สุดยอดชาวประมง - บทที่ 323 ปัญหาในอนาคต
บทที่ 323 ปัญหาในอนาคต
บทที่ 323 ปัญหาในอนาคต
หลังจากผ่านไปนาน หยูเหวินเชิงเฟิงก็ไม่อาจสัมผัสได้ถึงจิตของสัตว์วิเศษ* เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าใครทรยศ เขารู้สึกไม่สงบเอาเสียเลย เพราะไม่รู้ว่าจะลงเอยอย่างไร!
*จิตวิญญาณของสัตว์วิเศษทั้ง 4 ตามความเชื่อของชาวจีนโบราณนั้น จะมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ 4 ชนิด คือ พยัคฆ์ หงส์ เต่า และ มังกร โดยชาวจีนจะเชื่อถือกันว่ามังกรนั้น เป็นสัตว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้ง 4 ชนิด
หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดหนึ่งในคนของเขาก็ใช้หยกสื่อสารบอกมาว่า “ท่านประมุข เกิดปัญหาแล้ว จิตวิญญาณสัตว์ที่หนึ่งในสี่ผู้อาวุโสเลือกไป หลังจากผ่านไป 10 นาทีมันก็เหนื่อยล้า ถ้าไม่ใช่ว่าฉันมาถึงทันเวลา เกรงว่าผู้อาวถโสเป็นอันตรายได้เลย”
หลังได้ยินดังนั้น หยูเหวินเชิงเฟิงก็หรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด การตัดสินใจของพวกเขาถูกต้องมีไส้ศึกอยู่ในนิกายกิเลน คิดไม่ถึงว่าจะมีคนทรยศจริง ๆ นิกายกิเลนให้แหล่งทรัพยากรสำหรับฝึกฝนและเลี้ยงดูนับ 10 ปีก็ยังสามารถทรยศหักหลังนิกายได้ ไอ้พวกนี้มันหมาป่าที่เลี้ยงไม่เชื่อง*
*หมาป่าที่เลี้ยงไม่เชื่อง เปรียบเทียบคนไม่รู้จักบุญคุณคนทั้งยังทศยศหักหลังผู้มีพระคุณ
คนที่ทรยศเช็คดูแล้วเป็นคนที่รับมาตอนไปยึดครองเกาะซาถัวบัดนี้วรยุทธของคนเหล่านี้ไม่ธรรมดา คิดไม่ถึงว่าเลี้ยงดูมาเป็นสิบปีจะยังมาแว้งกัดได้ ทว่าหยูเหวินเชิงเฟิงไม่รู้สึกเป็นทุกข์ใจเลยแม้แต่น้อย เพราะนับตั้งแต่ที่ยึดครองเกาะเขาก็ไม่เคยสนใจคนบนเกาะนั้นเท่าไร เพราะเขาทำเต็มที่แล้ว
หลังจากที่ยึดครองได้แล้ว เขาให้ทรัพยากรฝึกฝนวรยุทธ์กับคนหลายคน
นับว่าหยูเหวินเชิงเฟิงนั้นเป็นคนใจกว้างอย่างแท้จริง แต่คนบนเเกาะซาถัวกลับไม่มีใครไม่รู้สึกซาบซึ้งใจเขาเลยสักคน พวกมันเอาทรัพยากรสำหรับฝึกฝนวรยุทธไปฝึกฝนตัวเองอย่างบ้าคลั่ง จนเลื่อนขั้นเป็นขั้นราชันดารา ทว่าจิตใจของมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง
ในตอนที่เขากำลังนึกถึงความหลังอยู่นั้น เหล่าสี่ผู้อาวุโสก็ส่งสัญญาณมาว่าสัตว์จิตวิญญาณเหล่านี้เกิดปัญหาขึ้นจริง ๆ หยูเหวินเชิงเฟิงในที่สุดก็ตัดสินว่าต้องทำยังไงกับคนทรยศ!
ในเมื่อตัดสินว่าคนพวกนี้เป็นคนทรยศ ก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกอะไรต่อกันอีกเขาออกคำสั่งให้เหล่าผู้อาวุโสที่เหลือไปจับกุมสี่ผู้พิทักษ์ซะ แม้ว่าเหล่าผู้อาวุโสจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะทำตามคำสั่งของประมุข!
