สุดยอดชาวประมง - บทที่ 387 กระบองจตุรธาตุ
บทที่ 387 กระบองจตุรธาตุ
บทที่ 387 กระบองจตุรธาตุ
หลังจากเก็บของทั้งหมด ก็ยังเหลือกล่องอีกนับร้อยกล่อง กล่องที่เหลือตรงหน้าขนาดใหญ่มาก พอฉู่เหินเปิดออก เขาก็พบว่าภายในกล่องเป็นชุดเกราะทั้งหมด
วัสดุของชุดเกราะเหล่านี้ดีกว่าของที่พวกซอมบี้ข้างนอกใช้ 100 เท่า ของดี ๆ อย่างนี้ มีหรือที่ฉู่เหินจะปล่อยเอาไว้ ชายหนุ่มรีบเก็บเข้าไปในแหวนมิติทันที ตอนนี้เขาเพิ่งรู้สึกว่าพวกซอมบี้ก็ร่ำรวยไม่น้อยเช่นกัน เพียงแต่ฉู่เหินไม่รู้เลยว่าของที่นี่เป็นของที่ซอมบี้นับล้านตัวเก็บมาด้วยความเหนื่อยยาก น่าเสียดายที่ตอนนี้ทั้งหมดโดนฉู่เหินขโมยไปแล้ว!
ห้องขนาดใหญ่ที่บรรจุกล่องเล็กใหญ่จำนวนมาก ตอนนี้เกลี้ยงเกลา ดูโล่งโปร่งผิดหูผิดตา พอเก็บเสร็จ ฉู่เหินก็ยิ้มด้วยความพึ่งพอใจ เขารู้สึกว่าของดี ๆ แบบนี้สิถึงค่อยเหมาะสมกับซอมบี้ระดับสูงหน่อย ถ้าเขาต้องออกจากรังซอมบี้มือเปล่า คงโดนคนอื่นหัวเราะเยาะเอาไม่น้อย
เมื่อเก็บเสร็จ เขาก็สำรวจภายในนี้อีกครั้ง ก่อนจะพบว่าไม่มีสิ่งของอะไรอีกแล้ว ถึงค่อยเตรียมจากไป ขณะที่เขาหมุนตัวจะกลับ ชายหนุ่มก็รู้สึกว่าห้องนี้ดูแปลก ๆ พอคิดทบทวนดู เขาก็พลันหันคิดขึ้นมาได้
คานไม้ตรงกลางห้องเหมือนจะเกินมาอันหนึ่ง ! เจ้าเสาไม้อันนี้มีความยาว 6-7 เมตร ลวดลายมีความละเอียดอ่อนมากทีเดียว แต่ด้วยความที่เป็นท่อนไม้ มันจึงไม่ได้เตะตามากนัก แต่เมื่อมองดูดี ๆ มันกลับดูขัดตาเป็นอย่างมากจะสร้างคานเสาเกินมาทำไม
เมื่อเดินมาข้าง ๆ คานไม้ ฉู่เหินก็เริ่มสังเกตโดยรอบอย่างละเอียด ก่อนที่เขาจะพบว่าเสาไม้นี้คล้ายกับไม่ใช่ส่วนหนึ่งของห้อง ดังนั้นชายหนุ่มจึงใช้มือลูบเบา ๆ เสาไม้นี้ให้ความรู้สึกยืดหยุ่นมากทีเดียว พอเห็นแบบนี้ ดวงตาของฉู่เหินก็เปล่งประกายออกมา
จากนั้นเขาก็เดินวนรอบเสาไม้ ชายหนุ่มรู้สึกว่าเสาไม้นี้คล้ายจะไม่ธรรมดานัก หลังจากเดินวนสักพักเขาก็รู้สึกไม่เข้าใจ เขายื่นมือไปจับมันอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้เสาไม้กลับส่งเปลวเพลิงออกมาลวกมือเขา
หลังพบสิ่งแปลกประหลาดนี้เข้า มันก็ไม่ได้ทำให้ฉู่เหินรู้สึกเศร้าแต่อย่างใด ชายหนุ่มกลับยกยิ้มจนตาหรี่ เพราะเขารู้สึกว่าเสาไม้นี้คล้ายจะเป็นของวิเศษล้ำค่า! ไม่งั้นพ่นไฟออกมาได้ยังไง! เขายังคงสัมผัสกับเสาไม้เพื่อหาความพิเศษของมันอย่างต่อเนื่อง ยิ่งจับ ทุกอย่างก็ดูจะชัดเจนขึ้น
