สุดยอดชาวประมง - บทที่ 355 แรงโน้มถ่วง
บทที่ 355 แรงโน้มถ่วง
บทที่ 355 แรงโน้มถ่วง
“แบบนั้นก็ดีเหมือนกันนะ!” หลังจากที่เจ้าเมืองลองคิด ๆ ดูแล้วเขาก็รู้สึกว่าที่ฉู่เหินพูดก็มีเหตุผล
ฉู่เหินไม่ได้เข้ามาจากทางปกติ ดังนั้นซอมบี้ที่นี่อาจไม่เกี่ยวข้องกับฉู่เหินก็ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จำเป็นต้องรออย่างใจเย็นให้ผู้เข้าร่วมภารกิจคนอื่นมาถึงก่อน
“เจ้าเมือง ใจจริงแล้ว ผมอยากใช้ห้องฝึกฝนหลายวัน แต่ท่านก็เห็นร่างกายของผม อยากเข้าก็เข้าไม่ได้!” ตอนที่พูดประโยคนี้จบ ฉู่เหินก็ลุกขึ้นจากก้อนหินพร้อมทั้งหมุนตัวหนึ่งรอบด้วยใบหน้ากระอักกระอวนยิ่ง เจ้าเมืองที่เห็นแบบนั้นก็หัวเราะยกใหญ่
“น้องฉู่เหินไม่ต้องห่วง จวนเจ้าเมืองของข้ามีห้องฝึกฝนขนาดใหญ่อยู่ห้องหนึ่ง ถ้าเจ้าสามารถเข้าไปได้ก็เข้าไปฝึกฝนในห้องนั้นเถอะ!” ฉู่เหินรู้สึกกลุ้มใจกับเรื่องนี้จริง ๆ หลังจากที่รูปร่างของเขาเปลี่ยนไป มันก็ทำให้เขาเศร้าเสียใจมาก อยากจะทำอะไรก็ลำบากไปหมด เขาถึงกับคิดว่ากลางคืนเขาต้องไปนอนกลางถนนเลยหรือเปล่าเพราะนอนเตียง เตียงหัก นอนพื้น พื้นยุบ!
ยิ่งคิดเขาก็อยากรีบฝึกวรยุทธ์เร็ว ๆ แรงโน้มถ่วงภายในห้องฝึกเป็นทางเลือกที่ดีที่จะลดน้ำหนัก แต่ห้องแรงโน้มถ่วงต้องเข้าผ่านประตู อาศัยรูปร่างของตัวเขาในตอนนี้มันไม่มีความเป็นไปได้เลย นอกจากจะทำลายประตูทางเข้าซะ แต่มันเป็นไปไม่ได้ ใครเขาจะให้คนนอกทำเรื่องแบบนั้น!
ห้องซ้อมแรงโน้มถ่วงเป็นห้องแปลกประหลาดที่เมื่อเข้าไปในนั้นแรงโน้มถ่วงก็จะสูงกว่าโลกภายนอกหลายเท่าหรือสูงกว่าหลายสิบเท่าจนถึงหลายร้อยเท่า! คนที่เข้าไปฝึกในห้องซ้อมแรงโน้มถ่วงสูงจะสามารถพัฒนาพลังฝีมือได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นการฝึกฝนที่เหมาะสมกับฉู่เหินมาก!
เพราะภายในร่างกายของฉู่เหินเต็มไปด้วยพลังที่ตกค้าง ถ้าได้ใช้พลังออกมาอย่างเต็มที่ ภายในห้องแรงโน้มถ่วงจะทำให้เขาใช้พลังงานออกมาได้มากกว่าการฝึกปกติเป็นร้อยเท่าพันเท่า
ฉู่เหินคิดไม่ถึงว่าภายในจวนของเจ้าเมืองจะมีห้องซ้อมแรงโน้มถ่วงอยู่ด้วยเมื่อเป็นแบบนี้เขาก็ไม่ต้องย้ายไปไหนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นห้องซ้อมแรงโน้มถ่วง ภายในจวนเจ้าเมืองกับข้างนอกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แรงโน้มถ่วงของที่นี่ไม่เพียงแต่มากกว่าที่อื่น ทั้งยังสามารถปรับระดับได้อีกด้วย!
ที่สำคัญห้องซ้อมแรงโน้มถ่วงของที่นี่ยังใหญ่มากเป็นพิเศษ ต่อให้มีรูปร่างแบบฉู่เหินก็เข้าไปได้อย่างไม่มีปัญหา เมื่อเป็นเช่นนี้ฉู่เหินก็ไม่ต้องทำลายประตูเพื่อจะเข้าไปฝึกฝนแล้ว นับเป็นข่าวดีสำหรับฉู่เหินจริง ๆ !
