สุดยอดชาวประมง - บทที่ 30 มันได้ผลจริง ๆ
บทที่ 30 มันได้ผลจริง ๆ
เสี่ยวชิงเห็นคนทั้งหมดกลับมาแล้ว เธอก็รีบเชิญให้ทุกคนนั่งโต๊ะอาหาร ก่อนจะนำอาหารเย็นมาเสิร์ฟ อาหารมื้อนี้มีกับข้าว สี่จานและซุปหนึ่งอย่าง ปลาตุ๋นน้ำแดง ปลาต้ม ผัดเผ็ดปลา รวมถึงเนื้อสัตว์ปีศาจทอด และแน่นอนว่ายังมีซุปปลาอีกด้วย!
หากเป็นก่อนหน้านี้ การที่อาหารทั้งโต๊ะล้วนมีแต่ปลาคงทำให้คนเหล่านี้ย่นจมูกด้วยความรังเกียจ แต่เมื่อพวกเขาได้ยินประสิทธิภาพของปลาชนิดนี้ จึงไม่มีใครชักช้าและเริ่มกินมันทันที รวมถึงตอนนี้ทักษะในการทำอาหารของเสี่ยวชิงก็ดีขึ้นมาก ดังนั้นอาหารเหล่านี้จึงอร่อยมาก
“เสี่ยวชิง รีบมานั่งกินด้วยกันเถอะจ้ะ!” ภรรยาของพี่ใหญ่หวงเห็นเสี่ยวชิงยุ่งวุ่นวายอยู่ครึ่งค่อนวันก็ยังไม่มานั่งที่โต๊ะ เธอจึงเรียกเสี่ยวชิงมานั่งด้วยกัน
“ทุกคนค่อย ๆ กินนะครับ” เมื่อฉู่เหินเห็นเสี่ยวชิงยังยุ่งวุ่นวายกับการเสิร์ฟอาหารไม่มานั่งที่โต๊ะสักที เขาจึงเข้าไปตามเธอในครัวให้ออกมาทานข้าวด้วยกัน
“พี่เหินคะ ฉันเป็นเด็กไปนั่งกินข้าวกับพวกพี่คงไม่ค่อยสะดวก ฉันกินในครัวดีกว่า” คำพูดของเสี่ยวชิงทำให้ฉู่เหินรู้สึกปวดใจ ล้อเล่นน่า! ปล่อยให้นั่งกินข้าวในครัวคนเดียว เรื่องนี้ตีให้ตายฉู่เหินก็ทำไม่ได้
“เด็กโง่ ในเมื่อเธอตกลงเป็นแฟนของฉัน ในโลกนี้ก็ไม่มีใครที่จะมีค่าไปกว่าเธออีกแล้ว” คำพูดของฉู่เหินไม่เพียงแต่ทำให้เสี่ยวชิงซาบซึ้งใจ แม้แต่พวกแขกผู้มีเกียรติที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะก็มองฉู่เหินดีขึ้นอีกเล็กน้อย ผู้ชายที่ไม่ให้เกียรติแฟนตัวเอง จะถือเป็นลูกผู้ชายได้อีกหรือ?
อาหารมื้อนี้ผ่านไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะทุกคนต่างเอาใจใส่เสี่ยวชิงเป็นพิเศษราวกับเธอเป็นลูกหลานในครอบครัว นี่ทำให้อาหารมื้อนี้ของเสี่ยวชิงผ่านไปอย่างราบรื่น และมันก็ยิ่งช่วยให้เธอเชื่อมั่นในการตัดสินใจของตัวเองกมากขึ้น
อาหารมื้อนี้ใช้เวลาราวสองชั่วโมงก็กินอาหารจานสุดท้ายหมดสิ้น หลังจากที่กินปลาเข้าไปจนหมดแล้ว ฉู่เหิน เสี่ยวชิงและพี่ใหญ่จางก็ไม่มีความรู้สึกพิเศษใด ๆ อย่างไรก็ตามอีกสามคนนั้นแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
ในเวลานี้ พวกเขารู้สึกว่าเส้นเลือดภายในร่างกายเหมือนมีงูจำนวนมากกำลังว่ายน้ำอยู่ข้างใน นี่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ก็คงเป็นเส้นเลือดที่ด้านหลังของมือ เพราะเส้นเลือดเหล่านั้นกระตุกอยู่ตลอดเวลา จนทำให้พวกเขาสามารถรู้สึกถึงการไหลเวียนของกระแสเลือดภายในร่างกายอย่างชัดเจน
เมื่อมีการไหลเวียนของเลือดอย่างต่อเนื่อง เส้นเลือดบางจุดที่อุดตันอยู่ก็ถูกปลดล็อกอย่างสมบูรณ์ ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นดูได้จากภรรยาของพี่ใหญ่หวงที่อาการหนักที่สุด เดิมทีเส้นเลือดอุดตันจนขาแทบไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อยู่แล้ว
ตอนนี้กลับมีความรู้สึกกลับคืนมา นี่ทำให้เธอรู้สึกราวกับฝันไปเลยทีเดียว หลังจากกินปลาหมดไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ผู้ชราทั้งสามก็เริ่มวิ่งเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ และเมื่อกลับมาแต่ละครั้งร่างกายของ พวกเขาก็ดูแข็งแรงขึ้น หลังจากผ่านไปหลายรอบ พี่สะใภ้ถึงกับสามารถเดินเองได้โดยมีคนช่วยพยุง
ถ้าเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอว่าเป็นปาฏิหาริย์ ตอนนี้ชายชราแซ่จางคนนั้นจากเดิมที่เดินเหินไม่สะดวก ตอนนี้กลับสามารถเดินได้ราวกับคนหนุ่ม ๆ ปรากฏการณ์นี้ทำให้หนุ่มสาวทั้งสามคนถึงกับต้องตกใจ!
