สุดยอดชาวประมง - บทที่ 400 ใครฆ่าลูกชายฉัน
บทที่ 400 ใครฆ่าลูกชายฉัน
บทที่ 400 ใครฆ่าลูกชายฉัน
ฉู่เหินรู้ดีว่ามาคิดเอาตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ในเมื่อเมืองโบราณได้หายสาบสูญไปแล้ว นี่ก็บ่งบอกว่าภารกิจเสร็จสิ้นแล้วอย่างเป็นทางการ ฉู่เหินแอบคำนวณในใจเพราะไม่รู้ว่าผ่านมานานเท่าไรแล้ว หากว่าตามความเป็นจริงแล้ว ชายหนุ่มก็ยังเข้าร่วมการแข่งขันร้อยนิกายทัน!
ฉู่เหินกวาดสายตามองรอบ ๆ ที่นี่รวมทั้งทหารทุกคนน่ากลัวว่าจะมีมากว่า 10,000 คน! ดังนั้นคนที่อยู่ในเมืองโบราณแต่เดิม พวกเขาเองก็สูญเสียคนรู้จักในเมืองโบราณไปเช่นเดียวกัน ฉู่เหินถอยหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะเตรียมพร้อมนำทุกคนออกไปจากสนามรบโบราณแห่งนี้!
ทุกคนเดินออกมาจากสนามรบโบราณ ที่ด้านนอกของสนามรบโบราณเป็นเกาะในทะเลขนาดใหญ่ เกาะกลางทะเลนั้นมีเนื้อที่กว้างมากทีเดียว เกรงว่าน่าจะหลายร้อยตารางเมตรได้เลย อีกทั้งที่นี่ยังไม่มีค่ายกลควบคุม เห็นได้ชัดว่าเกาะแห่งนี้มีอาณาเขตที่ไม่เล็กเลย
พอทหารทุกคนได้ยินฉู่เหินบอกว่ากลับบ้านได้แล้ว พวกเขาต่างก็ดีใจไปตาม ๆ กัน หลังจากนั้นก็เห็นเพียงทหารคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าอยู่มากี่ปีแล้ว พุ่งตัวออกไปอย่างบ้าคลั่งตามมาด้วยทหารคนอื่น ๆ ฉู่เหินหันกลับมามองทางที่เมืองโบราณหายไปอีกครั้ง จากนั้นจึงค่อยเดินออกมาข้างนอก
แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ที่เมืองโบราณนานนัก แต่ที่นี่ก็ให้ความทรงจำอันล้ำค่าที่สุดแก่เขา เสี่ยวชิงยื่นมือข้างหนึ่งออกมาจับที่ไหล่ของฉู่เหิน “ขอเพียงแค่พวกเขายังอยู่ สักวันหนึ่งพวกเราต้องได้เจอกันแน่!”
หลังจากรับความรู้สึกที่เสี่ยวชิงส่งมา ฉู่เหินถึงยิ้มออกมาได้ สัตว์ทั้งหลายถูกฉู่เหินโบกมือเก็บเข้ามาในแหวนมิติตนเอง แล้วถึงค่อยพาฉู่ฉุนฮาวโยวและคนอื่น ๆ เดินออกไปด้านนอก!
หลังจากก้าวพ้นมาหนึ่งก้าว ฉู่เหินก็รู้สึกหน้ามืดหัวหมุน สนามรบโบราณกับเกาะกลางทะเลนั้นราวกับหมุนกลับไปอีกด้าน ทุกครั้งที่ผ่านก็จะเป็นแบบนี้! เพิ่งมาถึงด้านนอกเขาก็รู้สึกมึนหัวนิด ๆ หลังตั้งสติได้เขาถึงค่อยมองสังเกตรอบตัว
“พูดมา ใครเป็นคนฆ่าลูกชายฉัน!” ฉู่เหินที่เพิ่งเดินออกมาก็ได้ยินเสียงคำรามด้วยความโกรธ พอมองไปก็เห็นชายชราอายุประมาณ 50 กว่า ๆ สายตาเย็นเฉียบกำคอของทหารนายหนึ่งไว้แล้วตะโกนอยู่อย่างนั้น! ใบหน้าของทหารที่ถูกกำรอบคอไว้ขาวซีด ปากอ้าไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไงดี!
“ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ปล่อยเขาซะ!” พอฉู่เหินฉากนี้ก็จ้องด้วยสายตาดุดัน พร้อมระเบิดเสียงตะหวาดใส่ชายวันกลางคนนี้
“มารดามันเถอะ แกเป็นใครวะถึงกล้าขึ้นเสียงใส่ฉัน หรือแกเบื่อชีวิตตัวเองแล้วใช่ไหม!” ชายชราคนคนนั้นหันมามองฉู่เหินแล้วคำรามอย่างโมโห! ในเวลาเดียวกันเขายังปล่อยลมปราณออกมาอีกด้วย ลมปราณนี้น่ากลัวราวกับน้ำในมหาสมุทร จู่ ๆ ทุกคนก็รู้สึกเหมือนจะจมน้ำตาย!
เมื่อฉู่เหินทำการป้องกันลมปราณนี้ เขาก็สัมผัสได้ว่าคนคนนี้เกรงว่าจะอยู่ในขั้นปราชญ์ดารา ขั้นปราชญ์ดาราสำหรับฉู่เหินแล้วนั้นถือว่าห่างไกลกับชายหนุ่มเสียเหลือเกิน แม้ว่าพลังแบบนี้จะสามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายได้ แต่เมื่อมองดูสายตาที่ฉู่เหินมองตนแล้วนั้น มันกลับไม่มีความหวาดกลัวอยู่เลยแม้แต่น้อย!
“ผมไม่กลัวความตาย และก็ไม่กลัวคุณด้วย ต่อให้คุณจะเป็นใครก็ตาม แต่มือที่คุณกำอยู่คนนั้นเป็นลูกทีมของผม แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้ทำภารกิจนั่นแล้ว แต่ขอเพียงแค่พวกเขาต้องการ ผมก็จะเป็นนายพลของพวกเขาตลอดไป!” ประโยคนั้นของฉู่เหินนั้นแน่วแน่จริงจัง ไม่ได้พูดแต่สักว่าพูด คำดังกล่าวทำให้ทหารที่เดิมกำลังหวาดกลัวอยู่นั้น คล้ายจะหาเสาหลักให้ยึดได้ พวกเขาต่างก็แสดงความกล้าหาญออกมา
คนคนเดียวถูกคนหนึ่งหมื่นคนจับจ้องแบบนี้ ต้องให้มีพลังวรยุทธ์เทียมฟ้าก็อดรู้สึกเย็นวาบไม่ได้! ชายชราไม่รู้จริง ๆ ว่าชายหนุ่มตรงหน้ามีอำนาจอะไรถึงสามารถทำให้คนนับหมื่นเชื่อฟังเขาคนเดียวได้
“นายพลฉู่ ผมอยู่ข้างนอกนานที่สุด เมื่อกี้ตอนออกมาผมได้ถามคนที่นี่แล้ว จึงได้รู้ว่าพรรคของผมนั้นล่มสลายไปหลายร้อยปีก่อนแล้ว! ถ้านายพลฉู่ยอมล่ะก็ หลังจากนี้ผมจะขอติดตามนายพลฉู่ตลอดไป!”
แววตาของทหารคนนี้เต็มไปด้วยความเศร้าสลด เขามองมาทางฉู่เหินด้วยความคาดหวัง หลังสิ้นเสียงของเขาก็ทำให้มีคนนับไม่ถ้วนเดินออกมาจากกองทัพ ซึ่งพวกเขาเป็นพวกที่ขุมอำนาจของตัวเองล้มสลายไปแล้วทั้งสิ้น!
เรียกได้ว่าทหารพวกนี้ตอนนี้ไม่มีบ้านให้กลับแล้ว ตอนนี้พวกเขาคาดหวังให้ฉู่เหินรับพวกเขาไว้ ต้องเขาใจว่าผู้ฝึกยุทธคนเดียวอยากจะเป็นใหญ่นั้นคล้ายจะเป็นเรื่องยาก ไม่พูดถึงพวกยอดฝีมือที่ทุกวันจ้องเหมือนเสือจ้องเหยื่อ ก็เพราะต้องการแหล่งพลังงานขนาดใหญ่เหล่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถรับมือได้ง่าย ๆ
สำหรับคำขอร้องของพวกเขา ฉู่เหินไม่พูดไม่กล่าว ชายหนุ่มเพียงโบกมือหนึ่งทีเป็นการยอมรับคนเหล่านั้น สำหรับฉู่เหินและคนอื่น ๆ นั้นไม่ได้อยู่ในสายตาชายชราเลยแม้แต่น้อย แต่ทว่ากลับเป็นตัวของเขาเองที่มีท่าทางไม่สบายใจอย่างยิ่ง! ดังนั้นเลยอดเพิ่มแรงบีบทหารคนที่เขาจับอีกไม่ได้ แรงบีบอันมหาศาลทำให้ทหารคนนั้นร้องออกมาอย่างน่าสงสาร
“ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ผมหวังว่าคุณจะปล่อยทหารของผมซะ หากวันนี้คุณกล้าทำร้ายเขาแม้แต่ขนสักเส้น ต่อจากนี้ผมก็จะติดตามล้างผลาญคุณชั่วชีวิต จากนั้นก็จะฆ่าพรรคพวกของคุณให้สิ้นซาก!” หลังสิ้นเสียงนี้ ท้องฟ้าที่เคยสดใส จู่ ๆ ก็เกิดเสียงสายฟ้าขึ้น
หลังจากเห็นฉากที่ราวกับทสวรรค์ลงโทษ คนที่กำลังโมโหอยู่คนนั้นก็มองด้วยความตกใจ เขารู้ว่าในสถานการณ์แบบนี้ หากอีกฝ่ายต้องการล้มล้างพรรคของตัวเองจริง ๆ ถ้างั้นไม่สู้ให้เขาล้มล้างพรรคของอีกฝ่ายซะก่อน ยังไงทั้งสองคงไม่อาจอยู่ร่วมกันได้!
อย่างไรก็ตาม ชายชราคนนี้ก็รู้ตัวดี นอกจากตนเองแล้วตอนนี้มีผู้อาวุโสอื่น ๆ อีกมากมายที่ซ่อนอยู่ในความว่างเปล่าไม่น้อย ถ้าพูดว่าเจ้าหนุ่มนี้ไม่มีอำนาจเลยแม้แต่น้อย อย่างไรเขาก็ไม่เชื่อ ยิ่งไปกว่านั้นเขาเพิ่งจะมีปัญหากับอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์น่ากลัว! ถ้าวันข้างหน้าอัจฉริยะพวกนี้โตขึ้น พวกเขาจะกลายเป็นขุนพลังที่น่ากลัวมากแน่!
ไม่ต้องให้คนพวกทั้งหมดนี้เติบโตขึ้นมา เพียงหนึ่งคนสองคนเติบโตขึ้นมาก็จะเป็นขุมพลังที่ไม่อาจดูถูกได้แล้ว! อย่างไรก็ตาม มีแต่ต้องทำให้พวกมันตายที่นี่ทั้งหมดเท่านั้นเขาถึงจะวางใจ แต่เขาก็ทำไม่ได้อยู่ดี ชายชราไม่กล้าแม้แต่จะลงมือ ถ้าเขาทำร้ายคนที่นี่ น่ากลัวว่าพวกผู้อาวุโสที่หลบอยู่ได้มาเอาชีวิตตนแน่!
อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาปล่อยมือจากเจ้าหมอนี้ มันก็คงรู้สึกขายหน้าไม่น้อย ในเวลานี้ชายชราทำให้ตัวเองต้องเลือกทางที่ยากถึงสองทาง!
“ผู้อาวุโสท่านนี้ ดูจากท่าทางแล้วต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ไม่สู้คุณปล่อยมือก่อนมีเรื่องอะไรให้ถามผมดีมั้ย! ถ้าผู้น้อยรู้จะบอกอย่างแน่นอน!” ฉู่เหินก็มองออกว่าคนคนนี้คล้ายจะรู้สึกลำบากใจเหมือนกัน ถึงได้พูดปลอบใจแบบนี้
“ฉันไม่ได้อยากฆ่าเด็กหนุ่มอย่างพวกนาย เพียงอยากจะถามว่าเกี่ยวกับลูกชายฉันที่ได้เข้าร่วมการฝึกนี้ แต่กลับตายตอนรับภารกิจ ดังนั้นไม่ว่ามันเป็นใครฉันจะต้องล้างแค้นอย่างแน่นอน” แม้จะพูดแบบนั้นแต่คนคนนี้ก็ปล่อยมือจากทหารไป
ทหารที่ถูกปล่อยราวกับได้รับการอภัยโทษ หลังจากวิ่งมาหลบหลังฉู่เหินแล้วคนอื่น ๆ ถึงสามารถถอนหายใจออกมาได้ กระทั้งมีความรู้วึกว่าเป็นผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติ จากนั้นก็คุกเข่าที่ด้านหน้าของฉู่เหินพร้อมกับโขกศีรษะสามครั้ง!
“นายพลฉู่ นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมขอมอบชีวิตไว้กับคุณ ขอเพียงคุณต้องการผมก็จะหามาให้! ต่อไปนี้ ขอเพียงเป็นศัตรูกับคุณ ตราบใดที่ผมยังมีลมหายใจอยู่ก็จะใช้ดาบฟันมันเสีย! นับแต่วันนี้ผมขอสาบานฟ้าดินเป็นพยาน!” หลังสิ้นเสียงท้องฟ้าก็คำรามขึ้นมาอีกครั้ง!
พอเหล่าผู้อาวุโสเหล่านั้นเห็นฉากนี้ พวกเขาก็พากันจ้องมองด้วยสายตาแปลกประหลาด! สามารถพูดกับสวรรค์จนมีปฏิกิริยาได้ แค่ในครั้งแรกก็ทำเอาพวกเขาก็รู้สึกตกใจอยู่แล้ว แต่อย่างวันนี้สวรรค์กลับตอบรับถึงสองครั้ง นี่จะไม่ทำให้พวกเขาแปลกใจได้ยังไง
โดยเฉพาะปฏิกิริยารอบที่สองนั้นเกี่ยวข้องกับฉู่เหินทั้งสิ้น ดังนั้นผู้อาวุโสทั้งหลายที่ซ่อนตัวอยู่ต่างก็มองฉู่เหินด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย!
“นายชื่อฉู่เหินใช่ไหม? นายรู้ไหมว่าใครเป็นคนทำร้ายลูกชายของฉัน” สายตาของคนคนนั้นมองมาที่ฉู่เหินอีกครั้ง แล้วถามประโยคนี้
“แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าลูกชายของคุณเป็นใคร แต่คุณรู้ไหมว่าภารกิจครั้งนี้มีคนตายทั้งหมดกี่คน! ถ้าเอาทั้งหมดมารวมกันน่ากลัวว่าจะมีถึง 300 ล้านกว่าคน! ผมคิดว่าลูกชายของคุณก็น่าจะเป็นหนึ่งในสามร้อยล้านคนนั้น! ดังนั้นผมขอให้คุณไม่ต้องแก้แค้นได้ไหม หลังสงครามครั้งนี้มีคนตายเป็นหลายร้อยล้านคน ถ้าทุกคนจะแก้แค้น แล้วแบบนี้จะหาใครมารับผิดชอบ!”
