สุดยอดชาวประมง - บทที่ 286 3 อาณาจักรต้องแย่งชิง
บทที่ 286 3 อาณาจักรต้องแย่งชิง
บทที่ 286 3 อาณาจักรต้องแย่งชิง
ฉู่เหินไม่ได้คิดมากหลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบเขาก็กลับมาที่บ้านพร้อมกับทุกคน แต่กลับมาไม่นานฉู่เหินก็พาเจียฉิวฉิวกับคนแคระออกไปเที่ยว ด้วยเงินมากมายที่เขามีทำให้เวลาเจออะไรดี ๆ เขาก็ซื้อทั้งหมด ระหว่างทางแม้แต่เหล่าคนแคระก็ได้รับของขวัญจากฉู่เหินโดยเฉลี่ยแล้วคนละ
6 ชิ้น
เจียฉิวฉิวมีเครื่องประดับทุกชนิดติดอยู่บนร่างกายของเธอ ฉู่เหินใช้เงินไปมากกว่า 200,000 เหรียญดาวซื้อให้กับเธอ! ที่เขาซื้อให้ไม่ได้มีความหมายอะไรพิเศษ เขาแค่คิดว่าไหน ๆ ก็ได้มาต่างโลกและมีเพื่อนทั้งที เขาไม่อยากขี้งกกับอีกฝ่าย
ขณะที่ฉู่เหินกำลังเดินไปตามถนน เหล่ากรรมการของอาณาจักรต้าเซียก็ตกใจจนตัวสั่นเพราะพวกเขาเห็นงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดในงานนี้ พวกเขากลัวว่าผลงานนี้มันดีเกินไปจนอาจมีการโกง
ศาลาเล็ก ๆ สะพานน้อย ๆ และแม่น้ำ องค์ประกอบต่าง ๆ ทั้งหมดบนผ้าเรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอก แม้กระทั่งผู้ตัดสินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว พวกเขารู้สึกว่างานนี้สมบูรณ์แบบและโดดเด่นมากเกินไปในหมู่ผู้แข่งขัน
งานนี้ทำให้ทั้งอาณาจักรต้าเซียต้องตกตะลึง แม้แต่จักรพรรดิเมื่อเห็นผ้าผืนนี้เขาก็ตกใจมาก เขารู้ได้เลยว่าบุคคลที่สร้างมันขึ้นมามีโอกาสชนะเลิศการแข่งขันสูงมาก! เขาสั่งให้คนตรวจสอบทันที ว่าใครเป็นคนทำ
ผลการตรวจสอบทำให้เขาต้องคิดหนัก ชื่อของบุคคลนี้คือโจวรุย ซึ่งเป็นคนของอาณาจักรทางชายแดนเล็ก ๆ อย่างอาณาจักรต้าฉี ที่สำคัญคือครอบครัวของโจวรุยนั้นยากจนจนไม่น่าได้มีโอกาศได้ฝึกทำเสื้อผ้าด้วยซ้ำ
เรื่องนี้ค่อนข้างทำให้ผู้คนสับสน วิธีเดียวที่จะอธิบายได้คือโจวรุยนั้นค่อนข้างอดทนและมีพรสวรรค์สูงกว่าคนปกติ เขาจักรพรรดิตกใจในผลงานได้แสดงให้เห็นว่าชายคนนี้ไม่ธรรมดาเลย
ที่อาณาจักรต้าฉีไม่มีแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญ เรื่องนี้มันเหมือนระเบิดเวลา ซึ่งหลังจากจักรพรรดิอาณาจักรต้าเซียทำความเข้าใจกับสถานการณ์ของเรื่องนี้ เขาก็สั่งให้คนไปเชิญโจวรุยทันทีและหวังว่าโจวรุยจะเข้าร่วมกับอาณาจักรต้าเซียก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้นอีกรอบ
หากเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ สิ่งที่อาณาจักรต้าเซียเดิมพันไว้ก็จะไม่มีปัญหาแถมเกรงว่ามันจะเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่อีกด้วย นี่จริงนอกจากอาณาจักรต้าเซียแล้วยังมีอีกหลายอาณาจักรที่อยากจะได้ตัวโจวรุย
มันง่ายมากที่จะตรวจสอบประวัติของโจวรุย ไม่นานองค์ชายของอีก 2 อาณาจักรที่มาเป็นกรรมการก็ได้ทำการสืบเรื่องบรรพบุรุษของโจวรุยทั้งหมด 8 ช่วงอายุคนพร้อมส่งผู้ส่งสารไปหาโจวรุยโดยหวังว่าจะชักชวนให้โจวรุยมาอยู่ฝ่ายตน
เป็นผลให้ทั้ง 3 อาณาจักรส่งคนมายังที่พักของโจวรุยหรือก็คือฉู่เหิน แต่พวกเขาทั้งหมดต่างก็มาเสียเที่ยว มีคนแคระ 2-3 คนที่อยู่ในบ้านพักออกมาบอกพวกเขาว่า ฉู่เหินออกไปแล้วและไม่รู่ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ ทำให้เหล่าผู้ส่งสารทั้ง 3 ฝ่ายไม่มีทางเลือกนอกจากต้องรอฉู่เหิน
เวลาผ่านไปครึ่งวันจนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน ฉู่เหินที่เดินกลับมาอย่างสบายอารมณ์ ส่วนทางถังเย่ที่เห็นท่าทางของฉู่เหินก็ยิ่งหงุดหงิด
“ล้อเล่นหรือเปล่าเนี้ย? ให้ผู้ส่งสารทั้งสามรอนานขนาดนี้ นายขอโทษพวกเขาเดี๋ยวนี้เลยนะ” เดิมทีถังเย่ไม่รู้ว่าจะจัดการฉู่เหินยังไง เมื่อเห็นผู้ส่งสารมา เขาก็ยิ้มอย่างเย็นชาและสั่งให้ฉู่เหินไปขอโทษอีกฝ่ายทันที
“โอ้ ผู้ส่งสารสามคนนั่นนายเชิญพวกเขามาเหรอ? ทำไมเจ้านายยังไม่ทันพูดอะไร สุนัขก็เห่าแล้วล่ะ ใจแคบจริง ๆ ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาจะมาที่นี่ พวกเขาผิดเองที่ไม่ได้มาแจ้งฉันก่อน”
ฉู่เหินไม่สนใจคำพูดของถังเย่ ถังเย่โกรธจนคิดว่าถ้าผู้ส่งสารเหล่านี้ไม่ได้อยู่ที่นี่เกรงว่าเขาคงพุ่งเข้าชกหน้าฉู่เหินแล้ว ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธและมองไปยังฉู่เหินอย่างดุร้าย!
“สวัสดีท่านโจวรุย” ผู้ส่งสารทั้งสามทักทายฉู่เหินด้วยรอยยิ้ม แต่ฉู่เหินไม่ได้ยิ้มตอบ
“รู้จักฉันเหรอ?” หลังจากฉู่เหินถามเบา ๆ เขาก็สังเกตคนพวกนี้ เขาพบว่าชายทั้งสามแต่งตัวแตกต่างกันและดูเหมือนว่ามาจากสามอาณาจักร
จากนั้นเขาก็เห็นว่าทั้งสามค่อนข้างสุภาพกับตัวเขาและเหมือนมีบางอย่างจะพูดออกมา ทำให้ฉู่เหินเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง
คงเป็นเพราะลายผ้าแผนที่แม่น้ำชิงหมิง ซึ่งคนพวกนี้เห็นแล้วก็คงมีแผนการบางอย่าง ในเวลานี้อาณาจักรต้าเซีย อาณาจักรต้าฉี และอาณาจักรเว่ยเดิมพันกันอยู่ เมื่อมีคนที่เก่งกาจปรากฏตัวขึ้นทั้ง 3 ฝ่ายย่อมต้องการที่จะชิงตัวเขาไปอยู่แล้ว
