากเป็นการลงขันพนัน แต่การพนันที่นี่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเงิน ไม่ว่าฝ่ายไหนแพ้พวกเขาจะต้องเดินทางไปที่หมู่บ้านอีกฝั่งหนึ่งเพื่อทำการแสดง
ดังนั้นไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะพวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นมากอยู่ดีในวันที่ 15 สิงหาคม และเนื่องจากขนาดของการแข่งขันที่ใหญ่ขึ้นทุกปีทำให้มีผู้เข้าร่วมมากขึ้นทุกปี ๆ ดังนั้นจึงดึงดูดชาวต่างชาติให้มาชมที่นี่ด้วย !
และครั้งนี้ก็เป็นเวลาที่ทั้งสองหมู่บ้านมีความสุขที่สุด มีชาวต่างชาติจำนวนมาก บ้างคนที่มีสินค้าค้างมานานแล้วขายไม่ออก ก็จะใช้จังหวะนี้เครียร์ของให้หมด บางคนเองก็ใช้ประโยชน์จากช่วงนี้ทำขนมหรือของว่างมาขาย สามารถหารายได้มากเช่นกัน
คนที่มีบ่อเลี้ยงปลาในหมู่บ้านใกล้เคียงจะได้รับประโยชน์จากโอกาสนี้ เต็มๆ เพื่อแสดงปลาคิงฟิชที่เลี้ยงในบ่อเลี้ยงปลาของตนเอง ในแง่นึงจะขายมันก็ได้และอีกแง่นึงก็สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองได้อีกด้วย
หลังจากบอกลาบรรพบุรุษเงือก ทุกคนก็นั่งอยู่บนร่างของฉลามพิษและออกเดินทางอย่างรวดเร็ว วันนี้เป็นวันที่ 10 ของเดือนสิงหาคม ในอีกไม่กี่วันการแข่งขันก็จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ดังนั้นฉู่เหินจึงตื่นเต้นมาก ๆ ที่จะได้กลับไป เพราะเขาใฝ่ฝันอยากจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในทีมของหมู่บ้านชาวประมงมานานแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข่งขันในปีนี้ดูเหมือนจะมีชีวิตชีวามากกว่าทุกปี การมีส่วนร่วมของผู้อาวุโสจางทำให้รัฐบาลท้องถิ่นให้ความสำคัญกับระบบสวัสดิการสาธารณะของที่นี่มากขึ้น
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา หมู่บ้านชาวประมงไหก่างก็อยู่ตรงหน้าพวกเขา เมื่อมองไปที่หมู่บ้านชาวประมงไหก่างของเขา หัวใจของฉู่เหินก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก บอกได้เลยว่นประสบการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องเฉียดตายสำหรับเขามากและเป็นประสบการณ์ที่โหดร้ายที่สุดที่เขาเคยเจอมา
ในที่สุดเขาก็ออกจากวังวนของการสังหารและกลับสู่โลกแห่งความจริงได้สักที มันทำให้เขาอดดีใจจนต้องตะโกนออกมา
บนเกาะในเฉียนไห่ พวกเขาก็ตัดสินใจลงมาจากราชาฉลามพิษ จากนั้น
ฉู่เหินก็ปล่อยเรือสปีดโบ๊ทออกจากแหวนมิติ จากนั้นก็ใช้สปีดโบ๊ทแล่นไปยังฝั่ง นี่ทำให้ทุกคนต้องตะลึงมากที่ฉู่เหินทำแบบนี้ได้ด้วย !
ก่อนจะถึงชายฝั่ง ฉู่เหินพบว่ามีคนมากมายที่ยืนรอเขาอยู่ ในขณะที่เรือของเขาแล่นเข้ามาอย่างช้า ๆ จนในที่สุดเขาก็มองเห็นคนเหล่านี้
พี่ชายของเขา พี่สะใภ้ หวงลิลี่
ซวี่เหลียง และพ่อกับแม่ของเขา
โป๋อีกู่และหวงม่านอิ่ง
เสี่ยวเฟิง และพ่อตาของฉู่เหิน
ตงโกวจีหยาง และในบรรดาพวกเขา เหล่านางเงือกมากมายที่นำโดยผู้
อาวุโสปลาหมึกก็รออยู่ที่ฝั่งด้วย
คนเหล่านี้เกือบทั้งหมดเป็นเพื่อนสนิทและญาติสนิทของฉู่เหิน เหตุผลที่คนเหล่านี้มายืนรอรับฉู่เหินบนฝั่งเพราะเสี่ยวชิงได้โทรบอกพ่อของเธอให้มารอการกลับมาของฉู่เหิน
ฉู่เหินที่หายตัวไปเกือบเดือนแล้ว ซึ่งนานมากสำหรับพวกเขาอีกทั้งหลังจากที่เสี่ยวชิงปิดเทอม เธอก็ให้โจวหู่และคนอื่น ๆ ออกตามหาเขากันไม่รู้จบจนทำให้ทุกคนจำได้ขึ้นใจ
บวกกับการที่โจวหู่ปิดข่าวไม่อยู่ทำให้ทุกคนเป็นห่วงฉู่เหินกันมากและเมื่อเป็นแบบนี้ทุกคนก็ยิ่งเศร้าใจขึ้นไปอีก
โชคยังดีที่หลังจากการรอคอยแสนเนิ่นนาน ในที่สุดฉู่เหินก็กลับมา ซึ่งทำให้ทุกคนโล่งอกมาก หลังจากฉู่เหินจอดเรือเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็เดินออกมาอย่างรวดเร็ว
“คุณลุงและคุณป้า ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ พี่ ขาพี่หายแล้วเหรอ?” หลังจากที่ลงมาที่ชายฝั่ง ฉู่เหินก็ตอบรับทีละคน นี่ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงสายตาประหลาดที่ทุกคนจ้องมองมาที่เขา ดูเหมือนว่าทุกคนมีอะไรที่อยากจะพูดแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา
เมื่อพวกเขาเห็นฉู่เหินเดินออกมา พวกเขาก็พูดไม่ออกจนฉู่เหินเริ่มรู้สึกผิดปกติว่าทำไมทุกคนมองมาที่เขาแปลก ๆ แบบนี้
ทันใดนั้นฉู่เหินก็เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพราะรูปร่างของเขาเปลี่ยนไปจากพลังดวงดาว ทำให้ทุกคนเห็นเขาเป็นชายอ้วนตุ๊บ แม้ว่าใบหน้าของเขาจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่มันก็โอเค ตราบใดที่คนที่เรารักยังมองรู้ว่าเป็นเขาก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร
หลังจากนั้นเสี่ยวชิงก็ก้าวออกมาเพื่ออธิบายให้ทุกคนฟัง พวกเขาถึงได้เข้าใจเสียที เสี่ยวชิงอธิบายออกไปว่าตอนที่ฉู่เหินจะถูกฆ่า เขาก็กินผลไม้พิเศษเข้าไปทำให้เขามีรูปร่างแบบนี้ ทว่า นี่มันก็ใช่ว่าจะแก้ไขอะไรไม่ได้หรอก แค่รอให้เขาฟื้นฟูพลังเสร็จเดี๋ยวเขาก็กลับมาเป็นปกติเองแหละ