หลังจากขอบคุณเจ้าเมืองเสร็จแล้ว เขาก็ถูกพาไปหุบเขาแห่งหนึ่ง ที่นี่แม้จะยังเป็นบริเวณจวนเจ้าเมือง แต่ก็ห่างจากตัวเมืองมาหน่อย
หลังจากท่านเจ้าเมืองพาฉู่เหินมาส่งก็พูดบอกลาแล้วจากไป ให้ฉู่เหินจัดการชีวิตเอาเอง ดั่งคำกล่าวที่ว่า อาจารย์ชี้นำ ฝึกตนต้องพึ่งตัวเอง*
ฉู่เหินและเสี่ยวชิงเดินเข้าไปในหุบเขาด้วยกัน
(อาจารย์ชี้นำ ฝึกตนต้องพึ่งตัวเอง* หมายถึง การเรียนรู้จำเป็นต้องมีอาจารย์ชี้นำ แต่ถ้าลูกศิษย์ไม่ขยันจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร)
สถานที่แห่งนี้คล้ายกับเป็นหุบเขาแห่งหนึ่ง แม้แต่ก้อนหินก็ยังเป็นของปลอม เพียงแต่ทำได้ค่อนข้างเหมือนจริงมาก
พวกเขาเดินเข้ามาในหุบเขาเรื่อย ๆ ก็สัมผัสได้ว่าแรงโน้มถ่วงภายในนั้นแตกต่างจากข้างนอก ฉู่เหินรู้สึกว่าร่างกายของเขาหนักมากกว่าเดิม อย่างกับกำลังแบกของขึ้นหลังอย่างงั้นแหละ
แต่แรงโน้มถ่วงแค่นี้ ไม่อาจทำให้ทั้งสองหยุดฝีเท้าได้ ไม่ต้องพูดถึงฉู่เหินเลยเพราะแม้แต่เสี่ยวชิงก็ยังไม่เป็นอะไรมาก ทั้งสองเดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ เมื่อเดินเข้ามาได้ 10 เมตรก็รู้สึกว่าแรงโน้มถ่วงตรงนี้แตกต่างจากข้างนอกอย่างสิ้นเชิง ตอนที่เดินถึงตรงนี้ฉู่เหินรู้สึกราวกับว่ากำลังแบกของหนักกว่า 50 กิโล
ฉู่เหินยังขนาดนี้เสี่ยวชิงยิ่งหนักกว่า เธอเหงื่อไหลเป็นสายน้ำตั้งนานแล้ว! ฉู่เหินเห็นว่าเสี่ยวชิงใกล้ถึงขีดขำกัดของตัวเองแล้ว วรยุทธ์ของเธอไม่ได้สูงมากแถมร่างกายก็อ่อนแอ ดังนั้นเธอควรจะหยุดอยู่แค่ตรงนี้ก่อน
“เธอฝึกอยู่ตรงนี้แหละ!” ตอนแรกเสี่ยวชิงรู้สึกไม่ค่อยยินยอม เธออยากจะไปกับฉู่เหิน แต่เธอรู้ดีว่าพลังของเขาและเธอนั้นต่างกันเกินไป ไม่อาจจะฝึกฝนในระดับเดียวกันได้
หลังจากเห็นเสี่ยวชิงนั่งขัดสมาธิเรียบร้อยแล้ว ฉู่เหินถึงค่อยรู้สึกวางใจและเดินหน้าต่อไป เขาต้องเดินต่อไปยังจุดที่เกินขีดกำจัดตัวเอง ไม่งั้นเขาจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพลังดวงดาวในร่างกายของเขาได้โดยเร็ว
หลังจากแยกกับเสี่ยวชิงแล้ว เขาก็เดินต่อไปผลลัพธ์คือทุก 10 ก้าวเขาจะรู้สึกว่าน้ำหนักมันจะหนักขึ้นเท่าตัวหลังจากผ่านไปได้ร้อยกว่าก้าว เขาก็รู้สึกว่าแรงโน้มถ่วงที่กดดันบนตัวเขายิ่งใหญ่มาก ๆ เดินแต่ล่ะก้าวก็ยากลำบาก
แต่ฉู่เหินก็ไม่ได้ถอนใจ เขากัดฟันเดินหน้าต่อไปไม่หยุด เขารู้ว่าหากอยากจะฝึกฝนให้เก่งกาจ เขาจำเป็นต้องบังคับตัวเอง ไม่งั้นการจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วคงเป็นไปไม่ได้
หลังจากที่เขาเดินมาได้อีก 9 ก้าว เขาก็สัมผัสได้ว่าร่างกายของเขานั้นอาบไปด้วยเม็ดเหงื่อ เขารู้สึกว่าขาจะก้าวไม่ออกแล้ว คล้ายกับว่าเขากำลังจะเป็นลมสลบไปกับพื้น!
