สุดยอดชาวประมง - บทที่ 328 เข้าเกาะซาถัว
บทที่ 328 เข้าเกาะซาถัว
บทที่ 328 เข้าเกาะซาถัว
เมื่อโป๋อีกู่มองคิ้วที่ขมวดแน่นของจือซิน โป๋อีกู่ก็อดขำไม่ได้ “ค่ายกลนี้ฉันคุ้นเคยอยู่บ้าง พาพวกเธอเข้าไปได้สบาย ๆ !”
หลังจากได้ยินที่โป๋อีกู่พูด ใบหน้าของจือซินก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มคล้ายกับว่ายิ่งโป๋อีกู่เก่งกาจเธอก็ยิ่งมีความสุข แต่โป๋อีกู่กลับไม่ดีใจเลยสักนิดเดียวและยังรู้สึกขอโทษอยู่ในใจเพราะมันไม่ใช่ความสามารถของเขาจริง ๆ ค่ายกลนี้เป็นของฉู่เหิน แม้การมีผู้หญิงมาชื่นชมจะเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ไม่ใช่สำหรับคนแบบโป๋อีกู่
ตอนนี้โป๋อีกู่กับหวงม่านอิ่งกำลังคบหากันอยู่เพราะงั้นพอเห็นว่าจือซินรู้สึกชื่นชอบตัวเองแบบนี้โป๋อีกู่ก็รู้สึกกระอักกระอวนอยู่บ้าง
“ทุกคนฟังให้ดี ข้างหน้าของพวกเราก็คือค่ายกล หลังจากที่พวกนายเข้าไปข้างในแล้วจะต้องเดินตามฉันทุกย่างก้าว ไม่ว่ายังไงก็ห้ามผิดแม้แต่ก้าวเดียว ไม่งั้นละก็ได้ตายแน่!” เมื่อทุกคนได้ยินประโยคนี้ของโป๋อีกู่ พวกเขาต่างก็ไม่กล้าเมินเฉยเดินตามเขาไปติด ๆ
หลังจากเพิ่งก้าวเข้ามา ต้าเอ้อตุนและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกได้ทันทีค่ายกลแห่งนี้เป็นค่ายกลที่พวกเขาคุ้นเคย เพราะว่าทุกวันต้องเดินผ่านไม่รู้ตั้งกี่รอบ หลังจากเห็นค่ายกลนี้ทุกคนก็คิดพร้อมกันว่า ต้องเป็นฉู่เหินแน่ ๆ ที่สร้างเอาไว้ ในเมื่อฉู่เหินสร้างค่ายกลหน้าทางเข้าเกาะแบบนี้ ก็น่าจะไม่เจออันตรายอะไรมาก
หลังจากรู้เรื่องนี้ทุกคนก็รู้สึกผ่อนคลาย พวกเขาเดินเข้าไปในค่ายกลอย่างรวดเร็ว ตอนนี้พวกเขาคิดว่าเกิดอะไรขึ้นในเกาะกันแน่นะ
สำหรับฉู่เหินนั้นพวกเขารู้จักดี ทว่าเรื่องขุมอำนาจต่าง ๆ บนเกาะพวกเขากลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย พอพวกเขาคิดว่าฉู่เหินต้องอยู่ที่นี่อย่างยากลำบากพวกเขาก็อดรนทนรอไปช่วยไม่ไหวแล้ว
เดิมทีค่ายกลนี้ไม่มีทางขัดขวางพวกเขาได้อยู่แล้ว พวกเขาเลยเดินเข้ามาอย่างสบาย ๆ ระยะไม่กี่สิบเมตรสำหรับพวกเขาก็แค่พริบตาเดียว! หลังจากเข้าในเกาะ พวกเขาก็เห็นว่าแรงระเบิดเมื่อกี้มันทรงพลังขนาดไหน!