เมื่อเหล่าคนที่ซ่อนตัวอยู่ได้ยินที่ฉู่เหินพูด พวกเขาต่างก็ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน พวกเขาไม่รู้จริง ๆ ว่าการฝึกครั้งนี้มีเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีคนตายเป็นร้อยล้านคน! อีกทั้งคนหนึ่งหมื่นคนนี้แสดงความสามารถออกมา สามารถเห็นได้ว่าพวกเขาต่างก็เหยียบศพปีนออกมาก็ว่าได้
หลังจากคิดถึงตรงนี้ เหล่าผู้อาวุโสที่ซ่อนตัวอยู่จึงมองมาในฝูงชน ใครที่ไม่เจอศิษย์ในพรรคตัวเองก็เริ่มจะนั่งไม่ติดแล้ว ยังไม่รอให้ชายชราคนนั้นถามต่อ ก็เห็นว่ามีแสงสว่างขึ้นมาในอากาศ หลังจากนั้นก็มีเงาร่างสี่ห้าคนปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าฉู่เหิน
“น้องชายฉู่ ฉันอยากจะถาม!” หลังจากเงาร่างนั้นปรากฏตัวขึ้น หนึ่งในนั้นก็โพรงถามเขาในทันที! อย่างไรก็ตามเขาเพิ่งจะพูดครึ่งเดียวก็ถูกฉู่เหินบอกให้หยุด!
“ผมคิดว่าบนนั้นคงมีผู้อาวุโสอีกไม่น้อยอยู่ที่นี่ล่ะมั้ง! ผมอยากจะรับผิดชอบโดยการบอกกับทุกคนว่าคนที่ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาได้ออกมาทั้งหมดแล้ว นอกจากคนที่อยู่ที่นี่ นอกนั้นก็คือตายหมดแล้ว! แม้ว่าพวกเขาจะตายแล้ว แต่ก็เป็นการกระทำที่มีเกียรติและสมศักดิ์ศรีมาก! พวกเราต้องต่อสู้กับซอมบี้นับไม่ถ้วน ส่วนพวกที่อยู่ในกองทัพซอมบี้ที่ยังมีชีวิตจนถึงตอนสุดท้ายคล้ายจะไม่มีเลยสักคน!”
ฉู่เหินทำแบบนี้เพราะไม่อยากให้คนที่ตายไปต้องถูกด่าว่าเป็นคนทรยศ! การทำแบบนั้นไม่ได้ส่งผลดีต่อตัวเอง แบบนี้ไม่สู้ให้พวกเขาได้รับชื่อเสียงดีบ้าง
คนที่ออกมาพร้อมกับฉู่เหิน พวกเขาต่างเข้าใจความหมายที่ฉู่เหินต้องการจะสื่อและพากันเงียบแม้ว่าทุกคนจะมาจากคนละกลุ่ม ในเมื่อพวกเขาตายแล้ว คนพวกนี้ก็ไม่อยากจะหาเรื่องวุ่นวายอีก ถ้าวิเคราะห์ดูจริง ๆ น่ากลัวว่าคนเหล่านั้นคงถูกฆ่าด้วยน้ำมือพวกเขาเนี่ยแหละ! ดังนั้นใครจะยอมหาเรื่องเข้าตัว
ชายชราคนนั้นที่เพิ่งจะถามฉู่เหินได้ยินดังนั้น ดวงตาก็แดงก่ำเพราะหลานชายคนสนิทของเขาเข้าฝึกที่นั่นหลายปีก่อน จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ออกมา! วันนี้ในที่สุดก็มีคนออกมาแล้ว พอถามแล้วได้คำตอบแบบนี้ก็ทำให้ชายชราน้ำตาไหลไม่ได้!