ในตอนนี้ฉู่เหินรู้สึกว่าจิตใต้สำนึกของตนกำลังเกิดภาพหลอน คล้ายกับเขาได้ยินเสียง ๆ หนึ่ง บอกให้เขาหยุดแค่ตรงนี้ก็พอแล้ว เขามาเพื่อฝึกฝนไม่ได้มาเพื่อฆ่าตัวตาย ในโลกนี้ไหนเลยจะมีกฎเกณฑ์ที่ต้องตายถึงเก่ง
หากอย่างเก่งก็ต้องรักษาชีวิตเอาไว้สิ ถึงจะสามารถพัฒนาต่อไปได้ ถ้าไม่รักษาชีวิตตัวเองแล้วจะเก่งได้ยังไง จู่ ๆ ในหัวของฉู่เหินมีเสียงดังออกมาพร้อมกัน
หากอยากแข็งแกร่งจำเป็นต้องอดทนต่อความลำบากที่คนอื่นไม่อาจทนได้ ต้องทำเรื่องที่ไม่มีใครสามารถทำได้ ไม่เช่นนั้นอาศัยวรยุทธ์ต่ำต้อยจะสู้กับใครในโลกนี้ได้
ในหัวสมองของฉู่เหินมีสองเสียงตีกันไปมา จริง ๆ แล้วมันคือจิตใต้สำนึกที่เตือนเขาถึงอันตราย แต่เรื่องนี้ยากจะขัดขวางเขาได้ ฉู่เหินรู้ว่าหากอยากจะก้าวหน้าก็มีแต่ต้องลุยต่อไปเท่านั้น
หลังจากที่ลังเลสักพัก ในที่สุดฉู่เหินก็เดินไปข้างหน้าอีก 1 ก้าว แต่ก้าวนั้นที่เพิ่งก้าวไปก็ก้าวที่สั่นเทา เพราะแรงกดดันที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ทันทีที่เขาก้าวออกมา ฉู่เหินก็รู้สึกว่าน้ำหนักเขาเพิ่มขึ้นอีกร้อยเท่า!
ฉู่เหินถูกแรงกดดันมหาศาลกดทับไว้กับพื้นไม่อาจขยับตัวได้ ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกว่าร่างกายเต็มไปด้วยคราบเลือด เพราะถูกแรงกดดันของที่นี่บังคับเลือดระเบิดออกมา
หลังจากถูกแรงโน้มถ่วงกดติดอยู่กับพื้น ร่างกายของฉู่เหินก็ระเบิดหลายจุดแต่โชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่ ในเวลาเดียวกันเขาก็สัมผัสได้ว่าพลังที่เก็บเอาไว้ภายในไขมันของเขากำลังถูกกลั่นให้บริสุทธิ์และพุ่งเข้าไปยังจุดตันเทียนภายในร่างของเขาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นแบบนี้ ฉู่เหินก็เชื่อว่าอีกไม่นานไขมันบนร่างของเขาทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังดวงดาวแน่ ๆ พอถึงตอนนั้นวรยุทธ์ของเขาจะเลื่อนระดับครั้งใหญ่ มาคิด ๆ ดูตัวเองกำลังจะเลื่อนระดับพลัง เขายิ้มออกมาอย่างมีความสุข!
อีก 3 เดือนหลังจากนี้จะมีการแข่งขันร้อยนิกาย ถ้าเขาไม่พัฒนาความสามารถของตัวเองจะต้องแพ้แน่! เพื่อตัวเองหรือเพื่อนิกาย ฉู่เหินจะต้องเป็นที่หนึ่งให้ได้ อย่างน้อยที่สุดในการแข่งขันเขาจะต้องได้อันดับที่ดีที่สุดเท่าที่ทำได้
ท่ามกลางการแรงกดดันมหาศาล พลังในร่างกายฉู่เหินก็โคจรอย่างรวดเร็ว หลังจากมันหมุนเวียนอยู่รอบจุดตันเทียนของเขา จุดตันเทียนก็กักเก็บพลังนั้นเอาไว้เรื่อย ๆ พลังวรยุทธ์เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง!
ถ้าเป็นคนอื่น รากฐานพลังคงไม่มั่นคงเนื่องจากเลื่อนระดับพลังเร็วเกินไป แต่พลังกลุ่มนี้ไม่เพียงแต่ไหลเข้าไปในจุดตันเทียน มันยังหมุนรอบภายในร่างกายของฉู่เหินไปพร้อม ๆ กัน ทำให้ข้อต่อของกระดูกและเส้นชีพจรพลังดวงดาวแข็งแกร่งขึ้นพร้อม ๆ กันเมื่อเป็นแบบนี้นอกจากวรยุทธ์จะเพิ่มขึ้นแล้ว รากฐานจึงมั่นคง พร้อม ๆ กัน
ทว่าความเจ็บปวดของฉู่เหินตอนนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ร่างกายของเขากำลังระเบิดเป็นแห่ง ๆ ราวกับกำลังถูกประหารโดยการแล่เนื้อเป็นชิ้น ๆ มันไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทนได้