สุดยอดชาวประมง - บทที่ 285 รอบที่สอง
บทที่ 285 รอบที่สอง
บทที่ 285 รอบที่สอง
แต่แล้วฉู่เหินก็ได้เรียนรู้ ในอาณาจักรต้าเซีย นักออกแบบเสื้อผ้าเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจ ตอนแรกเขาไม่คิดว่ามันจะมากขนาดนี้
การปรากฏตัวของทั้งสองคนไม่เพียงแต่ทำให้ฝูงชนหยุดดู แม้แต่องค์ชายทั้งสามที่เป็นกรรมการตัดสินก็ยังต้องประหลาดใจ! สายตาของทุกคนมองทั้งสองค่อย ๆ เดินมายังลานแข่งขัน
พอทั้งสองปรากฏตัว กรรมการหลายคนรู้ทันทีว่าทั้งสองติด 100 อันดับแรงอย่างแน่นอน แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะชนะการแข่งขันรอบสุดท้ายได้หรือไม่ การแข่งรอบที่สองเป็นการออกแบบเสื้อผ้า และกลั่นวัสดุ พูดดูง่ายแต่ทำยากมาก
การกลั่นวัสดุนั้นมีด้วยกัน 2 แบบ แบบแรกโดยผู้เชี่ยวชาญเครื่องแต่งกายและโดยผู้กลั่นเอง เมื่อทำการกลั่นวัสดุแล้วพวกเขาจะได้สกัดสารสำคัญออกมาและสิ่งที่ไม่จำเป็นจะถูกกำจัดออกไป
วัสดุที่ใช้ในเสื้อผ้าแตกต่างกันมากเหมือนกับไม้เบิร์ชที่ฉู่เหินใส่อยู่ในขณะนี้ ฉู่เหินกลั่นโดยใช้จิตวิญญาณเพื่อสานรูปแบบเฉพาะของไม้เบิร์ชเป็นผ้าไหม ด้วยการกลั่นอย่างต่อเนื่องทำให้มันกลายเป็นผ้าไหมจริง ๆ ผ้านี้เป็นผ้าธรรมชาติและลวดลายบนผ้าก็เป็นสีธรรมชาติเช่นกัน ไม่มีการปรุงแต่งเลยแม้แต่น้อย
การกลั่นอาจดูง่าย แต่มันก็ไม่เป็นเช่นนั้น มันง่ายเพราะทุกคนที่มีความรู้สามารถทำมันได้ แต่เมื่อปรมจารย์กลั่นเสื้อผ้ามันควรมีความพิเศษและเป็นอะไรที่แตกต่างจากคนอื่น นั่นคือสิ่งที่ยากที่สุด
เส้นบนผ้าไหมแต่ละเส้นไม่คงที่และผ้าที่ทำด้วยไม้เบิร์ชนี้มันจะกำหนดทิศทางของลวดลายสำหรับผ้าไหมไปตั้งแต่ยังไม่ลงมือ ดังนั้นไม่ใช่แค่ประสบการณ์เท่านั้นที่ต้องมี แต่ต้องมีจิตใจแน่วแน่ในการตัดสินใจด้วย ขั้นตอนนี้หากมีข้อผิดพลาดแม้เพียงนิดเดียวผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่อาจจิตนาการได้เลย
ผู้เชี่ยวชาญด้านเสื้อผ้าที่ดีหลังจากได้รับไม้เบิร์ชแล้วพวกเขาจะเปลี่ยนพื้นผิวของไม้เบิร์ชทันที เมื่อกลั่นมันออกมาเป็นผ้าไหม มันจะเป็นผ้าไหมที่สวยงามมาก
ขั้นตอนต่อไปของการเตรียมผ้า ผู้แข่งขันจะรวมการกลั่นทุกขั้นตอนเข้าด้วยกัน จนกว่ารูปแบบสุดท้ายจะเกิดขึ้นอาจกล่าวได้ว่าในกระบวนการนี้ทุกขั้นตอนเป็นรายละเอียดที่ซึ่งไม่อาจมองข้ามได้
ถ้าในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งมีความผิดพลาด ผ้าที่ออกมาจะมีช่องว่างขนาดใหญ่! โชคดีที่ขั้นตอนนี้เจียฉิวฉิวเชี่ยวชาญมาก
ระดับในปัจจุบันของเจียฉิวฉิวตอนนี้ใกล้กับผู้เชี่ยวชาญมาก แต่จุดอ่อนเดียวของเธอคือสายตาที่ยังไม่ดีเพียงพอ โชคดีที่ได้ความช่วยเหลือจาก
ฉู่เหินทำให้เธอผ่านรอบแรกมาได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเธอจึงเชื่อว่าด้วยความสามารถของเธอเองมันไม่ใช่ปัญหาที่จะผ่านรอบที่สองและสาม
ฉู่เหินมองดูเจียฉิวฉิวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา เมื่อเห็นว่าเธอทำงานอย่างมีระบบและนิ่งเงียบ เขาก็เริ่มที่จะอุทิศตัวเองเพื่อการกลั่นบ้างเช่นกัน!
