สุดยอดชาวประมง - บทที่ 318 แกไม่คู่ควร
บทที่ 318 แกไม่คู่ควร
บทที่ 318 แกไม่คู่ควร
พวกชุดดำรู้สึกว่าไอ้หนุ่มตรงหน้ามันพูดมากเกินไปแล้ว ไม่มีทางที่จะเก่งหรือมีพรสวรรค์ได้ด้วยเหตุผลไร้สาระแบบนั้นหรอก!
“ไอ้เด็กเหลือขอ พูดไร้สาระอยู่ได้ แกคิดว่าพวกเราโง่มากหรือไง หลังจากที่พวกเราจับแกได้แล้วพวกเราจะบังคับให้แกสารภาพออกมาเอง” หัวหน้าชายชุดดำพูดออกมาเสียงดัง
“แหม ๆ ๆ น่าสงสารจริง ๆ มันก็ชัดเจนอยู่นะว่าฉันมีพรสวรรค์ระดับเทพแล้วยังจะคิดแบบนั้นกันอีก พวกแกไม่เคยได้ยินหรือไงว่าสามารถกลายเป็นเทพเจ้าได้ใน 10 ปี?”
หลังจากได้ยินคำพูดของฉู่เหิน พวกเขาก็ตกตะลึงเห็นได้ชัดเลยว่าเคยได้ยินเรื่องแบบนั้นมาก่อน แต่มันเป็นเพียงตำนานไม่มีใครรู้ได้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ แต่วันนี้หลังจากได้ยินคำพูดของฉู่เหินพวกเขาก็คล้อยตาม
เนื่องจากคนที่อยู่ข้างหน้าเป็นคนที่ต่อต้านลิขิตฟ้า มันก็ฟังดูสมเหตุสมผลสำหรับคนแบบนี้ที่ทำสิ่งพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้นเขามีพรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งมันก็เป็นไปได้ทั้งหมด
“ไอ้หนุ่ม ตราบใดที่แกยังยืนนิ่ง ๆ อยู่แบบนั้นและเชื่อฟังพวกเราดี ๆ ทุกอย่างจะจบอย่างรวดเร็ว ฉันสัญญาว่าแกจะไม่เป็นอะไร แกแค่รอที่นี่ และพวกเราจะตรวจสอบเอง ถ้าเกิดเป็นอย่างที่แกว่ามาจริง ๆ ก็ไม่ต้องหลบหรือหนีอะไรทั้งนั้น” ผู้นำชุดดำพูดขึ้นหลังจากคิดบางอย่าง
ตอนนี้เหตุผลที่ทุกคนยืนล้อมรอบฉู่เหินและคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงกลางเป็นเพราะฉู่เหินซ่อนค่ายกลดาบห้าธาตุเอาไว้และกลัวอีกฝ่ายจะรู้ว่ามีค่ายกล
“สิ่งที่แกอยากให้ฉันทำก็ขึ้นอยู่กับว่าแกมีความสามารถขนาดไหม ไก่พื้นเมืองกับหมาบ้านยังมีค่ามากกว่าพวกแกเลย!” หลังจากพูดอย่างนี้ฉู่เหินก็ยิ้มเย้ยหยันให้กับอีกฝ่าย
ผู้คนในนิกายกิเลนไม่เคยคิดว่าฉู่เหินจะเป็นคนแบบนี้ พวกเขาต่างเข้าใจกันว่าทั้งสามกลุ่มที่มาที่นี่ไม่ใช่เพราะฉู่เหิน แต่เพราะสมบัติที่พวกเขาเพิ่งได้มาเมื่อไม่กี่วันก่อน จริง ๆ แล้วหากฉู่เหินสุภาพกับอีกฝ่ายก็น่าจะมีโอกาสรอดชีวิตออกไปแท้ๆ
แต่ฉู่เหินก็เลือกที่จะยืนอยู่ข้างพวกเขา มันน่าประทับใจมาก ทำให้คนในนิกายกิเลนต่างมองฉู่เหินอย่างซาบซึงใจ