ส่วนอาณาจักรจันทราโบราณเกรงว่าอีกไม่นานก็คงเคลื่อนไหว ถ้าเขาไม่ตกลงกับใครก่อนเขาน่าจะเรียกราคาที่สูงที่สุดให้ตัวเองได้
ในเวลานี้เขาเป็นเหมือนสินค้าและอาณาจักรต่าง ๆ เป็นลูกค้า คนเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ฉู่เหินต้องการ แต่ถ้าฉู่เหินต่อต้าน เขาอาจทำให้ทั้ง 3 อาณาจักรไม่พอใจ แต่หลังจากที่ถังเย่พูดออกมามันก็ทำให้ฉู่เหินมีความคิดบางอย่าง
สิ่งที่ฉู่เหินต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือการเป็นปรมาจารย์เสื้อผ้า พอเห็นคนอย่างถังเย่เขาก็อยากเป็นมากขึ้น ใบหน้าของฉู่เหินแม้จะนิ่งสงบแต่ในใจกำลังยิ้มเยาะ
บทสนทนาระหว่างถังเย่และฉู่เหินนั้นข้างนอกนิ่ง ๆ ทำให้ผู้ส่งสารทั้ง 3 จึงไม่เห็นความไม่ลงรอยของทั้งสอง ในทางกลับกันเมื่อพวกเขาเห็นทั้งสองคุยกัน พวกเขาก็ยิ้ม ผู้ส่งสารคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้ง 2 คงค่อนข้างดี อาจจะเป็นเพื่อนสนิทกันก็ได้
หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้ส่งสารทั้งสามก็พูดพร้อมกับยิ้มอย่างรวดเร็ว “พี่ชายท่าทางใช้ได้เลยนะ พวกเรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ” พวกเขาคิดจะใช้ถังเย่เป็นคนช่วยเกลี้ยกล่อมฉู่เหินให้มาเข้าร่วมกับอาณาจักรของพวกเขา
ถังเย่ตื่นเต้นอย่างอดไม่ได้ เมื่อเขาได้ยินคำพูดของผู้ส่งสารทั้งสาม เขาก็คิดว่าเขาคงได้รับความสนใจจากผู้ส่งสารทั้งสาม เขาคิดว่านี้ละจุดเปลี่ยนชีวิต เขาจึงยิ้มและทักทายทั้งสามอีกครั้ง
ฉู่เหินไม่ได้อยากเลือกข้างตอนนี้ พอเห็นผู้ส่งสารทั้ง 3 ไปคุยกับถังเย่เขาก็ได้โอกาศทันที !
“เนื่องจากมีไม่กี่คนเป็นเพื่อนกับพี่ชายของฉันได้ ฉันคงพูดอะไรไม่สะดวก? พวกคุณคุยกับพี่ชายของฉันได้เลย ฉันยังมีเรื่องที่ต้องทำ ฉันคงไปกับพวกคุณไม่ได้หรอก” จากใบหน้าที่สดใสทั้งผู้ส่งสารทั้งสามก็เปลี่ยนไป พวกเขารู้สึกว่ามีอะไรแปลก ๆ หรือพวกเขาพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า?
ทันทีที่เขาผละจากคนพวกนั้น เขาก็บอกคนแคระว่าเขาจะไม่พบแขกอีกแล้วในวันนี้ จากนั้นก็ปิดห้องลงทันที ทิ้งผู้ส่งสารทั้งสามให้มองหน้ากันอย่าง งงๆ
หากพวกเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นพวกเขาคงโง่เต็มที ในทางตรงกันข้ามคนที่ชื่อถังเย่กลับยังคงตื่นเต้นอยู่ เขายังคิดว่าทั้งสามจะเชิญตัวเองไปเข้าร่วมกับอาณาจักรใหญ่ ๆ
แต่ความจริงนั้นตรงข้ามกับสิ่งที่เขาจิตนาการไว้ ผู้ส่งสารทั้งสามมองเขาอย่างน่ารังเกียจก่อนจะหันหลังเดินจากไปในทันที โดยไม่พูดอะไรกับถังเย่เลยแม้แต่คำเดียว !