สุดยอดชาวประมง - บทที่ 40 ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นไปทั้งข้อง
บทที่ 40 ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นไปทั้งข้อง[รีไรท์]
ในห้องส่วนตัวที่บาร์ หวงลี่ลี่เหลียวมองรอบตัวอย่างระมัดระวัง พวกเขาให้เธอเข้ามาที่นี่ซึ่งตอนแรกเธอก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะคนที่ชักจูงให้มาทำงานนี้คือครูของเธอเอง แต่พอมาถึงเขากลับให้เธอเอาแต่กินแล้วก็ดื่มซึ่งพวกเธอก็พูดอะไรไม่ได้ หลังทานไปไม่กี่คำหวงลี่ลี่ก็รู้สึกอิ่มมาก
ชายที่มีรอยสักขอให้เธอดื่ม เธอปฏิเสธโดยบอกว่าเธอไม่ได้หิวน้ำ แต่เขาก็เอาขวดมายัดใส่มือเธออยู่เรื่อย ๆ เด็กคนนี้มีสติและรู้จักป้องกันตัวเองได้ดี แต่สำหรับเด็กชื่อเชียนหยู เธอทนต่อสิ่งเร้าไม่ไหว หลังชายที่มีรอยสักรบเร้าไม่กี่คำเธอก็ดื่มไวน์กับเขา ซึ่งนั่นก็ทำให้ร่างกายของเชียนหยูเริ่มผิดปกติ
หวงลี่ลี่รู้สึกว่าใบหน้าและหูของเชียนหยูเป็นสีแดงและบ่นว่าร้อน ในช่วยพริบตาเชียนหยูก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อ เมื่อหวงลี่ลี่เห็นเช่นนั้นเธอก็เดินไปห้าม แต่แล้วชายกลุ่มหนึ่งที่ชายที่มีรอยสักเรียกมาลากพวกเธอไป เมื่อเห็นเช่นนั้นหวงลี่ลี่ก็เริ่มรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น เธอไม่นึกว่าครูที่เธอเคารพรักจะหลอกเธอมาแบบนี้ มันทำให้เธอสงสัยว่าโลกที่น่าหวาดกลัวนี้เธอยังสามารถเชื่อใจใครได้อีกบ้าง
ว่าแล้วหวงลี่ลี่ก็ตัดสินใจทำอะไรบางอย่างที่ถือได้ว่ากล้าหาญเป็นอย่างมากสำหรับเด็กตัวแค่นี้ เธอเอาขวดไวน์มาฟาดให้แตกก่อนจะเอาขวดไวน์ปากฉลามมาจี้คอตัวเอง ในเวลาเดียวกันนั้นเองเธอก็ตะโกนใส่คนที่อยู่ตรงหน้าเธอ “รีบปล่อยพวกฉันซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าตัวตายให้ดู พวกแกซวยแน่ถ้ามีคนตาย”
ภาพตรงหน้าทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์หวาดกลัว พวกเขาแค่อยากสนุกแต่ไม่ได้อยากฆ่าใคร ชายกลุ่มดังกล่าวจึงปล่อยตัวหวงลี่ลี่กับเชี่ยนหยู แต่พอพวกมันมานึกดี ๆ เด็กผู้หญิงตัวแค่นี้จะกล้าสักแค่ไหนกัน ทำอย่างกับการฆ่าตัวตายจะทำให้พวกมันกลัวอย่างนั้นแหละ เมื่อคิดได้อย่างนี้พวกสวะก็เริ่มเดินเข้าไปหาหวงลี่ลี่
เมื่อหวงลี่ลี่เห็นว่าพวกมันกำลังเดินเข้ามา ใจเธอก็เต้นระส่ำเธอรู้ว่าต้องใจกล้าและข่มความกลัวเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเธอต้องถึงคราวซวยแน่ ๆ เธอจึงเอาขวดไวน์ปากฉลามปาดที่คอตัวเอง เลือดไหลเป็นทางลงมาที่ปกคอเสื้อ
“หยุดนะ ถ้าเดินเข้ามาฉันจะตายให้ดู” หวงลี่ลี่ไม่สนใจเลือดที่ไหลลงมาตามคอ เธอตะคอกใส่ชายที่กำลังเดินเข้ามา
“สาวน้อย อย่าเพิ่งวู่วามเราล้อเล่นน่า” พวกมันไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำจริง ๆ เธอเริ่มรู้สึกเหมือนหมาจนตรอก พวกมันเดินเข้ามาล้อมเธอไว้ทั้งสองด้าน และในช่วงเวลาหน้าสิ่งหน้าขวานนั้นเองก็มีเสียงปังดังขึ้น
ประตูที่ปิดไว้แน่นหนาถูกเปิดออกเพราะคนสองคนจากนอกห้อง ตำรวจติดอาวุธปืนและกระสุนหลายนายกรูกันเข้ามา
“นี่ตำรวจ ชูมือขึ้นเหนือหัว” เมื่อได้ยินเสียงหวงลี่ลี่ก็รู้สึกราวกับตัวเองกำลังหมดแรง ร่างของเธอเกือบร่วงลงไปกองกับพื้น น้ำตาไหลลงมาเป็นสาย
“ลี่ลี่ ลี่ลี่เป็นอะไรรึเปล่า” ท่ามกลางนัยน์ตาที่พร่าเลือนร่างของคนคนหนึ่งที่เธอคิดถึงมานานแสนนานปรากฏขึ้นในภาพข้างหน้า ว่าแล้วหวงลี่ลี่ก็คว้าร่างของชายคนนี้มากอดด้วยความประหลาดใจแล้วร้องไห้ออกมา
“พี่ชาย พี่มาแล้ว ฉันกลัว กลัวมากเลย” ระหว่างที่เธอกำลังสะอึกสะอื้นฉู่เหินโอบกอดลี่ลี่ไว้ด้วยความรัก
“ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกลัว ถ้าพี่อยู่ พี่ก็จะคอยปกป้องเธอ จะไม่มีใครรังแกเธอได้อีก” หวงลี่ลี่ห้ามเลือดที่คอตัวเอง ขวดปากฉลามแค่ถากผิว มันไม่ใช่แผลใหญ่อะไรแต่ถึงกระนั้นเองฉู่เหินก็ยังปวดใจ ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ แค่คิดเขาก็หวาดกลัวแล้ว
โชคดีที่พวกเขาอยากมาหาลี่ลี่วันนี้ ไม่อย่างนั้นเรื่องคงไม่จบลงแบบนี้ และแม้ตอนนี้ลี่ลี่จะปลอดภัยแล้ว แต่ฉู่เหินจะไม่มีวันปล่อยคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไปแน่ ครูหลิวและไอ้เจ้างูพิษคนนั้นต้องโดนดี!
ไม่นานก่อนที่ฉู่เหินและคนอื่น ๆ จะเข้ามา ผู้กองก็ได้ส่งคนไปควบคุมตัวไอ้เจ้างูพิษคนนั้นมาแล้ว และทำการรวบตัวครูหลิวที่อยู่กับเขาในขณะนั้นมาด้วย เมื่อฉู่เหินเห็นชายทั้งสองก็อดโมโหไม่ได้ ไอ้สองตัวนี้เกือบทำลายความบริสุทธิ์ของหวงลี่ลี่
ฉู่เหินเดินไปตบหลังเขาทั้งสองเบา ๆ ดูเหมือนครั้งนี้ฉู่เหินจะไม่ได้ออกแรงอะไรเลย ชายทั้งสองคนไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรด้วยซ้ำ แต่อันที่จริงมันมีอะไรมากกว่านั้น แม้ภายนอกจะดูปกติดีแต่ตอนนี้อวัยวะภายในของชายทั้งสองแหลกเหลวไปหมดแล้ว ฉู่เหินไม่มีวันยอมให้คนที่ทำร้ายหวงลี่ลี่รอดชีวิตไปได้
