สุดยอดชาวประมง - บทที่ 345 เดินทาง
บทที่ 345 เดินทาง
บทที่ 345 เดินทาง
ตั้งแต่ที่ซ่างกวนชิงเฟิงตัดสินใจเลือกนิกายกิเลน เขาก็ไม่เคยมีความคิดที่จะทรยศเลย เพราะเขาทราบดีว่าการทรยศนิกายกิเลนสิ่งที่รออยู่ก็คือความตาย! แม้วันหนึ่งเขาจะมีเหล่านิกายระดับ 1 หนุนหลังอยู่ก็ตาม เขาก็ไม่คิดที่จะทรยศเลยแม้แต่น้อย
บางทีหากนำนิกายกิเลนกับนิกายระดับ 1 มาเทียบกันมันก็คงไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่ถ้านิกายกิเลนหรือนิกายระดับ 1 อยากกำจัดตระกูลซ่างกวนก็คงสามารถทำได้อย่างง่ายดาย แล้วพวกเขาจะทรยศไปทำไม! แม้เขารู้ดีถึงเรื่องนี้เมื่อได้ยินที่ฉู่เหินถาม เขาก็ไม่ลังเลที่จะตอบตกลงทันที!
ที่ทำให้เขาดีใจที่สุดก็คือคนในตระกูลเขาสามารถเป็นศิษย์นอกนิกายกิเลนได้ เมื่อเป็นแบบนี้ไม่เพียงแต่มีนิกายกิเลนถือหาง พวกเขายังจะได้ทรัพยากรการฝึกยุทธ์อีกมากมาย แม้นิกายกิเลนได้ผลประโยชน์เช่นกันแต่สิ่งที่พวกเขาได้รับกลับมาถือว่าคุ้มค่ากว่ามาก!
หลังจากที่ซ่างกวนชิงเฟิงคิดคำนวณดีแล้ว เขาก็ไปเข้าพบหยูเหวินชิงเฟิง ก่อนสักครั้ง หยูเหวินชิงเฟิงพยักหน้ายอมรับพร้อมกับเซ็นสัญญาพิเศษหนึ่งฉบับกับซ่างกวนชิงเฟิง อย่าได้ดูถูกว่าเป็นแค่สัญญาฉบับหนึ่งเท่านั้น เพราะว่าภายในนั้นเต็มไปด้วยพลังดวงดาวมหาศาล ถ้าหากว่าซ่างกวนชิงเฟิงหรือว่าหยูเหวินชิงเฟิงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญาแล้วล่ะก็ จะต้องถูกลงโทษสถานหนัก อีกทั้งยังเป็นการลงโทษจากสวรรค์ ไม่อาจหลบหนี!
ฉู่เหินจะให้ราชาฉลามพิษไปส่งซ่างกวนชิงเฟิงกลับ แต่ก็ต้องรอถึง 2 วัน เพราะตอนนี้โม่เจียวยังไม่ได้สติ แม้ฉู่เหินจะมีเรื่องสำคัญมากมายต้องทำ แต่ถ้ายังไม่เห็นโม่เจียวฟื้น เขาก็ไม่อาจวางใจได้ เขารอจนโม่เจียวฟื้นเขาถึงสบายใจขึ้นมาได้
อีกแค่ 3 เดือนก็จะถึงการประลองร้อยนิกายแล้ว ฉู่เหินเตรียมใช้เวลานี้ออกเดินทางไปสำรวจทะเลดูสักหน่อยเพื่อจะเจอสมบัติในการฝึกยุทธ์! เพราะเขามีความรู้สึกว่าข้างนอกนั้นมีอะไรบ้างอย่างกำลังรอเขาอยู่ ถ้าไม่ใช่เพราว่าโม่เจียวยังไม่ฟื้น เกรงว่าป่านนี้เขาคงออกไปแล้ว!
เดิมทีฉู่เหินวางแผนจะไปคนเดียว แต่เพราะผลข้างเคียงของวิชาเขามันมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกต้องพาเสี่ยวชิงไปด้วย แม้ว่าการทำแบบนี้เหมือนเอาเสี่ยวชิงมาใช้เป็นเครื่องมือระบายความใคร่ แต่มันก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว!
