สุดยอดชาวประมง - บทที่ 305 ราชินีงู
บทที่ 305 ราชินีงู
บทที่ 305 ราชินีงู
โม่เจียวเสียใจอย่างสุดซึ่ง แต่เมื่อได้ยินว่ามีคนเข้าข้างตัวเองก็อดเท้าเอวยักไหล่ไม่ได้ ท่าทางกวน ๆ ของเธอทำให้ฉู่เหินพูดไม่ออก โดยเฉพาะสายตาที่ใช้มองฉู่เหินตอนนี้ดูเธอมีความสุขสุด ๆ
“ยัยเด็กนี้ เธอไม่ต้องใช้สายตามองฉันแบบนั้นเลยนะ อยากจะอยู่ก็ช่างแต่ฉันมีกฏ 3 ข้อ ถ้าทำไม่ได้ต่อให้ทุกคนช่วยเธอฉันก็จะไม่ยอมให้เธอไปด้วยแน่” ฉู่เหินชักหน้าพร้อมกับพูดกับโม่เจียว
“ได้ ไหนพี่ลองพูดสิ! ถ้าให้ดีพี่จะมานอนมีอะไรกับฉันก็ยังได้ ไม่ว่า ๆ” สันดานหมาชอบกลับไปกินขี้* ไม่ถึง 3 นาทีนิสัยของโม่เจียวก็เริ่มจะเปิดเผยออกมาแล้ว
(สันดานหมาชอบกลับไปกินขี้* เป็นคำแสลง หมายถึงคนที่สันดานเสียอย่างไรก็จะเสียอย่างงั้นต่อไปเป็นสันดาน)
แต่เดิมเสี่ยวชิงรู้สึกว่าคำขอ 3 อย่างของฉู่เหินอาจจะมากเกินไป แต่หลังจากได้ยินคำพูดของเด็กสาวแล้ว ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป เธอมองเด็กสาวคนนี้อย่างหวาดระแวง ในบ้านเพิ่งมีผู้หญิงอีก 2 คนก็เหนื่อยมากแล้ว ตอนนี้ถ้าเพิ่มมาอีกหนึ่ง เธอคงเหนื่อยจนทนไม่ไหวแน่ ๆ
ฉู่เหินสื่อสายตามองทุกคนเป็นนัยน์ว่าพวกนายเห็นแล้วใช่ไหมว่าจริง ๆ แล้วเด็กสาวเป็นคนแบบไหน พวกนายโดนภาพลักษณ์ภายนอกที่น่ารักของเธอหลอกแล้วล่ะ
“ข้อแรกฉันพูดอะไรเธอก็ต้องฟัง ฉันให้เธอเดินไปใต้เธอก็ห้ามไปเหนือ ฉันให้เธอตีหมาเธอก็ห้ามไปตีไก่” ฉู่เหินมองโม่เจียวพร้อมกับพูดกฎข้อแรก
“โอเคไม่มีปัญหาตราบใดที่พี่ไม่ไล่ฉันไป พี่ให้ฉันทำอะไรฉันก็จะทำ จะให้ฉันล้างเท้าถูหลังอาบน้ำให้ก็ได้ทั้งนั้น!” หลังพูดจบเด็กสาวก็มองฉู่เหินด้วยสายตาระยิบระยับ แต่กลับถูกฉู่เหินค้อนกลับมาตาเหลือก
“เพลา ๆ คำพูดไร้สาระบ้างเถอะ ข้อ 2 ถ้าฉันไม่อยู่เธอต้องเชื่อฟังเสี่ยวชิง เสี่ยวชิงให้ทำอะไรก็ต้องทำ ห้ามปฏิเสธแม้แต่นิดเดียว” ฉู่เหินจ้องตาอีกฝ่ายหลังจากพูดจบ
“ซ้อใหญ่ของฉันออกจะสวยขนาดนี้ฉันเชื่อฟังเธออยู่แล้ว เธอให้ฉันทำอะไรฉันก็จะทำ! กลัวแต่ว่าจะอาซ้อจะมาหลงฉันล่ะสิไม่ว่า!” โม่เจียวยิ้มอย่างซุกซน แล้วกอดอกเสี่ยวชิงไว้ด้วยแขนสองข้างขย้ำไม่หยุด
“ทำไมเธอทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโตแบบนี้ จริงจังหน่อยได้ไหม?” ฉู่เหินพูดอะไรไปก็เหมือนไม่ได้พูด เพราะหลังจากโม่เจียวได้ยินเขาพูดเธอก็แลบลิ้นทำหน้าตลก ๆ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
“สำหรับข้อสุดท้าย เธอต้องเป็นเด็กดีว่าง่ายอย่าสร้างปัญหา สามข้อนี้ถ้าเธอไม่ทำตาม ฉันจะส่งเธอกลับทันทีและจะไม่สนใจเธอแล้วด้วย!” ประโยคนี้ถ้าฉู่เหินไปพูดกับคนอื่นคงจะใช้ไม่ได้ แต่ใช้กับเด็กสาวได้แน่