ฉู่เหินมองไม้เบิร์ชสีขาวตรงหน้าอย่างพิจารณา นี่คงจะเป็นไม้เบิร์ชอายุหลายร้อยปี ลวดลายของมันต่างกันออกไป ถ้าเลือกลวดลายได้ว่าเป็นแบบไหน ผ้าที่ออกมาก็จะมีความสวยงามมากขึ้นไปอีก
จากการคำนวณของฉู่เหิน เขาพบว่าไม้เบิร์ชสีขาวในมือของเขาสามารถสานลวดลายได้หลายพันรูปแบบ แน่นอนว่าหลายพันรูปแบบเหล่านี้เรียกว่ารูปแบบพื้นฐาน!
รูปแบบพื้นฐานมีทั้ง ระลอกน้ำ แนวต้นไม้และใยแมงมุม นอกจากรูปแบบเหล่านี้ยังสามารถเพิ่มอักษรข้อความผสมผสานกันได้หลากหลาย
หลายพันรูปแบบรวมกันเพื่อสานลวดลายแปลกและแตกต่าง และถ้าการรวมกันเขาก็ไม่มีพลังจิตวิญญาณมากพอ มันยากที่จะรวมมันเข้าด้วยกันเพื่อสร้างรูปแบบที่สมบูรณ์แบบเอาไว้ได้ จริง ๆ แล้วในมุมมองของฉู่เหินการใช้รูปแบบต่าง ๆ ที่หลากหลายสามารถรวมกันเป็นภาพที่สวยที่สุดได้โดยไม่ต้องตกแต่ง
เมื่อฉู่เหินคิดอยู่นาน ผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ก็ปรากฏในใจของเขาอย่างช้า ๆ หากมีคนมองเห็นสิ่งที่อยู่ในใจเขา พวกเขาคงเห็นว่าภาพนี้เป็นภาพของแม่น้ำ
ฉู่เหินจะทำผ้านี้เป็นม้วนกระดาษชิงหมิงซ่างเหอถู หรือก็คือ แผนที่แม่น้ำชิงหมิง! หลังจากตั้งเป้าหมายแล้ว ฉู่เหินก็ไม่สนใจเรื่องภายนอกอีกต่อไป และเริ่มมีสมาธิกับการทำสิ่งนี้
ระหว่างเส้นไหมของไม้เบิร์ชภาพที่สวยงามและสดใสก็ปรากฏขึ้น ฉู่เหินมุ่งมั่นกับการกลั่นจนไม่รับรู้อะไรเลยเกี่ยวกับโลกภายนอก ซึ่งการกลั่นของเขากินเวลาไปกว่า 1 ชั่วโมง
เมื่อเสียงฆ้องดังขึ้นเรื่อย ๆ นี่เป็นการกระตุ้นจากผู้ตัดสินเบื้องต้น ให้ทุกคนที่อยู่ด้านล่างรีบทำเพราะมันเกือบจะหมดเวลาแล้ว หลายคนตัวสั่นหลังจากได้ยินเสียเตือน พวกเขากลัวว่าจะเสร็จไม่ทัน ทำให้พวกเขาต้องเร่งมือซึ่งจนทำให้ชิ้นงานไม่มีความแม่นยำและเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้
ส่วนฉู่เหินนั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้เลย เขาอุทิศตัวเองเพื่อทำผ้าอย่างต่อเนื่อง ไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าของเขาค่อย ๆ หดตัวด้วยความเร็วสูงจนกระทั่งความหนาของมันน้อยกว่าความหนาของแขนเสียอีก
เมื่อฉู่เหินหยุดกลั่น เสียงระฆังครั้งสุดท้ายก็ดังพอดี นอกจากนี้ยังหมายความว่าเวลาสำหรับการแข่งรอบสองหมดลงแล้ว เจียฉิวฉิวดูค่อนข้างพอใจกับผ้าในมือของเธอ ซึ่งเป็นลวดลายของดอกโบตั๋น เธอเชื่อว่าด้วยลวดลายของเธอไม่ยากเลยที่จะผ่านรอบนี้ไปได้
