สุดยอดชาวประมง - บทที่ 298 โรงกลั่นไวน์เสร็จสมบูรณ์
บทที่ 298 โรงกลั่นไวน์เสร็จสมบูรณ์
บทที่ 298 โรงกลั่นไวน์เสร็จสมบูรณ์
เมื่อซวี่เหลียงและพี่รองเห็นเสื้อผ้าอยู่ในมือ พร้อมกับชิมไวน์ที่ฉู่เหินมอบให้พวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ในส่วนของเสื้อผ้านั้นไม่ต้องพูดถึงเลยว่ามันยอดเยี่ยมมากแค่ไหน มันเป็นเสื้อผ้าจากต่างโลกไม่มีใครสามาถลอกเลียนแบบได้อย่างแน่นอน
ที่จริงแล้วทันทีที่เขาเอาเสื้อผ้าขึ้นมา ในหัวของพวกเขาก็มีคำว่ายอดเยี่ยมวับเข้ามาในหัว เพราะมันไม่มีแม้แต่รอยตะเข็บเลยสักจุดเดียว วัสดุของผ้าดูแล้วคล้ายกับผ้าไหมทอที่มีเวทมนต์คุ้มกันอย่างไรอย่างงั้น
หลังจากซวี่เหลียงกับพี่รองสอบถามอยู่สักพัก เรื่องที่จะสร้างโรงกลั่นไวน์และก็แบรนด์เสื้อผ้า พี่รองคิดปัญหาว่าจะขายที่ไหนถึงจะได้กำไรสูงสุดแต่ละวันจะได้กำไลสุทธิเท่าไร ซวี่เหลียงที่ทำธุรกิจขายเครื่องประทับออกสู่ตลาดคิดจะช่วยโปรโมจเสื้อผ้าให้ ผลลัพธ์จะต้องออกมาดีอย่างแน่นอน!
ทุกวันนี้มีคำกล่าวว่าในปัจจุบัน ซื้อทองคำก็ไม่เท่ากับซื้อของโบราณ เพชรไม่ใช่สิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอีกต่อไป เพราะประโยคนี้ทำให้เครื่องประดับของฉู่เหินที่ทำจากโครงกระดูกของสัตว์ร้ายนั้นขายดีอย่างมาก
ร้านขายโบราณแห่งนี้เองก็ได้รับความนิยมอย่างมาก หลังจากเปิดตัว มากเสียจนซวี่เหลียงเริ่มทำกำไรได้ทันทีหลังจากการลงทุน และกำไรนั้นสูงมาก! ราคาของแหวนที่ทำจากกระดูกสัตว์มีตั้งแต่หลายแสนจนถึงสิบล้าน
หากมีเป็นวัสดุพิเศษเช่น กระดูกเสือ งาช้าง ราคาอาจเป็นหลายล้าน แน่นอนสินค้าหรูหราเหล่านี้ถูกเก็บไว้อย่างดี มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถซื้อสินค้าราคาหลักล้านได้
ทำให้ซวี่เหลียงและพี่รองรวมเงิน 80 หรือ 90 ล้านมาได้อย่างไม่ใช่ปัญหา ด้วยเงินเหล่านี้ร้านเสื้อผ้าสุดหรูก็สามารถเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ทันทีแต่ข้อกังวลเดียวคือปัญหาของโรงกลั่นไวน์
โชคดีที่การลงทุนของโรงกลั่นนั้นไม่สูงมาก เขาแค่ต้องการโรงงานขนาดใหญ่เท่านั้น และที่สำคัญต้องมีแหล่งน้ำที่ดี! สถานที่สร้างโรงกลั่นไวน์ขึ้นอยู่กับแหล่งน้ำ หลังจากการหารือระหว่างทั้งสาม พวกเขาก็วางแผนที่จะจัดสรร 10 ล้านหยวนสำหรับโครงสร้างโรงกลั่นก่อนการผลิตของไวน์
โรงกลั่นแตกต่างจากอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพราะหลังจากผลิตไวน์แล้วยังต้องใช้ระยะเวลาในการวางตลาด ยิ่งไวน์มีอายุมากเท่าไหร่ผลลัพท์ก็จะยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น นี่คือสิ่งที่ผู้คนเรียกกันว่าไวน์ยิ่งบ่มยิ่งหอม!
โชคดีหลังจากที่ทั้งสามหารือเกี่ยวกับโรงกลั่นไวน์อยู่นั้น ตงโกวจีหยางก็โทรกลับมาพอดี ตาโกวจีหยางพาสองพี่น้อง 2 คนปาเค่อไปเดินเที่ยวหาทุกสารทิศ ก็ยังไม่มีแหล่งน้ำที่จะทำให้พวกเขาพอใจได้สักที พวกเขาไปตามเครื่องหมายที่ฉู่เหินทำเกี่ยวกับแหล่งน้ำหมดทุกทีแล้วก็ยังหาแหล่งน้ำที่ทำให้พวกเขาพอใจไม่ได้เหมือนเดิม!