ผลคือทันทีที่เด็กสาวได้ยินฉู่เหินว่าจบ เธอก็พบพยักหน้ารัวเหมือนไก่ก็ไม่ปาน ท่าทางว่าง่ายแบบนี้ถ้าเป็นคนอื่นเห็นคงคิดว่าเด็กสาวคนนี้เป็นเด็กว่าง่ายอย่างแน่นอน
“พี่ฉู่ พี่ว่างูพวกนี้แปลก ๆ หรือเปล่า ทำไมพวกมันถึงเอาแต่ล้อมรอบพวกเราไว้แต่ไม่โจมตีเลยล่ะ!” เสี่ยวชิงมองรอบด้านด้วยสายตาแปลก ๆ รอบด้านของพวกเขาเต็มไปด้วยงูพิษแต่กลับไม่โจมตีเข้ามา พวกมันล้อมรอบห่างออกไปหลายเมตร
“ก็ราชินีงูยืนอยู่นี้ไง งูพิษจะกล้าลงมือได้ยังไงกัน ตอนนี้ไม่เพียงแต่ไม่โจมตี ถ้าเด็กสาวคนนี้ให้พวกมันถอย พวกมันคงถอยกันไปหมดแล้ว” หลังจากได้ยินประโยคนี้แล้ว ทุกคนก็มองเด็กสาวแสนว่าง่ายคนนี้ด้วยสายตาแปลก ๆ ไปตาม ๆ กัน
จนถึงตอนนี้ ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจ ราชินีงูที่สามารถออกคำสั่งกับงูทั้งหลายได้ เป็นโม่เจียวที่อยู่ตรงหน้าพวกเขานี้เอง นี้แสดงให้เห็นว่าบุลลิกของเธอไม่ใช่ตัวจริงทั้งหมดเธอซ่อนพลังเอาไว้ได้แนบเนียนมาก!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ทุกคนก็เหงื่อไหลทั่วร่าง ถ้าเด็กสาวเป็นศัตรูกับพวกเขาจะน่ากลัวขนาดไหนกัน เพราะเธอสามารถซื้อใจทุกคนได้อยู่หมัดถึงตอนนี้ถ้าเธออยากจากปล่อยพิษให้พวกเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย
“สาวน้อย เธอให้ญาติพี่น้องของเธอถอยไปเถอะ! พวกเขาอยู่รอบ ๆ ตัวแบบนี้ฉันรู้สึกแปลก ๆ” ฉู่เหินถอนหายใจแล้วให้โม่เจียวรีบสั่งงูพิษพวกนี้ให้สลายตัวไปได้แล้ว แม้ว่าเขาจะไม่ได้กลัวงูพิษพวกนี้ แต่การถูกจด ๆ จ้อง ๆ แบบนี้ทำให้เขารู้สึกไม่ดี
หลังจากได้ยินฉู่เหินพูด โม่เจียวก็มองค้อนฉู่เหินยกใหญ่ ก่อนที่เด็กสาวจะเดินออกไปท่ามกลางพงหญ้ารอบด้านคล้ายจะหาหญ้าพิเศษสักอย่าง หลังจากมือประคองหญ้าสะอาดในมือ ปากของเธอก็ขยับไปมาไม่รู้ว่าเธอพูดว่าอะไรกันแน่
รู้แค่เพียงว่าหลังจากไม่กี่ประโยคเหล่านี้พูดจบ ต้นหญ้าสะอาดที่เธอประคองไว้เบา ๆ ก็เปล่งแสงออกมา หลังจากแสงเหล่านั้นก็ถูกส่งไปหางูพิษหลายชนิดรอบด้าน ไม่พวกงูก็พากันก้มหัวอย่างระวังตัว
จากนั้นไม่รู้ว่าโม่เจียวนำกระเป๋าหนังใบหนึ่งออกมาจากไหน หลังจากกระเป๋าหนังปรากฏในมือจู่ ๆ ก็เกิดเป็นกระแสลมบ้าคั่ง สูงหลายเมตรก่อนจะค่อย ๆ หยุดลงตรงพื้นดิน
ถ้าว่านี้ยังทำให้พวกคุณตกใจไม่ได้ล่ะก็ ฉากต่อมาจะต้องทำให้คุณใจสั่นได้อย่างแน่นอน เพราะงูพิษนับพันตัวรอบด้าน ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ต่างก็ถูกดูดลงไปในกระเป๋าหนังใบนั้น กระเป๋าหนังนั้นคล้ายกับหลุมดำที่ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะจับงูพิษกี่ตัวลงไปก็ไม่มีทางทำให้มันเต็มได้เลย