เสาไม้นี้ให้ความรู้สึกที่แต่ต่างอยู่ 4 แบบ บางครั้งก็เย็นยะเยือกจนสามารถทำให้มือกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง บางครั้งก็กลายเป็นเปลวไฟที่พร้อมจะเผาไหม้แม้แต่ความว่างเปล่า บางครั้งก็เป็นสายลมแรงคล้ายกับพายุ บางครั้งก็เป็นสายฟ้าฟาด
ใครจะคิดว่าเสาไม้ต้นเดียว จะปล่อยได้ทั้ง ไฟ น้ำแข็ง ลมและสายฟ้า ออกมาได้แบบนี้ เพียงแค่นี้ฉู่เหินก็ยืนยันได้แล้วว่าของวิเศษที่เขาเก็บมาทั้งหมดในวันนี้ น่ากลัวว่าจะไม่ได้สักเสี้ยวของเสาไม้นี้เลย
แต่จะเก็บยังไงชายหนุ่มก็ไม่รู้จริง ๆ ตอนนี้เขาเดินวนอยู่รอบเสาไม้คิดหาวิธี ในตอนนั้นเองเสียงก็ดังมาจากข้างหลังฉู่เหิน
“เจ้าโง่! แค่หยดเลือดหนึ่งหยดพอแล้ว” พอฉู่เหินได้ยินแบบนั้นก็นึกขึ้นได้มา ตามปกติแล้ว ของวิเศษต้องอาศัยการหยดเลือดเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ทำตัวเองถึงนึกไม่ออกกันนะ
จากนั้นฉู่เหินก็กรีดนิ้วตัวเองหยดเลือดลงไปบนเสาไม้ ทันทีที่เสาไม้หลอมรวมกับเลือดของเขา มันก็พลันเปล่งแสงอย่างฉับพลัน ระหว่างที่ถูกแสงสว่างแยงตานี้ห่อหุ้มตัว ฉู่เหินก็สัมผัสได้ถึงวัตถุสีดำ ๆ ที่กำลังหลอมรวมเข้ากับร่างกายของตน
ฉับพลัน ฉู่เหินก็รู้สึกว่าตัวเองคล้ายจะมีการเชื่อมโยงที่พิเศษบางอย่างกับเสาไม้ที่กลายเป็นกระบองสีดำอันนี้ อีกทั้งเขาก็รับรู้ว่าเสาไม้ต้นนี้เดิมมีชื่อเรียกว่า กระบองจตุรธาตุ หรือก็คือกระบองอันนี้มีธาตุทั้ง 4 ในอาวุธชิ้นเดียว!
หากเอาไปใช้โจมตีศัตรู เจ้ากระบองจตุรธาตุนี้จะทำการปล่อยพลังออกมาได้ตามใจนึก ถ้าผู้ถือครองมีธาตุใดธาตุหนึ่งในธาตุทั้งสี่ที่ว่า พลังธาตุนั้น ๆ ของมันก็จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นร้อยเท่า พันเท่า
แต่กระบองนี้มีแค่ผู้เป็นเจ้าของเท่านั้นที่จับต้องได้ ไม่งั้นกระบองก็จะหนักถึง 68000 กิโล! ไม่เพียงเท่านั้น กระบองอันนี้ยังเป็นของวิเศษที่สูงค่า คนธรรมดาไม่สามารถใช้งานได้ บางทีเหตุที่ของวิเศษล้ำค่าสิ่งนี้อยู่ที่นี่นับหมื่น ๆ ปีก็อาจเป็นเพราะเจ้าซอมบี้พวกนี้ไม่มีคุณสมบัติที่จะถือครองวัตถุที่วิเศษชิ้นนี้!
อย่าเพิ่งมองว่ามันหนัก เพราะหลังจากที่มันส่องแสงสว่าง กระบอกก็ได้ลดขนาดลง ตอนที่มันอยู่ในมือฉู่เหินนั้น เขารู้สึกว่าความหนักของมันเหมาะมือมากทีเดียว ไม่เบาและก็ไม่หนักเกินไป พอดีมือมาก!