ขณะที่พวกเขากำลังจะล่าถอย ฉู่เหินก็ส่งที่อยู่ของแหล่งน้ำให้เขาอีกที่หนึ่ง ให้คนเหล่านี้เห็นประกายแห่งความหวัง! และแหล่งน้ำสุดท้ายนี้ก็เป็นที่ที่เสี่ยวชิงเป็นคนบอกนั้นเอง
ทั้งสามให้ไปถึงภูเขาที่เสี่ยวชิงกล่าวผ่านไปไม่นาน พอพวกเขามองเห็นน้ำพุ ปาเค่อก็ดีใจมาก
น้ำพุในภูเขานี้มีความพิเศษมาก มองจากระยะไกลทุกคนสามารถรู้สึกถึงเสียงของกระแสน้ำ มีแม้กระทั่งพลังดวงดาวที่เบาบางอยู่ในที่แหล่งน้ำแห่งนี้ พอมาถึงแหล่งน้ำพวกเขาก็เห็นน้ำที่ใสสะอาด
จากนั้นพวกเขาก็นำเอาถ้วยเล็ก ๆ ตักจิบน้ำจากแหล่งน้ำ พวกเขาลิ้มรสมันอย่างละเมียดละไม รสชาติที่หอมหวานให้ความรู้สึกลึกล้ำอย่างยิ่ง หลังจากสองพี่น้องจิบน้ำเพียงคำเดียว ก็มั่นใจว่าน้ำแห่งนี้มันสุดยอดมาก หลังจากยอมรับในคุณภาพของมันแล้ว พวกเขาก็ร้องออกมาด้วยความดีใจ
น้ำพุบนภูเขานี้เป็นแหล่งน้ำที่ดีที่สุดที่พวกเขาเคยเห็นมา พวกเขาคิดพร้อมกันว่าถ้านำน้ำพุบนภูเขาแหล่งนี้มาทำไวน์ รสชาติของมันจะต้องดีขึ้นไปอีกระดับอย่างแน่นอน
จากนั้นพวกเขาก็ตรวจสอบแหล่งน้ำที่นี่เพื่อดูว่ามันเพียงพอหรือไม่ แม้ว่าน้ำพุของภูเขาแห่งนี้จะดี แต่ถ้ามันไม่เพียงพอก็เปล่าประโยชน์ อย่างไรก็ตามหลังจากการสำรวจพวกเขาก็พบว่าแห่งน้ำมาจากในภูเขา และดูเหมือนว่าจะสัมผัสได้ถึงชีพจรวิญญาณบ้างอย่าง!
คงเพราะเหตุนี้ทำให้แหล่งน้ำของที่นี่จึงหวานมาก น้ำที่นี่ไม่สามารถสูบขึ้นมาได้ทำได้เพียงปล่อยให้ไหลลงไปเท่านั้น ปริมาณน้ำที่ไหลออกมาทุกวันน่าจะอยู่ระหว่าง 10-20 ตัน แบบนี้การจะทำโรงกลั่นไวน์ขนาดเล็กจึงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป!
แต่หากต้องการผลิตไวน์เพิ่มในอนาคต เกรงว่ามันจะกลายเป็นปัญหาในภายภาคหน้า แม้ว่าน้ำ 10-20 ตันจะไม่น้อยเลย แต่ถ้าเป็นการผลิตไวน์ก็ต้องผลิตให้มากกว่า 10 ตันอยู่แล้ว! ถ้าจะขยับขยายกิจการตอนนั้นน่าจะมีปัญหาแต่เดียวค่อยมาคิดกันใหม่
ตอนนี้สิ่งเดียวที่ไม่สะดวกก็คือที่นี่มันเป็นของภูเขาเทียนหวังแม้ว่าภูเขาเทียนหวังนั้นเป็นภูเขาหัวโล้น ไม่มีพืชพรรณบนภูเขาเลย แต่ถ้าคิดจะซื้อภูเขาลูกนี้ น่ากลัวว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ต้องพูดถึงคนในพื้นที่ไม่เห็นด้วยเลย การจะซื้อมันน่ากลัวว่าแม้แต่รัฐบาลท้องถิ่นก็ไม่น่าจะเห็นด้วย
หลังจากที่ฉู่เหินได้ยินเรื่องนี้เขาก็ไม่ได้กังวลมากมายเขาคิดว่าแม้ภูเขาลูกนี้จะอยู่ในมือของรัฐบาลท้องถิ่น พวกเขาก็คงใช้ประโยชน์อะไรกับมันไม่ได้
สู้ให้เขาซื้อภูเขาลูกนี้ยังจะดีกว่า ยังไงเขาก็ต้องแบ่งผลประโยชน์ให้กับรัฐบาลท้องถิ่นอยู่แล้ว
ปัจจุบันหมู่บ้านชาวประมงไหก่างกำลังปลูกข้าวจิตวิญญาณอยู่ และภูเขาเทียนหวังก็เป็นหมู่บ้านพ่อตาของเขา ฉู่เหินไม่อยากลำเอียง ดังนันหลังจากคิด ๆ ดูแล้วเขาก็เตรียมให้ภูเขาเทียนหวังปลูกสมุนไพรหลากหลายชนิด แล้วฉู่เหินจะเอาไปทำยาอายุวัฒนะทั้งหมด ถ้าปลูกพืชสมุนไพรโดยคนในท้องถิ่นเมื่อมาถึงฤดูเก็บเกี่ยวจะต้องได้จำนวนมากอย่างแน่นอน