ครั้งนี้ที่ไปกับเขานอกจากนกกระสากับนกคีรีบูนแล้ว ก็มีเจ้าแมวนพเวทย์ด้วย ส่วนฉู่เฟิงถูกทิ้งไว้ที่นิกายกิเลนให้ฝึกฝนอย่างสบายใจ ตอนนี้ฉู่เฟิงมี วรยุทธต่ำต้อยเกินไปคิดจะช่วยตัวเขาเกรงว่าคงยาก เพราะงั้นก็อยู่ที่นี่เพื่อฝึกฝนดีกว่า? โป๋อีกู่ก็อยากไปด้วย แต่ฉู่เหินไม่เห็นด้วยและให้เขาฝึกฝนอยู่ที่นี่ ถ้าหากว่าระดับโป๋อีกู่ตามเขาไปด้วย งั้นเขาก็ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายน่ะสิ ถ้าแบบนั้น เขาจะบีบบังคับให้ตัวเองพัฒนาพลังให้เร็วยิ่งขึ้นได้ยังไงและแผนที่วางเอาไว้ก็จะล้มเหลว
หากอยากให้ตัวเองพัฒนาภายใน 3 เดือนเร็ว ๆ เขาต้องทุ่มทั้งชีวิต เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้การจะเลื่อนขั้นพลังแบบก้าวกระโดดในเวลาสั้น ๆ ไม่มีทางทำได้เลยนี้เรียกว่าแผนการเอาชีวิตรอดเพื่ออนาคต!
นอกจากนี้เขายังโทรหาครอบครัวว่าตัวเองสบายดีไม่ต้องเป็นห่วง ก่อนเดินทาง เขายังหมกมุ่นอยู่กับห้องสมุดของนิกายกิเลน ค้นคว้าวิจัยสิ่งที่คนรุ่นก่อนทิ้งเอาไว้ก่อนตาย ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่บันทึกเกี่ยวกับกฎแห่งสวรรค์ต่าง ๆ เอาไว้
แต่กฎแห่งสวรรค์จะรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณ ไม่สามารถพูดออกมาได้ ถึงจะใช้ตัวอักษรบันทึกเอาไว้ ก็ยากจะเข้าใจ เพราะระบุอะไรไม่ค่อยได้ แต่แต่มีอะไรให้อ้างอิง มันก็ช่วยให้เขาแก้ไขปัญหาได้ง่ายขึ้นมาก!
ตอนนี้สิ่งที่ฉู่เหินขาดก็คือเวลา เวลาการฝึกฝนวรยุทธของเขานั้นสั้นมาก ไม่อาจเทียบได้กับพวกที่ฝึกฝนมาเป็นสิบ ๆ ปีได้เลย! แม้จะอายุเท่ากันแต่ส่วนมากพวกเขาจะเริ่มฝึกฝนตั้งแต่อายุ 4-5 ขวบ ส่วนฉู่เหินเพิ่งเริ่มตอนอายุ 20 กว่าและพึ่งฝึกฝนวรยุทธได้ไม่กี่เดือน ทำให้เขาไม่ได้เปรียบคนในรุ่นเดียวกันเท่าไร
ที่น่าตลกคือวรยุทธของฉู่เหินไม่ได้สูงมากนัก แต่เมื่อเทียบกับคนรุ่นเดียวกันแล้วถือว่าเขาเก่งกาจมาก
หลังจากผ่านไป 2 วันในที่สุดโม่เจียวก็ฟื้น แม้หญิงสาวจะได้สติแต่ร่างกายค่อนข้างอ่อนแอ ฉู่เหินบอกโม่เจียวว่าเขาจะเดินทางไกล แต่เป็นตายร้ายดีอย่างไรหญิงสาวก็ไม่ยินยอมให้เขาไปไหน สุดท้ายจึงไม่มีทางเลือก
ฉู่เหินตกลงกับอีกฝ่ายว่า ถ้าภายใน 3 เดือน โม่เจียวสามารถทะลวงเป็นขั้นผู้พิชิตดาราได้ เขาจะยอมให้เธอเข้าร่วมการประลองร้อยนิกาย เมื่อโม่เจียวได้ยินก็ค่อยมีความสุขขึ้นมาหน่อย เพราะการแข่งขันใหญ่ ๆ แบบนี้เธอยังไม่เคยเข้าร่วมเลยสักครั้ง
เมื่อทำทุกอย่างแล้ว ฉู่เหินก็บอกลาคนอื่น ๆ และจัดการเรื่องผู้อาวุโสจางกับนิกายกิเลนให้เรียบร้อย แต่การจะทำให้เป็นรูปธรรมนั้นต้องรอทั้งสองมาพูดคุยกันอีกที เรื่องพวกนี้เป็นหยูเหวินชิงเฟิงเป็นคนจัดการด้วยตัวเองเขาเตรียมพร้อมที่จะออกไปพบผู้อาวุโสจางคนนั้นแล้ว
…………
คลื่นทะเลไกลลิบนั้นปรากฏร่างของราชาฉลามพิษที่ว่ายมาอย่างรวดเร็ว และค่อย ๆ เห็นเงาร่างของฉู่เหินกับเสี่ยวชิงยืนรออยู่
ณ ห้องลับของนิกายกิเลน ขณะที่หยูเหวินชิงเฟิงกำลังยืนเคารพผู้อาวุโสข้างหน้า ที่หากมองภายนอกแล้วจะคล้ายกับคนอายุ 70 ปี มีผมสีดอกเลาใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอย กระทั้งหลังยังค้อมโค้งงออย่างหนัก! การเดินที่ดูผิวเผินแล้วราวกับต้นไม้เดินได้
“จะไปแล้วเหรอ!?”
