สุดยอดชาวประมง - บทที่ 396 ตกที่นั่งลำบากและการเลื่อนขั้น
บทที่ 396 ตกที่นั่งลำบากและการเลื่อนขั้น
บทที่ 396 ตกที่นั่งลำบากและการเลื่อนขั้น
ทหารที่อยู่ด้านหลังไม่ต้องสั่งก็รีบไปช่วยแบกแรดเขาเดียวออกมาทันที โชคดีที่แม้ว่าแรดเขาเดียวจะบาดเจ็บไม่น้อย แต่ก็ยังมีลมหายใจอยู่ ฉู่เหินมองฉากนี้ก็ได้แต่กัดฟันแน่น คนของตัวเองถึงสองคนกลับถูกทำแบบนี้ ทำให้เขาควบคุมอารมณ์ให้ปกติยากจริง ๆ
กระต่ายต้องสาปที่เกาะอยู่บนไหล่ของฉู่เหิน มันพยายามใช่คำสาปกับซอมบี้ขั้นราชันดาราตัวนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทว่าน่าแปลกตรงที่ซอมบี้ตัวนี้คล้ายจะใช้คำสาปไม่ได้ผล จนถึงตอนนี้สนามรบกำลังตึงเครียด กระต่ายต้องสาปเองก็อดที่จะหวาดกลัวไม่ได้แล้วเหมือนกัน มันทำได้เพียงเกาะที่ไหล่ฉู่เหินแล้วปล่อยคำสาปออกมาอย่างต่อเนื่อง
ฉู่เหินเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เขาจับตามองตอนที่วิชาต้องสาปเข้าไปในร่างของซอมบี้ขั้นราชันดาราได้อย่างชัดเจน แต่ก็เหมือนจะหายไปสาบสูญไปเลย นี้ทำให้ฉู่เหินรู้สึกแปลกใจมาก ต้องเข้าใจว่าตอนที่เขาได้รับวิชาต้องสาปนี้แรก ๆ ก็ซวยอยู่นานที่เดียว
ฉู่เหินไหนเลยจะรู้ว่าวิชาต้องสาปของกระต่ายต้องสาป มันคือพลังงานด้านลบรูปแบบหนึ่ง แต่ซอมบี้ตัวนี้คล้ายจะเต็มไปด้วยพลังงานด้านลบที่ว่า เมื่อเป็นแบบนี้พลังงานด้านลบกับพลังงานด้านลบมาเจอกันก็จะไม่เกิดผล
โดยเฉพาะกับซอมบี้ขั้นราชันดาราวนี้ มันไม่เหมือนกับที่กระต่ายต้องสาปใช้ตอนเริ่มสู้กับซอมบี้ก่อนหน้า ต้องเข้าใจว่าในตอนเริ่มแรกซอมบี้พวกนั้นไม่ว่าจะพลังวรยุทธ์หรือว่าลำดับขั้นก็ล้วนแต่อ่อนแอกว่าซอมบี้ตัวนี้มาก
หลังจากเห็นฉากนี้ฉู่เหินก็ให้กระต่ายต้องสาปหยุดก่อน เพราะเขารู้ว่าถ้ายังทำวิธีแบบเดิมต่อไป ไม่เพียงแต่จะไม่เกิดประโยชน์ กลับยังทำให้อีกฝ่ายได้เติมพลังได้ไม่มีหมดอีกด้วย
หลังจากผ่านไปสักพัก กระต่ายต้องสาปก็เหนื่อยจนเหงื่อท่วมตัวเหมือนกัน พอฉู่เหินให้หยุดและพูดอธิบายว่าวิชาต้องสาปของตัวเองไม่มีผลกับอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ในใจของกระต่ายต้องสาปก็ไม่ยอมขึ้นมา ทว่าพอชายหนุ่มกรอกตาก็มีความคิดอย่างหนึ่ง เพียงแต่เวลานี้ยังไม่ค่อยแน่ใจนัก
กระต่ายต้องสาปคิดคำนวณอยู่ชั่วครู่ การสาปอย่างต่อเนื่องก่อนหน้าทำให้พลังในร่างกายของมันนั้นว่างเปล่า ถึงแม้ว่าตอนนี้ตัวเองจะมีความสามารถอื่น นั่นก็คงไม่อาจะแสดงออกมาได้เช่นกัน ว่าแล้วเจ้ากระต่ายก็แวบหายเข้าไปในแหวนมิติของฉู่เหิน มันคิดว่าพักผ่อนก่อนแล้วค่อยว่ากัน
ตอนที่กระต่ายต้องสาปจากไป ซอมบี้ขั้นราชันดาราตัวนี้ก็คล้ายกับไก่ฉีดฮอร์โมน อยู่ ๆ ร่างกายของมันก็มีพลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเจ้าซอมบี้จะไม่ได้ถึงกับทะลวงขั้นจักรพรรดิดารา แต่ถ้าตัวเองเป็นแบบนี้ต่อไป อีกไม่นานต้องบรรลุขึ้นไปอีกขั้นแน่ ดังนั้นมันจึงพยายามควบคุมตนเอง ขอเพียงแค่ตัวเองไม่ทะลวงขั้นจักรพรรดิดารา อีกฝ่ายก็ไม่สามารถเอาศพนั้นมาข่มตัวเองได้แล้ว
กระบอกสั้นตีที่ร่างกายของฮาวโยวอย่างไร้ปราณี จนเขาถึงกับกระอักเลือดออกมาคำโต ร่างทั้งร่างราวกับว่าวสายปานขาดลอยออกไปไกล อีกทั้งด้านหลังเขายังเป็นกำแพงเมืองพอดิบพอดี ถ้าฮาวโยวกระแทกกำแพงล่ะก็ เชื่อว่าไม่ตายก็พิการ
พอกระเรียนอวกาศเห็นฉากนี้ มันก็พลันกระพือปีกบินไปรับตัวฮาวโยวโดยไม่ลังเล เจ้ากระเรียนยื่นปีกออกไปเพื่อจะจับฮาวโยว หลังจากนั้นก็บินขึ้นสูง แต่ใครจะคิดพลังของเจ้าซอมบี้จะเยอะขนาดนั้น
ผลลัพธ์คือร่างของกระเรียนอวกาศลอยติดไปกับร่างของฮาวโยวด้วย ทั้งสองพุ่งตรงไปยังกำแพงด้วยกัน! ตอนแรกเพื่อที่จะป้องกันการโจมตีของซอมบี้พวกนี้ บนกำแพงก็เต็มไปด้วยเหล็กแหลมคม ถ้าพวกเขาสองคนโดนเข้าล่ะก็ คงได้ตายอย่างแน่นอน!
ฉู่เหินที่เห็นดังนั้นจึงรีบกลับตัวมาช่วยทันที ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ไม่อาจจะให้ทั้งฮาวโยวและกระเรียนอวกาศเป็นอะไรไปได้ หลังจากนั้นจึงเห็นเพียงร่างกายเขากระพริบแสง ก้าวนภาหนึ่งครั้งก็หายไปจากจุดเดิมอย่างกะทันหัน รอจนร่างฉู่เหินปรากฏตัวอีกครั้งก็มาถึงด้านหลังของทั้งสองคนพอดี
ฉู่เหินยื่นมือทั้งสองข้างออกไป อุ้มข้างละคนและตอนที่เตรียมจะใช้วิชาก้าวนภาพาพวกเขาหลบไปด้านข้าง เพียงแต่น่าเสียดายพลังมันมากเกินไป ฉู่เหินที่ประคองอยู่ด้านหลังเหตุการณ์เลยพาไปให้เขาพุ่งไปทางกำแพง
มองหลังของฉู่เหินที่ใกล้กำแพงเข้ามาเรื่อย ๆ ทหารด้านล่างต่างก็จ้องมองด้วยดวงตาแดงก่ำ หลังจากนั้นก็มีทหารจำนวนนับไม่ถ้วนกระโดดมาขวางแผ่นหลังของฉู่เหิน ให้ตัวเองเป็นคนรับเหล็กแหลมด้านหลังเอง
เมื่อฉู่เหินรู้ว่าทหารพวกนี้กำลังเอาชีวิตของตัวเองมาแลกกับชีวิตของตัวเอง ในวินาทีนั้นดวงตาของฉู่เหินก็เต็มไปด้วยเส้นเลือด เขาเอาพลังทั้งหมดของตัวเองใส่เข้าไปที่มือทั้งสองข้าง จ้องมองไปด้านหน้าด้วยความดุดัน ในตอนนี้เองจู่ ๆ ก็ทำให้คนสามคนที่ถูกพัดมาข้างหลังหยุดลง
หลังจากฉากนี้จบลงฝ่ามือของฉู่เหินก็เต็มไปด้วยเหงื่อ ต่อมามุมปากของเขาก็กระตุกยิ้มเตรียมจะหันไปพูดขอบคุณทหารเหล่านั้นสักประโยค แต่หลังจากเขาหันหลังกลับไปมองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า มันก็ทำเอาชายหนุ่มถึงกับเหงื่อไหลทั่วร่าง
เขาเห็นเพียงเหล็กแหลมยาว ๆ ด้านหลัง ได้แทงทะลุสี่ห้าร่างจนกลายเป็นศพ แม้ว่าสี่ห้าคนนี้จะเป็นเพียงทหารเลว แต่ฉู่เหินก็รู้ดีว่าคนพวกนี้คือพลทหารที่กล้าหาญขนาดไหน พวกเขาล้วนแต่เป็นคนที่อยู่หน้าสุดของการบุกในครั้งนี้!
โดยเฉพาะคนหน้าสุดที่มีหนวดเล็ก ๆ นั้น คนผู้นี้เป็นหัวหน้าของกองกำลังหนึ่ง ตอนนี้ฉู่เหินจำได้ว่าอีกฝ่ายพูดคุยหัวเราะกับตัวเอง ใบหน้าราวกับในโลกนี้มีแต่ความสุข ไม่มีแล้ว ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว!
ตอนนี้ฉู่เหินอยากจะตะโกนร้องไห้ที่นี่ซะเดี๋ยวนี้ พวกนี้เป็นพี่น้องที่ดีที่สุดของฉู่เหิน พวกเขากับตัวเองเป็นพี่น้องร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กัน ตอนนี้เพื่อช่วยตัวเองกลับเอาชีวิตมาทิ้ง นี้ทำให้เขารู้สึกหมดแรงและรู้สึกสำนึกเสียใจ
เขารู้สึกเกลียดตัวเองที่วันนั้นปล่อยให้เจ้าซอมบี้หนีไปได้ ทำไมถึงไม่เร็วกว่านี้อีกหน่อย ถ้าจัดการเจ้าหมอนี้ซะวันนี้ก็คงไม่เกิดเรื่องน่าเศร้าแบบนี้ มองบนไปบนฟ้าแล้วคำรามด้วยความเสียใจ ฉับพลันดวงตาของเขาก็กลายเป็นสีแดงทั้งหมด
ในตอนนี้เองฉู่เหินได้ยินเสียงเบา ๆ สองเสียง เมื่อตั้งใจฟังก็รู้ว่าเป็นฮาวโยวกับกระเรียนอวกาศที่กระอักเลือดออกมาคำโต จากนั้นก็ตกจากท้องฟ้าลงมาที่พื้นและหมดสติไป ทหารที่อยู่ด้านล่างก็รีบรับทั้งสองเข้าเมืองไป
อย่างไรก็ตามเขาได้สูญเสียกำลังคนพวกนี้ไปแล้ว วันนี้คนที่สามารถสู้ได้จริง ๆ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น เสี่ยวชิงถือว่าเป็นหนึ่งคน แต่ตอนนี้ใบหน้าก็ขาวซีดแล้วเช่นกัน เป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะแพ้!
นอกนั้นก็มีแค่นกคีรีบูนกับแมวนพเวทย์แล้วล่ะ เพียงแต่ท่าทางของทั้งสองก็ไม่ได้ดีอะไรเช่นกัน! ขนของนกคีรีบูนตอนนี้หายไปไม่น้อย ส่วนแมวนพเวทย์ก็เหมือนจะวิ่งไม่ค่อยได้แล้ว มองท่าทางแบบนั้นสักพักก็คงล้มแน่
ในตอนนี้ฉู่เหินคล้ายจะทางตัน อาศัยแค่ชายหนุ่มคนเดียวคงไม่อาจต้านได้! แต่ในเวลาเดียวกันใจเขาก็ไม่ยอมแพ้ ทว่าในตอนนั้นเอง จู่ ๆ ชายหนุ่มก็รู้สึกราวกับว่าตนเองนั้นเชื่อมต่อเข้ากับฟ้าดินได้
หลังจากนั้นฉู่เหินก็รู้สึกว่าจิตวิญญาณของตัวเองคล้ายจะหลอมรวมเข้ากับฟ้าดินโดยรอบ ตอนนี้เขาสามารถมองเห็นมูลสารของโลกได้อย่างชัดเจน! พลังวยุทธ์ของเขานั้นเปรียบเสมือนกับดาวดวงหนึ่ง แต่มันไม่ได้ให้สัมผัสเช่นนี้แต่อย่างใด ฉับพลันชายหนุ่มก็รู้สึกพลังทั้งหมดกำลังเลื่อนขั้นใหม่ทั้งหมด
บนท้องฟ้าปรากฏสายฟ้าฟาด อีกทั้งหมอกที่บดบังก็เผยออกมาสู่สายตาของทุกคน ราวกับดวงอาทิตย์ปรากฏตัวในชั่วพริบตา แสงสว่างนั้นห่อหุ้มฉู่เหินไว้ทั้งร่างกาย
ฉู่เหินรู้สึกอบอุ่น เหมือนกันกลับไปอยู่ในอ้อมกอดของแม่ จนอดที่จะหลับตาซึมซับพลังทั้งหมดไว้ ในตอนนี้ที่ปลายเท้าเขาอยู่ ๆ ก็มีเสียงร้องน่าสงสารส่งกลับมา นี่จึงทำให้เขาต้องกลับออกมาจากจากภวังค์
เสียงร้องน่าเวทนาเป็นของนกคีรีบูน เพราะปีกด้านหลังของมันถูกซอมบี้ตัวนี้ดึงไว้ ต้องเข้าใจว่าขนที่มันร่วง พลังวรยุทธ์ของนกคีรีบูนก็หายไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นในตอนนี้มันจึงกลายเป็นนกเพียงธรรมดาตัวหนึ่งเท่านั้น