สำหรับรัฐบาลท้องถิ่นนั้นง่ายมากที่จะจัดการ ตราบใดที่มีผลประโยชน์ให้เขาเชื่อว่ารัฐบาลจะสนับสนุนตัวเขา เพราะว่ามีผลประโยชน์นี้แหละมันถึงได้ง่ายกว่าเดิม สิ่งที่ต้องทำก็แค่ให้ยาอายุวัฒนะที่มีค่าขึ้นมาเพื่อเพิ่มูลค่าให้กับภูเขาเทียนหวังแห่งนี
สำหรับยาอายุวัฒนะ ฉู่เหินเชื่อว่าตงโกจีหยางจะจัดการเรื่องนี้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีที่ว่างที่เชิงเขา มันเหมาะมากที่จะสร้างโรงกลั่นไวน์ที่นี่
ฉู่เหินโทรศัพท์ไปหาผู้อาวุโสจางโดยหวังความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสจาง หลังฉู่เหินพูดถึงสาเหตุของเรื่องนี้แล้ว ผู้อาวุโสจางก็ตกลงในทันที
ฉู่เหินพูดได้ดีมาก ฉู่เหินบอกว่าภูเขาที่แห้งแล้งต้องได้รับการพัฒนาและสร้างเป็นอาชีพให้กับชาวบ้านได้ในอนาคต! บนพื้นฐานนี้หมู่บ้านได้รับประโยชน์ ที่สำคัญที่สุดคือประเทศยังสามารถสร้างยาที่มีค่าออกสู่ตลาดได้ด้วยพอฉู่เหินบอกแบบนั้น ผู้อาวุโสจางก็บอกฉู่เหินว่าไม่ต้องกังวล เรื่องนี้เขาจะเป็นคนจัดการต่อเอง
แน่นอนว่าผู้อาวุโสจางทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว หลังจากไป ๆ มา ๆ กว่า 2 ชั่วโมงเขาก็ทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ตอนแรกผู้คนในภูเขาเทียนหวังได้ยินว่ามีคนต้องการซื้อภูเขาหัวโลนแห่งนี้บางคนก็ไม่เห็นด้วย แม้ว่าภูเขาลูกนี้ปกติจะไม่ได้เอาไว้ทำอะไรอยู่แล้ว แต่เวลาปกติพวกเขามักจะขึ้นมาเล่นบนภูเขา หรือไม่ก็นั่งตากลมเล่น
แน่นอนทั้งหมดนี้เป็นเรื่องไร้สาระทั้งสิ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการขายหรือไม่ขายเนินเขาแห้งแล้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อชาวบ้าน และถึงรัฐบาลจะขายมันไปเนินเขาที่แห้งแล้งแห่งนี้ก็ไม่ได้ให้อะไรพวกเขา ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่ได้สนใจอะไรขนาดนั้น
ยิ่งเมื่อชาวบ้านเหล่านี้ได้ยินว่าคนที่ต้องการซื้อภูเขาที่แห้งแล้งแห่งนี้เป็น
ฉู่เหินของหมู่บ้านชาวประมงไหก่าง ก็ยิ่งไม่มีปัญหาฉู่เหินเปรียบเสมือนลูกเขยของคนในหมู่บ้านอยู่แล้ว! พวกเขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะคัดค้านอะไร
หลังจากที่ทุกคนตกลงที่จะขายเนินเขาหัวโล้นพวกเขาไม่ก็คาดคิดว่าฉู่เหินจะมอบสวัสดิการของภูเขาเทียนหวังให้พวกเขา แต่ฉู่เหินให้โดยการให้พวกเขาไปปลุกสมุนไพรทำยาอายุวัฒนะแล้วส่งคืนให้กับประเทศชาติได้อีกด้วย!
ในเวลานี้พวกเขาทุกคนก็รู้แล้วว่าฉู่เหินไม่เพียงแค่รวย แต่ยังเป็นคนขับเคลื่อนหมู่บ้านชาวประมงทั้งหมดให้ร่ำรวยไปด้วย! ทำให้ตัวตนของฉู่เหินดูสูงส่งในสายตาชาวบ้านทั่วไป ไม่ต้องพูดถึงบ่อปลาขนาดใหญ่ ไหนจะ
พี่รองที่เขาไปสร้างผลิตโรงงานอาหารเองก็สร้างอาชีพให้กับผู้คนไม่น้อยแค่สิ่งนี้ก็สามารถพิสูจน์ได้แล้ว!