“น้องฉู่ ฉันต้องขอโทษจริง ๆ ที่ฉันแอบดูหมิ่นนาย ตอนนี้ฉันต้องขอโทษนายด้วย ฉันหวังว่านายจะไม่คิดมากนะ” ฉู่เหินไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหลิวจวิ้นซานจะพูดแบบนี้ ไม่มีอะไรอื่นแค่ประโยคนี้ก็กินใจฉู่เหินได้แล้ว
“ไม่หรอก ตอนที่ฉันมาที่นี่ครั้งแรก ฉันเห็นท่าทีแสดงออกของพี่หลิวที่มีกับฉัน ฉันก็คิดว่าพี่หลิวเป็นคนทรยศจากนิกายอื่น ไม่คิดเลยว่าพี่หลิวจะเป็นคนดีแบบนี้! ฉันขอชื่นชมพี่จริง ๆ” หลังจากได้ยินคำพูดของฉู่เหิน หลิวจวิ้นซานก็ตกตะลึงและในที่สุดก็หัวเราะออกมาอย่างเต็มที่
สมาชิกคนอื่น ๆ ของนิกายกิเลนเองก็หัวเราะออกมา แม้ว่านิกายกิเลนจะมีจำนวนไม่มากนัก แต่ก็เป็นคนกล้าหาญ ตอนนี้เมื่อต้องกำลังหน้าเผชิญความตาย แทนที่จะมีความกลัว แต่พวกเขากลับยืนหยัดและหัวเราะออกมาได้ซึ่งบ่งบอกได้เลยว่าพวกเขาเป็นคนยังไง
“พวกแกยังไม่เคยรู้จักกับความตายที่แท้จริง หัวเราะให้พอใจเถอะ ฉันละสงสารพวกแกจริง ๆ” ชายชุดดำคำรามออกมาด้วยความโกรธ
พูดตามความจริง ในเวลานี้พวกเขาควรจะเป็นตัวละครหลักไม่ใช่เหรอ? ในจินตนาการของพวกเขา ตอนนี้พวกทุกคนในนิกายกิเลนควรจะหวาดกลัวจนตัวสั่นและคุกเข่าบนพื้นเพื่อร้องขอความเมตตาสิ แต่ทำไมพวกมันไม่กลัวกันเลย ไม่พวกนี้ไม่กลัวความตายกันหรือยังไง?
สิ่งที่ทำให้ชายชุดดำคนนี้ยอมรับไม่ได้มากที่สุดคือคนหลายสิบคนที่อยู่ตรงหน้าเขา มองพวกเขาราวกับอากาศ ซึ่งเขาทนมันไม่ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาแยกเขี้ยวและคำรามด้วยความโกรธแค้น!
“หยุดเห่าได้แล้วไอ้ลูกหมา!” ประโยคนี้กลายเป็นว่าฉู่เหินและหลิวจวิ้นซานตะโกนออกมาพร้อมกัน หลังจากตะโกนประโยคนี้ออกไปทั้งสองตัวแข็งทื่อ ก่อนจะหันมามองหน้ากันแล้วพวกเขาก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง
ชายขุดดำคนหนึ่งรู้สึกหดหู่ใจ เขาเริ่มประสาทหลอนไม่รู้ว่าเขามาฆ่าฝ่ายตรงข้ามหรือว่าเขามาฆ่าตัวตายกันแน่ ไม่มีความกลัวในจิตใจของคนพวกนี้เลยงั้นเหรอ! นี่มันไม่ถูกต้อง!
“ที่จริงฉันรอแกอยู่นานแล้ว เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่พวกแกอยากจะเชิญฉันไปที่นิกาย ฉันรู้ว่าแกคิดจะต่อสู้กับนิกายกิเลน แม้ว่าแกจะระมัดระวังแล้ววางแผนมาอย่างดี แต่ดวงตาของแกก็ไม่อาจปิดบังฉันได้หรอกนะ ฉันเห็นดวงตาของพวกแกหลายคนมองไปที่นิกายกิเลนพร้อมด้วยจิตสังหาร!”