ควันระเบิดนั้นลอยเต็มอากาศ หลังจากเห็นฉากท้องฟ้าขมุกขมัวพวกเขาก็ตกใจจนพูดไม่ได้! พวกเขารีบเดินไปทางจุดศูนย์กลางระเบิดทันที
ในตอนนี้เทือกเขากิเลนเหลือแต่ซาก คล้ายว่าถูกระเบิดนับพันลูกถล่มใส่หากมองจากไกล ๆ ก็จะเห็นว่าตรงกลางภูเขานั้นขาดหายไป! คล้ายกับถูกตัดขาดออกจากกันและตรงตีนมีคนอยู่ 4-5 คน พวกเขากระอักเลือดไม่หยุด เพราะพวกเขานั้นถือว่าเป็นพวกที่อยู่ใกล้การระเบิดมากที่สุด
แม้จะสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้แต่ก็สถาพแย่มาก หลังจากเห็นคนพวกนี้โป๋อีกู่ก็ขมวดคิ้มนิดหน่อย ที่นี่มีคนรอดชีวิตแต่คน ๆ นั้นกลับไม่ใช่ฉู่เหิน นี้ก็หมายความว่าครั้งนี้เกิดอันตรายกับฉู่เหินเสียแล้ว
และพวกที่อยู่ใกล้ขนาดนี้ก็ต้องเป็นศัตรูของฉู่เหินแน่นอน แม้เขากับจือซินจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลว แต่ถ้าจือซินกับคนพวกนี้ร่วมมือกัน โป๋อีกู่ก็จะฆ่าจือซินทันที ในความคิดเขาฉู่เหินกับผู้หญิงพึ่งรู้จักกัน ไม่อาจเทียบกันได้เลย
จากนั้นเขาก็กระซิบบอกให้ทุกคนเตรียมป้องกันตัวและยืนติดกายจือซิน! ถ้าหญิงสาวคนนี้แสดงท่าทางเป็นอื่น เขาก็จะลงมือทันที แม้ว่าภายนอกโป๋อีกู่จะไม่ขยับ ทว่าตอนนี้โป๋อีกู่ได้เตรียมรับมือไว้หมดแล้ว!
“โอ้ นั้นท่านผู้อาวุโสจือซินไม่ใช่เหรอ? พวกเรารอท่านอยู่ที่นี่ตั้งนาน เสียงระเบิดดังสนั่นเมื่อกี้ทำพวกเราตกอกตกใจแทบแย่ ไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น! ผู้อาวุโสจือซินมาก็ดีแล้ว งั้นพวกเราเข้าไปตรวจสอบด้วยกันเป็นไง” อีกฝ่ายเป็นชายหัวล้านหัวเราะแล้วเดินออกมาพูดกับจือซิน
ทว่าจือซินมองคนพวกนี้ออก คนพวกนั้นหลังจากเห็นเธอก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ ท่าทางนั้นเธอมองเห็นทั้งหมด! ดังนั้นเธอคาดเดาได้เลยว่าคนพวกนี้ได้ข่าวการตายของเธอแล้ว คนพวกนี้เป็นพวกคนทรยศในนิกาย!
“เป็นอะไร พวกนายเห็นฉันแล้วตกใจมากเหรอ หรือคิดว่าฉันตายไปแล้ว!” คำพูดของจือซินกระแทกหูของคนเหล่านี้ พวกเขาต่างพากันตัวสั่นจากนั้นแววตาก็ปรากฏความโหดเหี้ยมออกมา โชคดีที่พวกเขาเก็บซ่อนเอาไว้อย่างรวดเร็ว แต่จือซินกับโป๋อีกู่มองเห็นท่าทางพวกนี้ได้อย่างชัดเจน!
“ผู้อาวุโสจือซิน คุณพูดอะไรกัน นิกายของคุณเพิ่งถูกระเบิดไปนะพวกเราพี่น้องจึงรีบมาช่วยคุณตรวจสอบ พวกเราก็แค่อยากทำความดีความชอบ! แต่คำพูดของคุณเมื่อครู่หมายความว่ายังไง ฉันไม่เข้าใจ!” ชายหัวล้านพูดคล้ายกับกำลังโกรธ และตอนที่พูดอยู่ก็เดินเข้ามาหาจือซินอีกด้วย
จือซินก้าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม “สุภาพบุรุษทุกท่าน เมื่อกี้พี่สาวใจร้อนไปหน่อย ถ้าพูดผิดตรงไหนก็ขอให้ทุกท่านอย่าได้ถือสาเลย!” ท่าทางของจือซินเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้ ราชันท้องถิ่นแบบพวกเขาคิดว่าตัวเองจะถูกเปิดโปงเสียแล้ว มาถึงตอนนี้พวกเขากลับเริ่มไม่แน่ใจ
แต่พวกเขาก็แอบสบตากันเองก่อนแววตาแฝงไปด้วยความเหี้ยมโหด เห็นได้ชัดว่าพวกเขาตกลงอะไรกันบางอย่าง ทว่าเมื่อมองใบหน้าของพวกเขาก็จะรู้ได้ทันทีว่านั้นไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน!
