สุดยอดชาวประมง - บทที่ 382 ผลที่ตามมาไม่มีแล้ว
บทที่ 382 ผลที่ตามมาไม่มีแล้ว
บทที่ 382 ผลที่ตามมาไม่มีแล้ว
น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมาจากดวงตา ไม่ใช่เพราะความอัดอั้นตันใจ แต่เป็นเพราะการที่เธอไม่สามารถเปิดเผยรูปร่างของตัวเองให้คนที่รักที่สุดได้เชยชม นี่ถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่สุดในชีวิตเธอเลยทีเดียว ความสวยของเธอมีแต่จะร่วงโรย ในอนาคต ร่างเปลือยเปล่าเช่นนี้คงจะไม่มีใครอื่นได้เห็นอีก
ต่อมาเธอก็ถอนกระโปรงตัวเองออก เผยให้เห็นกางเกงในสีชมพูตัวเล็กที่ซ่อนอยู่ด้านใน รูปร่างโค้งเว้าที่ของเธอนั้นช่างสมบูรณ์แบบ! ผิวขาว ๆ เปล่งประกายนั้นนุ่มนิ่มน่าสัมผัสเสียจริง ทั้งหมดที่ว่ามานั้นช่างสมบูรณ์แบบ
หญิงสาวค่อย ๆ ปลดเสื้อใน และถอดกางเกงในตัวน้อยอย่างช้า ๆ ตอนนี้ เรือนร่างของเธอเปลือยเปล่า มันเผยให้เห็นถึงรูปร่างอันงดงามเต็มสองตา! เพียงแต่น่าเสียดายที่ฉู่เหินยังคงนอนสลบไม่ได้สติ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รับรู้เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบา ๆ สถานการณ์ในตอนนี้คงไม่เหมือนดั่งใจคิด มีแต่ต้องพกพาความเด็ดเดี่ยวและกักเก็บความกระดากอายเอาไว้ก่อน ถึงแม้ว่านี้จะเป็นครั้งแรกของเธอก็ตาม!
ก่อนจะมาทำเรื่องนี้ เธอได้อ่านหนังสืออย่างว่ามาไม่น้อย ตอนนี้หญิงสาวพอรู้บ้างแล้วว่าผู้หญิงกับผู้ชายควรจะทำกันยังไง ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอไม่รู้อะไรแบบนี้เลยแม้แต่น้อย ที่เมืองโบราณนี้ไม่มีทีวี และก็ไม่มีอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่เล็กจนโตก็อยู่กับคุณปู่ คงแปลกที่หญิงสาวอย่างเธอจะรู้เรื่องผู้ชาย
ยังดีที่นับตั้งแต่ฉู่เหินแสดงอาการเหล่านี้ เหล่าหญิงสาวในเมืองโบราณต่างก็อยากจะถวายตัวให้ฉู่เหินเพื่อช่วยเขา ด้วยเหตุนี้เอง ความกล้าของเหล่าหญิงสาวก็คล้ายจะถูกจุดขึ้นมา พวกเธอต่างไปสรรหาอ่านหนังสืออย่างว่ามาอ่านกันมากมาย เพื่อต้องการเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องระหว่างผู้ชายผู้หญิงให้มากขึ้น
คล้ายกับหนังสือภาพชุงงะ*พวกนี้ เป็นหนังสือโบราณที่เมืองโบราณมีบันทึกไว้ ตอนที่พวกเธอเห็นของพวกนี้ หญิงสาวทั้งหลายต่างก็พากันหน้าแดงหูแดงกันเป็นแถบ ๆ แต่ว่าพวกเธอก็ยังคงดูต่อไป เพราะมีเพียงแบบนี้เท่านั้นถึงจะช่วยรักษาอาการของฉู่เหินได้
*หนังสือภาพชุงงะ(shunga) คือศิลปะแบบหนึ่งในการวาดภาพการร่วมเพศระหว่างชายหญิง
มนุษย์ไม่ใช่พวกที่ไม่มีความเห็นแก่ตัว มีผู้หญิงบางคนที่คิดจะใช้วิธีการแบบนี้เพื่อจะได้เป็นภรรยาของฉู่เหิน แม้ว่าตอนนี้ฉู่เหินจะมีภรรยาอยู่แล้ว แต่พวกเธอก็ไม่สนใจแม้แต่น้อย ในเมืองโบราณ ผู้ชายจะมีหนึ่งภรรยาสามอนุก็เป็นเรื่องปกติ ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร ยิ่งไปกว่านั้น ฉู่เหินเองก็ถือได้ว่าเป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง เพราะงั้นแล้วหญิงสาวมากมายจึงเริ่มวางแผนการของตน
และก็เพราะว่าเหล่าหญิงสาวมีความคิดแบบนี้ อากงถึงไม่อยากให้พวกเธอเอาตัวเองไปถวาย เพราะอากงรู้ดีว่าว่าพวกเธอกับฉู่เหินไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน ถ้าความยุ่งยากที่เมืองโบราณถูกแก้ไขปัญหาแล้ว บางทีเมืองโบราณก็อาจจะหายไปจากโลกนี้ก็ได้
หลังจากพิจารณาถึงสามตลบก็ยังไม่ได้ข้อสรุป และในตอนนี้เองที่เวินสุ่ยเซี่ยเรียกหา ตามที่หญิงสาวพูด เธอไม่ต้องการเป็นภรรยาของชายหนุ่ม และก็ไม่ต้องการให้ฉู่เหินรู้ หญิงสาวรู้ว่าฉู่เหินเป็นวีรบุรุษหาตัวจับยากคนหนึ่ง เพราะงั้นการที่ผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่งจะเสียสละพรหมจรรย์ของเธอเพื่อช่วยชีวิตผู้มีพระคุณของเมือง มันจะเป็นไรไป?