ไม่นาน สี่ผู้พิทักษ์แห่งนิกายกิเลนก็ถูกพามายังห้องโถงใหญ่ ทั้งสี่นั้นดื้อรั้นแถมยังโกรธเคือง! หลังจากพบหยู่เหวินเชิงเฟิงก็คำรามด่าทอไม่หยุด
“พวกเราสี่คนทำเพื่อนิกายอย่างขยันขันแข็งมาโดยตลอด วันนี้เพราะอะไรถึงได้จับกุมพวกเรา ถ้าไม่ให้เหตุผลกับพวกเราดี ๆ ฉันไม่ยอมแน่!” ผู้พิทักษ์ทั้งสี่ต่างพากันคำรามอย่างโกรธแค้น
“พวกแกแอบวางยาจิตวิญญาณสัตว์วิเศษ จนทำให้สี่ผู้อาวุโสที่เพิ่งออกไปต้องเสียชีวิต พวกแกยังกล้าปฏิเสธอยู่ไหม!?” หยูเหวินเชิงเฟิงตบโต๊ะด้วยความโกรธแค้น
“การตายของสี่ผู้อาวุโสพวกเราเองก็เสียใจเช่นกัน แต่แค่การตายของสี่ผู้อาวุโสก็มาหาว่าเป็นกลอุบายของพวกเรา ออกจะไม่สมเหลุสมผลหน่อยล่ะมั้ง อีกอย่าง ศพของสี่ผู้อาวุโสก็ตรวจหาไม่พบแล้ว ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นกลอุบายที่พวกเราสร้างขึ้น ไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุอย่างอื่น” สี่คนต่างก็เถียงอยู่อย่างนั้น!
“เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาทั้ง 4 ส่งข่าวมาว่า จิตวิญญาณสัตว์วิเศษมีปัญหาพร้อมกันหรือว่านี้ยังไม่เกี่ยวข้องกับพวกแกอีก? หมาที่เลี้ยงไม่เชื่องอย่างพวกแกต้องตาย เสียแรงที่นิกายกิเลนสั่งสอนพวกแก เลี้ยงเสียข้าวสุกจริง ๆ!”
“แต่ไม่ต้องห่วง ในเมื่อพวกแกไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร รอพวกเราฆ่าล้างบางเกาะซาถัวก่อนก็ได้ที่นั้นจะกลายเป็นหลุมฝั่งศพของพวกแก!” หยูเหวินเชิงเฟิงโกรธมากจนใบหน้าแสยะยิ้มเหี้ยมก่อนหัวเราะออกมามาเสียงดัง
“เจ้าคนน่าตายหยูเหวิน ในปีนั้นยึดเกาะซาถัวของพวกเราไปไม่พอ ตอนนี้ยังกล้าคิดทำร้ายประชาชนคนอื่น ๆ ในเกาะซาถัวอีกเหรอ ต่อให้พวกฉันกลายเป็นผีก็จะไม่ปล่อยแกไว้แน่! ไม่น่าเลยจริง ๆ ฉันน่าจะเชือคำเตือนของผู้อาวุโสที่บอกว่านิกายกิเลนมันบ้าขนาดไหน พวกแกคิดจะฆ่าคนบนเกาะจริง ๆ งั้นเหรอ!”
สี่ผู้พิทักษ์แห่งนิกายกิเลนต่างก็รู้สึกเสียใจ จากนั้นใบหน้าที่เย็นชาก็ต่างหายไป ใบหน้ากลับแปรเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่งขึ้นมา หลังจากเห็นฉากนี้ผู้คนในที่นี่ก็รู้แล้วว่าคนพวกนี้ก็คือคนทรยศจริง ๆ
นิกายกิเลนนั้นเป็นชีวิตจิตใจของพวกเขา แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์ทรยศเช่นนี้ขึ้นมาก่อน ไม่คิดเลยว่าในชีวิตนี้ของพวกเขาจะเจอเรื่องเช่นนี้ ผู้คนที่อยู่ตรงนี้ต่างไม่มีใครพูดจาได้แต่มองอย่างแค้นเคือง
“ในเมื่อพวกแกยอมรับแล้ว งั้นก็ไปตายซะให้หมดเสียเถอะ! จับคนพวกนี้เอาไปขังคุกแล้วทำลายวรยุทธเดี๋ยวนี้ จากนั้นทรมาณมันสับมันเป็นชิ้นๆ” หยูเหวินเชิงเฟิงโกรธแค้นสุดขีดถึงได้ออกคำสั่งแบบนี้ เขาไม่อยากจะเห็นลูกน้องทรยศกันแบบนี้ เขาหวังจริง ๆ ว่าสัตว์วิเศษเหล่านี้จะแค่กินของผิดสำแดง ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับผู้พิทักษ์ทั้งสี่เหล่านี้
แต่ความจริงมันช่างโหดร้าย เขาหลับตาอย่างหมดปัญญาแล้ว ขณะเดียวกันเขาเองก็ยอมรับว่าตัวเองก็ทำผิดเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่เพราะความผิดของเขา คนเหล่านี้จะทรยศตัวเขา ทรยศนิกายได้อย่างไร!