“และจากนิกายที่มีอยู่มากมายก็มีเพียงนิกายกิเลนเท่านั้นที่เชื่อถือได้ เพราะงั้นฉันจะปล่อยให้พวกแกฆ่าคนที่นี่ได้ยังไง? ฉันเลยมาที่นี่และเตรียมการเอาไว้แล้ว พวกแกคิดว่าพวกเราไม่ได้การเตรียมการอะไรเลยหรือไง? ฉันคงพูดได้แค่ว่าแกมันโง่เกินไปแล้ว!” ฉู่เหินแสร้งทำเป็นใจเย็นและพูดด้วยรอยยิ้ม
หลังจากได้ยินคำพูดของฉู่เหิน หลิวจวิ้นซานก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดัง ๆ “ฉันบอกได้เลยว่าพวกแกมันโง่มาก ถ้าพวกแกต้องการจะโทษใครซักคนล่ะก็ แกไม่ต้องหาเลย เพราะพวกแกมันโง่กันทุกคน สิ่งที่แกต้องคิดหาทางตอนนี้คือทำยังไงไม่ให้พวกแกถูกตัดหัว แต่พวกแกจะหนีออกไปจากที่นี่ได้ยังไงนี้สิ”
เมื่อได้ยินคำพูดของทั้งสอง ชายชุดดำหลายร้อยคนต่างก็รู้สึกกังวลใจ พวกเขาทำอย่างที่ฉู่เหินพูดจริง ๆ พวกเขามองนิกายกิเลนด้วยสายตาที่อยากจะฆ่าจริง ๆ แต่ถึงแม้จะรู้แบบนั้น พวกนิกายกิเลนกับฉู่เหินจะเตรียมตัวให้ทันเวลาได้ยังไงเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง?
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ชายชุดดำเหล่านี้ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปรอบ ๆ อย่างประหม่า แต่หลังจากมองดูอย่างระมัดระวังแล้วพวกเขาก็ไม่พบอะไรเลย พวกเขาเริ่มมีความมั่นใจขึ้นอีกครั้งและจ้องมองฉู่เหินกับหลิวจวิ้นซานอย่างโกรธแค้น
“แหมมม พวกแกกล้าที่จะโกหกฉันเชียวเหรอ ฉันจะฆ่าพวกแกให้ได้!” หลังจากคำพูดถูกพ่นออกมา ชายชุดดำก็โบกมือ จากนั้นชายชุดดำหลายร้อยคนก็พุ่งเข้าใส่ฉู่เหินอย่างรวดเร็ว
ทุกคนในนิกายกิเลนเมื่อพวกเขาเห็นแบบนั้นก็ชักอาวุธของพวกเขาออกมาเพื่อเตรียมต่อสู้ แต่ฉู่เหินรู้ว่าหากทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันจริง ๆ สิ่งที่ทำมาก็จะสูญเปล่า นอกจากนี้นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาสู้!
“พี่น้องรีบถอยเข้าไปในค่ายกลเร็ว!” ฉู่เหินตะโกนบอกทุกคน เขาเปิดค่ายกลและพาทุกคนเข้าไป
ค่ายกลมีระยะหลายสิบเมตร ชายชุดดำหลายคนเลยหลงเข้าไปในค่ายกลนี้ด้วย และพอค่ายกลปรากฎ ดาบก็ทะลุร่างกายชายชุดดำทันที เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชดังก้อง และไม่นานก็หยุดลงเมื่อมองดูดี ๆ ชายชุดดำที่เข้าไปในค่ายกลต่างตายกันหมดสิ้นแล้ว
คนอื่น ๆ ในนิกายกิเลนอยู่ไม่ไกลจากค่ายกล หลังจากได้ยินเสียงของฉู่เหิน พวกเขาก็รีบวิ่งเข้ามาโดยไม่พูดอะไร หลังจากเข้าไปในค่ายกล เพียงชั่วพริบตาสมาชิกนิกายกิเลนก็หายตัวไปอย่างสมบูรณ์ ยกเว้นชายชุดดำที่เหลือต่างตกใจเพราะไม่เห็นใครอีกเลย!
ตอนนี้พวกเขาเชื่อแล้วว่าที่ฉู่เหินพูดไปเป็นเรื่องจริง ตอนนี้กองกำลังทั้งสามที่ร่วมมือกันต่างก็สับสนหากพวกฉู่เหินไม่ถูกฆ่าที่นี่ พวกเขาลำบากแน่
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือแผนการครั้งนี้ห้ามรั่วไหลออกไป ถ้ากองกำลังอื่น ๆ รู้ว่าพวกเขามารวมกลุ่มกันฆ่าคน พวกเขาตายแน่ แผนการตอนแรกค่อนข้างราบรื่น พวกเขาไม่คิดเลยว่าทุกอย่างจะผิดแผนแบบนี้ ตอนนี้พวกเขากำลังจะตายเพราะฉู่เหิน
ชายชุดดำมั่นใจเลยว่าค่ายกลนี้ถูกสร้างโดยฉู่เหินอย่างแน่นอน!