“ไอ๊หย่า แม้เจ้า! ฉันไม่คิดว่าปลานี้จะมีประสิทธิภาพจริง ๆ ถ้าพวกคนแก่ทั้งหลายรู้เรื่องนี้ จะต้องดีใจกันมากแน่ ๆ” พี่ใหญ่จางพูดอย่างมั่นใจ
หลังจากผ่านไปเกือบสองชั่วโมง คนชราทั้งสามก็ค่อยโล่งใจ ตอนนี้พวกเขารู้สึกว่างูที่ว่ายอยู่ในเส้นเลือดนั้นเบาลงมาก แต่ถึงอย่างงั้นพวกเขาก็ยังรู้สึกได้ว่ามีงูตัวน้อยนับไม่ถ้วนว่ายน้ำอยู่ข้างในอย่างช้า ๆ
ในหมู่พวกเขามีเพียงพี่ใหญ่จางคนเดียวที่ออกไปข้างนอกครั้งหนึ่ง ฉู่เหินมองไปที่พี่ใหญ่จาง เขารู้สึกว่าพี่ใหญ่จางโทรหาใครบางคนตอนอยู่ข้างนอก อย่างไรก็ตามเมื่อพี่ใหญ่จางกลับมาเขาก็ไม่ได้บอกอะไร ฉู่เหินเองเขาก็ไม่ได้ถามอะไร เลือกที่จะเงียบเช่นกัน
ตอนนี้พี่ใหญ่จางท่านนี้รู้สึกอยากกินปลาชนิดนี้อีก มันทำให้ร่างกายของเขากลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง เรื่องทั้งหมดนี้ราวกับเป็นความฝัน แต่ว่ามันก็เป็นความจริง
ช่วงเวลานี้ทุกคนกำลังมีความสุขมาก แม้แต่ฉู่เหินและเสี่ยวชิงก็มีความสุขไปกับคนชราทั้งสาม แต่น่าเสียดายที่ช่วงเวลาแห่งความสงบสุขนั้นอยู่ไม่นาน
ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยอย่างตื่นเต้นเกี่ยวกับสถานการณ์ตอนนี้ ก็มีรถตำรวจแล่นเข้ามา เดิมทีทุกคนคิดว่ารถตำรวจคงจะไปที่บ้านของคนอื่น แต่คิดไม่ถึงว่ารถตำรวจจะเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของฉู่เหิน จากนั้นก็มีผู้ชายสามถึงห้าคนสวมเครื่องแบบตำรวจ ท่าทางดุร้ายบุกเข้ามา!
“แกคือฉู่เหินใช่ไหม มากับพวกเราซะดี ๆ ดูไปแล้วเจ้าลูกเต่านี่ก็ไม่ได้มีกล้ามเนื้อสักเท่าไหร่นี่หว่า ไม่น่าเชื่อว่าจะต่อยตีคนอื่นได้? น่าเสียดายนะไอ้หนู วันหลังก่อนจะตีกับใครก็หัดถามซะก่อนว่าคนที่แกตีน่ะเป็นใคร ฉันจะบอกแกไว้นะ บนโลกนี้มีคนมากมายที่ไม่ใช่คนธรรมดา และไม่ใช่คนที่แกจะไปล่วงเกินได้”
เดิมทีเมื่อคนเหล่านั้นบุกเข้ามาฉู่เหินยังกังวลเล็กน้อย เพราะว่าเขาทำร้ายคนอื่น และมันก็เป็นเรื่องผิดกฎหมายจริง ๆ ถ้าอีกฝ่ายต้องการขอค่าชดเชย เขากลัวว่าจะไม่สามารถจ่ายได้ แต่เขาไม่คิดว่าหลังจากที่พวกตำรวจเข้ามาถึงกลับพูด อย่างนั้นออกมา เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการแก้แค้นส่วนตัวใช่รึเปล่า?