เดิมทีทางตำรวจรู้สึกหวาดกลัว แต่พวกเขาก็รู้สึกโล่งอกที่ฉู่เหินไม่ได้ทำอะไรมาก ตอนแรกเขากลัวว่าฉู่เหินจะทำอะไรวู่วามลงไป ถ้าทั้งสองคนถูกซ้อม แบบนั้นก็แปลว่าฉู่เหินไม่ใช่คนดีจริง ๆ ว่าแล้วชายทั้งสองก็ถูกตำรวจคุมตัวออกไป
“มันเป็นโรงเรียนที่ดีมาก แต่ปลาเน่าตัวเดียว ต้องเหม็นกันไปทั้งข้อง” เกาฉีชำเลืองมองอาจารย์ใหญ่หวังที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาก็อดพูดอย่างหัวเสียไม่ได้
หลังจากพูดคุยกับฉู่เหินอีกเล็กน้อย ตำรวจก็พาพวกเขากลับ ฉู่เหินตั้งใจว่าจะพาผู้กองไปเลี้ยงข้าวเพราะอีกฝ่ายช่วยเหลือเขาไว้มาก แต่เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้เขาก็นิ่งนอนใจไม่ได้
“พี่คะ ฉันอยากกลับบ้าน” หวงลี่ลี่บอกฉู่เหินเมื่อเห็นคนในบาร์เริ่มน้อยลง
“อาจารย์ใหญ่หวัง ผมอยากให้เธอหยุดเรียนสักสองถึงสามวัน หลังจากเกิดเรื่องแบบนี้ ถึงกลับไปก็คงเรียนไม่รู้เรื่อง เธอควรได้ไปพักผ่อนแถมบังเอิญนี้ก็ใกล้จะถึงวันหยุดแล้วด้วย ผมคิดว่ารอให้ผ่านช่วงวันหยุดนี้สิ้นสุดไปก่อนแล้วค่อยให้เธอกลับมาโรงเรียนจะดีกว่า” ฉู่เหินตัดสินใจไม่ได้เอาเรื่องโรงเรียน ซึ่งทางอาจารย์ใหญ่หวังก็รู้สึกซาบซึ้งใจมาก
ถึงแม้ครูหลิวเป็นคนก่อเรื่อง แต่โรงเรียนก็ผิดที่ดูแลนักเรียนไม่ดี เมื่อเห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นทางอาจารย์หวังจึงตัดสินใจที่จะสังคายนาโรงเรียนครั้งใหญ่เมื่อเขากลับไป
ทางเชี่ยนหยู เธอก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเขาเชื่อว่าเรื่องนี้จะทำให้เธอมีปมใหญ่ในใจไปอีกนาน
“คุณฉู่ ยังไงผมก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมเห็นด้วยครับ ให้เธอกลับไปพักสักสองวัน ถ้ามีอะไรก็ติดต่อผมได้ทุกเมื่อเลย” ฉู่เหินพยักหน้า เขารู้สึกดีที่ได้ยินอาจารย์ใหญ่หวังกล่าวเช่นนั้น ก่อนที่จะค่อย ๆ ประคองร่างอันอ่อนแรงของหวงลี่ลี่เดินออกไป
ตอนแรกฉู่เหินตั้งใจจะพาลี่ลี่ไปเยี่ยมหวงเจี้ยนหมิงที่โรงพยาบาล แต่เมื่อดูสภาพของลี่ลี่แล้ว เขาก็ไม่อยากทำให้พี่ชายเป็นห่วงเธอ
“คุณฉู่ คุณนายจางส่งผมมาคุณน่าจะต้องใช้รถ รถของผมจอดรออยู่ด้านนอกแล้วครับ” คนขับรถที่ยืนรอเขาอยู่นอกบาร์กล่าว ฉู่เหินฟังแล้วพยักหน้า เขาไม่นึกเลยว่าจางเหลาจะใส่ใจขนาดนี้การช่วยเหลือในวันนี้เขาจะไม่มีวันลืมเด็ดขาด
“พี่คนขับครับ คุณช่วยไปส่งผมที่หมู่บ้านชาวประมงเทศที่มณฑลฟู่กังในไห่กังหน่อยนะครับ” ฉู่เหินอุ้มลี่ลี่ขึ้นรถ เขาค่อย ๆ วางให้เธอนั่งลงที่เบาะหลัง
Next