“จะไปแล้วครับ”
ทั้งสองพูดออกมาสามคำด้วยความพิลึก จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก เมื่อเห็นคนแก่ผมสีดอกเลาเดินออกมาข้างหน้าก้าวหนึ่งช้า ๆ แต่จู่ ๆ ทั่วทั้งร่างก็เปล่งประกาย จากนั้นก็หายตัวไปเหลือเพียงเงาร่างหยูเหวินชิงเฟิง
หยูเหวินชิงเฟิงพูดกับตัวเอง “ฉู่เหิน เด็กคนนี้เป็นคนมีพรสวรรค์หาได้ยากสักพันปีจะมีสักคน ครั้งนี้เขาไปเกาะแห่งสวรรค์ ที่นั่นไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับการฝึกฝนยังมีโชคลาภมากมายและสมบัติอีกมากมาย ถ้าสามารถหาเจอได้สักอย่างก็เพียงพอที่จะยิ่งใหญ่ไปตลอดชีวิต ฉันขออนุญาตผู้อาวุโสให้แล้ว สุดท้ายจะเกิดอะไรขึ้นก็ขึ้นอยู่กับดวงของเธอแล้วละ”
ครั้งนี้ฉู่เหินจะไปยังเกาะแห่งหนึ่งเรียกว่าเกาะสวรรค์ ในเกาะสวรรค์แห่งนี้คนที่แข็งแกร่งจะเป็นใหญ่ มันค่อนข้างที่จะวุ่นวาย หากพูดหรือกระทำอะไรที่ไม่เหมาะสมก็อาจตายได้เลย แต่ทว่าสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยโอกาสอันมากมาย!
มีคนเคยบอกว่าเดิมทีเกาะสวรรค์นั้นไม่มีอยู่บนแผนที่โลกด้วยซ้ำ! แต่ทะเลตงไห่แห่งนี้มีที่ที่พิเศษหนึ่งแห่ง พื้นที่แห่งนั้นไม่ได้ใหญ่โตอะไรมันมีขนาดเพียง 10 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ว่ากันว่าเป็นสนามรบโบราณที่ถูกทิ้งเอาไว้!
ผู้คนให้สมสัญญานามที่แห่งนี้ว่า สนามรบโบราณ แม้ชื่อนี้ออกจะเกินจริงไปสักหน่อย เพราะพื้นที่แค่นี้มันเล็กเกินไปรึเปล่า! แต่ความแปลกมันอยู่ที่สนามรบโบราณมีกลุ่มพลังสีดำขนาดใหญ่อยู่ที่นั้น ซึ่งกลุ่มพลังสีดำนี้เองทำหน้าที่คล้ายกับประตู
ประตูนี้จะเป็นประตูที่จะนำไปสู่เกาะสวรรค์ ดังนั้นทุกคนต้องใช้เส้นทางนี้เข้าเกาะสวรรค์ มีคนบอกว่าเกาะสวรรค์นั้นเป็นสนามรบโบราณที่แท้จริง เพียงแต่ว่าถูกของวิเศษลวงตาเอาไว้! เพราะเหตุนี้ทำให้เกาะสวรรค์เต็มไปด้วยสมบัติต่าง ๆ มากมาย แน่นอนว่ามันก็อันตรายถึงชีวิตเช่นกัน!
มีคนมากมายต้องเอาชีวิตมาทิ้ง ที่นี่มีทั้งคน ทั้งสัตว์ร้ายบนเกาะและก็ปีศาจ! นอกจากนี้บนเกาะสวรรค์ยังยังเต็มไปด้วยกับดักและค่ายกลมากมาย ถ้าหากว่าติดกับเข้าสักอันคงไม่รอดชีวิตกลับไปแน่ ๆ
เกาะสวรรค์ว่ากันว่ามา 10 คนกลับ 1 คน ตอนไปเป็นวีรบุรุษตอนกลับกลายเป็นผู้แข็งแกร่ง! ความทุกข์ไม่มีที่สิ้นสุด! ความสุขก็เป็นนิรันดร์!