พอเห็นชายชราคนนี้ร้องไห้ด้วยแล้วปวดใจ ฉู่เหินและคนอื่น ๆ ต่างก็รู้สึกเศร้าเช่นกัน ต้องเข้าใจภารกิจครั้งนี้แม้จะบอกว่าฝั่งของพวกเขามีคนตายไม่เยอะ แต่อย่างไรเสียก็มีคนตายไม่น้อยอยู่ดี พอคิดถึงเพื่อนที่ตายไปในสงครามพวกเขาจะยังรู้สึกดีอยู่ได้ยังไง
“ผู้อาวุโสทุกท่านโปรดอย่าเสียใจ แม้ว่าคนเหล่านี้จะเสียชีวิตในสนามรบแล้ว แต่บางทีพวกเขาก็อาจยังมีชีวิตอยู่! เพียงแต่ที่ ๆ พวกเขาอยู่กับพวกเรานั้นไม่เหมือนกัน!” หลังชายชราได้ยินฉู่เหินพูดออกมาจากใจ เขาก็เข้าใจที่ฉู่เหินจะบอกว่าหลานชายของตัวเองและคนอื่น ๆ ไปมีชีวิตอยู่บนสวรรค์แล้ว
เมื่อเห็นชายชราคล้ายจะเข้าแล้ว ฉู่เหินก็พูดปลอบใจอีกว่า “ที่ผมพูดถึงว่ามีชีวิตไม่ได้หมายถึงสวรรค์หรอกนะ เพราะสถานที่ฝึกฝนของพวกเราเป็นสถานที่ ๆ แปลกและก็พิเศษมาก ๆ ที่นั่นไม่เพียงแต่เวลาที่ไหลเร็วกว่าที่นี่ร้อยเท่า อีกทั้งในโลกแห่งนั้นยังมีสนามแม่เหล็กปกคลุมอีกด้วย!”
“แน่นอนว่านั้นไม่สำคัญ ที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกที่สุดก็คือไม่ว่าซอมบี้หรือว่ามนุษย์ที่ตาย พวกเราจะพบเพียงแค่ศพเท่านั้น วิญญาณของพวกเขาหายไปไหนก็ไม่อาจทราบ อีกทั้งในตอนสุดท้ายเมืองโบราณก็หายสาบสูญไปเลยทั้งหมด ดังนั้นฉันรู้สึกว่าคนเหล่านี้อาจจะไม่ได้ตายจริง ๆ บางทีพวกเขาอาจจะมีชีวิตอยู่อีกโลกใบหนึ่ง!”
ฉู่เหินพูดประโยคนี้ออกมาซึ่งเป็นสิ่งที่เขาคาดเดาในใจ ยิ่งไปกว่านั้นก็เพื่อปลอบใจ กลับกันพอชายชราได้ยินแบบนี้ดวงตาก็เปล่งแสง
“ที่แท้เป็นแบบนี้! ฉันก็สงสัยว่าดวงไฟวิญญาณของลูกชายฉันดับไปแล้ว แล้วทำไมไฟวิญญาณไม่แตกร้าว! เดิมคือยังมีแบบนี้อยู่นี่เอง” เดิมชายชราที่โศกเศร้านั้นยังชอบจะฟังที่ฉู่เหินพูดอยู่ แต่พอได้ยินคำนั้นมันกลับทำให้ชายวัยกลาง 50 กว่าปีคนแรกเจ็บลึกที่หัวใจ!
เพราะตอนที่ไฟวิญญาณของลูกชายแตก มันแตกสลายจนหมดสิ้น ตอนนี้พอได้ยินที่ชายชราอีกคนพูด เขาถึงเข้าใจว่าลูกชายของตัวเองกับคนอื่นไม่เหมือนกัน ลูกคนอื่นยังสามารถกลับมามีชีวิตได้ แต่ลูกชายบ้านเขานั้นตายไปแล้วอย่างแท้จริง พอคิดถึงตรงนี้เขาก็รู้สึกเจ็บจนปวดหัวใจไปหมดแล้ว!
หลังจากนั้นเขาก็คำรามขึ้นฟ้าอย่างโมโห “ทำไม ๆ ลูกของพวกเขาถึงยังมีชีวิต แต่ของฉันกับตายไปแล้ว ทำไม อยากให้ฉันหวังปาเทียนที่มองมหาสมุทรอย่างยโสคนนี้ ไม่คิดว่าจะต้องให้หัวขาวส่งหัวดำ ฉันไม่ยอม!” จนถึงตอนนี้ฉูเหินถึงเพิ่งรู้ว่าคน ๆ นี้ก็คือหวังปาเทียน!