ดูไปแล้ว ไอ้คนบัดซบเมื่อตอนบ่ายนั้น ต้องมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดาแน่! แต่ถ้าคนเหล่านี้เข้ามาและทำทุกอย่างตามกฎหมาย ฉู่เหินคงไม่สามารถพูดอะไรได้มากนัก แต่เมื่อพวกเขาเข้ามาพูดเหลวไหลแบบนี้ฉู่เหินก็ไม่กลัวอีกต่อไป!
“ทำไมก่อนที่พวกคุณจะมาถึงไม่ตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อน? การบุกเข้ามาในบ้านของประชาชนและจับคนมั่วซั่ว ใครให้อำนาจกับพวกคุณกัน?” เมื่อพูดถึงตอนนี้ฉู่เหินก็ยืนขึ้น จากนั้นเขาก็กวาดตามองคนเหล่านี้อีกครั้งแล้วพูดว่า “ผมว่าพวกคุณช่วยพวกอันธพาลในคราบมนุษย์ทำเรื่องไร้ประโยชน์แบบนี้! ก่อนหน้านี้พวกมันมาหาเรื่องผมก่อนก็ช่างเถอะ แต่คุณกลับบุกเข้ามาจับผมถึงในบ้าน แบบนี้ยังเห็นกฎหมายในสายตารึเปล่า?”
“ไอ้หนู ฉันจะบอกให้นะ วันนี้ไม่เพียงแค่แกที่จะโดนจับ แม้แต่คนในครอบครัวของแกก็หนีไม่รอดหรอก” จากนั้นเขาก็มองไปที่หลิวเสี่ยวชิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉู่เหินพลางยิ้ม หลังจากหยุดอยู่ครู่หนึ่งเขาพูดต่อ “แน่นอนเด็กผู้หญิงคนนี้ไม่ต้องไปก็ได้ ใครใช้ให้เธอเป็นคนสวยล่ะเนอะ!”
“เหลวไหล ไอ้พวกบัดซบ พวกนายกล้าลบหลู่และเหยียบย่ำความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย ใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายโดยมิชอบ บอกมาใครเป็นหัวหน้าของพวกนาย ฉันจะให้พวกมันต้องพบกับจุดจบ” ฉู่เหินยังไม่ทันจะหันไปมอง พี่ใหญ่จางก็ลุกขึ้นยืนทันที
“พี่ใหญ่จาง คุณอย่าโกรธไปเลยครับ พวกปลาเล็กปลาน้อยพวกนี้ผมจัดการเองได้! ถ้าคุณรู้จักคนใหญ่คนโตจริง ๆ ละก็กรุณาช่วยผมจัดการกับคนที่อยู่เบื้องหลังคนพวกนี้จะดีกว่าครับ” พูดจบฉู่เหินก็ม้วนแขนเสื้อขึ้น เขาคิดว่าคงต้องทำงานหนักสักครั้ง ล้อเล่นน่า พวกคนธรรมดาเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของฉู่เหินเลยจริง ๆ
“น้องชาย เธอถอยออกมาให้ฉันเถอะ เมื่อฉันมาเจอกับเรื่องนี้แล้ว ฉันก็ต้องจัดการมันจนถึงที่สุด ไม่มีทางจะทิ้งไว้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ แน่นอน พวกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ฉันก็จะจัดการพวกมันให้หมด ไม่คิดเลยว่าฉันยิ่งใหญ่มาทั้งชีวิต กลับต้องมาเจอสวะพวกนี้ที่นี่” พี่ใหญ่จางโกรธจนตัวสั่น เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเจอเรื่องอยุติธรรมที่นี่
พูดกับฉู่เหินจบ เขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรไปยังหมายเลขหนึ่ง “ไอ้หนู แกนี่งามหน้าจริง ๆ ตอนนี้ฉันอยู่ที่มณฑลฝูหยวน หมู่บ้านชาวประมงไหก่าง มีคนหลายคนใส่ชุดตำรวจ บอกว่าพ่อของแกทำผิดกฎหมายและต้องการจับฉัน ตอนนี้ฉันแค่อยากถามแกว่าแกจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง?” หลังจากชายชราโวยวายใส่โทรศัพท์ไปรอบหนึ่ง เขาก็นิ่งฟังเสียงจากปลายทาง
“ฉันจะแนะนำพวกแกอย่างหนึ่ง ตอนนี้พวกแกจงทำตัวให้ดีไว้ซะ ไม่งั้นฉันจะให้แกเห็นดีแน่” กลุ่มคนที่ใส่ชุดตำรวจต่างตกตะลึงกับคำพูดของชายชราแซ่จาง พวกเขาหันไปมองและปรึกษากันว่าชายชราผู้นี้น่าจะแกล้งเป็นเสือขู่พวกเขาหรือเปล่า
Next