“ผู้อาสุโสจือซิน พวกเราเพิ่งมาถึงที่นี่ ยังไม่ทันได้ตรวจสอบอะไรเลย! เอาอย่างนี้พวกเราก็ไปด้วยกันเป็นไง?” ชายหัวล้านพูดพร้อมหัวเราะ ก่อนเดินเข้าหาจือซิน
จือซินที่พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลนั้นที่จริงเตรียมป้องกันตัวเอาไว้ก่อนแล้วเพราะคน ๆ นี้ทำให้ความรู้สึกอันตราย ตามจริงแล้วพลังวรยุทธของคนพวกนี้ยังห่างชั้นกับเธอมาก แต่คนพวกนี้กับทำให้เธอรู้สึกอันตราย จนเธอไม่อาจวางใจคนเหล่านี้ได้เลย
โป๋อีกู่เดินออกมาข้างหน้าเล็กน้อยให้จือซินมาอยู่ข้างหลังเขา เขามองออกว่าคนพวกนี้ไม่ใช่คนดีแน่ๆ ถ้าตัวเขาไม่อยู่ตรงนี้ก็ช่างมันเถอะ ในเมื่อเขาอยู่ตรงนี้งั้นจะทำอะไรจือซินก็ต้องข้ามศพเข้าไปก่อน
จือซินที่เห็นโป๋อีกู่ออกมาบังให้ตัวเอง แม้ภายนอกจะไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่ในใจกลับรู้สึกมีความสุขที่สุด เธอเก็บซ่อนความดีใจเอาไว้ไม่อยู่ เธอคิดว่าเขาช่างเท่เหลือเกิน เพียงแต่วันข้างหน้าเธอต้องแสดงความแข็งแกร่งออกมาบ้าง ไม่งั้นเกรงว่าชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้จะหลุดมือเธอไปเสียก่อน!
จือซินแม้อายุจะ 40 กว่าปีแล้ว แต่หลังจากฝึกฝนวรยุทธอย่างบ้าคลั่งความแก่ช้าก็ไม่เพิ่มขึ้นเลยและอายุขัยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตาระดับพลังทำให้เธอในตอนนี้เปรียบเสมือนสาวน้อยคนหนึ่งแถมความงดงามของเธอ แม้แต่เด็กสาวอายุ 20 ก็ยังเทียบไม่ติด
เมื่อตรวจสอบความพร้อมของตัวเองแล้ว ใบหน้าของเธอก็เผยรอยยิ้มออกมา เธอรู้ว่าความสุขุมเยือกเย็นเป็นสิ่งที่ภรรยาที่ดีต้องมี และเป็นสิ่งที่ผู้ชายชอบมากที่สุด
แต่น่าเสียดายแม้เธอจะชอบโป๋อีกู่มากแค่ไหน แต่โป๋อีกู่ก็ไม่เล่นด้วยเลย
อีกไม่กี่ก้าวชายหัวล้านก็เดินมาถึงตรงหน้าของทั้งสอง พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาแสดงความเคราพจือซินอีกครั้ง แม้ชายหัวล้านจะอายุเยอะแล้ว ทว่าจือซินเป็นผู้อาวุโสของนิกายกิเลน ดังนั้นตอนที่พบหน้ากันเขาจึงต้องทำความเคารพเธอ
แม้ใบหน้าของจือซินจะยังคงยิ้มแย้ม ทว่าเธอไม่แสดงท่าทางใด ๆ ออกมาเลย ทำให้อีกฝ่ายเดาไม่ออกเหมือนกันว่าจือซินคิดอะไรอยู่กันแน่