“ที่แท้คุณก็คือหวังปาเทียน! ลูกชายของคุณตายก็สมน้ำหน้าแล้วล่ะ เพราะเขามันสมควรตาย!” หวังปาเทียนเพิ่งจะบอกชื่อของตัวเอง ฝั่งของฉู่เหินก็มีคนคนหนึ่งที่รูปร่างค่อนข้างผอม เดินออกมามองหวังปาเทียนอย่างโกรธแค้น
สำหรับคนคนนี้ฉู่เหินเพียงแค่รู้ว่าตัวเองรู้จัก แต่ไม่รู้ว่าเขาชื่อว่าอะไร พลังวรยุทธ์ของอีกฝ่ายไม่สูง อีกทั้งปกติก็เป็นคนไม่ชอบพูดจา คนแบบนี้หลบอยู่ในกองทัพแล้วไม่ถูกฉู่เหินรู้จักก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว เพียงแต่วันนี้อยู่ ๆ เขาก็พูดประโยคป่วย ๆ นี้ออกมา นี่ทำให้ฉู่เหินรู้สึกไม่ค่อยดีเลย!
“แกเป็นใคร กล้าด่าลูกชายฉันแบบนี้ หรือว่าแกไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม!” หวังปาเทียนโกรธแล้วจริง ๆ ลูกของตัวเองก็เสียชีวิตแล้วกลับมีคนมาด่าเขาอีก ไอ้นี้มันไม่รู้จักเป็นตายเสียแล้ว! ทว่าเขาก็อยากจะรู้ว่าหมอนี้จะกล้าสักแค่ไหน ถึงได้กล้าว่าลูกชายตัวเอง
“ด่าเขาแล้วยังไง ถ้าฉันพูดไม่ผิดลูกชายของคุณก็คือหวังจือหลินสินะ! ไอ้หมอนี้มันเป็นคนใจเสาะ กลัวตายทิ้งความเป็นคนกลายไปเป็นซอมบี้ทรยศมนุษย์! อีกทั้งเขายังหยิบดาบมาฆ่าคนได้อย่างสบายอารมณ์เสียด้วย!”
หลังจากเขาพูดแบบนี้เหล่าคนที่ซ่อนตัวอยู่ก็ไม่อาจอยู่เฉยได้อีกแล้ว เดิมทีพวกเขายังอารามณ์ดี ๆ อยู่ แต่พอได้ยินว่ามีเรื่องแบบนี้ด้วย ต้องเข้าใจว่าคนเหล่านี้เฝ้ารอที่นี่ มีแต่คนมีหน้ามีตาทั้งนั้น ถ้าลูกหลานตระกูลตัวเองเลือกข้างซอมบี้เหมือนกัน นี่คงทำให้พวกเขาขายหน้าไม่น้อย!
เพราะแบบนี้ทำให้คนที่รอดูเรื่องสนุกเหล่านั้น ไม่อาจนั่งมองอย่างสบายใจได้อีกต่อไป พวกเขาต่างก็ต่างกันปรากฏตัวออกมา ทว่าหลังจากพวกเขาปรากฏตัวก็ไม่มีใครถามเลยสักคน เป็นเพราะพวกเขากลัวว่าลูกหลานตัวเองจะทำเรื่องน่าขายหน้าเหมือนกัน ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเขาก็ไม่มีหน้าไปพบใครอีกแล้ว
ตอนนี้หวังปาเทียนอยากจะฉีกเจ้าหมอนี้ให้เป็นชิ้น ๆ และตบหน้ามารดามันต่อหน้า เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้แล้วต่อไปตัวเองจะอยู่ยังไง! พอคิดถึงตรงนี้นัยน์ตาของชายชราก็ปล่อยรังสีฆ่าฟันออกมา
“ไอ้สวะ ลูกชายฉันจะทำแบบนั้นได้ยังไง แกอย่ามาพูดซี้ซั้วก่อนที่ฉันจะฉีกแกเป็นสองท่อน!” สิ้นประโยคที่หวังปาเทียนก็เตรียมจะลงมือซะ ฉู่เหินที่ยืนมองอยู่ด้านข้าง พอเห็นแบบนี้เขาก็พลันเดินหน้ามาก้าวหนึ่ง ก่อนจะยื่นสองมือออกไปขวางชายหนุ่มให้อยู่ข้างหลังตัวเอง!