ในตอนแรก อากงที่ได้ยินก็ถึงกับค้านหัวชนฝา แต่ทว่าชายชราก็ไม่อาจหยุดหญิงสาวได้ จนแล้วจนรอดอากงก็ตอบตกลง เพราะแบบนี้เองถึงทำให้เกิดฉากดังกล่าวขึ้นในตอนนี้!
หญิงสาวสงบจิตใจตัวเองไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน เธอค่อย ๆ ขยับมาที่ข้างกายของฉู่เหิน ก่อนจะยื่นมือนิ่ม ๆ ออกไปช่วยฉู่เหินถอนเสื้อผ้าออก จนสุดท้ายก็เผยให้เห็นแท่งหยกตั้งชันที่กำลังแข็งขืนอยู่เบื้องหน้า
แม้ว่าตอนนี้ฉู่เหินจะสลบอยู่ แต่ร่างกายของเขาก็ยังคงใช้งานได้ตามปกติ เจ้าแท่งหยกคล้ายจะกำลังยิ้มเย้ยยุทธจักรอยู่อย่างไรอย่างงั้น ส่วนหัวของมันตั้งผงกยิ้มดุดันชี้ไปมาทั้งสี่ทิศ แม้ว่าหญิงสาวจะเคยอ่านเจอในหนังสือเกี่ยวกับของสิ่งนี้มาบ้าง แต่พอวันนี้ได้มาเห็นของจริง มันก็ทำเอาหญิงสาวตัวสั่นไม่น้อยเลยทีเดียว
แม้ว่าหญิงสาวจะรู้ว่าจำเป็นต้องทำแบบนี้ถึงจะสามารถช่วยชีวิตได้ แต่ก็ช่างเป็นเรื่องน่าอายเหลือเกิน อย่างเช่นวันนี้ เมื่อเธอเห็นฉากตรงหน้า ก็ถึงกับทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าตัวเองควรจะจัดการยังไงดี ได้แต่หน้าแดงเพราะความอาย โชคดีที่ตอนนี้ฉู่เหินนอนสลบอยู่เลยไม่ได้เห็นสภาพน่าอายของตัวเอง ไม่งั้นเธอก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าจะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหน
หญิงสาวค่อย ๆ หลับตาลงช้า ๆ พร้อมกับคิดในใจว่า ถ้าไม่เห็นใจก็จะสงบเอง! มีแค่วิธีนี้ถึงจะทำให้เธอไม่ต้องคิดมาก!