“ฮ่า ๆ ๆ ตายแล้วยังไงอย่างน้อยก่อนตายก็ได้ลากพวกแกไปด้วย สี่ผู้อาวุโสใช้ชีวิตสุดสบายมาตลอด พวกแกไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงหรือคิดถึงพวกเขาเลย จือซินเองก็เหมือนกัน! พวกมันตายแล้ว ตายโดยไร้ที่กลบฝัง”
หยูเหวินเชิงเฟิงเห็นท่าทางราวกับคางคกขึ้นวอของที่สี่ ก็หลับตาลงก่อนโบกมือให้คนลากพวกมันออกไป! การปราบปรามกบฏในครั้งนี้ทำให้เขาได้รับผลกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างหนักจริง ๆ นิกายกิเลนที่ก่อตั้งมาเป็นพันปี ไม่เคยมีสักครั้งที่จะมีเรื่องทรยศแบบนี้เกิดขึ้น เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้มันเลวร้ายขนาดไหน!
จากนั้นหยูเหวินเชิงเฟิงก็เรียกจ้าวเย่กับฮูคานให้ทั้งสองคนรีบไปช่วยที่เกาะซาถัวให้เร็วที่สุด! เขาสัมผัสได้ว่าคนบนเกาะซาถัวเตรียมการมานานแล้ว เช่นนั้นพลังของจือซินคนเดียวก็มีจำกัด ผ่านมาหลายปีแล้วไม่มีใครรู้ว่าผู้แข็งแกร่งในพื้นที่มีใครเป็นขั้นราชันดารากันบ้าง ดังนั้นเขาจำเป็นต้องระวังตัวให้มากที่สุด!
คนที่เขาส่งไปคือจ้าวเย่กับฮูคานวรยุทธของทั้งสองไม่ธรรมดา ในความคิดเขาอาศัยความสามารถของทั้งสองคนก็เพียงพอแล้ว และเขาสั่งบอกให้พวกเขาเลือกสัตว์พาหนะด้วยตัวเองอย่างระมัดระวังยิ่งขึ้น เพราะไม่มีใครรู้ว่านอกจากคนทรยศสี่คนนั้นแล้วยังมีคนอื่นอีกไหม
พวกจ้าวเย่ที่ได้รับคำสั่งก็ออกไปทันที พอถึงโรงสัตว์วิเศษพวกเขาก็เลือกไปสองตัวและออกเดินทางไป เพื่อเป็นการกันไว้ดีกว่าแก้หยูเหวินเชิงเฟิงก็ให้ขั้นราชันดาราคนหนึ่งแอบตามไปด้วย ถ้ามีปัญหาจะได้ช่วยเหลือทัน!
จือซินที่ออกไปคนแรกเข้ากับโป๋อีกู่เป็นอย่างดี! หลังจากพูดคุยกันได้สักพักก็พบว่าทั้งสองมีอะไรเหมือนกันหลายอย่าง ยิ่งทำให้ทั้งสองยิ่งเพิ่มความประทับใจต่อกันเข้าไปใหญ่!
จือซินแม้ว่าจะอายุ 40 แล้ว แต่ภายนอกกลับยังคงสวยสดใส ราวกับหญิงสาววัยอายุ 20 โป๋อีกู่ก็โตเป็นผู้ใหญ่ที่สุขุม อีกคนที่ตั้งใจฟังอีนคนก็พูดเก่ง ยิ่งอยู่ก็ยิ่งสนิทสนมกัน!
ต่อหน้าโป๋อีกู่จือซินเขินอายดั่งสาวน้อย แต่ไม่ทันไรเรือก็ใกล้ถึงเกาะซาถัวแล้ว
เวลาไม่กี่วันนี้ฉู่เหินที่รอคนมาช่วยอย่างลำบาก เขากินอาหารที่เอามาจากบ้านหมดแล้ว ตอนนี้ทุกคนทำได้เพียงกินข้าวดิบ น่าเวทนาสุด ๆ
ที่น่าเวทนาที่สุดที่ก็คือปาเค่อเขาต้องเปลี่ยนร่างกลายเป็นเด็ก ทั้งยังต้องกลืนข้าวดิบลงไป ท่าทางดูน่าเวทนาทำให้เขาเกิดความรู้สึกอยากจะร้องไห้เพราะสะเทือนใจ หลายวันมานี้ปาเค่ออยู่ในอ้อมแขนของโม่เจียวตลอดเวลายิ่งดูเป็นภาพที่น่าเศร้า