ส่วนลวดลายของถังเย่คือปลาที่กำลังว่ายน้ำอย่างงดงาม มีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์! ผ้าแต่ละผืนมีชื่อผู้กลั่นอยู่แล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็มาเก็บผ้า ไปคราวนี้แทนที่จะปล่อยให้ทุกคนกลับไปก่อน พวกเขาก็เริ่มแจกรางวัลสำหรับคนที่ตอบคำถามได้ ในรอบแรกเพื่อคั่นเวลา
เจียฉิวฉิวตอบคำถาม 5 ข้อได้อย่างถูกต้อง เธอได้รับชุดจั๊กจั่นผ้าไหมสีทองซึ่งทำขึ้นโดยอาณาจักรต้าเซีย มันสามารถกันน้ำกันไฟได้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นสมบัติชิ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้
หากตอบคำถามได้ 6 ข้อถูกต้องจะได้รับไข่สัตว์อสูร ตราบใดที่มันฟักออกมาพวกมันล้วนมีเชื้อสายของสัตว์อสูรจิตวิญญาณที่เป็นสายพันธุ์ดี ๆ และไข่สัตว์อสูรจิตวิญญาณใบนี้ก็หาซื้อได้ยากมาก ช่างเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ
หลังจากที่ถังเย่เห็นเจียฉิวฉิวขึ้นเวทีเพื่อรับรางวัล ดวงตาของเขาก็แสดงความโกรธออกมา เพราะเขาตอบได้เพียง 3 ข้อเท่านั้น ทำให้เขาแค่ผ่านไม่ได้รับรางวัลอะไรเลย ยิ่งเขาเห็นฉู่เหินมาร่วมรับรางวัลด้วย ไฟแห่งความโกรธแค้นที่ปะทุในดวงตาของเขาก็ยิ่งร้อนแรงขึ้น
เนื่องจากฉู่เหินตอบคำถาม 7 ข้อถูกต้อง และในบรรดาผู้แข่งนับพันคนมีเพียง 5 คนเท่านั้นที่ตอบคำถามได้ถึง 7 ข้อทำให้รางวัลของฉู่เหินเป็นสัตว์อสูรจากอวกาศ มันไม่เพียงเคลื่อนไหวในอวกาศได้อย่างอิสระเท่านั้น แต่ยังบินเร็วมาก และยังเป็นสัตว์เลี้ยงคู่ใจที่สุดที่จะช่วยชีวิตของเจ้าของได้ดีที่สุดอีกด้วย
ฉู่เหินไม่เคยได้ยินเรื่องของสัตว์ตัวนี้มาก่อน แต่เมื่อเขาได้ยินการแนะนำของผู้ตัดสิน เขาก็รู้ว่าสัตว์อสูรจากอวกาศชนิดนี้เป็นสมบัติที่หายากมาก ถ้ามีสัตว์อสูรจากอวกาศแล้วชีวิตของเขาก็รับประกันได้ว่าจะปลอดภัยอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นหลังจากได้รับมาฉู่เหินก็ทำสัญญาเป็นเจ้านายของมันทันที
การทำสัญญาของฉู่เหินไม่ใช่การหยดเลือดง่าย ๆ แบบนั้น แต่เลือดในร่ายกายของเขาเป็นของโจวรุยไม่ใช่ของเขาเอง ถ้าวันหนึ่งวิญญาณเขาจากไปแล้ว การใช้สัญญาเลือดกับสัตว์ตัวนี้ก็จะไม่ได้ตามเขาไปด้วย ดังนั้นของจึงเลือกวิธีทำสัญญาแบบใช้วิญญาณ ซึ่งเป็นวิธีที่ยากที่สุดในการทำสัญญาเจ้านาย
หลังจากที่ใช้วิญญาณทำสัญญาเจ้านายแล้ว ร่างกายของเขาก็จะค่อนข้างอ่อนแอ แต่มันไม่สำคัญมากนัก เพราะนั้นก็แค่เป็นไม่กี่ชั่วโมง ไม่ว่ายังไง ฉู่เหินก็รู้สึกมีความสุขที่ได้ครอบครองสัตว์อวกาศอยู่ดี