ต้นจนจบผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง งูนับพันนับหมื่นตัวก็หายไปอย่างหมดจด รวมทั้งงูที่เกาะอยู่บนต้นไม้ด้วย! ถ้ากระเป๋าหนังใบนี้นำไปตีค่าแล้วเกรงว่าจะทำให้ผู้คนตกใจวายตายได้เลย แหวนมิติของฉู่เหินเองก็ถือว่าเป็นของระดับเดียวกัน
หลังจากงูพิษทั้งหมดถูกเก็บลงไปหมดแล้ว ทุกคนถึงได้มองเห็นสภาพแวดล้อมรอบด้าน ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าวิวทิวทัศน์แห่งนี้นั้นทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจเมื่อได้มอง
ต้นไม้สูงทะลุก้อนเมฆคล้ายกับอยู่ในแดนเทพ เมื่อเงยหน้าขึ้นไปจะเห็นว่าแม้แต่แสงแดดยังยากที่จะทะลุผ่านลงมาได้ อายุต้นไม้ของที่นี่ดูแล้วน่าจะมากกว่าพันปี ถ้าต้นไม้สูงทะลุเมฆว่าแปลกแล้วล่ะก็ งั้นหญ้าบริสุทธิ์ที่อยู่รอบข้างก็เป็นภาพที่แปลกประหลาดเช่นกัน
เดิมที่หญ้าบริสทธิ์ในป่านั้นไม่ใช่ของแปลกอะไร แต่ถ้าต้นหญ้าสูงกว่า 1 เมตรทุกต้นละก็มันแปลกแน่ แต่พวกฉู่เหินเห็นว่าหญ้าบริสุทธิ์พวกนี้แล้วก็รู้สึกเหมือนถูกใคนสักคนเคยตัดไป
ฉู่เหินมองหญ้าที่สูงระดับเอว เขาก็พบว่าหญ้าบริสุทธิ์เหล่านี้มีลวดลายแปลก ๆ อยู่ด้วย ถ้าบอกว่าคล้ายกับสิ่งของอะไรสักอย่าง เขาก็คงบอกได้ว่ามันเหมือนกับค่ายกลอยู่หลายส่วนทีเดียว แต่เขาคิดว่าค่ายกลนี่ทำอย่างลวก ๆ ไม่สมบูรณ์เพราะมันทำได้แค่สร้างเขาวงกตธรรมดา ๆ เท่านั้นไม่มีพลังใด ๆ
แต่ป่าแห่งนี้มองไกลออกไปได้แค่ 10 เมตรเท่านั้นและสิ่งที่ฉู่เหินมองเห็นก็คล้ายจะถูกสร้างด้วยค่ายกลอันนี้ ถ้าค่ายกลนี้ไม่ใช่สิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้น แต่เป็นค่ายกลที่คนสร้าง คน ๆ นั้นจะต้องเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งอย่างแน่นอน!
ฉู่เหินสงสัยว่าเป็นผู้แข็งแกร่งของกลุ่มไหนกัน เพราะเขาสัมผัสได้ว่าเกาะแห่งนี้ไม่ธรรมดา ที่นี่ไม่เพียงแต่มีกลิ่นไอพลังดวงดาว แต่ในป่ายังเต็มไปด้วยวัตถุดิบทำยาวิเศษมากมาย มันสมบูรณ์แบบเกินกว่าจะเป็นเกาะร้างของพวกโจรสลัด
ระหว่างทางพวกของฉู่เหินได้ประโยชน์ไม่น้อยเพราะต้นไม้โบราณที่นี่ส่งพลังชนิดต่าง ๆ ออกมาทำให้พวกเขาร่างกายมีพลังเปี่ยมล้น ฉู่เหินเลยเข้าใจทันที ป่าที่นี่พืชพันธ์เขียวชอุ่มและอุดมสมบูรณ์เกินไป มันต้องเป็นสวนดอกไม้หรือสวนสมุนไพรของผู้แข็งแกร่งสักกลุ่มอย่างแน่นอน!
ครั้งนี้เขาเจองานยากเข้าให้แล้ว!