คนประสบการณ์น้อยอย่างเธอจะไปรู้เรื่องเยอะขนาดนั้นได้ยังไง ตอนนี้พอเห็นแล้วก็รู้สึกสนุกเป็นธรรมดา ดังนั้นจึงยื่นมือออกไปเล่นสักพัก จากนั้นก็หวนนึกถึงตอนนี้ตัวเองอ่านหนังสือ
หลังจากหวนคิดอย่างละเอียด ในที่สุดเธอก็นึกออกแล้ว ตามที่ในหนังสือบอกไว้ เรื่องพวกนี้แบ่งออกเป็นหลายขั้นตอน อันดับแรกตัวเองจำเป็นต้องจูบไปที่ร่างกายของอีกฝ่ายก่อนหนึ่งรอบ สำหรับเรื่องแบบนี้ในใจของเธอไม่ได้รู้สึกต่อต้านเลยแม้แต่น้อย สำหรับหญิงสาวแล้ว ฉู่เหินก็คือคนที่เธอรักมากที่สุด
การจูบกับคนที่รัก สำหรับเธอแล้วแค่คิดก็รู้สึกมีความสุข หลังจากจูบเบา ๆ ครั้งหนึ่ง หญิงสาวก็รู้สึกหัวใจพองโต กระทั่งเธออยากจะหยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้ด้วยซ้ำ อีกทั้งในตอนนี้เองที่อยู่ ๆ เธอก็เกิดความคิดขึ้นมาอย่างหนึ่งคืออยากจะอยู่ด้วยกันกับฉู่เหินจนแก่เฒ่า
จากนั้นก็พลันบังเกิดการขยับอย่างร้อนแรงจนแทบจะลุกโชน ไฟราคะลุกโหมราวกับพายุคลั่ง หญิงสาวที่ได้ลิ้มรสชาติแห่งกามาครั้งนี้แล้วคงยากที่จะทำให้เธอสงบสติลงได้!
ทันทีที่สัมผัสอีกฝ่ายอย่างลึกซึ้ง เธอก็รู้สึกหัวสมองว่างเปล่า ในหัวของเธอตอนนี้เหลือเพียงแค่ความคิดเดียวเท่านั้น นั่นคือเธอจะจำเรื่องราวในครั้งนี้ตลอดไป เพราะเกรงว่าหลังจากครั้งนี้ไปแล้ว เธอก็จะไม่ได้เจอฉู่เหินอีก
อ่านตัวอักษรมากกว่าห้าหมื่นคำ ในที่สุดหญิงสาวก็ได้รู้จักว่าอะไรที่เรียกว่าเขื่อนทะลัก อะไรที่เรียกว่ารัวเร็วราวกับปืนกล
เธอได้แต่นอนไร้เรี่ยวแรงไม่แม้แต่จะขยับตัว แต่หญิงสาวก็รู้ดีว่าต้องรีบลุกจากเตียงแล้ว เพราะอีกไม่นานฉู่เหินก็คงจะตื่น เธอไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นตัวเองในสภาพแบบนี้!
หลังจากรีบสวมเสื้อผ้า เธอก็ลุกขึ้นยืนทำท่าจะเดิน ทว่าเมื่อเริ่มเคลื่อนไหว ร่างกายส่วนล่างก็พลันเจ็บแสบขึ้นมา ต้องเข้าใจว่ามันเป็นศึกสงครามที่ดำเนินอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ชั่วโมง มันมากเกินกว่าหญิงสาวคนหนึ่งจะรับไหว แต่ผู้หญิงคนนี้กลับกัดฟันตัวเองแน่น
หญิงสาวหันกลับมาช่วยฉู่เหินสวมเสื้อทีละตัว เมื่อชิ้นสุดท้ายถูกสวมเสร็จเธอก็เจ็บจนเหงื่อท่วมไปทั่วร่าง หลังจากนั้นหญิงสาวก็ไม่ได้อยู่รอ เธอรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
อากงที่รออยู่ข้างนอก พอเห็นหลานสาวของตัวเอง นัยน์ตาของชายชราก็เต็มไปด้วยความสงสารและเจ็บปวด เขาบอกให้หลานสาวตัวเองไปอีกห้องหนึ่ง จากนั้นชายชราไปรออยู่ด้านนอกห้องเพื่อรอให้ฉู่เหินฟื้น
หลังจากเวลาผ่านไปอีก 1 ชั่วโมงกว่า ในที่สุดฉู่เหินก็ฟื้นคืนสติ หลังจากเขาฟื้น ชายหนุ่มก็พบว่าร่างกายของตัวเองเต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังวังชา อีกทั้งพลังวรยุทธ์ยังเลื่อนขึ้นไปอีกขั้น ตอนนี้เขาเลื่อนมาจนจะแตะขั้นราชันดาราแล้ว ขอเพียงแค่ค่อย ๆ ทะลวงอีกนิด น่ากลัวว่าจะสามารถทะลวงขั้นราชันดาราได้อย่างง่ายดาย
และที่สำคัญผลกระทบของร่างกายตัวเองก็สลายไปแล้ว พอเห็นแบบนั้นฉู่เหินก็รู้สึกประหลาดใจ เขาครุ่นคิดอย่างหนักว่าอะไรที่ทำให้ผลกระทบหายไปได้กันนะ?