ชายหนุ่มถือกระบองจตุรธาตุไว้ในมืออย่างมีความสุข ยิ่งมองกระบองในมือเท่าไรก็ยิ่งพอใจ ไม่คิดว่าตัวเองจะมีได้ของวิเศษล้ำค่าแบบนี้มา มันทำให้เขายิ้มกว้างแล้วหัวเราะออกมาราวกับคนบ้า
“เจ้าโง่นี้หัวเราะอะไรของมัน แต่กระบองนี้ก็ไม่เลวจริง ๆ เดิมพี่สาวคิดจะเก็บมันไว้เอง แต่เห็นแก่ที่ช่วยชีวิตพี่สาวเอาไว้ พี่สาวจะยกกระบองนี้ให้ก็แล้วกัน พี่สาวไม่คิดเลยว่ามันจะทำให้เจ้ายืนยิ้มได้โง่งมขนาดนี้”
ฉับพลันด้านหลังฉู่เหินก็มีเสียงดังขึ้นอีกครั้ง ตอนแรกที่ได้ยินเขาก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะจิตใจมัวแต่จดจ่ออยู่แต่กับกระบอง แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว การที่จู่ ๆ ได้ยินเสียงดังมาจากข้างหลังแบบนี้มันทำให้เขาตกใจสะดุ้งโหยง ว่าแล้วฉู่เหินก็เผลอร้องออกมาด้วยความตกใจ
“ว้ากกกกกก”
ชายหนุ่มค่อย ๆ หันหลังไปมองด้วยความระแวดระวัง แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ต้นเสียงที่ว่ามาจากร่างของผู้หญิงที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมานั่นเอง พอเห็นแล้วฉู่เหินก็รู้สึกขนหัวลุกที่เห็นผู้หญิงคนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเองแบบนี้ ชายหนุ่มสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งมาก เพียงแค่พลังรอบล้อมตัวก็สามารถฆ่าตัวเขาตายได้แล้ว ไม่ต้องขยับด้วยซ้ำ
“คนสวย ในที่สุดเธอก็ฟื้นแล้ว! ดีจริง ๆ ขอบคุณพระเจ้า ฉันดีใจจริง ๆ! เธอคงไม่รู้สินะว่าเพื่อช่วยเธอ ฉันต้องลงทุนไปตั้งเท่าไร! ฉันถึงกับต้องทุ่มสุดตัวเพื่อช่วยชีวิตเธอเลยนะ ! แต่ตอนนี้มันก็คุ้มค่า ดูสิ ขนาดเธอพึ่งฟื้นก็ยังชี้แนะเพื่อให้ของดี ๆ กับผู้น้อยคนนี้ทันที!”
หลังจากฉู่เหินเห็นร่างของผู้หญิงคนนี้ เขาก็ตกใจสะดุ้งสุดตัวก่อนจะกรอกสายตารีบพูดประจบประแจงเธอ ฉู่เหินรู้อยู่แก่ใจว่าผู้หญิงคนนี้น่ากลัวมากแค่ไหน ถ้าทำตัวดี ๆ เขาอาจได้ของวิเศษอีกสักหนึ่งหรือสองชิ้นก็ได้
ผู้หญิงคนนี้ชื่อว่า เหมิงเอ้อ เธอจ้องมองฉู่เหินอย่างสนใจ คิดไม่ถึงว่าพ่อหนุ่มคนนี้จะหน้าไม่อายขนาดนี้ แต่อีกใจ หญิงสาวก็รู้สึกว่าฉู่เหินน่าสนใจไม่น้อย!
“โอ้ นี้เจ้ายังอยากได้ของรางวัลอีกเหรอ! ให้ตายเถอะ ถ้าไม่ใช่เพราะ เจ้าช่วยพี่สาวคนนี้ไว้นะ! เหอะ ก็ได้ พี่สาวคนนี้จะให้ของขวัญเจ้าสักหมัดหน่อยเป็นไง!”
หลังพูดจบเหมิงเอ้อก็จงใจถลึงตาใส่ เดินเข้ามาใกล้ ๆ ก่อนจะฉู่เหินต่อยเขาไปหนึ่งหมัด หัวของฉู่เหินในตอนนี้บวมราวกับหัวหมูยังไงยังงั้น! แต่ว่าทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงบาดเจ็บภายนอก ไม่ใช่ภายใน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เมื่อมองดูจากภายในแล้วก็เหมือนชายหนุ่มที่กลายร่างเป็นหมูน่าเวทนาเป็นอย่างมาก!
ห่างออกไปไม่รู้ไกลเท่าไร เดิมทีชายชราจดบัญชีกับตัวเองว่าจะสั่งสอนฉู่เหินสักหน่อย กำลังคิดว่าจะหักแขนหรือว่าขาดี แต่ตอนนี้เขากลับเห็นเหมิงเอ้อต่อยฉู่เหินจนเปลี่ยนเป็นหมูไปแล้ว จนตัวเองไม่รู้จะลงมือต่อยังไงดี